ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 4 ไม่พึ่งทักษะการแสดง พึ่งพิงคนจ่ายเงิน (4)
คอนโดของซูหว่านอยู่ในวงเวียนที่สาม บ้านหลังนี้เธอซื้อเมื่อห้าปีที่แล้ว เธอใช้เงินรางวัลจากได้รับรางวัลครั้งแรกและเงินออมทั้งหมดมาซื้อ ให้เป็นรางวัลและของขวัญแก่ตัวเอง
คนอื่นต่างก็มองเห็นแค่เปลือกนอกของการเป็นนักแสดง แต่แท้จริงแล้วค่าใช้จ่ายของพวกเขาก็มหาศาลจนน่าตกใจเช่นกัน ทุกครั้งที่ต้องเดินบนงานพรมแดง เครื่องประดับและชุดอันล้ำค่าเหล่านั้นต้องใช้เงินเป็นตัวเลขหกหรือเจ็ดหลักในการปรับแต่งเป็นพิเศษ นี่ยังอยู่ในขอบเขตที่ศิลปินระดับซูหว่านยังยอมรับได้ แต่สำหรับศิลปินระดับสองระดับสามเหล่านั้น ชุดที่ใช้เดินงานพรมแดงของพวกเขาล้วนยืมมาจากเหล่าสปอนเซอร์ ต่างฝ่ายต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน เมื่อใช้เสร็จแล้วก็ยังต้องเอาคืนกลับไป
แน่นอนว่ายังมีศิลปินระดับสามบางคนที่สวมชุดละเมิดลิขสิทธิ์บนพรมแดงเพื่อให้ผู้คนรับรู้ถึงการปรากฏตัว แต่ถ้าพูดกันตามความเป็นจริงแล้ว ในยุคสมัยแบบนี้ สื่อยกย่องคุณ รายงานเรื่องของคุณ คุณถึงจะได้รับการกล่าวถึง แต่หากสื่อไม่สนใจในตัวคุณ การไปอยู่บนพรมแดงนั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไร
สำหรับสื่อกับศิลปินแล้ว ก็เปรียบเหมือนน้ำกับปลา
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ยากมากที่ศิลปินอย่างซูหว่านจะกล้าหาเรื่องสื่อเจ้าหนึ่งอย่างโจ่งแจ้ง
เพียงแต่ว่า ซูหว่านก็ไม่ได้เป็นคนหยิ่งผยอง ด้วยการแข่งขันระหว่างสื่อดั้งเดิมกับสื่อออนไลน์ในปัจจุบัน ประสิทธิภาพของแอปเปิ้ลเดลี่ก็ลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน สื่อใหม่จำนวนมากมีอิทธิพลมากกว่าพวกเขา
คิดย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น เมื่อตอนที่ซูหว่านและหลูจวิ้นยังอยู่ด้วยกัน พวกเขาช่วยแอปเปิ้ลเดลี่จนทำให้สื่ออื่นๆ ขุ่นเคือง มาตอนนี้ ซูหว่านวางแผนจะเหยียบย่ำบริษัทแอปเปิ้ลเดลี่ให้ตาย จากนั้นก็จะร่วมมือกับบริษัทอื่นๆ บางเจ้าที่เธอมองว่ามีแนวโน้มดีขึ้น นี่เป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุด
“พี่ซูหว่าน พี่พักผ่อนเยอะๆ นะ พี่…”
เมื่อเห็นซูหว่านนั่งใจลอยอยู่ที่โซฟาตั้งแต่กลับมาถึงห้อง อู๋ถงก็มีสีหน้าสับสน เขาลังเลอยู่นานกับสิ่งที่อยากจะพูด และในตอนนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของอู๋ถง ดังนั้นหลังจากที่โทรศัพท์ดังขึ้น อู๋ถงจึงรับโทรศัพท์ทันที
“ส่งโทรศัพท์ให้ซูหว่าน”
มีเสียงเย็นชาของผู้ชายดังผ่านไมโครโฟนเข้ามา เมื่ออู๋ถงได้ยินอย่างชัดเจนก็รู้สึกชาที่หนังศีรษะ
“คุณ คุณเป็นใครครับ”
ถึงแม้ว่าอู๋ถงจะตกใจกับเสียงที่เต็มไปด้วยพลังนี้ แต่ในฐานะผู้จัดการส่วนตัวมืออาชีพ เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ส่งโทรศัพท์จากสายที่ไม่รู้จักให้ศิลปินของตัวเองรับเอง
“ผมคือเยี่ยเส่าหลิง”
“เยี่ยเส่าหลิง?” อู๋ถงถามกลับไปอย่างลืมตัว มีความประหลาดใจในน้ำเสียงนั้น เขาเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน…เยี่ยเส่าหลิง นายน้อยสามแห่งตระกูลเยี่ย
“ส่งโทรศัพท์ให้ฉัน”
ในเวลานี้ ซูหว่านที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ย่อมได้ยินเสียงตกใจของอู๋ถงเป็นธรรมดา แววตาของเธอเปล่งประกายระยิบระยับทันทีและลุกยืนขึ้น
“ครับ ครับๆ”
อู๋ถงยื่นโทรศัพท์ให้ซูหว่านตามสัญชาตญาณ เป็นผลให้ซูหว่านหันกลับมาหยิบโทรศัพท์และเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง
“ฉันคือซูหว่าน”
ซูหว่านปิดประตูห้องนอน พิงเข้ากับผนังห้องและกระซิบเบาๆ
เมื่อได้ยินเสียงของซูหว่าน คนที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ “ภรรยา นี่ผมเอง คนแซ่เฉินนั่นไม่ได้ทำอะไรคุณใช่ไหม”
“อา”
ซูหว่านยิ้มรับกับโทรศัพท์แล้วเดินช้าๆ ไปที่เตียง เธอนอนลงบนเตียงใหญ่อย่างสบายๆ มองดูโคมไฟคริสตัลที่สว่างไสวบนเพดาน แล้วตอบกลับมาอย่างไวว่า “เขาจะทำอะไรฉันได้ คนอย่างภรรยาคุณ ไม่ได้อ่อนแออย่างที่คุณคิดนะ”
ซูหว่านได้ผ่านโลกแห่งภารกิจมามากมาย ได้เห็นทั้งความสุขและความทุกข์ และเมื่อพูดถึงความสามารถในการปกป้องตัวเอง ที่จริงแล้วเธอมีพวกมันมากมายจริงๆ
เมื่อได้ยินคำตอบของซูหว่าน เป็นธรรมดาที่ซูรุ่ยจะถอนหายใจอย่างโล่งอก ถ้าหากคนแซ่เฉินกล้าจะแตะต้องแม้แต่ผมของภรรยาเขาแล้วละกัน แม่ทัพซูจะต้องฆ่าเขาให้ตายอย่างน่าอนาถแน่
“ตอนนี้คุณยังอยู่ต่างประเทศเหรอ”
อันที่จริง ตอนที่ซูหว่านเพิ่งรับโทรศัพท์มา เธอได้เห็นหมายเลขโทรศัพท์แล้ว รู้ได้ทันทีว่าเป็นสายโทรทางไกลระหว่างประเทศ
มาคิดๆ ดูแล้ว ถ้าหากซูรุ่ยอยู่ในประเทศละก็เขาก็คงมาปราฏตัวต่อหน้าเธอเองแล้ว คงไม่มีทางทำอะไรง่ายๆ อย่างการโทรศัพท์เฉยๆ เด็ดขาด
“อืม”
ซูรุ่ยขานรับในโทรศัพท์ “มีเรื่องสำคัญมากที่จะต้องจัดการให้เรียบร้อยในบ้านนี้ ตอนนี้ผมปลีกตัวไม่ได้เลย เดี๋ยวผมจะส่งเบอร์ส่วนตัวของพี่ใหญ่และพี่รองให้คุณ ถ้าคุณมีเรื่องอะไรก็โทรหาพวกเขาได้
“ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหรอก”
เมื่อซูหว่านได้ยินคำพูดของซูรุ่ย เธอเพียงแค่ยิ้มออกมาเท่านั้น “หลูจวิ้นคนเดียว ฉันจัดการเองได้น่า”
บางทีในสายตาคนอื่น ดาราตัวเล็กๆ อย่างซูหว่านกับหลูจวิ้น CEO ผู้ยิ่งใหญ่ไม่ใช่คนที่จะอยู่ในระดับเดียวกันอย่างแน่นอน แต่ในสายตาของซูหว่าน หลูจวิ้นเป็นเพียงเป้าหมายภารกิจธรรมดาที่ธรรมดามากและไม่สามารถธรรมดาไปได้มากกว่านี้เมื่อเทียบกับประสบการณ์ในโลกภารกิจมากมายที่เธอเคยเจอมา
เกิดใหม่เหรอ เธอเห็นมากมายแล้ว
ฐานะทางสังคมมูลค่าหลายหมื่นล้านเหรอ เธอทำให้ล้มละลายไปก็ไม่น้อย
อันที่จริง เหล่าเจ้าหน้าที่ผู้รับภารกิจที่คุ้นเคยเนื้อเรื่องเป็นอย่างดีและเดินทางผ่านโลกต่างๆ มามากมาย ทั้งยังมีทักษะเฉพาะทางอีกนับไม่ถ้วน พวกเขามีวิธีการมากมายหากต้องการทำให้ใครคนหนึ่งตาย
แต่ในใจซูหว่านมักจะคิดว่า การทำให้คนอื่นตายนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก แต่การจะทำให้เขาใช้ชีวิตอยู่ในความรู้สึกผิดเหมือนกับตายยังดีกว่ามีชีวิตอยู่นั้น อันนี้กลับยากกว่า…
เมื่อได้ยินคำตอบของซูหว่าน เสียงของซูรุ่ยทำให้ซูหว่านอดยิ้มไม่ได้ “ผมรู้ว่าคุณทำคนเดียวไหว แต่ว่าตอนนี้คุณมีผมแล้ว ผมไม่อยากให้คุณเหนื่อยขนาดนั้น”
เมื่อทั้งคู่คบกันแล้ว สิ่งที่เขาต้องการทำก็คือเอาอกเอาใจเธอ เอาของที่ดีที่สุดบนโลกนี้มอบให้แก่เธอ
“ที่จริงแล้ว ตั้งแต่มีคุณเข้ามาฉันก็ไม่เหนื่อยเลยสักนิด จะว่าไปแล้ว เหมือนฉันจะมีส่วนทำให้คุณตกอันดับนะ คะแนนสะสมของคุณไม่เพิ่มขึ้นมานานมากแล้วใช่ไหม”
เมื่อพูดถึงภารกิจ ทันใดนั้นซูหว่านก็นึกถึงปัญหาหนึ่งที่สำคัญมากขึ้นมา ซูรุ่ยเคยเป็นสิบอันดับแรกในแผนกของพวกเขา ตอนนี้ไม่รู้ว่าตกไปอยู่อันดับที่เท่าไหร่แล้ว
ที่จริงแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องทำภารกิจให้สำเร็จก็ได้ ถ้าหากซูรุ่ยเต็มใจละก็ ให้เธอช่วยเขาจับคู่พระนางด้วยตัวเองก็ยังได้ ความตั้งใจนี้เป็นเรื่องที่จัดการได้ง่ายมาก
“ภรรยา”
เมื่อได้ยินคำพูดของซูหว่าน ซูรุ่ยก็ไตร่ตรองอยู่ชั่วขณะอีกครั้ง “คุณจะไปร่วมการฝึกซ้อมใช่ไหม”
การฝึกซ้อม…
เมื่อได้ยินซูรุ่ยพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ซูหว่านที่นอนอยู่บนเตียงก็เปลี่ยนสีหน้าทันที “หรือว่าสวีเช่อเลือก…คุณเหรอ”
ซูหว่านตกตะลึงไปเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นเมื่อนึกถึงประสาทสัมผัสที่ไม่ธรรมดาของซูรุ่ย ซูหว่านก็สงบลงทันที สวีเช่อคนนี้ละเอียดถี่ถ้วนจริงๆ และยังมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวมาก
“สวีเช่อเขา…รู้เรื่องความสัมพันธ์ของคุณกับผมแล้ว เมื่อผมกลับไปครั้งนี้ เขาก็ได้รายงานรายชื่อของแผนกผมแล้ว ภรรยา คุณก็น่าจะรู้ว่าตามลำดับตำแหน่งและคุณสมบัติของผมแล้ว ที่จริงผมไม่ควรได้รับเลือกด้วยซ้ำ ครั้งนี้เป็นการตัดสินใจฝ่ายเดียวของสวีเช่อ แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็ยังเสนอเงื่อนไขเป็นการแลกเปลี่ยน เขาต้องการปิดผนึกความทรงจำของผมก่อนจะเข้าสู่พื้นที่แห่งการทดสอบ”
“อะไรนะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของซูรุ่ย ซูหว่านก็ลุกขึ้นจากเตียงทันทีทันใด “ดังนั้น คุณหมายความว่า…”
“ใช่แล้ว”
ครั้งนี้เสียงของซูรุ่ยมีความแปลกประหลาดเล็กน้อย “เมื่อถึงตอนนั้น พวกเราจะกลายเป็นศัตรูกัน! ภรรยา ผมคงไม่ยอมแพ้ให้คุณแน่ ดังนั้น คุณไม่ต้องกังวลเรื่องคะแนนสะสมของผมหรอก”
เป็นไปตามที่คาดไว้ แม่ทัพซูก็ยังมีความมั่นใจเหมือนเช่นเคย! ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะได้รับรางวัลที่หนึ่งแล้ว
“หึหึหึ”
ซูหว่านอดไม่ได้ที่จะทำเสียงฮึดฮัดออกมา “นายก็อย่าดูถูกคนอื่นไปหน่อยเลย ฉันจะบอกอะไรนายไว้นะ แต่ละแผนกเขาก็มีเสือหมอบและมังกรที่ซ่อนอยู่[1]ทั้งนั้น ถึงแม้ว่านายจะตามหาได้ทุกคน นายรับประกันได้เหรอว่านายจะสามารถทำลายล้างกลุ่มทั้งหมดได้”
ทำลายล้างกลุ่มทั้งหมดเหรอ
นี่เป็นข้อเสนอที่ดีจริงๆ
ซูรุ่ยที่อยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์ ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้โยก เขาถือโทรศัพท์ด้วยสายตาล้ำลึก ฟังคำพูดของซูหว่านจากในนั้น มุมปากของเขาก็ยกขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาเขาอย่างเงียบๆ
พวกเขาสองคนโทรข้ามพรมแดน คุยกันอยู่นานจนกระทั่งโทรศัพท์มือถือของอู๋ถงแบตหมดไปแล้ว ซูหว่านได้บอกหมายเลขโทรศัพท์ของเธอกับซูรุ่ยอีกครั้ง แต่ในท้ายที่สุด เป็นเพราะแม่ทัพซูรักภรรยาของเขาสุดหัวใจ เขาเลยจำใจวางสายเพื่อให้เธอได้รีบพักผ่อน
ซูหว่านวางโทรศัพท์ลงและเปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้าน ขณะที่กำลังจะอาบน้ำแล้วเข้านอน จู่ๆ เธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าเหมือนเธอจะลืมอะไรบางอย่างไป
เธอหมุนตัวเดินออกจากห้องนอนไป สุดท้ายก็พบว่าอู๋ถงยังคงขดตัวอยู่ที่โซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง
“ยังไม่ไปเหรอ”
ซูหว่านถามออกไปอย่างอดไม่ได้
อู๋ถงพูดไม่ออก…
“พี่ซูหว่าน มือถือผม!”
อู๋ถงตอบอย่างอ่อนแรง เขาไม่ได้อยากรู้เรื่องความสัมพันธ์ของซูหว่านกับเยี่ยเส่าหลิง เขาเพียงแต่รอมือถือของตัวเองเท่านั้น เพราะว่าคืนนี้เขานัดกับแฟนสาวทางอินเตอร์เน็ตไว้แล้วว่าเธอจะโทรหา
“อ้อ มือถือเหรอ แบตหมดแล้ว”
ซูหว่านกลับไปที่ห้องนอนทันทีและนำโทรศัพท์มือถือที่หน้าจอดำไปแล้ววางบนมือของอู๋ถง
แบต…หมด…แล้ว!
อู๋ถงรู้สึกว่าตัวเองได้ประสบกับการโจมตีครั้งใหญ่ในชั่วพริบตาเดียว…พรุ่งนี้เขาจะต้องถูกลงโทษจากแฟนสาวทางอินเตอร์เน็ตของเขาโดยให้คุกเข่าต่อหน้าคีย์บอร์ดแน่นอนใช่ไหม แน่นอนสินะ
—–
[1] เสือหมอบและมังกรที่ซ่อนอยู่ (藏龙卧虎) หมายถึง พรสวรรค์ซ่อนเร้นที่ยังไม่ถูกค้นพบ นอกจากนี้ยังหมายถึงพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่และยังไม่เปิดเผย