ฟุเอ๊ เกิดใหม่ก็เก่งภาษาสุดๆซะแล้วค่ะ - ตอนที่ 19 คำถามจากผู้มาเยือนที่คาดไมถึง
แล้วทำไมลิ้นฉันมันถึงไม่พันกันได้ละเนี่ย..?
มันมีอีกตั้งหลายสิ่งที่ฉันยังไม่รู้เกียวกับความสามารถนี้เลยสินะ
<อุว๊าาาา ฉันไม่มีที่ยืนแล้ว ;w;>
> wwwww
> ออกจากตำแหน่งคนพูดเกาหลีแล้ว
> โดนไล่ออก ?
<เธออ่านฮังกูลและยังพูดภาษาเกาหลีได้ดีกว่าผมอีก>
<อ่ะ มีศัตรูมาจากด้านขวาค่ะ>
<อ๋าาา แม้แต่เด็กสาวตัวเล็กๆก็ยังเก่งเกมfps หรอ!?>
<ไม่ค่ะ ฉันโครตกากเกมfps เลยล่ะ>
ฉันเคยฝึกอยู่บ้างเพราะอยากที่จะได้จับคู่เล่นกับวีทูบเบอร์ที่ชอบในชีวิตก่อน
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เล่น เพราะหาเวลาว่างให้ตัวเองไม่ได้ และสุดท้ายฉันก็ออกจากงานเพราะปัญหา
หลายๆอย่าง ทางที่ผมทำได้ดีที่สุดก็เป็นการนั่งดูสตรีมของเหล่าวีทูบเบอร์ เพราะมันทำได้เกือบทุกเวลาทั้งอยู่บนรถไฟ ห้องน้ำ หรือตอนอาบน้ำ
<แต่ฉันประทับใจภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ และ เกาหลี เพราะฉันไม่เก่งเรื่องเรียนในตอนที่เป็นเด็กๆ และแม้กระทั่งตอนนี้ ฉันก็ยังมัวแต่เล่นเกมอยู่เลย>
<ฉันก็ไม่ใช่เด็กเรียนดีอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ มันเป็นแค่เพราะฉันอยากเข้าใจภาษาที่คุณพูดเอง>
<ฮ่าา เดียวก่อนนะ ทำไมอยู่ๆเธอ ถึงได้ทำตัวน่ารักขนาดนี้เนี่ย>
>ตกหลุมพลางซะแล้ว
>ง่ายชะมัด www
>เธอก็น่ารักดีนะ
<มีคนพูด ภาษาญี่ปุ่นกับอังกฤษ เยอะก็จริง แต่ถ้าเป็นญี่ปุ่น กับ เกาหลี มันน้อยมากถ้าเอามาเทียบกัน เพราะเหมือนว่า ภาษาเกาหลีส่วนใหญ่จะเป็นภาษาที่จะเรียนหลังจาก ญี่ปุ่น อังกฤษ และ จีน และถ้าเทียบสัดส่วนคนที่เรียนกับภาษาอังกฤษแล้ว 1 / 100 เองมั้งคะ >
<เป็นอย่างงั้นเองสินะคะ?>
<ใช่ค่ะ ผมอยากให้มีคนแบบอิโรฮะจังในอนาคตอีกเยอะๆเลย่ละ เพราะก็ได้มีซักวันที่พวกเราคอแลปกันแบบคนเยอะๆ>
นั่นเป็นสิ่งที่เธอไดพ้พูด
ในฐานะแฟนคลับ ฉันดีใจมากๆเลยที่จะได้เห็นมันจะเกิดขึ้น แถมฉันยังเป็นแฟนคลับของเธอมันเลยเพิ่มมากขึ้นอีก
ในตอนที่เธอพูดสิ่งดีๆออกมา ก็มีคนตัดเป็นคลิปเอาไว้และมันก็มีคนดูเยอะมากๆ แถมยังมีประโยคนึงที่เธอได้พูดเอาไว้ว่า “พวกเราไม่ควรอยู่จุดเดิมตลอดไป”
มันก็เป็นอย่างงั้นแหละนะ
* * *
และเวลานี้ก็มาถึง ภาคเรียนฤดูร้อนได้เริ่มขึ้นแล้ว..
เนื้อหามันก็อยากอยู่ใช่เล่น เอาจริงๆมันก็ง่ายแต่จำนวนงานที่ได้มันเยอะมาก
มันก็ปกติแหละมั้ง
การติวสอบเข้าโรงเรียนมัธยมต้นนั้นปกติจะเริ่มในช่วง ป.4 และใช้เวลา 3 ปีในการติวให้จบ ซึ่งมันจะสายเกินไปถ้ามีคนมาเรียนเหมือนฉันในตอนช่วงฤดูร้อนของตอน ป.6 ซึ่งหลักสูตรมันก็จะต่างออกไปตามโรงเรียนที่อยากสอบเข้าได้
“ฮ่า…”
ให้ฉันพูดตรงๆเลยนะ ฉันว่าฉันมีปัญหาแล้วล่ะ
พวกคนที่อยู่รอบๆตัวฉัน ส่วนใหญ่ก็ตั้งใจกันมากๆที่จะมาติวสอบเข้าม.ต้นกัน
ฉันคงต้องจริงจังใช่ไหมเนี่ย
การสอบเข้าม.ต้นมันจำเป็นไหม มันเป็นคำถามที่ฉันคิดไว้ เพราะในช่วงชีวิตก่อนฉันไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ ผมก็ยังมีชีวิตอยู่ได้
ในชีวิตก่อน ฉันเป็นมืออาชีพในสายงานด้วยซ้ำ
ในกรณีที่ยากๆ ถ้าฉันได้กระโดดลงไปในสนามงาน ฉันสามารถเล่นมันในฐานะเสมิฟด้วยซ้ำ
ถึงมันจะเป็นงานที่มีการทำงานล่วงเวลาเยอะและกดดันมากๆ แต่เงินเดือนของมันก็พอที่จะให้ฉันใช้ชีวิตอยู่ได้
ฉันไม่ได้มีความอยากที่จะซื้อพวกกู้ดของวีทูบเบอร์มาเยอะซักเท่าไหร่ แต่ถ้างานที่ฉันทำมันได้เงินเดือนเยอะๆมันก็อาจจะเป็นอีกเรื่องนึง ถ้าจะให้บอกฉันไม่พอใจในชีวิตที่แล้วซักเท่าไหร่ ถึงแม้จะยังมีเรื่องที่ยังทำไม่เสร็จก็เถอะ
เพราะงั้นไม่มีเหตุผลให้ถามอะไรเพิ่มแล้ว ฉันไม่อยากทำงานหนัก
และมันก็น่าจะเป็นอย่างงั้นถึงมันจะไม่ใช่ฉัน
มันก็เป็นแค่จินตนการในช่วงเวลานึงอ่ะนะ เพราะยังไงความพยายามที่ผ่านมาก็ไร้ความหมายถ้ายังไม่เดินหน้าต่อ
ถ้าให้คุณเริ่มชีวิตของคุณเริ่มตั้งแต่ตอนเด็กใหม่ คุณจะทำให้มันยิ่งใหญ่ไหมละ ชีวิตของตัวคุณนะ
คำตอบของฉันก็คงเป็นไม่
เพราะความคิดกับโลกแห่งความจริงมันคนละเรื่องกัน
ผู้คนส่วนใหญ่จะไม่ได้ทำงานหนักถ้าพวกเขาอยู่ในสภาพการทำงานที่ไม่ได้ทำงานหนัก ก็แบบ มันโฟลว์มากๆ สภาพการทำงานดีอะไรแบบนั้น
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ก็ยังมีคุณแม่ที่มีหนี้ที่ส่งเสียเลี้ยงดูฉัน ให้ทั้งอาหาร ที่อยู่ และเสื้อผ้าสวมใส่
เพราะเป็นอย่างนั้น ฉันก็เลยอยากที่จะทำตามคำขอของคุณแม่ดูเท่าที่เป็นไปได้
แต่เท่าที่ฉันทำได้นะ
ถ้าให้ถามฉันถ้าเทียบกับการทำเกรดดีๆในโรงเรียน หรือ การสอบผ่านเข้าโรงเรียนมัธยมต้นมันจะต่างกันไปเลย กับเวลาในการดูวีทูบเบอร์ของฉัน ฉันไม่มีทางตัดมันออกไปแน่นอน
ในตอนนี้มีหลายๆสิ่งที่ฉันทำได้แค่ในตอนนี้ วันนี้เป็นวันที่ฉันจะได้ดูสตรีมทันเวลาซักที และฉันก็ยังมีการจำกัดเวลาในการดูอยู่แค่ 5 ชม. ต่อวัน
มันเป็นเรื่องที่ทำให้ฉันกังวลจริงๆนะ แต่ฉันก็ต้องยอมรับ เพราะยังไงการสอบเข้าโรงเรียนมัธยมต้นให้ได้มันก็เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์สำหรับฉันจริงๆ
คำตอบสำหรับคำถามนี้มันก็มาจาก ผู้มาเยือนที่คาดไม่ถึงละเน้อ
* * *
[อิโรฮะจัง มาที่บ้านหน่อยยย !]
ฉันได้ยินเสียงของพี่อาเนะออกมาจากมือถือ แบบมันก็ปกติละนะ
เพราะวันนี้ฉันไม่มีเรียน ฉันเลยไปหาเธอที่บ้าน อยากที่พี่เขาได้เรียกฉันมา
“มาแล้วค่ะ..”
ฉันเดินไปที่ห้องของพี่อาเนะ ที่ฉันรู้อยู่แล้วว่ามันอยู่ตรงไหน
ฉัรเปิดประตูแรงๆ และฉันได้เห็นมีคนที่อยู่ในห้องที่ฉันไม่รู้จัก
<ว่างายยย ยินดีที่ได้รู้จักนะ อิโรฮะจัง รู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร?>
<อุว๊าาาาาาา!!?>
ฉันรู้เลยว่าเธอเป็นใครจากการที่ได้ยินเสียง
ฉันไม่มีทางจะจำผิดแน่นอน ก็เพราะฉันเป็นโอชิเธอน่ะสิ ! และเป็นคนที่ฉันชอบที่สุดซะด้วย
<กุรุกุรุ ซอมบี้เองค่า แองกุจังเองจ้า!>
เธอคนนี้เป็นคนที่อยู่ด้านในแองกุโอกุ
หิวข้าวมากครับ