ภาพรักสีจางกลางสมุทร - ตอนที่ 2 ทนายความโม่
ที่หน้าทางเข้าศาล กองทัพนักข่าวกรูเข้ามาหามั่วหันเมื่อเห็นเขาออกมา ก่อนจะเริ่มถามคำถามมากมายกับเขา “ทนายโม่ครับ คุณมีอะไรจะพูดหลังจากชนะคดีนี้ไหมครับ”
“ทนายโม่คะ ทนายฝ่ายตรงข้ามบอกว่าคุณมีหลักฐานไม่เพียงพอ คุณมีอะไรจะพูดไหมคะ”
“ทนายโม่ครับ ดูเหมือนทุกคนจะคิดว่าผู้ฟ้องร้องเป็นฝ่ายผิด ในฐานะที่คุณเป็นผู้ดูแลคดีนี้ให้เขาอยู่ คุณคิดว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลระหว่างการดำเนินคดีไหมครับ คุณติดสินบนผู้พิพากษาเท่าไหร่ให้ชนะคดีนี้ครับ”
โม่หันก้าวเดินอย่างเฉยชา ทว่าเมื่อสิ้นเสียงประโยคสุดท้าย ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไป เขาหยุดยืนอยู่หน้ากลุ่มนักข่าวที่เริ่มรุกรานเขาก่อนจะพูดขึ้นว่า “แค่เพราะพวกคุณคิดว่าคนบางคนผิดไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนผิดนะครับ เราชี้แจงความจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดในชั้นศาลไปแล้ว หากสื่อมวลชนยังคงสงสัยอยู่ ผมแนะนำให้พวกคุณไปเปิดวิดีโอบันทึกการตัดสินคดีในศาลดูอีกครั้งครับ ผมเชื่อว่าพวกคุณจะได้คำตอบ แต่ถ้าคุณไม่…”
ช่างภาพยังคงกดแฟลชบันทึกกันภาพไม่หยุด โม่หันหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วพูดต่อว่า “ถ้าอย่างนั้นผมคงบอกได้แค่ว่าพวกคุณมันโง่”
เขาเดินไปข้างหน้าแล้วทิ้งกลุ่มนักข่าวที่กำลังเบิกตากว้างไว้ข้างหลัง โม่หันขึ้นมานั่งในรถ ดึงเนกไทลงก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
หลิวจื้อหย่วนที่อยู่ด้านหน้าตบมือให้เขา “ทนายโม่ตอบโต้ได้สุดยอดไปเลยนะครับ ผ่านมาเป็นเดือน ในที่สุดเราก็ชนะคดี คุณเห็นท่าทางโกรธแค้นของทนายฝั่งตรงข้ามหรือเปล่า พวกเขาเหลืออดมากจริงๆ”
“จริงครับ! ทนายโม่ ‘เจ้าแห่งวาจาอาบยาพิษ’ ของเราผู้ครองสถิติชนะทุกคดีมาตลอดห้าปี!” เสี่ยวจางที่นั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับเข้าผสมโรงด้วย
โม่หันผู้เหนื่อยล้าที่นั่งอยู่ด้านหลังนวดคลายบริเวณคิ้วก่อนเอ่ยปากสั่ง “กลับไปสำนักงาน”
“คุณยังจะกลับไปอีกเหรอครับ! ทนายโม่ คุณไม่ได้นอนมาสองวันแล้วนะครับ! ยังไงเราก็ชนะคดีแล้วคุณน่าจะกลับบ้านไปพักผ่อนดีกว่า เก็บแรงไว้ เดี๋ยวพวกเราคอยดูแลสำนักงานเองครับ”
“ใช่ครับ พวกสาวๆ ที่สำนักงานก็รอให้คุณกลับมาฟิตปั๋งอยู่นะครับ!” เสี่ยวจางล้อเลียนเขา ทุกคนในวงการต่างรู้ว่าเขาเป็นตำนานในวงการกฎหมาย ตั้งแต่เขาตั้งสำนักงานกฎหมายมา เขาก็กลายเป็นผู้นำในแวดวงนี้ในเวลาเพียงสามปี ยังไม่รวมความจริงที่ว่าเขาไม่เคยแพ้คดีแม้แต่คดีเดียว พ่วงด้วยรูปลักษณ์ของเขา ชายหนุ่มวัยสามสิบปีที่มีหน้าตาภูมิฐานพร้อมกับหุ่นโปร่งสมส่วน แค่เขามองเพียงแวบเดียว สาวๆ ก็เป็นต้องตกหลุมรักกันหมด
นี่คงเป็นสาเหตุว่าทำไมสำนักงานกฎหมายโม่ถึงมีสาวๆ ที่ครองตัวเป็นโสดมากมายนัก
“ยังมีงานค้างที่สำนักงานอยู่ คุณไม่เข้าใจหรอก อีกอย่างรถของผมก็อยู่ที่นั่นด้วย ต้องไปเอากลับมาก่อนกลับบ้าน” โม่หันพิงตัวเข้ากับเบาะที่นั่งด้านหลัง เขาชนะคดีก็จริงแต่ก็โดนสูบพลังงานไปมากทีเดียว
หลิวจื้อหย่วนสตาร์ตรถอย่างช่วยไม่ได้ เขาอยากเกลี้ยกล่อมให้ทนายโม่กลับบ้านไปพักผ่อน แต่เหลือบสังเกตใบหน้าที่เหนื่อยล้าของเขาจากกระจกมองหลัง เขาก็รู้ว่าเปล่าประโยชน์ที่จะโน้มน้าวคนบ้างานแบบนี้ คงดีกว่าถ้าปล่อยให้เขาใช้ช่วงเวลานี้พักผ่อนในรถ คิดได้ดังนั้นจึงยอมทำตามที่เขาขอและพาไปส่งที่สำนักงานกฎหมาย
เมื่อถึงสำนักงาน โม่หันจัดเนกไทและเสื้อผ้า จากนั้นจึงคว้ากระเป๋ามาถือ เขากลับไปอยู่ในสภาพเดียวกับตอนที่เขาออกไปข้างนอกเมื่อเช้านี้ มีชีวิตชีวาและเดินตรงไปข้างหน้าตามทางเดิน ข้างหลังเขามีหลิวจื้อหย่วนและเสี่ยวจางเดินตามมา
อย่างไรก็ตามโม่หันรู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ เมื่อเขาก้าวเข้ามาในห้อง
ยิ่งเดินเข้ามาก็ยิ่งรู้สึกว่าหลายคนต่างพากันมองไปทางห้องรับรอง
“ทนายโม่…ในที่สุดคุณก็มาสักที” อันนา เลขาของเขาเดินมาหาอย่างรีบร้อน
“นี่มันอะไรกัน” โม่หันถามขึ้นด้วยเสียงแหบต่ำอย่างงุนงง
“มีใครบางคนตามหาคุณอยู่ค่ะ เขารอพบคุณที่ห้องรับรองตั้งแต่เมื่อเช้าที่คุณออกไปที่ศาล”
โม่หันมองเข้าไปในห้องเงียบๆ ก่อนตอบ “แต่ผมไม่มีตารางนัดกับใครวันนี้นะครับ”