ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 18 จอมเวทผู้แข็งแกร่งที่สุด (18)
ปีศาจทะเลแห่งมหาสมุทรเหนือ ไม่มีใครรู้ว่าเธอมีชีวิตอยู่มานานเท่าไหร่แล้ว และไม่มีใครเคยพบเห็นร่างของเธอว่าเป็นอย่างไรกันแน่ แต่ที่จริงแล้วเธอยังมีชีวิตอยู่
“เมื่อถึงเวลาดอกถูหมีผลิบาน หนามก็งอกออกมาจากกำแพงเบอร์รี่”
ซูรุ่ยจู่ๆ ก็ก้มหน้าพูดเบาๆ ประโยคหนึ่ง ถูหมี เป็นดอกไม้แห่งแดนสวรรค์ ดอกมีสีขาวบริสุทธิ์ เล่ากันมาว่าเป็นดอกที่สามารถกำจัดความชั่วทั้งหมดในโลกนี้ได้
ถูหมี?
พอราชันมังกรดำได้ยินคำพูดของซูรุ่ย รูม่านตาทั้งสองข้างก็หดตัวลงอย่างฉับพลัน…หรือว่าจะเป็น… ‘นาง’?
เสี่ยวเย่ว์เย่ว์ สิ่งที่ซ่อนอยู่ในร่างกายเจ้าหรือว่าจะเป็น…บุตรชายของถูหมี
บุตรชายของถูหมี?
พอได้ยินคำพูดของราชันมังกรดำ แววตาซูรุ่ยพลันวาบประกาย “เสี่ยวเฮย แกรู้อะไรอีกใช่ไหม”
ราชันมังกรดำ “…”
เสี่ยวเฮยอะไรกันอีกเนี่ย เจ้านี่ชอบทำให้คนจิตตกจริงๆ~
เมื่อหมื่นปีก่อน ในยุคสมัยที่โลกมนุษย์ยังเต็มไปด้วยปราณวิญญาณ ในตอนนั้นทุกคนที่สามารถฝึกตนได้ และทุกคนก็สามารถกลายเป็นเซียนได้
ในตอนนั้น ไม่ใช่มีแค่เผ่ามนุษย์ เผ่าปีศาจ เผ่าผี เผ่ามาร เผ่ามังกร มีถึงขั้นเผ่าเซียน เผ่าเทพ ทุกเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ด้วยกันบนแผ่นดินใหญ่
และในตอนนั้นถูหมีเป็นหญิงงามที่โด่งดังของแดนเซียน เอาเถอะ ราชันมังกรดำยอมรับก็ได้ว่าตัวเองปรารถนาในความงามของนางมาตั้งนานแล้ว นางกับปี่อั้น หนึ่งบุปผาสวรรค์ หนึ่งบุปผานรกหนึ่ง ต่างเลื่องชื่อว่าเป็นบุปผาผู้งดงามที่สุดในโลกใบนี้ และก็เป็นดอกไม้ผู้น่าเวทนาที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน
ในปีนั้นปี่อั้นต้องเจ็บปวดเพราะความรัก ยินยอมลงไปในอเวจีด้วยความสมัครใจ บุปผามิพบใบ ใบไม่เห็นบุปผา ดอกและใบทั้งสองไม่อาจพบกัน และจะไม่มีวันพบกันทุกชาติไป
แล้วถูหมีล่ะ
ถูหมีนั้นสะอาดบริสุทธิ์ เป็นสัญลักษณ์ของคุณงามความดี แต่นางกลับไปตกหลุมรักจักรพรรดิชั่วช้าผู้อยู่โลกมนุษย์ท่านหนึ่ง จักรพรรดิชั่วช้าตลอดชีวิตมีแต่ความสามานย์ มีบาปเต็มร่าง แต่กลับหวังอยากจะได้ความสะอาดบริสุทธิ์ผู้งดงามที่สุดในโลกมาครอบครอง
ถูหมียอมหนีจากแดนสวรรค์เพื่อที่จะไปอยู่กับจักรพรรดิชั่วช้า ยอมละทิ้งบุญบารมีที่ติดตัวมาด้วย
ทั้งสองคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบนโลกมนุษย์ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานวันเข้า จักรพรรดิชั่วช้าก็รู้สึกเบื่อหน่าย
คนที่เขารัก คือถูหมีผู้สูงส่งเหนือเมฆ ขาวสะอาดราวหิมะผู้นั้น มิใช่หญิงสาวผู้ร่วงตกลงมายังโลกมนุษย์เพื่อยอมให้ทั้งร่างของตนเองอาบย้อมไปด้วยสีแดงโลหิตเช่นในยามนี้
ความรัก บางครั้งมันก็ดูน่าโหดร้ายเช่นนี้แหละ
ดอกถูหมีเบ่งบาน กลับเป็นเพียงความรักที่ไร้ทางออก
หลังจากถูกจักรพรรดิชั่วช้าทอดทิ้งไป ถูหมีเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าตัวเองตั้งท้องบุตรชายของจักรพรรดิชั่วช้าแล้ว นางไม่ยินยอม ความเคียดแค้นอันมหาศาลของนางทำให้ทั้งมหาสมุทรเหนืออาบย้อมไปด้วยสีแดงอันแวววับบาดสายตา นางสังหารตนเองและบุตรของจักรพรรดิชั่วช้าด้วยมือตัวเอง และยังทำให้วิญญาณของเขากลับชาติมาเกิดด้วยความโกรธแค้นและดำมืด นางอยากให้จักรพรรดิชั่วช้าเสียใจภายหลัง เสียใจภายหลังไปทุกภพทุกชาติ
ความเคียดแค้นของสตรีนางหนึ่ง ที่แท้แล้วจะน่ากลัวขนาดไหนกัน
ราชันมังกรดำถอนใจจากก้นบึ้งหัวใจแล้วบอก ถูหมีนาง ยอมกลายเป็นปีศาจกลางมหาสมุทร จะตื่นขึ้นมาทุกๆ หนึ่งพันปี ทุกครั้งที่นางตื่น นางจะตามหาวิญญาณที่กลับชาติมาเกิดของบุตรแห่งจักรพรรดิชั่วช้าที่โลกมนุษย์ จากนั้นก็ เรียกหาเขา ดูดกลืนเขา และทำให้ความโกรธแค้นในวิญญาณเขาเพิ่มมากยิ่งขึ้น
นี่คือสิ่งที่นางลงโทษจักรพรรดิชั่วช้า และนี่ก็เป็นการลงโทษตัวนางเองด้วย…
วิญญาณบุตรชายของถูหมี จะมีกลิ่นอายของสีแดงเลือดที่นำมาทั้งความดีและความชั่วร้าย
นั่นก็คือ สิ่งที่เย้ายวนอันเลิศรสที่สุดในโลกมนุษย์
หม่าเย่ว์ บุตรชายของถูหมีกำลังอาศัยอยู่ที่ร่างของเจ้า ไม่ผิด ในวันนั้นที่ข้าผู้เป็นราชันถูกพลังอันมืดมิดสุดขีดของเขาดึงดูดมาที่นี่!
“เป็นแบบนี้นี่เอง”
ซูรุ่ยพยักหน้า ในเค้าโครงเรื่อง ปีศาจแห่งมหาสมุทรเหนือก็เป็นแค่ปีศาจทะเลธรรมดาตนหนึ่ง ท้ายที่สุดแล้วก็ถูกสวินหรานตูฆ่าตาย
แต่ตอนนี้ ปีศาจแห่งมหาสมุทรเหนือที่โลกนี้เปลี่ยนเป็นถูหมี ร่างของหม่าเย่ว์ก็มีวิญญาณบุตรชายของถูหมีสิงอยู่ นี่ถึงจะเป็นสาเหตุของบั๊กที่จะทำลายล้างกฎทั้งโลก
ดูแล้ว มีเพียงการกำจัดถูหมีและบุตรชายของถูหมีเท่านั้น กฎระเบียบของโลกใบนี้ถึงจะฟื้นฟูกลับมาเป็นสภาพเดิมได้
แต่สิ่งที่จำเป็นในขณะนี้ คือการทำให้ร่างของซูหว่านดีขึ้น
วิญญาณบุตรชายของถูหมีนำมาด้วยกลิ่นหอมที่เย้ายวน เขาจะดึงดูดวิญญาณทั้งหมดโดยที่เขาไม่รู้ตัว โดยเฉพาะวิญญาณเพศหญิง พวกเธอจะผสานเข้ากับบุตรชายของถูหมีโดยไม่สนใจเหตุผล และในกระบวนการนั้น วิญญาณบุตรชายของถูหมีจะดูดดึงพลังวิญญาณของพวกเธอ
วิญญาณที่สูญเสียพลังวิญญาณไป ก็เหมือนกับที่มนุษย์ที่หมดอายุขัย แก่ชรา มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่วัน
เสี่ยวเย่ว์เย่ว์
ราชันมังกรดำที่อยู่ข้างๆ บอกกับซูรุ่ยต่ออีกว่า ร่างของเจ้ามีวิญญาณบุตรชายของถูหมีหลับใหลอยู่ ไม่ ต้องพูดว่าเจ้ากำลังควบคุมเขาเอาไว้อยู่ตลอด ความโกรธแค้นและความชั่วร้ายของเขากำลังถูกเจ้ากดเอาไว้ เจ้าไม่รู้สึกว่าเขาอยู่ในร่างมันก็เป็นเรื่องปกติ แต่ว่าในตอนที่เจ้านัวกับพี่สาว เอ่อ ข้าจะบอกว่าในตอนที่พวกเจ้าทั้งสองพลิกฟ้าคว้าฝนกันนั้น ร่างของเจ้ายังคงดูดพลังวิญญาณของนางไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ถึงแม้จะดูดไปได้ไม่มาก สำหรับวิญญาณธรรมดาแล้วแค่พักผ่อนนิดหน่อยก็สามารถรถฟื้นคืนกลับมาได้ แต่ว่า นางเป็นวิญญาณมีชีวิตนี่สิ!
วิญญาณมีชีวิตทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแอ เพราะว่านางออกจากร่างของตัวเองมานานเกินไป จึงทำให้พลังวิญญาณอ่อนแอลง
ตอนนี้ถ้าเจ้าอยากช่วยนาง มีแค่สองวิธี วิธีแรกนางต้องรีบกลับเข้าร่างของตัวเอง วิธีที่สองต้องไปล่าฆ่าวิญญาณตนอื่น เพื่อเพิ่มพลังวิญญาณให้กับนาง ยิ่งเยอะยิ่งดี!
กลับเข้าร่าง?
ซูรุ่ยส่ายหัว เขาจำได้ว่าซูหว่านเคยพูดกับเขาไว้ว่า ซูเจินเจินทะลุมิติเข้ามาด้วยบุญบารมี ไม่มีทางดึงวิญญาณของเธอออกจากร่างของซูหว่าน
ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เหลือเพียงแค่ทางเดียวแล้ว
ซูรุ่ยหันหน้าไปมองซูหว่านที่กำลังนอนหลับลึก เสี่ยวหว่าน คุณพักผ่อนเยอะๆ นะ พรุ่งนี้เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
“เฝ้าเธอไว้ ฉันขอออกไปข้างนอกหน่อย”
ซูรุ่ยโน้มตัวลงไปหอมแก้มของซูหว่านทีหนึ่ง แล้วหันตัวเดินออกไปทันที
ราชันมังกรดำมองเงาหลังของซูรุ่ย หลังของเขามีปราณโลหิตสีแดงแผ่กระจายอยู่รอบๆ…
บุตรชายของถูหมี ความเคียดแค้นของเจ้าทะลุฟ้า ทว่าครั้งนี้เจ้าได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่เก่งกาจจริงๆ เข้าแล้วล่ะสิ เป็นคู่ต่อสู้คนหนึ่งที่ทำให้ข้าผู้เป็นราชันรู้สึกว่ากลัวจนตับสั่นเลย เจ้าน่ะไปหาทางสร้างบุญกุศลให้มากๆ เถอะนะ…
ขณะที่ซู่รุ่ยออกจากห้องไป ทันใดนั้นฉืออีปู้ที่อยู่ชั้นหนึ่งผู้เพิ่งจะหลับไปก็พลันเบิกตาทั้งสองข้างขึ้นมา ดวงตาวาบประกายแสงระยิบระยับ
มังกรร้ายปรากฏ โลกโกลาหล
ทุกคนล้วนคิดว่าสิ่งที่คำพยากรณ์หมายถึง สิ่งที่จะทำลายโลกนั้น คือมังกรร้ายตัวหนึ่ง แต่อันที่จริงแล้ว สิ่งที่จะทำให้โลกโกลาหลในคำพยากรณ์นั้น คือคนที่อัญเชิญมังกรร้ายออกมาต่างหาก
“โธ่”
ฉืออีปู้นั่งอยู่บนเตียงของตัวเองแล้วถอนหายใจออกมายาวๆ กรรมดีกรรมชั่วย่อมตามทัน
ถูหมี คุณทุกข์ทรมานมาหลายหมื่นปี คุณให้ลูกชายของคุณกลับชาติมาเกิดหมื่นปี ถึงเวลาที่ทุกอย่างจะต้องจบสิ้นลงในชาตินี้แล้ว…
กลางคืน ดึกดื่นอันตราย
เหมือนกับที่ฉืออีปู้พูด เมืองเล็กๆ เมืองนี้ไม่ค่อยสงบสุข เพราะว่าเมืองนี้อยู่ติดกับเหมาซาน และที่เหมาซานมีพลังวิญญาณเข้มข้น พลังวิญญาณที่หลุดลอยจากด้านนอกเข้ามาในเมืองมีไม่มากก็น้อย ดังนั้น ถึงแม้ว้าที่นี้จะเป็นตีนเขาของสำนักซั่งชิง แต่ที่นี่กลับเป็นสถานที่ที่ภูตผีวิญญาณ วิญญาณมีชีวิต รวมถึงปีศาจทั้งหลายมารวมตัวกัน
พวกเขาออกเร่ร่อนในยามค่ำคืน ไม่ค่อยได้ทำร้ายมนุษย์ รวมตัวกันที่สถานที่นี้ เพื่อที่จะฝึกฝนในสถานที่ที่พลังวิญญาณเข้มข้นก็แค่นั้นเอง
หลายปีที่ผ่านมา พวกเขาก็อยู่รวมกันกับเหล่านักพรตที่สำนักซั่งชิงอย่างต่างคนต่างอยู่ ไม่ยุ่งต่อกัน
แต่ถึงอย่างไร ในคืนนี้ทุกอย่างก็จะสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ เพราะว่า ซูรุ่ยมาแล้ว
ในสีราตรี ซูรุ่ยพบชานเมืองที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ เขากลั้นหายใจอย่างเงียบๆ รอให้เขาได้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาของเขาก็มีเลือดสีแดงไหลออกมาเป็นสาย
กลิ่นแปลกๆ ล่องลอยไปรอบๆ ทำให้วิญญาณทั้งเมืองได้กลิ่นและเข้ามาหาเขาอย่างต่อเนื่อง…
วิญญาณนับไม่ถ้วนเข้ามาล้อมรอบตัวซูรุ่ย พวกเขากำลังร้องคำราม ทั้งร่างวิญญาณล้วนตื่นเต้นจนตัวสั่น ซูรุ่ยยืนอยู่กับที่ไม่ขยับ เขาหลับตาลงอีกครั้ง เพื่อตั้งสติและสัมผัสถึงพวกวิญญาณทั้งหลาย จนกระทั่งหลังจากที่วิญญาณทั้งเมืองต่างเข้ามารอบล้อมตัวเขา เขาจึงค่อยๆ ลืมตาอย่างช้าๆ
ดวงตาทั้งสองมีความผิดปกติ ดวงตาข้างหนึ่งเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ ดวงตาอีกข้างเป็นสีดำแปลกประหลาด
“หึ หึๆ”
‘ซูรุ่ย’ จู่ๆ ก็ก้มหน้าหัวเราะเยาะเสียงเย็น
“พันปีแล้วสินะ ถึงช่วงเวลาหนึ่งพันปีนั้นอีกแล้วสินะ ข้าจะดูดกลืนวิญญาณพวกเจ้า ดูดกลืนให้หมด ดูดกลืนทุกอย่าง”
เขาตะโกนอย่างดุร้าย แต่ต่อจากนั้น สีแปลกประหลาดในดวงตาของเขาก็จางลงอย่างกะทันหัน
“แกไม่มีประโยชน์แล้ว ไสหัวไปซะ!”
เสียงของซูรุ่ยดูสงบนิ่งมาก เวลานี้ ความดุร้ายบนใบหน้าเขาก็จางลง เหลือไว้เพียงแต่ใบหน้าที่เย็นชาเหมือนน้ำแข็ง
บุตรชายของถูหมี “…”
กระบี่ญญาณก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาในมือของเขา ซูรุ่ยจ้องไปยังฝูงวิญญาณที่อยู่รอบๆ ตัวเขาฝูงนั้นด้วยสายตาเย็นชา และลงมืออย่างไม่ลังเล…
การสังหารเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ แต่สำหรับแม่ทัพซูแล้วนี่มันไม่ใช่ปัญหาเลย