ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 2 จอมเวทผู้แข็งแกร่งที่สุด (2)
โลกภารกิจแห่งนี้เป็นโลกของจอมเวท
จอมเวท หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าผู้หยั่งรู้ เป็นบุคคลที่อยู่ในสำนักลี้ลับ สามารถทำนายดวงชะตาให้ผู้อื่นได้ ดูฮวงจุ้ยได้ และสามารถกำหนดดวงชะตาเป็นหรือตายได้ มองปราดเดียวสามารถรู้ชะตาฟ้าดิน
สรุปแล้วก็คือ ดูดวง ห้าธาตุ ฮวงจุ้ย ปราบผี จอมเวทยุทธภพที่ผู้คนต่างเชื่อถืองมงายกันเหล่านี้ มันมีจริงๆ บนโลกใบนี้
สวินหรานตูเป็นเด็กกำพร้า ตั้งแต่เด็กเขาก็ติดตามอาวุโสจางเติบโตอยู่บนเขา คนอื่นๆ ต่างเรียกอาวุโสจางว่านักพรตจาง แต่สวินหรานตูเรียกเขาว่าอาจารย์
สวินหรานตูไม่รู้ว่าอาจารย์ของเขามีชีวิตอยู่มาแล้วกี่ปีกันแน่ นับตั้งแต่เขาจำความได้ รูปร่างหน้าตาของอาจารย์ก็เป็นแบบเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ตอนที่เขาติดตามอาจารย์ขึ้นเหนือล่องใต้นั้น เขาได้รู้จักกับซูหว่าน ตอนนั้นนางยังเป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อายุเก้าขวบ อาจารย์บอกว่าร่างกายของนางมีธาตุหยินเข้มข้นมากจะต้องใช้เลือดของธาตุหยางบริสุทธ์มากำราบไว้ และสวินหรานตู ก็คือคนที่มีร่างหยางบริสุทธ์
หยินกับหยาง ตามหลักแล้วควรดึงดูดซึ่งกันและกัน สวินหรานตูเองก็ชอบซูหว่านมาก ในปีนั้น ซูหลินหมั้นหมายพวกเขาสองคนไว้ ในใจของสวินหรานตูรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
แต่ว่าหลังจากนั้นไม่กี่ปี อาจารย์หายตัวไปอย่างกะทันหัน ตอนที่สวินหรานตูกลับมาที่บ้านตระกูลซูอีกครั้ง เขาถึงได้เห็นว่าซูหว่านเปลี่ยนไปแล้ว
นางมิใช่น้องหญิงผู้บอบบางบริสุทธ์ที่อยู่ในใจเขาคนนั้นแล้ว นางเปลี่ยนเป็นเย็นชา กลายเป็นคนที่ไม่สนใจคน นางดูถูกเขาที่เป็นเด็กบ้านนอก ดูถูกเขาที่ยากจน
ใช่สิ สวินหรานตูรู้ว่าตัวเองเป็นคนบ้านนอก แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองยากจนเลย
อาจารย์เคยบอกเขาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วว่า หากบุพเพฟ้าลิขิตแล้ว เรื่องใดก็ไม่อาจฝืนชะตาได้ ดังนั้นเขาจึงขอถอนหมั้นกับตระกูลซู เขาเดินทางออกจากนครใต้ไปที่เขาเหมาซาน ที่นั้นเป็นต้นกำเนิดของสำนักซั่งชิง เพราะหลังจากที่อาจารย์ได้หายตัวไป ในห้องนอนของเขาได้เก็บป้ายแสดงฐานะผู้อาวุโสของสำนักซั่งชิงไว้
ที่สำนักซั่งชิง สวินหรานตูได้รู้จักกับบุตรสาวของเจ้าสำนัก เยี่ยอวี้ฉี ถึงแม้ว่าเยี่ยอวี้ฉีจะเกิดและเติบโตที่สำนักซั่งชิง แต่ว่าร่างกายของนางนั้นไร้พรสวรรค์ไม่สามารถฝึกฝนวิชาเวทได้ตั้งแต่กำเนิด ทำให้ทั้งชีวิตนี้ของนางไม่อาจเป็นจอมเวทได้
แต่ถึงแม้ว่าจะเกิดมาเป็นเช่นนี้ นางก็ไม่ย่อท้อพยายามฝึกฝนอย่างไม่ลดละ ในทุกๆ วันนางจะฝึกฝนการเคลื่อนย้ายสิ่งของกลางอากาศแบบที่ง่ายที่สุด ความพยายามของนางทำให้สวินหรานตูรู้สึกซาบซึ้ง จนสวินหรานตูตัดสินใจนำเคล็ดวิชาลับพิเศษที่อาจารย์มอบให้ตนมาให้เยี่ยอวี้ฉีฝึกฝน
เยี่ยกวงเหมาบิดาของเยี่ยอวี้ฉีบอกกับสวินหรานตูว่า หากต้องการตามหาอาจารย์ให้พบต้องไปตามหาที่มหาสมุทรเหนือ
สวินหรานตูออกเดินทางไปเพียงลำพัง เยี่ยอวี้ฉีจึงแอบตามเขาไปด้วย ระหว่างทางทั้งสองได้ปราบผีพิชิตมารไปตลอดทาง ไม่เพียงแต่จะทำให้ระดับพลังของสวินหรานตูเพิ่มขึ้น แต่ยังทำให้เขาได้พบกับญาติที่แยกจากกันไปหลายปีด้วย และในตอนที่พวกเขาเดินทางมาถึงที่มหาสมุทรเหนือ เมืองรอบๆ มหาสมุทรเหนือได้ถูกเมฆครึ้มที่น่ากลัวปกคลุมไปทั่ว
พื้นที่แถบนี้มีเรื่องเกี่ยวกับวิญญาณแปลกๆ เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ทำให้มีจอมเวทมากมายมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ นอกจากเขาหลงหู่แล้ว สำนักอู๋เซียง พรรคอู่สิง แม้แต่ผู้สืบทายาทของเผ่ามังกรปราบมารตระกูลหม่า หม่าเย่ว์เองก็มาที่นี่ด้วย
หม่าเย่ว์เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์มากที่สุดของตระกูลหม่า ก่อนที่สวินหรานตูจะปรากฏตัวขึ้น เขาถือว่าเป็นผู้นำรุ่นเยาว์ที่มีชื่อเสียง ทว่าหลังจากที่สวินหรานตูปรากฏตัวขึ้น เขาก็เหนือกว่าหม่าเย่ว์ทุกทาง ไม่เพียงแค่นั้น ในด้านของความรัก หม่าเย่ว์ก็หลงรักเยี่ยอวี้ฉีผู้น่ารักสดใสชอบหัวเราะ แต่ว่าเยี่ยอวี้ฉีนั้นกลับตกหลุมรักสวินหรานตูตั้งแต่แรกพบแล้ว ดังนั้น ชายหนุ่มผู้มีพรสวรรค์เก่งกาจที่สุดทั้งสองคนจึงตั้งตัวเป็นศัตรูต่อกัน
มหาสมุทรเหนือแดงฉาน ปีศาจทะเลกำเนิด
ยามที่โลกทั้งใบถูกย้อมไปด้วยสีแดง กล่าวกันว่าจะมีจอมเวทผู้แข็งแกร่งที่สุดกำเนิดขึ้น
นี่คือตำนานเล่าขานในโลกจอมเวท ทว่าในปีนี้กลับกลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงแล้ว…
สวินหรานตูใช้ความพยายามทั้งหมดจนสามารถปราบปีศาจทะเลได้ การต่อสู้ในครั้งนี้ทำให้เขากลายเป็นคนดัง
เขากลายเป็นปรมาจารย์ชื่อดังแห่งยุคที่ทุกคนต่างก็นับถือ แม้แต่หม่าเย่ว์เองยังต้องยอมสยบต่อเขา
ในช่วงเวลานี้เอง ธาตุหยินในร่างกายของซูหว่านกลับเกาะกลุ่มรวมตัวกันขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้นางตกอยู่ในอันตราย ช่วงเวลานี้นางจึงนึกถึงสวินหรานตูขึ้นมา นางมาขอร้องสวินหรานตูให้ช่วยอย่างทุกข์ทรมาน สวินหรานตูเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่รู้จักกันมาหลายปี จึงได้ช่วยชีวิตของนางไว้อีกครั้ง
ในตอนนี้เองซูหว่านกลับคิดว่าความรู้สึกที่สวินหรานตูมีต่อตัวเองยังคงอยู่ นางจึงอยากกลับมาคบหากับบุรุษผู้แข็งแกร่งคนนี้อีกครั้ง ทว่า เยี่ยอวี้ฉีกลับเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ของนาง
นางได้รับรู้ความลับของเยี่ยอวี้ฉีเรื่องที่แท้จริงแล้วนางไม่มีพลังปราณใดๆ เลยโดยบังเอิญ ซูหว่านจึงวางแผนจ้างให้คนมาทำการสร้างสถานการณ์เก้าผีเก็บวิญญาณ เพื่อที่จะฆ่าเยี่ยอวี้ฉี แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วเยี่ยอวี้ฉีก็ใช้อาวุธเวทและแผ่นยันต์ทำให้เอาตัวรอดมาได้สำเร็จ
เรื่องนี้สุดท้ายแล้วสวินหรานตูก็รู้เข้าจนได้ เขาเกลียดซูหว่านที่ลืมบุญคุณหักหลังเขา สาบานว่าจะต้องให้นางได้รับผลกรรมที่ก่อให้ได้
หลังจากนั้นสามวัน ตระกูลซูที่นครใต้ก็ถูกฆ่ายกครัวในชั่วข้ามคืน หลังจากนี้คฤหาสน์ตระกูลซูที่เคยรุ่งเรืองกลับกลายเป็นบ้านผีสิงที่มีชื่อเสียง
ฆ่าคนไร้รอย ทำร้ายคนไร้เงา ลงมืออย่างเหี้ยมโหด นี่ ก็คือจอมเวท
นี่ก็คือเรื่องราวดั้งเดิมของโลกภารกิจนี้ อืม เรื่องดั้งเดิม
ตอนนี้ซูหว่านลอยไปลอยมาอยู่ในห้องนอนของตัวเอง มองดูซูเจินเจินหญิงสาวทะลุมิติที่หลับสนิทอยู่บนเตียงอย่างไม่สนใจอะไรพลันรู้สึกหมดคำพูด…
ทำไมมันถึงได้บังเอิญขนาดนี้ล่ะ
ตนเองเพิ่งจะรับภารกิจมา ในช่วงเวลาที่กำลังจะเข้าร่างของเจ้าของร่างเดิมอยู่นั้น กลับถูกหญิงสาวที่ทะลุมิติมาตัดหน้าไปเสียก่อน!
และเป็นเพราะว่าหญิงสาวผู้ทะลุมิติมาเมื่อก่อนไม่เคยทำเรื่องเลวร้ายมาก่อน ตอนตายก็ตายเพราะช่วยเหลือคน วิญญาณของเธอจึงมีพลังของบุญกุศลหนุนนำอยู่
ต่อให้ตอนนี้จิตวิญญาณของตนเองจะแข็งแกร่งกว่าเธอร้อยเท่า ก็ไม่สามารถแย่งร่างของตนเองมาจากเธอได้
เฮ้อ
หรือว่าฉันจะต้องมาเป็นผีอยู่ในโลกนี้เหรอเนี้ย
ครั้งนี้ทำให้ซูหว่านรู้สึกเซ็งจัดจริงๆ ตอนนี้เธอไม่สามารถติดต่อไปยังสำนักงานใหญ่ได้ อยากจะยกเลิกภารกิจนี้แล้วกลับไปก็ทำไม่ได้
ล่วงเข้ารัตติกาลดึกสงัด เมฆดำบังตัดดวงจันทร์
บรรยากาศในห้องนอนหนาวยะเยือกขึ้นมาทันที
หนาวจังเลย
ซูเจินเจินที่กำลังนอนฝันอยู่ตัวสั่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว อยากเข้าห้องน้ำจังเลย เธอลืมตาขึ้นมาอย่างสลึมสลือ ปรากฏว่า…
“กรี๊ด! กรี๊ด! กรี๊ด~”
เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังสะท้อนอยู่ภายในห้องไม่หยุด
ซูไท่ไท่รีบวิ่งเข้ามาเปิดไฟโคมระย้าในห้องนอน
“เธอ ฉัน…”
ซูเจินเจินเอามือมาปิดปากของตัวเองไว้แน่นๆ มองดูซูหว่านที่ลอยไปมาอยู่ข้างเตียงนอน
นี่คือ…
“เสี่ยวหว่าน เกิดอะไรขึ้นกับลูกหรือ ฝันร้ายอีกแล้วหรือ ”
ซูไท่ไท่รีบวิ่งมาที่เตียงนอนอย่างรีบร้อนแล้วยกมือขึ้นมาโอบร่างของซูเจินเจินไว้เบาๆ ซูเจินเจินในตอนนี้ตกใจจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว
เธอ เธอมองเห็นซูหว่านตัวจริงแล้ว!
วิญญาณที่หน้าตาเหมือนกับร่างที่เธออาศัยอยู่อย่างกับแกะ
ถ้าอย่างนั้น ก็ต้องเป็นจ้าของร่างนี้น่ะสิ
“ลูก ลูกไม่เป็นไรแล้วเจ้าค่ะ”
ซูเจินเจินพยายามตั้งสติอีกครั้ง เธอแน่ใจว่าซูไท่ไท่มองไม่เห็นซูหว่านแน่นอน หรือว่าจะมีแค่ตนเองที่มองเห็นนะ
โชคยังดีที่ตอนนี้ซูหว่านยังอยู่ในชุดนอน มองดูแล้วก็ดูปกติดี ไม่ใช่ผีแบบในหนังสยองขวัญที่ซูเจินเจินเคยดูมาก่อนหน้านี้
หรือว่า นางอาจจะไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น
ซูเจินเจินมองไปทางซูหว่านที่ลอยไปลอยมาอยู่ข้างเตียงนอนอย่างเบื่อหน่ายด้วยความระมัดระวัง ปรากฏว่าซูหว่านหันมากะพริบตาใส่นาง
เอ่อ
เอาเถอะ
หลังจากที่บอกให้ซูไท่ไท่ออกไปจากห้องแล้ว ซูเจินเจินก็เรียกความกล้าของตัวเองขึ้นมา จ้องมองเขม็งไปที่ซูหว่าน “ซูหว่าน เธอคือซูหว่านใช่ไหม”
“อืม”
ซูหว่านพยักหน้า หรือว่าในตอนกลางคืนพลังหยินค่อนข้างแรง เลยทำให้ซูเจินเจินสามารถมองเห็นตัวเองได้
แต่ว่า ซูไท่ไท่กลับมองไม่เห็นเธอ ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่ามีแค่คนที่มีพลังพิเศษ หรือคนที่มีความสัมพันธ์พิเศษกับเธอถึงจะมองเห็นตัวเองได้
“ฉัน…ฉันไม่ใด้ตั้งใจจะทำร้ายเธอนะ ฉันก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ เธอไม่ต้องมาหาฉันได้ไหม”
เมื่อได้ยินซูหว่านยอมรับฐานะของตัวเอง สีหน้าของซูเจินเจินก็สลดขึ้นมาทันที “ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ เรื่องทะลุมิติแบบนี้ มันเป็นเรื่องฟ้าลิขิต ฉันก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้นี่ หรือไม่ ฉันคืนร่างให้เธอดีไหม”
“ถ้าหากว่าฉันเอาร่างกลับมาเองได้ เธอโดนเตะออกไปจากร่างของฉันนานแล้ว”
ซูหว่านทำหน้าเซ็ง ลอยไปมาอยู่รอบๆ ตัวของซูเจินเจิน ซูเจินเจินมองดูจนเวียนหัวไปหมด “เธอไม่ได้มาขอร่างคืนหรอกเหรอ แล้วทำไมเธอ…ถึงต้องมาตามติดฉันอยู่แบบนี้ล่ะ! ฉันเป็นคนดีนะ! ทั้งชีวิตไม่เคยทำเรื่องเลวร้ายอะไรเลย”
“ฉันก็ไม่ได้อยากมายุ่งกับเธอหรอก”
พูดมาถึงตรงนี้ ซูหว่านก็ยิ่งหมดคำที่จะพูด หลังจากที่เธอรับรู้ได้ว่าไม่สามารถกลับสำนักงานใหญ่ได้ สิ่งแรกที่คิดถึงก็คือไปหาซูรุ่ย สถานะของซูรุ่ยในโลกนี้จะต้องเป็นพระรองหม่าเย่ว์แน่นอน
เผ่ามังกรปราบมาร ตระกูลหม่า
ตระกูลของหม่าเย่ว์อยู่ใกล้ๆ กับมหาสมุทรเหนือ แค่เดินทางไปทางเหนือเรื่อยๆ ก็จะได้พบกับเขาแล้ว แต่ว่าหลังจากที่ซูหว่านออกจากคฤหาสน์ตระกูลซู เธอก็จะอ่อนแอลงเรื่อยๆ วิญญาณของเธอไม่มีพลังหลงเหลืออยู่เลย
“ฉันออกไปจากบ้านตระกูลซูไม่ได้ นอกจากว่า เธอจะพาฉันออกไป!”
ซูหว่านจ้องมองไปที่ดวงตาของซูเจินเจิน ใช่ ตอนนี้เธอมีแค่วิธีเดียว ก็คือให้ซูเจินเจินพาเธอออกไปจากบ้านตระกูลซู!