ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน - บทที่ 557 ทอดทิ้งหลิงฮ่องเต้ + บทที่ 558 ถอนพิษ
บทที่ 557 ทอดทิ้งหลิงฮ่องเต้
ในอดีต ตระกูลของหนานอวี่อยู่กันอย่างมีความสุข พวกเขาเป็นเพียงตระกูลธรรมดาทั่วไป ที่ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกัน และหลังจากที่หนานอวี่ได้รับเลือกจากราชากู่ พวกเขาก็เริ่มเป็นกังวล และท่านปู่ของเขาก็เตรียมแผนการที่จะส่งตัวเขาหลบหนีไปที่อื่น
ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อตระกูลของเขาถูกสังหารจนสิ้น หนานอวี่และเสี่ยวชีจึงสามารถหลบหนีออกมาได้
เมื่อนึกถึงคำพูดของท่านปู่ หัวใจของหนานอวี่ก็ราวกับถูกกรีดแทง
ในตอนที่พวกเขาหลบหนีออกมาได้ ท่านปู่บอกเอาไว้ว่าพวกเขาไม่ควรจะกลับมาที่เหมียวเจียงอีก จนกว่าจะแข็งแกร่งพอ พวกเขาต้องทนกล้ำกลืนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลของตน และต้องเรียนรู้การซ่อนตัว
หากท่านปู่ไม่ระวังตัว และไม่มีใครช่วยเหลือพวกเขา ป่านนี้ทั้งสองพี่น้องก็คงต้องตายไปนานแล้ว
หนานอวี่เอื้อมมือมาลูบใบหน้าของตน เพื่อไม่ให้ชิงซวงที่อยู่ด้านข้างสังเกตเห็นสีหน้าที่เศร้าสร้อยของตนเอง
ชิงซวงมองชายหนุ่มผู้ดื้อดึงคนนี้อย่างช่วยไม่ได้ “หนานอวี่ ข้ารู้ว่าเจ้าสามารถแก้แค้นให้กับตระกูลได้ แต่อย่าเป็นเช่นนี้เลย”
ชิงซวงไม่อาจบอกให้หนานอวี่เลิกสนใจเรื่องนี้ได้ เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นกับนางเอง แต่แม้ว่านางจะไม่ได้พบเจอความเจ็บปวดเหล่านั้น แต่ก็พอจะคาดเดาความรู้สึกได้ หากนางต้องเห็นตระกูลของตนเองถูกผู้อื่นไล่ฆ่า นางก็คงจะต้องมีชีวิตอยู่อย่างเศร้าหมองเป็นแน่ หากหนานอวี่ไม่ใช่คนที่เข้มแข็งจนสามารถอดทนอดกลั้นได้ เขาก็คงกลายเป็นคนบ้าคลั่งที่เสียสติไปนานแล้ว
ชิงซวงให้คำแนะนำกับหนานอวี่ไม่ได้ แต่นางสามารถอยู่เคียงข้างและปลอบประโลมเขาอย่างเงียบๆ ได้
“ข้ารู้ แต่หลังจากที่เห็นหน้าศัตรูคนนั้น ข้าก็ไม่อาจควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้” หนานอวี่สูดลมหายใจเข้าลึก เขาไม่ต้องการให้คนรักเป็นกังวล
ชิงซวงโอบกอดหนานอวี่จากด้านหลัง และเกยคางตรงไหล่ของเขา “กลับกันเถอะ”
หนานอวี่หันมาอุ้มนาง ก่อนจะกระโดดลงจากหลังคา
นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าตนเองโชคดีที่มีชิงซวงอยู่เคียงข้างเช่นนี้
ซ่งลี่นอนหน้าซีดเผือดอยู่บนเตียง หากตรงหน้าอกของนางนั้นไม่ขยับขึ้นลงเบาๆ เช่นนี้ ชายชราก็คงคิดว่านางเสียชีวิตไปแล้ว
ชายชรามองอาการของนางอย่างเป็นกังวล กู่พิษที่อยู่ในร่างกายของนางช่างอันตรายเสียจริง
“ข้าอยากกลับไปที่เหมียวเจียง” นางต้องการกลับไปที่นั่นเพื่อให้ฮ่องเต้ช่วยเอากู่พิษนี้ออกจากร่างกายของตน
หนังตาของชายชรากระตุกก่อนจะขมวดคิ้ว รอยย่นตรงหว่างคิ้วนั้น แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ชอบใจนัก
หากนางกลับไปที่นั่นจริงๆ แล้วเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่นี่จะเป็นเช่นไรเล่า
“แล้วเรื่องหญ้าวิเศษ จะทำเช่นไรต่อพ่ะย่ะค่ะ” ชายชราเริ่มพูดถึงประเด็นก่อนหน้านี้อีกครั้ง
“ข้า โอ๊ย…” ซ่งลี่ที่กำลังจะพูด จู่ๆ ก็ร้องออกมา ก่อนจะบิดตัวไปมาบนเตียงจนกลิ้งตกพื้น
อาการและสีหน้าของนางดูบิดเบี้ยว จนต้องรีบโยนความคิดของตนเองทิ้งไป ไม่กล้าที่จะคิดอะไรว้าวุ่นอีก
หลังจากที่ควบคุมสติของตนเองได้ ซ่งลี่ก็รู้สึกดีขึ้น แต่อาการของนางยังคงน่าเป็นห่วง
ตอนนี้ นางรู้แล้วว่าทำไมอู๋โยวจึงต้องการที่จะหลุดพ้นจากการควบคุมของเหล่ากู่พิษ เพราะแม้แต่นางเองยังไม่สามารถทนรับความรู้สึกนี้ได้เลย
มันเป็นความเจ็บปวดที่ทรมานอย่างยิ่ง เพียงแค่ซ่งลี่ครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่าง ร่างกายของนางก็จะเจ็บปวดไปถึงกระดูก ทำให้นางหวาดกลัวอย่างมาก จนไม่กล้าที่จะคิดถึงเรื่องใดๆ
ชายชรามองดูท่าทีของหญิงสาวที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ตรงหน้าอย่างสับสน และเกรงว่าฮ่องเต้และท่านปุโรหิตจะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ
ซ่งลี่ค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้น และไม่กล้าที่จะอยู่ต่อ นางจึงเรียกให้คนเข้ามาเพื่อพาตนเองออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ให้ชายชรามีโอกาสหยุดนางได้
เขามีสีหน้าตึงเครียดขณะมองซ่งลี่จากไปพร้อมกับคนของนาง ‘ถ้าเช่นนั้น ก็อย่าโทษข้าก็แล้วกัน’ ในเมื่อเขาเองก็ต้องรักษากองกำลังของตนเอาไว้ด้วยเช่นกัน
เขาออกจากห้องของซ่งลี่ และเดินกลับมาที่จวนของตนเอง ก่อนจะเรียกทุกคนที่มาจากเหมียวเจียงและอยู่ในวังหลวงแห่งนี้ให้มารวมตัวกัน และบอกให้พวกเขารีบหนีไปโดยเร็วที่สุด
ชายชราตระหนักดีว่าเมื่อพวกเขาอพยพหลบหนีไปแล้ว จะทำให้เกิดข้อเสียเปรียบ แต่สำหรับเขาแล้ว มันเป็นเพียงการละทิ้งธุรกิจที่พวกเขาได้รับผลประโยชน์ร่วมกันเท่านั้น
แต่ตอนนี้บอกไม่ได้เลยว่าพวกเขาจะได้ผลกำไรใดๆ แค่พวกเขาสามารถหนีเอาตัวรอดออกมาได้ ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
ในขณะที่ชายชราพาทุกคนหลบหนีไปนั้น หลิงฮ่องเต้ยังคงไม่ระแคะระคายถึงเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย
แต่หลังจากนั้น เมื่อหลิงฮ่องเต้ไม่อาจจะควบคุมสถานการณ์ได้อีก และเมื่อแต่ละหัวเมืองเริ่มเสียการควบคุม หลิงฮ่องเต้จึงได้ส่งคนเพื่อไปเรียกตัวชายชรามาพบ แต่ลูกน้องของเขากลับพบว่าชายชราพร้อมกับกลุ่มคนของเขานั้นได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
หลิงฮ่องเต้หันกลับมาถามย้ำอย่างตกใจ “เจ้าพูดว่าอะไรนะ ทุกคนหายตัวไปแล้วหรือ”
บทที่ 558 ถอนพิษ
หลิงฮ่องเต้เคยกำชับกับผู้ใต้บังคับบัญชาไว้แล้วว่าให้จับตาดูคนพวกนั้นเอาไว้ให้ดี แต่พวกเขากลับไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายหนีไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วคนที่เขาส่งตัวไปทำหน้าที่นั้นมัวทำอะไรอยู่กัน
“บัดซบ คนที่คอยจับตาดูพวกนั้นอยู่ที่ไหนกัน พวกเขาไปไหนแล้ว” หลิงฮ่องเต้เอ่ยอย่างกระฟัดกระเฟียด
ก่อนหน้านี้ เขาเคยคิดว่าหากเรื่องนี้บานปลาย เขาก็จะกดดันให้เหล่าชาวเหมียวเจียงออกมารับผิดชอบแทน จากนั้นจึงค่อยกำจัดพวกเขาทิ้ง
ดังนั้น หลิงฮ่องเต้จึงสั่งให้คนของตนคอยเฝ้าดูชายชราและกลุ่มคนของพวกเขาเอาไว้ แต่ใครจะรู้ว่าพวกนั้นกลับหลบหนีไปได้เช่นนี้
“พวกเขาทุกคนตายกันอย่างน่าอนาถพ่ะย่ะค่ะ”
หลิงฮ่องเต้ฉุนเฉียวอย่างมาก และปัดสิ่งของทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะลงพื้น สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้น
เมื่อผู้คนที่อยู่เบื้องล่างเห็นว่าเขากำลังโมโห จึงเงียบ และไม่กล้าที่จะปริปากพูดคำใดออกมา
“ฝ่าบาท…ผู้คนที่อยู่ภายนอก…กำลังสร้างปัญหาพ่ะย่ะค่ะ” เสนาบดีการคลังรวบรวมสติก่อนจะพูดขึ้น
“ไสหัวไป ไปจัดการปัญหานี้ด้วยตัวเองให้ได้” หลิงฮ่องเต้จับต้นชนปลายไม่ถูก เขารู้ดีว่าหากเรื่องนี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสมก็อาจจะต้องพ้นจากตำแหน่งฮ่องเต้แห่งเมืองหลิงไป
ในขณะที่วังหลวงกำลังเกิดเรื่องโกลาหล หนิงเมิ่งเหยากลับกำลังเดินเล่นอยู่ในสวนพร้อมลูกน้อยอย่างสบายใจ หญิงสาวหยิกแก้มเล็กๆ ของเขา “เจ้าคิดว่าหลิงฮ่องเต้ถึงทางตันแล้วหรือไม่”
“เจ้าค่ะ ผู้คนจากเหมียวเจียงถอนกำลังออกจากวังหลวงไปเมื่อสองสามวันก่อน แต่หลิงฮ่องเต้เพิ่งรู้เรื่องในวันนี้เองเจ้าค่ะ เห็นว่าเขาเกรี้ยวกราดอย่างมากเลยเจ้าค่ะ”
หนิงเมิ่งเหยาหัวเราะแต่มิได้ออกความเห็นใดๆ
หากอารมณ์ฉุนเฉียวนั้นสามารถแก้ไขปัญหาได้ก็คงจะดี น่าเสียดายนักที่ไม่อาจทำเช่นนั้นได้
หญิงสาวนั่งอยู่ในศาลาริมสระพร้อมกับอุ้มเฉียวโม่ซาง นางยิ้มอย่างแผ่วเบาขณะมองปลาคราฟกำลังแหวกว่ายอยู่ในสระน้ำอย่างผ่อนคลาย “จัดส่งหญ้าวิเศษให้กับเทียนช่าง พร้อมกับบอกวิธีใช้และเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่ให้เขาฟังด้วย แล้วเขาจะรู้เองว่าต้องทำเช่นไร”
การส่งของให้เฉียวเทียนช่างนั้นต้องใช้เวลาประมาณสองสามวัน เมื่อมันส่งมาถึง สถานการณ์ของฝั่งนั้นก็เริ่มดุเดือด หลังจากที่ชายหนุ่มรู้เรื่อง เขาก็น่าจะรู้ว่าจะใช้ของสิ่งนี้อย่างไร
“พี่สะใภ้ขอรับ ท่านตั้งใจจะให้เมืองเซียวช่วยถอนพิษให้กับผู้คนของเมืองหลิงหรือขอรับ”
“ใช่ เมื่อคนเรากำลังเผชิญหน้ากับความตาย แล้วจู่ๆ ก็มีใครบางคนยื่นมือเข้ามาช่วยชีวิต เจ้าคิดว่าพวกเขาจะทำอย่างไรต่อหรือ”
คำถามนั้นไม่จำเป็นคิดคำตอบให้มากมาย หนานอวี่พอจะคาดเดาได้ว่า หลังจากผู้คนเหล่านั้นปลอดภัยจากพิษ พวกเขาก็จะช่วยนายท่านให้เอาชนะหลิงฮ่องเต้ได้ นอกจากนี้ ท่าทีของหลิงฮ่องเต้ก็ดูเหมือนว่าจะทอดทิ้งประชาชนของตนเองเรียบร้อยแล้ว
“หนานอวี่ เจ้าช่วยจัดการเรื่องนี้ด้วย ทั้งนี้ เจ้ามีความเข้าใจเรื่องหญ้าวิเศษดีกว่าใคร และยังเรียนรู้จากชิงซวงมานาน ดังนั้นเจ้าน่าจะรู้ว่าต้องทำเช่นไร” ในช่วงนี้ชิงซวงต้องศึกษาวิธีการใช้หญ้าวิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงที่สุด เนื่องจากพวกเขามีหญ้าวิเศษอยู่ในมือไม่มากนัก
ในที่สุด ชิงซวงและหนานอวี่ก็พบว่ามีสมุนไพรชนิดหนึ่งที่สามารถลดจำนวนการใช้หญ้าวิเศษลงได้ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณที่คล้ายคลึงกันอีกด้วย
ทันใดนั้น ชิงซวงจึงหยิบถุงใบหนึ่งออกมา “ในถุงใบนี้มีโอสถที่สกัดออกมาได้เมื่อไม่กี่วันก่อน”
“มันเพียงพอหรือไม่”
“น่าจะพอ” ชิงซวงไม่มีทางเลือก จริงๆ แล้วนางต้องการที่จะสกัดเพิ่ม แต่น่าเสียดายที่หญ้าวิเศษนั้นมีจำนวนไม่มากนัก ทำให้นางไม่อาจทำได้ตามที่ตั้งใจไว้
“เข้าใจแล้ว ช่วงนี้เจ้าคงเหนื่อยแย่” หนานอวี่ก้มหน้าลงไปจุมพิตหน้าผากนาง
หนิงเมิ่งเหยามองคู่รักตรงหน้า ก่อนจะทำหน้าเหยเกอย่างอดไม่ได้ “พวกเจ้าทั้งสองคนช่วยสนใจข้าบ้างได้หรือไม่” หญิงสาวไม่เจอหน้าสามีมานาน และพวกเขายังจะแสดงความรักต่อหน้าแบบนี้อีก มันไม่เกินไปหน่อยหรือ
“พี่สะใภ้ ท่านแค่อิจฉาพวกเราเท่านั้นขอรับ” หนานอวี่เอ่ยโดยไม่รู้สึกเขินอายเลยแม้แต่น้อย
เปลือกตาของหนิงเมิ่งเหยากระตุก และมองไปที่หนานอวี่อย่างพูดไม่ออก นอกจากนี้ หางตานางยังเห็นอีกว่าชิงซวงกำลังหัวเราะอยู่ หญิงสาวจึงรู้สึกหดหู่ใจในทันที “เจ้าทำให้ชิงซวงเสียนิสัย”
ชิงซวงรีบสลัดรอยยิ้มบนใบหน้าของตัวเองออกไป และส่ายศีรษะอย่างเคร่งขรึม “คุณหนู ข้าเปล่านะเจ้าคะ”
หนิงเมิ่งเหยาน้อยใจ “สายตาของเจ้ามันฟ้อง คิดว่าข้าไม่เห็นหรืออย่างไรกัน”
“พี่สะใภ้ขอรับ ท่านมีเรื่องอื่นๆ อีกหรือไม่ขอรับ มิเช่นนั้น ข้าก็จะขอตัวก่อน” ทันใดนั้น หนานอวี่ก็รีบพูดแทรก
หนิงเมิ่งเหยาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายศีรษะ “ไม่มีแล้ว ระวังตัวด้วย หลังจากจัดการเรื่องที่นี่เสร็จแล้ว พวกเราจะมุ่งหน้าไปยังเหมียวเจียงกันต่อ”