ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 20 ไม่พึ่งพิงทักษะการแสดง พึ่งพิงคนจ่ายเงิน (20)
ในที่สุด หลี่เหวยอีก็ไม่ได้ไปเยี่ยซื่อเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ เรื่องนี้ผิดไปจากที่ซูรุ่ยคาดจริงๆ
ซูรุ่ยรู้สึกมาตลอดว่าหลี่เหวยอีน่าจะเป็นคนประเภทที่ ถ้ามีโอกาสปีน ต้องปีนขึ้นไปอย่างสุดแรงเกิด และทำได้ทุกอย่าง เพียงเพื่อผลประโยชน์ ทว่าครั้งนี้ เขากลับทำให้แม่ทัพซูประหลาดใจ!
จะคุยก็แต่กับซูหว่านคนเดียวโดยไม่ให้เกียรติคุณชายสามสกุลเยี่ย หมายความว่าอะไร ชอบภรรยาตนเองแน่ๆ! แม่ทัพซูไม่พอใจขึ้นมาทันที
หลี่เหวยอี “…”
ใครชอบภรรยาคุณ? คุณนึกว่าภรรยาคุณเป็นเงินตราหรือไง ใครๆ ก็ต้องชอบหล่อน
จริงๆ แล้วหนุ่มน้อยหลี่เหวยอีเพียงยึดหลัก ยอมล่วงเกินผู้ชาย ไม่ล่วงเกินผู้หญิงต่างหาก สุดท้ายจึงเลือกให้ซูหว่านดูรูปถ่ายเยี่ยเส่าฉวินก่อน…
คุณชายสาม ยอมรับเถอะ โลกนี้เขารู้กันหมดแล้วว่า คุณน่ะคลั่งรักภรรยา เว้นเสียแต่ไอคิวผมมีปัญหา ผมถึงจะยอมทิ้งพี่หว่าน ไปติดตามคุณ
สำหรับระดับการถ่ายภาพของหลี่เหวยอีนั้น ซูหว่านค่อนข้างพอใจทีเดียว! สมกับเป็นปาปารัสซี่ผู้เชี่ยวชาญในการทำให้ภาพถ่ายพูดได้ ซึ่งก็คือ ความหมายแฝงในภาพถ่ายหนึ่งภาพ สามารถแต่งเป็นหนังสืออักษรล้านตัวหนึ่งเล่ม ชื่อ ‘คุณชายเอาแต่ใจตกหลุมรักฉัน’
“เงินจะโอนเข้าบัญชีนายตามเวลาที่ตกลงกันไว้”
ซูหว่านแย้มยิ้มให้หลี่เหวยอี “แน่นอน รูปนี้นายต้องเก็บไว้ให้ดี จะปล่อยออกก็ต่อเมื่อฉันบอกให้ปล่อยเท่านั้น”
“ดูท่าพี่หว่านกำลังเล่นหมากรุกกระดานใหญ่ยักษ์อยู่นะเนี่ย!”
พอหลี่เหวยอีได้ยินคำพูดของซูหว่านก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตามอง “ซึ่งจริงๆ แล้ว เป้าหมายสุดท้ายของพี่หว่าน คือหลูจวิ้นสิท่า”
“อ้อ?”
พอความคิดของตนเองถูกหลี่เหวยอีอ่านขาด ซูหว่านก็ไม่ตกใจ เพียงมองเขาอย่างเยือกเย็นต่อ พลางว่า “หลี่เหวยอี นายนี่มันอัจฉริยะจริงๆ เป็นแค่ปาปารัสซี่น่ะ เสียดายแย่ เคยคิดเปลี่ยนสายงานบ้างไหม”
“เปลี่ยนสายงาน?”
พอได้ยินแบบนี้ หลี่เหวยอีก็หน้าเปลี่ยนสีชั่วขณะ “ใกล้แล้วมั้ง ก็ติดตามพี่หว่านนี่ รอให้จัดการเรื่องเสร็จเรียบร้อย ผมก็อาจเก็บเงินได้พอควร”
ทุกคนล้วนอยากมีชีวิตอย่างที่อยาก หลี่เหวยอีก็ไม่ยกเว้น เขาทุ่มเททำงานหนักแบบนี้ เพียงเพื่อต้องการทุนทรัพย์ไปทำอะไรตามที่ตนต้องการ
คนเรา ยุ่งวุ่นวายทั้งชีวิต ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน ไม่มีใครรู้หรอกว่า หนทางข้างหน้าของตน ควรก้าวเดินยังไง และไม่มีใครรู้หรอกว่า จุดจบของตนอยู่ที่ไหน
“เอาล่ะ ต่อไปถ้านายอยากเปลี่ยนสายงานจริงๆ แล้วต้องการเงินทุน ก็มาหาฉันกับคุณชายสามได้”
ซูหว่านลุกขึ้นยืน แล้วโบกมือให้หลี่เหวยอี “ฉันไปก่อนนะ ช่วงบ่ายยังต้องเร่งถ่ายอีกฉากหนึ่ง!
สถานที่ที่เธอนัดเจอกับหลี่เหวยอีห่างจากเมืองภาพยนตร์ไม่ไกล ดังนั้นพอเดินออกจากร้านอาหาร ซูหว่านก็สวมแว่นดำ แล้วค่อยๆ เดินไปตามถนนที่มุ่งสู่สถานที่ถ่ายทำ ขณะเดินผ่านถนนฮ่องกง ซูหว่านก็เห็นร่างที่คุ้นตาร่างหนึ่ง และชัดเจนว่าคนคนนั้นก็เห็นซูหว่านด้วยเช่นกัน ทั้งสองจึงหยุดชะงักโดยไม่รู้ตัว
จะว่าไป ซูหว่านก็เข้ามาในโลกภารกิจหลายเดือนแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับตัวหลักของเรื่อง
หลูจวิ้นสวมสูทสีดำทั้งตัว เพิ่งออกมาจากสถานที่ถ่ายทำ ทั้งสองพบกันบนท้องถนน ซูหว่านลังเลใจ แต่ยังคงค่อยๆ เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา
“คุณหลู ไม่ได้เจอกันนาน!”
“อืม”
หลูจวิ้นพยักหน้าอย่างเย็นชา “ไม่ได้เจอกันนาน คุณในตอนนี้กลายเป็นคนที่ยุ่งมากๆ ไปแล้ว จริงสิ วันนี้คุณชายสามไม่ได้มาเยี่ยมกองคุณหรอกเหรอ”
ทุกครั้งที่คุณชายสามสกุลเยี่ยมาเยี่ยมกอง จะต้องกลายเป็นแบบอย่างในเวยป๋อ โดยตั้งแต่คุณชายสามเริ่มอวดความรัก ก็จะนำไปสู่การอวดความรักอย่างคลั่งไคล้ของคนในวงการบันเทิง
ซึ่งมีทั้งคนที่แต่งงานแล้ว ที่ยังไม่ได้แต่งงาน ที่เพิ่งจีบกัน ที่ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ
โดยแต่ละคู่อัดอั้นตันใจมานาน จึงแสดงความรักกันอย่างเต็มที่ แต่เสียดาย พลังการต่อสู้ของคุณชายสามเยี่ยแข็งแกร่งยิ่ง คนธรรมดาสู้ไม่ได้จริงๆ…
อั่งเปาหนึ่งล้านหยวน เงินลงทุนหลายร้อยล้าน อะไรต่อมิอะไรล้วนเป็นเรื่องเล็ก พนักงานเยี่ยซื่อเปิดเผยว่า รหัสผ่านเข้าออกบริษัทของพวกเขาคือ ‘เยี่ยเส่าหลิงรักซูหว่าน’ ว่ากันว่าใครตะโกนดังที่สุดในทุกๆ วัน ยังมีรางวัลพิเศษให้ด้วย สรุปก็คือ คุณชายสามเยี่ยป่วยแล้ว ป่วยด้วยโรค ‘ถ้าไม่แสดงความรัก จะต้องตาย’
‘ชีวิตพังแน่ ถ้าพบเจอคุณชายสาม ถ้าจะแต่งก็ต้องแต่งกับเยี่ยเส่าหลิง’ วลีนี้ได้กลายเป็นมาตรฐานในการเลือกคู่ครองของสาวสวยร่วมสมัยไปแล้ว
สำหรับเรื่องแบบนี้ เดิมทีคนอย่างหลูจวิ้นไม่ควรสนใจด้วยซ้ำ แต่เพราะผูกพันกับซูหว่าน เขาจึงติดตามเวยป๋อของคุณชายสามเยี่ย จากนั้นเป็นต้นมา เขาต้องถูกรูปภาพกับตัวอักษรหลากหลายรูปแบบของคุณชายสามเยี่ยจู่โจมทางไกลเป็นประจำ และตกอยู่ในสภาวะเลือดครึ่งหลอดตั้งแต่แรกแล้ว
ส่วนซูหว่าน พอได้ยินหลูจวิ้นถามถึงซูรุ่ย ก็เพียงยิ้มบางๆ พลางว่า “เขาน่ะ หมู่นี้ยุ่งอยู่กับงานที่บริษัท ขืนวิ่งรอกไปมาแบบนี้ ฉันกลัวว่าเขาจะเหนื่อยเกินไป อืม จริงสิ หมู่นี้คุณกับเย่ชิงเป็นไงบ้าง ฉันเองก็ยังไม่มีโอกาสอวยพรให้พวกคุณเลย”
เย่ชิง…
ซูหว่านกลับอวยพรให้ตน พอได้ยินแบบนี้ หลูจวิ้นก็มองเธอนิ่ง รู้สึกสงสัยอยู่บ้าง “เรามีความสุขกันมาก แม้ละครเรื่องใหม่ของเธอถูกแบน แต่ผมก็วางแผนลงทุนละครอีกเรื่องให้เธอ ครั้งนี้เธอเล่นเป็นนางเอกเต็มตัว และถ้าเกิดใครคิดฉวยโอกาสเล่นตุกติกอะไรอีก ผมไม่มีทางปล่อยไว้แน่”
“อ้อ”
พอได้ยินคำพูดของหลูจวิ้น ซูหว่านก็เพียงตอบรับเบาๆ แล้วว่า “เอาล่ะ ฉันควรจะกลับไปที่กองแล้ว ไว้เจอกันคราวหน้า!”
เธอว่าพลางโบกมือให้หลูจวิ้น ก่อนเดินเฉียดไหล่เขาไป
รอจนซูหว่านเดินจากไปไกลแล้ว หลูจวิ้นค่อยหันหลังมองแผ่นหลังอันไกลลิบของเธอเงียบๆ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไม่ได้เจอกันนานเกินไปเหรอเปล่า ซูหว่านในตอนนี้ถึงได้ให้ความรู้สึกเหินห่างกับหลูจวิ้นมาก จนเขาไม่สามารถเชื่อมโยงซูหว่านที่เคยรู้จักในอดีต อีกทั้งความทรงจำที่มีต่อซูหว่านในชาติที่แล้ว กับซูหว่านในตอนนี้ได้เลย
มีตรงไหนไม่เหมือนกันบ้างนะ
อันที่จริง มีหลายอย่างที่ไม่เหมือนกัน
ตามความทรงจำในชาติก่อนของหลูจวิ้น ตนได้แย่งตัดหน้าธุรกิจหลายอย่างซึ่งแต่เดิมเป็นของเยี่ยซื่อ กระทั่งแย่งประมูลที่ดินทำเลทอง แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ เยี่ยซื่อกลับไม่เคยแย่งทำธุรกิจกับตนแม้แต่ครั้งเดียว กระทั่งผลงานใหม่ๆ ของบริษัทพวกเขากับแผนการพัฒนาก็ล้วนไม่เหมือนกับในความทรงจำของหลูจวิ้น…
เหรอเป็นเพราะหัวหน้าครอบครัวของเยี่ยซื่อเปลี่ยนจากเยี่ยเส่าฉวินเป็นเยี่ยเส่าหลิง
หรือว่า…
หลูจวิ้นไม่กล้าคิดถึงเหตุผลอื่นอีก เพราะเรื่องบางอย่าง พอคุณคิดลึกจนเกินไป ผลลัพธ์อาจไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการเสมอไป
วันนี้ หลูจวิ้นนอนไม่หลับอีกแล้ว เขาพลิกตัวไปมาบนเตียงหลายตลบ ในสมองวาบภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะนี้ไม่หยุดหย่อน…
ทุกอย่างแตกต่างไปจากที่เขาเคยประสบมาในชาติที่แล้วอย่างสิ้นเชิง!
ถ้า…
ถ้าไม่มีการดำรงอยู่ของ ‘ชาติที่แล้ว’ ความทรงจำเหล่านั้นจะเป็นเพียงความฝันอันใหญ่โตของตนใช่หรือไม่
ไม่ ไม่ใช่หรอก ความฝันไม่มีทางสมบูรณ์และเป็นจริงเช่นนั้น!
หลูจวิ้นค่อยๆ ลุกจากเตียง ก้าวเข้าไปในห้องน้ำ เปิดก๊อกน้ำจนสุด แล้วใช้มือทั้งสองข้างถูแก้มทั้งสองอย่างแรง เขาจะหวั่นไหวไม่ได้ จะสงสัยไม่ได้!
พอได้ยินเสียงน้ำไหลดังโกรกกรากจากในห้องน้ำ เย่ชิงที่นอนอยู่ในห้องนอนก็ค่อยๆ ลืมตา เธอยันตัวขึ้นพิงหัวเตียง แล้วจ้องมองประตูห้องน้ำเงียบๆ ในตอนนี้เอง ประตูห้องน้ำพลันถูกคนเปิดออก หลูจวิ้นค่อยๆ เดินออกมา ทั้งสองสบตากันโดยไม่ได้นัดหมาย
“อาจวิ้น คุณ…เป็นอะไรไป”
เย่ชิงเห็นปลายผมของเขายังมีน้ำหยด จึงถามด้วยความเป็นห่วง
“นอนเถอะ ผมจะไปห้องหนังสือ จัดการงานนิดหน่อย”
หลูจวิ้นตัดบท แล้วรีบหันกายเดินออกจากห้องนอนไป ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าควรสู้หน้าเย่ชิงยังไงดี ด้วยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เขาไม่กล้าแม้แต่จะบอกเธอเรื่องการกลับชาติมาเกิดของเขา
หลูจวิ้นมีความหยิ่งทะนงในตนเอง จะให้เขาบอกเย่ชิงว่า เขาในชาติที่แล้วพ่ายแพ้อย่างน่าเวทนาเพียงใด ใช้ชีวิตอย่างซอมซ่อเพียงใด กระทั่ง…กระทั่งยังต้องพึ่งผู้หญิงอย่างเธอให้เลี้ยงดูอีก คำพูดเหล่านี้ หลูจวิ้นพูดไม่ออก!
พอเห็นหลูจวิ้นจากไปอย่างไม่ลังเลใจ เย่ชิงก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ หมู่นี้ทั้งสองติดต่อกันน้อยลงเรื่อยๆ หลูจวิ้นยืนกรานว่าต้องเปิดกล้องละครเรื่องใหม่ให้เย่ชิง ต้องดันเธอเป็นนางเอกให้ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วเย่ชิงอยากบอกหลูจวิ้นว่า เมื่อก่อนความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ที่สุดของตนคือหวังจะเป็นดาราดัง เป็นราชินีวงการบันเทิงอย่างซูหว่านก็จริง ทว่า…หลังจากมาอยู่กับเขา เธอก็คิดแค่ว่า อยากใช้เวลาทั้งชีวิตกับเขา
บนร่างของเขา มีความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ของเธอ แต่สิ่งเหล่านี้ หลูจวิ้นกลับไม่รู้มาตลอด…