ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน - บทที่ 433 ฝังตามไปหรือ + บทที่ 434 แผนที่แนวป้องกันชายแดน
บทที่ 433 ฝังตามไปหรือ
ร่างของหลิงหลัวเกร็งขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเขามองยังหนิงเมิ่งเหยาด้วยความอับอาย “เราสองต่างต้องเป็นเช่นนี้ต่อกันแล้วหรือ”
“หลิงหลัว เจ้าเพิ่งมาถามข้าเอาตอนนี้ เจ้าไม่คิดว่ามันจะสายเกินไปแล้วหรือ” หนิงเมิ่งเหยามองหลิงหลัวด้วยสีหน้าเยาะหยัน
เหตุผลที่นางกับเขากลายเป็นเช่นนี้ในวันนี้ล้วนเป็นเพราะหลิงหลัว เขาปล่อยมือจากนาง เขาผลักไสนางออกไปเองเพื่ออำนาจและลาภยศ
“หลิงหลัว แท้จริงแล้วข้าต้องขอบใจเจ้า” หนิงเมิ่งเหยามองสีหน้าผิดหวังของหลิงหลัว มุมปากนางยกยิ้มอบอุ่น
นางไม่ได้กำลังประชดหลิงหลัวแต่อย่างใด ตอนนี้นางมีเฉียวเทียนช่างแล้ว และทุกอย่างระหว่างนางกับเขาก็ถือว่าจบลงจนหมดสิ้นแล้ว ถือว่าลงเอยไม่เลวเลยสักนิด
“ถูกต้องแล้ว เราควรจะขอบใจเจ้า” ตอนแรกเฉียวเทียนช่างรู้สึกอึดอัดในใจ แต่คำพูดของหนิงเมิ่งเหยาช่วยขับไล่ความรู้สึกอึดอัดนั้นออกไปจนหมด
หนิงเมิ่งเหยามองเฉียวเทียนช่างแล้วเห็นรอยยิ้มสุขใจ
หนิงเมิ่งเหยารู้สึกยินดีกับรอยยิ้มนั้นยิ่งนัก
“เหยาเอ๋อร์ ตอนนี้ข้าเสียใจยิ่งนัก ระหว่างเราสองไม่มีวันเป็นไปได้แล้วจริงๆ หรือ” หลิงหลัวพึมพำ ตามองหนิงเมิ่งเหยา
เขาไม่เคยคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะกลายมาเป็นเช่นนี้ แต่จะอย่างไรก็สายไปเสียแล้ว
หนิงเมิ่งเหยามองหลิงหลัว “ข้ามีสามีแล้ว อีกไม่นานก็จะมีลูก หลิงหลัว วันข้างหน้าอย่าได้พูดเช่นนี้อีก”
พวกเขาไม่มีความจำเป็นต้องคุยกันต่อ เฉียวเทียนช่างไม่อยากได้ยิน และนางก็ไม่อยากทำให้เฉียวเทียนช่างรู้สึกอึดอัดใจ
“เทียนช่าง กลับกันเถอะ” นางกล่าวสิ่งที่ต้องกล่าวหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากันตรงนี้ต่อ
เฉียวเทียนช่างโอบเอวหนิงเมิ่งเหยา ประคองนางเข้าไป
หลิงหลัวเพียงยืนมองสองร่างที่เดินจากไป เขารู้สึกอ้างว้างและตกต่ำ
หนิงเมิ่งเหยาอาจไม่เคยเห็นหลิงหลัวเป็นเช่นนี้ แต่แล้วนั่นจะทำไมเล่า นางไม่เกี่ยวอะไรกับเขาแล้ว
“เขาไปหาหนิงเมิ่งเหยา”
“เจ้าค่ะ นายน้อยไปหาหนิงเมิ่งเหยาแล้วขอให้นางระวังท่าน” ข้ารับใช้ลังเลไปครู่หนึ่ง แต่ก็บอกข่าวกับเซียวจื่อเซวียน
เซียวจื่อเซวียนหยุดสิ่งที่ทำอยู่แล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ข้าเศร้าใจจริง วางแผนลับหลังข้าเพื่อหญิงอื่น เหอะ สมกับเป็นหลิงหลัว” เซียวจื่อเซวียนหัวเราะลั่น ในเสียงหัวเราะของนางมีความรู้สึกชั่วร้ายอยู่
สาวใช้ข้างกายนึกกังวลเรื่องเซียวจื่อเซวียน สายตาที่นางมองเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“องค์หญิง เป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ”
“ข้าจะเป็นอะไรไปได้ ข้าเพียงอยากล้างแค้นให้ลูกของข้า ไม่ว่าจะหนิงเมิ่งเหยาหรือคนจากจวนตระกูลหลิง พวกมันทุกคนต้องตาย พวกมันต้องโดนฝังไปด้วยกันกับลูกของข้า” เซียวจื่อเซวียนจิตใจไม่มั่นคง สีหน้านางคลุ้มคลั่ง
เมื่อเห็นเซียวจื่อเซวียนเป็นเช่นนี้ บรรดาคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ต่างกลั้นหายใจ
ตั้งแต่นายน้อยจากไป อารมณ์ขององค์หญิงก็แปรปรวน นางมักจะควบคุมตัวเองไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อยามที่ได้ยินชื่อหนิงเมิ่งเหยาและหลิงหลัว
สองชื่อนั้นเป็นชื่อต้องห้ามสำหรับเซียวจื่อเซวียนในตอนนี้ “ตามดูพวกเขาต่อ โอ้ ใช่ แล้วไหนจะท่านพ่อผู้แสนดีของข้าอีก”
“องค์หญิงหมายความว่าอย่างไร” คนที่อยู่ด้านข้างนึกตกใจ เป็นไปได้ไหมว่าองค์หญิงจะต้องการล้างแค้นท่านอ๋องด้วย
“ท่านพ่อจะต้องไปหาหนิงเมิ่งเหยาแน่นอน ข้าจะเล่นงานหนิงเมิ่งเหยาได้ก็ต่อเมื่อนางออกจากจวน ข้าล้างแค้นได้เพียงวิธีนี้เท่านั้น” เซียวจื่อเซวียนกล่าวอย่างเย็นชา
“รับทราบเจ้าค่ะ”
พวกคนที่อยู่เบื้องล่างไม่อยากเห็นเซียวจื่อเซวียนเป็นเช่นนี้ต่อจึงรีบกุลีกุจอออกไป
หลังจากออกมาจากเรือนไปไกลจนเซียวจื่อเซวียนไม่ได้ยินพวกนาง ทั้งหมดจึงค่อยคุยกัน “องค์หญิงน่ากลัวขึ้นทุกวัน”
“จริงยิ่งนัก เราจะให้นางทำตามต้องการไปเช่นนี้หรือ”
“ถ้าเราไปขวางทางนาง เราจะซวยเสียเองเมื่อถึงเวลานั้น” นางยังสาวและไม่อยากตาย จึงไม่ขอขัดขวางอะไรเซียวจื่อเซวียน
คนที่ยืนอยู่ข้างๆ เงียบลง ถ้าพวกนางเข้าไปขวาง เซียวจื่อเซวียนก็สามารถเล่นงานพวกนางได้จริง ถ้าพวกนางอยากมีชีวิตอยู่ก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งนางต่อไป
เซียวจื่อเซวียนกุมกุญแจทองไว้ในมือ กุญแจนั้นมีชื่อและวันเกิดของเป่าเอ๋อร์สลักอยู่ นางลูบไล้อย่างแผ่วเบา “เป่าเอ๋อร์ แม่จะให้คนพวกนั้นร่วมทางไปกับเจ้า อีกไม่นานหรอก”
บทที่ 434 แผนที่แนวป้องกันชายแดน
เหตุใดเป่าเอ๋อร์ของนางจึงต้องนอนอยู่ในที่หนาวเย็นคนเดียว เขาไม่ได้นอนในหอบรรพชนด้วยซ้ำ เมื่อนึกถึงคนพวกนั้น สีหน้าของเซียวจื่อเซวียนก็ดูน่ากลัวขึ้นมา พวกเขาทำกับนางแบบนี้เองจะมาโทษนางไม่ได้
ถ้าจะตาย เช่นนั้นก็จงตายด้วยกันให้หมด
คิดหรือว่านางจะไม่รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่ พวกเขาวางแผนจะลงมือในวันงานอภิเษกสมรสขององค์ชายฉี ช่างประเมินตัวเองกันสูงเกินไปจริงๆ
เซียวจื่อเซวียนพยายามหาป้ายแผ่นนั้นแต่หาไม่เจอ มีความเป็นไปได้เดียวคือป้ายแผ่นนั้นอยู่ในมือหลิงอ๋อง
ถ้าป้ายนั่นยังคงอยู่ในมือตาจิ้งจอกเฒ่า นางก็เอามาได้ยาก
เซียวจื่อเซวียนตรงเข้าไปนั่งในห้อง มีของเล่นและเสื้อผ้าเด็กวางอยู่บนโต๊ะ เซียวจื่อเซวียนหลั่งน้ำตาทันทีที่เห็น บุตรที่น่าสงสารของนาง
หลังจากที่หนิงเมิ่งเหยากลับไปห้องนางก็ลงนอนบนเตียง ดูราวกับว่านางเหนื่อยล้ายิ่งนัก
พอเห็นนางเป็นเช่นนี้ เฉียวเทียนช่างก็นึกขบขันแล้วเอ่ยถาม
“เจ้าเหนื่อยมากหรือ”
หนิงเมิ่งเหยามองเฉียวเทียนช่างอย่างเคืองใจ จากนั้นก็ตอบอย่างไร้ชีวิตชีวา “หลังจากเดินมานานขนาดนั้น ขาข้าก็ปวด เหมือนจะเป็นเหน็บหน่อยๆ ด้วย”
นางท้องได้หกเดือนแล้ว หน้าท้องนางนูนเด่นชัดขึ้น เฉียวเทียนช่างวางมือลงบนท้องนางเพื่อคุยกับบุตรในครรภ์
“ต่อไปอย่าเดินมากนัก” เฉียวเทียนช่างมองหนิงเมิ่งเหยาอย่างรักใคร่
“ตกลง ข้าก็คิดเช่นนั้น ข้าเดินน้อยลงจะดีกว่า แต่ข้าหยุดเดินไม่ได้หรอก” จะมีบุตรต้องใช้ความสามารถ แล้วพอคลอด นางก็ยังต้องเลี้ยงเขาต่อ ช่างเป็นภาระหน้าที่ที่นางตั้งตารอ
“งีบเสียหน่อย ข้าจะอยู่ใกล้ๆ”
“ก็ได้ อ่านอะไรให้ลูกเราฟังสักหน่อยสิ” หนิงเมิ่งเหยาส่งหนังสือจากข้างตัวให้เฉียวเทียนช่าง
เฉียวเทียนช่างคุ้นเคยดี เขารับมาแล้วเริ่มอ่านเสียงนุ่มนวลให้บุตรฟัง
หนิงเมิ่งเหยาค่อยๆ ปิดตาลงพลางฟังเสียงน่าดึงดูดของเฉียวเทียนช่าง ไม่นานนางก็หลับไป มุมปากนางมีรอยยิ้มเล็กๆ
เมื่อเห็นว่าหนิงเมิ่งเหยาหลับแล้ว เขาก็โน้มตัวลงจูบแก้มนาง
“ฝันดี”
หนิงเมิ่งเหยาเหมือนจะได้ยินที่เขาพูด รอยยิ้มนางยิ่งชัดขึ้น
เฉียวเทียนช่างวางหนังสือลงแล้วเดินออกไปเงียบๆ รังสีรอบตัวเขาเปลี่ยนเมื่อเดินพ้นออกมา
“เหลยอัน เตรียมการเป็นอย่างไรบ้าง”
“ใกล้เสร็จสิ้นแล้วขอรับ แต่ข้าเกรงว่าวันนั้นอาจจะมีปัญหา” งานแต่งงานของเซียวฉีเทียนจะจัดขึ้นอีกหนึ่งเดือนให้หลัง
พวกเขาคาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเดือนนั้น ทำได้เพียงป้องกันสถานที่ให้ดีที่สุดเท่านั้น
เฉียวเทียนช่างพยักหน้า “ข้าเข้าใจ”
“นายท่าน ข้าต้องไปจัดการธุระ”
“ไปเถอะ”
หลังจากเหลยอันไป เฉียวเทียนช่างเดินไปห้องหนังสือ เขาหยิบเอาแผนที่เมืองหลวงออกมา ดวงตาหรี่ลงขณะมองแผนที่
เมื่อเห็นจุดหนึ่ง เฉียวเทียนช่างก็เริ่มขมวดคิ้ว
ยากจะรับรองว่าเมืองหลวงจะปลอดภัยและมั่นคง
ตลอดทั้งบ่าย เฉียวเทียนช่างมองแผนที่แนวป้องกันชายแดน พื้นที่บริเวณรอบนอกเมืองหลวงและเมืองข้างเคียง
ถ้าพวกพวกเขาตกลงกับเมืองหลิงได้ เมืองหลิงย่อมลงมือวันนั้นด้วย
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เฉียวเทียนช่างยิ่งขมวดคิ้วแน่น ดูท่าแล้วเรื่องนี้จะวุ่นวายจริงๆ เสียด้วย
“ให้จือโยวมาหาข้า”
ไม่นานนัก หลินจือโยวก็มาเคาะประตูห้องหนังสือ เขาเห็นเฉียวเทียนช่างยืนอยู่หน้าแผนที่ หน้านิ่วคิ้วขมวดตลอดเวลา แล้วก็นึกสงสัย “นายท่าน มีปัญหาอะไรหรือไม่”
เฉียวเทียนช่างผงกศีรษะ “มีปัญหาแน่นอน ปัญหาใหญ่เสียด้วย เจ้ามาดูสิ” เฉียวเทียนช่างชี้ยังตำแหน่งหนึ่งแล้วพูดกับหลินจือโยว
หลินจือโยวมองยังตำแหน่งที่เฉียวเทียนช่างชี้ ดูตอนแรกเขาไม่เข้าใจ แต่พอเห็นทั้งหมด เขาก็เข้าใจในที่สุด
“เราต้องระวังตรงบริเวณนี้ให้ดี” พื้นที่บริเวณนั้นโดนโจมตีได้ง่ายแต่ป้องกันได้ยาก ถ้าไม่ระวังจะโดนฝ่าเข้ามาอย่างง่ายดาย นี่คือสิ่งที่พวกเขาไม่อยากเห็น