ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 18 ไม่พึ่งพิงทักษะการแสดง พึ่งพิงคนจ่ายเงิน (18)
ช่วงเวลาหนึ่งเดือนผ่านไปกับการยุ่งอยู่กับการถ่ายทำอีก
พริบตาเดียวก็เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ในเมืองภาพยนตร์แม้ทุกฤดูเสมือนฤดูใบไม้ผลิ แต่ยามสวมใส่กี่เพ้าตัวยาวบางในตอนกลางคืน ก็ยังคงรู้สึกเย็นสะท้าน
หลังเลิกงาน ซูหว่านยังไม่ทันถอดเสื้อผ้าที่ใส่เข้าฉาก ก็ถูกโทรศัพท์สายหนึ่งเรียกให้ไปเจอกันในร้านกาแฟแห่งหนึ่งนอกสตูดิโอ
ร้านกาแฟแห่งนี้ แต่ละห้องถูกออกแบบให้แตกต่างกัน มีดารามากมายชอบมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ ขณะว่างเว้นจากการเข้าฉาก
“พี่หว่าน!”
พอซูหว่านก้าวเข้าประตูมาก็ได้ยินเสียงอันอ่อนโยนไพเราะของหญิงสาว
“เยวี่ยอิน เรียกฉันออกมาด่วนแบบนี้ มีเรื่องอะไรกัน”
ซูหว่านมองดูหญิงสาวในห้องส่วนตัว เธอชื่อเยวี่ยอิน เป็นรุ่นน้องอาจารย์ที่ปรึกษาคนเดียวกัน เมื่อก่อนตอนอยู่ซินอวี่ เธอมีความสัมพันธ์อันดีกับซูหว่านมาตลอด
“พี่หว่าน ฉัน…ฉันอยากกินมื้อดึก”
สีหน้าของเยวี่ยอินไม่สู้ดีนัก ตอนนี้พอเห็นร่างของซูหว่าน ดวงตาเธอค่อยทอประกายขึ้นวาบหนึ่ง
“นานมาก นานมากแล้วที่ฉันไม่ได้กินมื้อดึก ล่าสุดคนในกองถ่ายล้วนถูกบริษัทและทีมผู้กำกับบีบจนบ้าไปแล้ว!”
การถ่ายทำละครย้อนยุคไม่ใช่เรื่องง่ายมาแต่ไหนแต่ไร โดยเฉพาะประเภทในรั้วในวัง แค่แต่งหน้าและเปลี่ยนเครื่องแต่งกายในทุกๆ วันก็เสียเวลามากโขอยู่ การที่เยวี่ยอินได้เป็นนักแสดงสมทบใน ‘เงา’ ก็ถือว่าเป็นบทบาทที่ไม่เลวแล้ว เธออยู่ในซินอวี่มาหลายปี การได้รับบทบาทแบบนี้ มาจากความสามารถส่วนตัวล้วนๆ
นักแสดงที่ไม่มีคนหนุนหลัง อยู่ในวงการนี้ ก็ก้าวหน้ายากหน่อย
“กินมื้อดึก?”
ซูหว่านจ้องมองเยวี่ยอิน “เธอเคยชินแบบนี้มา…นานแค่ไหนแล้ว”
กินมื้อดึก เป็นศัพท์ในหมู่ชาวแก๊ง หมายถึงติดยา ต้องการเสพยา
คนเสพยาเสพติด ปกติจะรู้ความหมายของคำนี้ และคนในวงการบันเทิงต่างก็รู้อยู่แก่ใจดี
“ไม่ ไม่นานมาก หมู่นี้ฉันรู้สึกกดดันมากจริงๆ”
พอเยวี่ยอินได้ยินซูหว่านพูด ก็กะพริบตาทีหนึ่ง “พี่หว่าน พี่ช่วยฉันหน่อยนะ พี่กับประธานถานสนิทกันมาก ให้คนของเขาเอามาให้ฉันหน่อย ฉันมีเงิน!”
“เงิน? ของแบบนี้มีเงินก็หาซื้อได้ทั่วไป ทำไมต้องมาหาฉันด้วย”
ซูหว่านเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ จ้องมองเยวี่ยอินที่อยู่ตรงหน้าอย่างสงบนิ่ง
“ก็ ก็เพราะหมู่นี้โดนตรวจเข้ม คนทั่วไปเลยไม่มีของกัน!” พอได้ยินซูหว่านพูด เยวี่ยอินก็กระวีกระวาดอธิบาย
“หึ”
ซูหว่านยิ้ม “เยวี่ยอิน เธอกับฉันรู้จักกันมานานแค่ไหนแล้ว ยังจำได้ไหม เธอนึกว่าเธอหลอกฉันได้เหรอ”
“พี่ พี่หว่าน…”
พอได้ยินแบบนี้ เยวี่ยอินก็หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ก่อนหลุบตาลงทันที “พี่หว่าน จริงๆ นะ ฉันต้องรีบใช้จริงๆ พี่ช่วยฉันเถอะ!”
“เป็นใคร”
ซูหว่านเท้าแขนกับโต๊ะ โน้มตัวไปตรงหน้าเยวี่ยอิน “ใครใช้ให้เธอมาหาฉัน ทำไมเขาไม่มาเอง”
“ไม่ ไม่มีใคร”
พอชำเลืองมอง แล้วเห็นดวงตาที่ดุดันของซูหว่าน เยวี่ยอินก็กะพริบตาอีกครั้ง
“เธอไม่บอก ฉันก็รู้ว่าเป็นใคร”
ซูหว่านยิ้มน้อยๆ “หลินมู่ใช่ไหม”
“พี่หว่าน?”
พอได้ยินซูหว่านพูดชื่อหลินมู่ออกมา เยวี่ยอินพลันตาโตอย่างประหลาดใจ เรื่องหลินมู่เสพยาเป็นเรื่องที่เธอพบเห็นโดยบังเอิญ นึกไม่ถึงว่าซูหว่านกลับรู้อยู่แต่แรก
ยิ่งมีเกียรติมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งคิดว่าตนเองสูงส่งมากเท่านั้น
หลินมู่มักคิดว่าตนเป็นคนชั้นสูง เมื่อพบเจอเรื่องราวใดๆ ความพ่ายแพ้ใดๆ จึงไม่ค่อยถ่อมตนลงมาขอคำแนะนำจากผู้อื่น และเมื่อปัญหาค่อยๆ สะสมเป็นคอขวด ก็มีเพียงยาเสพติดเท่านั้นที่สามารถทำให้เขาก้าวข้ามด่านยากนี้ได้
เขารู้สึกว่าเขาไม่เหมือนคนอื่น คนอื่นเสพยาเพราะชีวิตว่างเปล่าเปลี่ยวเหงา แต่เขากำลังอุทิศตัวเพื่องานศิลปะ เพื่อค้นหาแรงบันดาลใจ
ความคิดหลอกตัวเองแบบนี้ มีแต่คนอย่างเขาเท่านั้นที่มี
“เยวี่ยอิน เรื่องของหลินมู่ เธออย่ายุ่งเป็นดีที่สุด มิฉะนั้น…จะเหมือนจุดไฟเผาตัวเอง ฉันก็ช่วยเธอไม่ได้!”
ว่าแล้วซูหว่านก็ลุกขึ้นยืน หันกายจากไปอย่างไม่ลังเลใจแม้แต่น้อย
ล่าสุด แรงกดดันจากกองถ่ายละครเรื่อง ‘เงา’ ได้ทำให้นักแสดงหลายคนทุกข์ยากสุดบรรยาย แม้แต่ตัวประกอบเล็กๆ ก็ยังบ่นว่าจะลาออกจากกอง ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ สภาพของหลินมู่ย่อมไม่มีทางดีไปได้
โดยเมื่อหลายวันก่อน ขณะถ่ายทำติดต่อกันสองวันสองคืน หลินมู่ก็เกิดอาการอยากยา เขารีบบอกให้ผู้จัดการส่วนตัวไปเอาของจากคนคุ้นเคย แต่คนคนนั้นกลับไม่มีของ ไม่เพียงเท่านี้ ว่ากันว่าของขาดทั้งวงการ เพราะการปราบปรามที่เข้มงวด!
พอไม่ได้ของ หลินมู่ก็ลงแดง จึงต้องหลบไปอยู่ในที่ที่ห่างไกลสายตาผู้คน และวันนั้นเยวี่ยอินก็ไปหลบซ้อมบทคนเดียวที่นั่นพอดี ในที่สุดจึงถูกเธอจับได้
คนติดยาไม่มีเหตุผลและไม่มีศักดิ์ศรี หลินมู่ขอร้องอ้อนวอนเยวี่ยอิน ให้ช่วยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ แถมยังให้เธอไปโกหกและขอร้องซูหว่าน ด้วยตอนนี้ในวงการ มีเพียงถานเทียนเท่านั้นที่มีของอยู่ในมือ…
เยวี่ยอินมีความรู้สึกที่ดีต่อหลินมู่มาตลอด เรื่องนี้ซูหว่านรู้ และอันที่จริงหลินมู่เองก็รู้
เพียงแต่ ความรู้สึกในวงการบันเทิง ไม่รู้จริงกี่ส่วน ปลอมกี่ส่วนกันแน่
หลังจากซูหว่านจากไป เยวี่ยอินก็นั่งคิดคนเดียวอยู่ตรงนั้นนานมาก สุดท้ายเธอก็ทอดถอนใจออกมา วางเงินไว้ใต้แก้วกาแฟ แล้วหันกายจากไป…
หนึ่งสัปดาห์ให้หลัง กองถ่ายละคร ‘เงาในวังลึก’ ก็ปิดกล้องอย่างราบรื่น!
ละครห้าสิบตอน ใช้เวลาถ่ายทำสองเดือนครึ่ง เป็นความเร็วระดับเทพเลยทีเดียว
การปิดกล้องอย่างราบรื่นของละครเรื่อง ‘เงา’ ก็เป็นกระแสร้อนแรงในอินเทอร์เน็ตเช่นเดียวกัน ทางซินอวี่เอ็นเตอร์เทนเม้นต์จึงฉวยโอกาสในวันปิดกล้องโปรโมตว่า ละครที่มีคนรอคอยอย่างล้นหลามเรื่องนี้ถูกส่งไปตรวจสอบแล้ว อีกไม่นานก็จะออกสู่สายตาผู้ชมอย่างกว้างขวาง และตอนนี้ สถานีโทรทัศน์หลายสถานีได้ซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้ว โดยมีทั้งแบบออกอากาศเป็นเจ้าแรกและออกอากาศซ้ำ
แม้ทีมงานเร่งรีบถ่ายทำไปหน่อย แต่หวงฉีก็ได้ดูตัวอย่างละครแล้ว สำหรับละครเรื่องใหม่นี้ เขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ขอเพียงได้ออกอากาศ ต้องโด่งดังทั่วประเทศอย่างแน่นอน!
ตอนนี้ ซูหว่านยังอยู่ในสตูดิโอถ่ายทำ คืนนี้เธอมีฉากกลางคืนที่ต้องถ่ายอีกหนึ่งฉาก
“พี่หว่าน สตูข้างๆ เราวันนี้เขาเลี้ยงปิดกล้องน่ะ เชิญดารามาเยอะแยะเลย!”
ขณะซูหว่านกำลังพักผ่อน จิ่วเยี่ยที่ชอบเม้าท์มอยก็อดไม่ได้ที่จะฉวยโอกาสนี้เอนตัวไปข้างๆ เธอ แล้วชี้ให้ดูรูปถ่ายบนแท็บเล็ต ที่หน้าข่าวบันเทิงของซวี่รื่อเพิ่งอัปโหลด
“หึ”
ไม่รอให้ซูหว่านพูด อู๋ถงที่นั่งอยู่อีกข้างก็อดไม่ได้ที่จะกลอกตาไปมา “เป็นเพราะพวกเขาถ่ายสู้เราไม่ได้ไง ก็เลยต้องรีบเร่งถ่าย ตอนนี้จัดงานเลี้ยงปิดกล้องซะใหญ่โต ก็คงต้องการกลบความดังของเราแหละ! แต่ใครเป็นเพชรใครเป็นพลอย ใช่ว่าพวกเขาพูดแล้วจะเป็นอย่างที่พวกเขาพูด พี่หว่าน พี่ว่าจริงไหม”
“อืม”
พอได้ยินคนทั้งสองคุยกัน ซูหว่านก็ยิ้มลึกลับ “คืนนี้ก็ให้พวกเขามีความสุขกันไปคืนนึงเถอะ พรุ่งนี้เช้าทุกคนอย่าลืมซื้อซวี่รื่อคนละฉบับล่ะ!”
“พี่หว่าน?”
พอได้ยินคำพูดของซูหว่าน อู๋ถงก็กะพริบตา “หรือว่า…”
“ชู่!”
ซูหว่านทำมือจุ๊ปากกับอู๋ถง ก่อนฝากมือถือของตนไว้ในฝ่ามือของเขา “ช่วยถือให้ฉันหน่อย ถึงคิวฉันเข้าฉากแล้ว”
อู๋ถงมองดูซูหว่านเดินเข้าไปยืนอยู่หน้ากล้อง เริ่มต่อบทกับเมิ่งเฮ่า จากนั้นค่อยก้มลงมองดูมือถือของซูหว่าน ในมือถือมีข้อความที่หลี่เหวยอีเพิ่งส่งมา…
[ปลาติดเบ็ดแล้ว พรุ่งนี้เช้าดูข่าวฉลองกัน!]
นี่หมายความว่าอะไร
อู๋ถงมึนงงไปหมด ข่าวลึกลับนี้ ทำให้หลังจากเลิกกองกลับโรงแรม เด็กน้อยอู๋ถงก็ยังข่มตาหลับไม่ลง จนถึงรุ่งเช้า พอเขาลืมตาตื่นก็รีบกุลีกุจอเปิดมือถือ เข้าหน้าข่าวบันเทิงซวี่รื่อ และพาดหัวข่าวตัวอักษรสีแดงแบบหยาบๆ ก็ทำให้อู๋ถงหายง่วงในพริบตา…
[ความสุขสร้างความทุกข์? หลังงานเลี้ยงปิดกล้อง ดาราหนุ่มหน้าใหม่ของซินอวี่ หลินมู่ ถูกจับข้อหาเสพยา!]
นี่เป็นข่าวพิเศษของหลี่เหวยอีอีกแล้ว ในข่าวยังมีภาพประกอบหลินมู่ลงแดง และถูกตำรวจกุมตัวไปด้วย!
ในวงการบันเทิง หลินมู่เป็นแบบอย่างของชายหนุ่มที่ดีงามมาตลอด ตอนนี้พอมีข่าวเสพยาออกมา พายุใหญ่ก็เกิดขึ้นทันที แต่นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด เรื่องสำคัญที่สุดคือละคร ‘เงาในวังลึก’ ที่หลินมู่แสดงนำกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ!
พอหลินมู่มีข่าวฉาวออกมา ไม่เพียงแต่ซินอวี่เอ็นเตอร์เทนเม้นต์เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ละครย้อนยุคฟอร์มยักษ์ที่ลงทุนไปหลายร้อยล้านอย่าง ‘เงาในวังลึก’ ก็อาจเผชิญกับสภาวะแท้งได้ทุกเมื่อ!
หลายปีมานี้เหนื่อยยากลำบากจริงๆ พริบตาเดียวก็ย้อนกลับไปช่วงก่อนการปลดแอก!