ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 14 ไม่พึ่งทักษะการแสดง พึ่งพิงคนจ่ายเงิน (14)
วิลล่าส่วนตัวตระกูลหลู
เย่ชิงที่ยุ่งอยู่ที่กองถ่ายหนึ่งวันเต็ม เมื่อกลับถึงวิลล่าก็รีบขึ้นไปพักผ่อนบนที่นอน เมื่อหลับไปได้ครึ่งทาง เธอก็พลิกตัวกลับมาด้วยความงุนงง รู้สึกถึงความหนาวเย็นบนที่นอน เย่ชิงอดลืมตาขึ้นมาไม่ได้
ช่วงนี้ที่บริษัทของหลูจวิ้นยุ่งมาก และเย่ชิงช่วงนี้เองก็ยุ่งจนกไม่ได้พักเลย
เธอเพิ่งเข้าร่วมในละครชุดล่าสุดที่ผลิตโดยซินอวี่เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ และยังเล่นเป็นนางรอง สำหรับเย่ชิงที่เคยเป็นแค่สแตนด์อินมาโดยตลอดแล้ว นี่นับเป็นขั้นบันไดขึ้นไปสู่ฟ้า
เพื่อที่จะพัฒนาฝีมือการแสดงของตัวเองและไม่ให้ถูกคนในกองถ่ายมาวิจารณ์เธอได้ เย่ชิงกำลังฝึกซ้อมการแสดงอย่างหนักในช่วงนี้ ด้วยเหตุนี้ เธอและหลูจวิ้นทั้งสองคนก็ยุ่งมากในช่วงนี้ แม้ว่าพวกเขาจะนอนเตียงเดียวกัน แต่เวลาทำงานและเวลาพักผ่อนของพวกเขากลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เย่ชิงลืมตาขึ้นและลุกออกจากเตียง เธอมองดูนาฬิกาปลุกข้างเตียงอย่างที่ทำเป็นประจำ นี่เพิ่งจะสามทุ่มครึ่งเท่านั้น
เธอนอนจนสับสนไปแล้วจริงๆ เธอนึกว่าตอนนี้จะเที่ยงคืนแล้วเสียอีก
เย่ชิงที่เริ่มมีสติเล็กน้อยลุกออกจากเตียงและวางแผนจะไปดื่มน้ำที่ห้องครัวสักแก้ว ตอนที่เดินผ่านห้องอ่านหนังสือของหลูจวิ้น เมื่อเห็นว่าไฟในห้องอ่านหนังสือยังเปิดอยู่ เย่ชิงผลักประตูกำลังจะเข้าไปโดยไม่รู้ตัวและ แต่ว่าตอนที่เธอเพิ่งจะเดินไปถึงประตู ก็ได้ยินเสียงหลูจวิ้นกำลังคุยโทรศัพท์ แต่ชื่อที่เขาพูดถึงไม่หยุด ทำให้เย่ชิงที่อยากจะเดินเข้าไปต้องหยุดฝีเท้าลงกะทันหัน
ซูหว่าน
หลูจวิ้นกำลังคุยเรื่องซูหว่านกับคนอื่น
สำหรับซูหว่าน เธอไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับเย่ชิง เธอเป็นสแตนด์อินให้ซูหว่านมาสามปีแล้ว
ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ซูหว่านกำลังมีชื่อเสียงมากที่สุด ตารางทำงานของเธอมีคิวแน่นตลอดทั้งปี และเพื่อจะให้ทำงานทัน ฉากในละครหลายฉากที่ไม่เห็นหน้าก็จะใช้สแตนด์อินแสดงแทนทั้งหมด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฉากกระโดน้ำ กระโดดตึก ฉากที่ยากและอันตรายมากต่างๆ
ไม่มีใครรู้ถึงความเศร้าของตัวสำรองได้ดีไปกว่าเย่ชิง เธอเป็นเหมือนมนุษย์ล่องหนในกองถ่าย ทำงานที่อันตรายที่สุดและเหนื่อยที่สุด และเมื่อภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ออกอากาศออกไป ผู้คนกลับมองเห็นเพียงแผ่นหลังของคุณเพียงแวบเดียว ยิ่งไปกว่านั้น…ไม่มีใครรู้ว่านั่นคือคุณ ในรายชื่อนักแสดงและทีมงาน คุณก็ไม่เห็นชื่อของคุณเอง
สแตนด์อิน ถูกคนนอกวงการเรียกว่าฮีโร่นิรนาม ที่ว่านิรนามก็คือนิรนามจริงๆ แต่ที่ว่าฮีโร่นั้น เย่ชิงทำได้เพียงหัวเราะแห้งๆ
ตอนที่เธอเป็นสแตนด์อินให้ซูหว่าน เธอเคยพบกับหลูจวิ้นไม่กี่ครั้ง เขารูปหล่อและดูแลเอาใจใส่ มีความรักลึกซึ้งและสนใจเพียงแค่ซูหว่าน เย่ชิงจำได้ว่ามีครั้งหนึ่งที่กองถ่ายไปถ่ายทำบนภูเขาใหญ่ ตอนนั้นมีฝนตกห่าใหญ่ ซูหว่านโดนฝนและเป็นไข้หวัดใหญ่ หลังจากที่หลูจวิ้นรู้ข่าว เขาก็พาหมอส่วนตัวไปหาซูหว่านที่อยู่ไม่ไกล วันนั้นเย่ชิงเองก็ไม่สบายพอดี แต่เธอตั้งใจจะแค่กินยาแก้หวัดเท่านั้นเดี๋ยวก็คงดีขึ้นเอง สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจก็คือ ตอนนั้นหลังจากหลูจวิ้นซึ่งอยู่ในทีมกองถ่ายรู้ว่าเธอป่วยแล้ว เขาก็ยังนำยาพิเศษที่เขานำมาให้เย่ชิงโดยจริงอีกด้วย
บางทีหลูจวิ้นคงจะลืมเรื่องนี้ไปนานแล้ว แต่ว่าเย่ชิงยังจำไว้ในใจอยู่เสมอ
ไม่ปฏิเสธว่าเธอมีความประทับใจที่ดีต่อหลูจวิ้นมานานแล้ว แต่ว่าเขาเป็นแฟนของซูหว่าน เย่ชิงรู้ดีว่าเธอนั้นแตกต่างจากพวกเขาขนาดไหน นี่คือสิ่งที่เรียกว่าแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
หลูจวิ้นอาศัยอยู่เหนือเมฆ เขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่เธอไม่สามารถปีนขึ้นไปถึงได้ตลอดชีวิต
ดังนั้น เมื่อหลูจวิ้นปรากฏตัวต่อหน้าเธออีกครั้ง มองอย่างเสน่หาเพื่อตามจีบเธอ ในชั่วขณะนั้นเย่ชิงมึนงงมาก ตื่นตระหนกมาก และกลัวว่านี่จะเป็นเพียงแค่ความฝันที่เปราะบาง
ใช่แล้ว จนถึงตอนนี้ เย่ชิงก็ยังรู้สึกว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องจริง ดังนั้นเมื่อเธอได้ยินหลูจวิ้นพูดถึงชื่อของซูหว่าน เธอก็หยุดอยู่ที่นอกประตูโดยไม่รู้ตัว
ในเวลานี้ หลูจวิ้นที่อยู่ในห้องอ่านหนังสือยังคงคุยโทรศัพท์อยู่ และไม่ทันสังเกตสถานการณ์นอกประตู
“คนที่อยู่กับซูหว่าน…มั่นใจว่าเป็นเยี่ยเส่าหลิงนะ?”
เดิมทีหลูจวิ้นกำลังจัดการเรื่องต่างๆ ของบริษัทอยู่ในห้องอ่านหนังสือ แต่เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา เหลียงเจิงก็โทรหาเขากะทันหัน บอกว่าความรักครั้งใหม่ของซูหว่านถูกเปิดเผยออกมาแล้ว แต่ว่าอีกฝ่ายก็คือเยี่ยเส่าหลิงคุณชายสามตระกูลเยี่ย
สำหรับหลูจวิ้นแล้วเยี่ยเส่าหลิงไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับเขา คุณชายสามตระกูลเยี่ยคนนี้ในวัยเด็กเขาโดนคุณปู่ตระกูลเยี่ยส่งไปอยู่ต่างประเทศ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาก็ไม่ค่อยปรากฏตัวในประเทศจีนนัก
เขากับซูหว่านจะไปลงเอยกันได้ยังไง
ถ้าบอกว่าซูหว่านมีส่วนพัวพันกับเยี่ยเส่าฉวิน หลูจวิ้นยังจะเชื่อมากกว่า
“เป็นเยี่ยเส่าหลิงจริงๆ”
ในเวลานี้มีข้อความส่งมาจากเหลียงเจิงส่งมาทางโทรศัพท์ “หลูจวิ้น นายรีบเข้าไปดูเวยป๋อ เยี่ยเส่าหลิงตอบรับในเชิงบวกแล้ว นายไปดูเอาเอง!”
พูดจบเหลียงเจิงก็วางสายไป
และหลูจวิ้นก็หรี่ตาลงและรีบเข้าไปดูเวยป๋อของตัวเอง จากนั้นเขาก็ค้นหาหลายเลข V ที่ได้รับการรับรองของเยี่ยเส่าหลิงบนเวยป๋อ ตามที่คิดไว้ เพียงแค่เขาได้เข้าสู่หน้าหลัก บรรยากาศในเวยป๋อก็เดือดพล่าน เวยป๋อล่าสุดที่เพิ่งโพสต์เมื่อหนึ่งนาทีที่แล้ว…
[เยี่ยเส่าหลิง: ถึงแม้จะไม่รู้ว่าใครเป็นคนถ่ายรูป แต่ถ่ายได้ไม่เลวเลยครับ แต่เมื่อเทียบกับคุณชายสามอย่างผม เทคนิคการถ่ายภาพยังแพ้ผมอยู่นิดหน่อย]
ข้อความเวยป๋อสั้นมาก แต่ข้างหลังแนบรูปถ่ายเซลฟี่ไว้หนึ่งรูป ในภาพนั้นเยี่ยเส่าหลิงและซูหว่านกอดกันแน่ ทั้งสองคนยิ้มอย่างสดใสให้กับกล้อง เพียงแค่มองภาพก็สัมผัสได้ถึงความรักอันลึกซึ้งระหว่างคนทั้งสอง
ด้านล่างเวยป๋อนี้ ได้มีชาวเน็ตนับหมื่นทิ้งความเห็นไว้ และยังมีชาวเน็ตที่ยังไม่หยุดแท็กชื่อซูหว่าน ให้เธอรีบออกมาตอบโต้ผู้ชายของเธอ
และอีกสองนาทีต่อมา สุดท้ายซูหว่านก็รีโพสต์เวยป๋อของซูรุ่ย และเขียนข้อความเพิ่มว่า [หยุดหลงตัวเองได้แล้ว ยังไม่ไปล้างจานอีก!]
ด้านล่างเป็นรูปโต๊ะทานอาหาร บนโต๊ะประดับประดาไปด้วยดอกกุหลาบสีแดงสด เทียนสีขาว สเต๊กรูปหัวใจที่ยังทานไม่เสร็จ และไวน์แดงราคาแพง~
การตอบกลับของซูหว่านครั้งนี้ ทำให้การแสดงความคิดเห็นระเบิดขึ้นมาทันที
[ในใจมีแค่เธอ: มันจบแล้ว หัวใจแก้วของฉันแตกแล้ว คุณชายสาม คุณคือเทพธิดาของผมมา~]
[ใบเมเปิ้ลเดือนกุมภาพันธ์: คุณชายสามสุดแสนจะโรแมนติกเนอะ มีความสุขมากๆ นะหว่านหว่าน! ขอให้ทั้งคู่มีความสุข!]
[ฉันเป็นแฟนคลับปัญญาอ่อน: นี่เป็นจังหวะการเปิดเผยต่อสาธารณะเหรอ พูดง่ายๆ เลยนะว่าฉันเป็นแฟนคลับคู่จิ้นหลินซู~ ใครก็อย่ามาห้ามฉัน ปล่อยให้ฉันตายไปก่อน~]
[หัวใจมุ่งสู่ทะเล: ถือว่าเป็นหมาเที่ยงคืนตัวเดียวที่มีเลือดไหลนองหน้า ผองเพื่อนที่อยู่ชั้นบน บนดาดฟ้ายังมีที่ว่างอยู่ไหม]
[ญาติพี่น้องที่สวยราวกับดอกไม้: ฉันก็แค่เข้ามาดูคนรักกันเท่านั้น ฉันจะไม่พูด~]
[ฉลามขาวผู้ยิ่งใหญ่: เทพธิดาซูกำลังจะเป็นพาดหัวข่าวอีกแล้ว! ได้โปรดถ่ายทอดความลับให้ผมด้วย ผมจะไปส่งให้พี่เฟิง พี่เฟิงของเราจะได้เป็นพาดหัวข่าวบ้าง~]
……
เมื่อคนกลุ่มใหญ่เข้ามาร่วมสนุกในช่องแสดงความคิดเห็นในเวยป๋อของซูหว่าน หลูจวิ้นเอาแต่มองเข้าไปในรูปที่ซูหว่านโพสต์อย่างจริงจัง นั่นเป็นคอนโดของซูหว่าน นั่นเป็นโต๊ะทานอาหารในคอนโดของเธอ หลูจวิ้นเคยไปที่นั่นมาหลายครั้ง เคยกินข้าวที่โต๊ะทานอาหารนั้น เขาไม่มีทางจำผิดแน่
เธอคบกับเยี่ยเส่าหลิงแล้วจริงๆ เหรอ
เรื่องนี้ทำให้หลูจวิ้นประหลาดใจมาก
แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่ซูหว่านทำในช่วงไม่นานมานี้ หลูจวิ้นก็อดไม่ได้ที่จะปล่อยวางแล้ว
จะต้องเป็นเรื่องที่เขาเลิกกับเธอแน่ที่เปลี่ยนชะตาชีวิตของซูหว่าน ดังนั้นการแสดงออกของเธอจึงแตกต่างไปจากชาติก่อนอย่างสิ้นเชิง
เธอเล่นละครเก่งขนาดนั้น เคยหลอกพวกชาวเน็ตโง่ๆ ก็เป็นเรื่องที่ทำอยู่บ่อยๆ
เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ หลูจวิ้นก็ปิดหน้าเว็บอย่างอดไม่ได้ ตอนนี้ซูหว่านไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาแล้ว ตราบใดที่เธอหยุดพุ่งเป้าไปที่เย่ชิง ตัวเขาเองก็จะใจกว้างมากๆ มากพอที่จะปล่อยเธอไป แต่ถ้าหากเธอนิสัยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนละก็ ฉันคงทำได้เพียงต้องคิดบัญชีกับเธอทั้งชีวิตในอดีตและปัจจุบัน
สำหรับตระกูลเยี่ย หลูจวิ้นที่คิดว่าเขามีดรรชนีทองคำแห่งการเกิดใหม่ครั้งนี้ไม่ได้เห็นครอบครัวเยี่ยอยู่ในสายตาเลยจริงๆ…