ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 12 สามสามี สี่ผู้รับใช้ (12)
สุดท้าย กำหนดการวันอภิเษกสมรสของซูม่านกับเย่ว์ชิงก็คือปลายเดือน ในช่วงเวลานี้ ทั่วทั้งเมืองหลวงล้วนเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง เนื่องในงานมงคลสมรสอันยิ่งใหญ่ของฝ่าบาท
‘ไข้หวัด’ ของซูหว่านก็หายเป็นปกติในระยะเวลาอันสั้นเช่นเดียวกัน นางในตอนนี้ได้ลาออกจากการเป็นหัวหน้าองครักษ์ลับแล้ว กระทั่งการประชุมขุนนางบุ๋นและบู๊ในช่วงเช้า ก็แทบไม่เห็นเงาของจ่างกงจู่อีก
พริบตาเดียว ขุนนางในที่ประชุมล้วนไม่แน่ใจในท่าทีที่แท้จริงของซูหว่าน ขุนนางที่อยู่ฝ่ายเดียวกับจ่างกงจู่ยิ่งพากันจำศีลขึ้นมา ไม่พูดไม่จา
ส่วนสภากาแฟในตอนนี้ ก็กำลังลือกันให้แซ่ดว่า ฝ่าบาทจ่างกงจู่องค์นี้กำลังเศร้าใจเพราะอกหัก อาจตัดสินใจเกษียณอายุไปเลย
แต่ในความเป็นจริง สถานการณ์เป็นเช่นนี้…
ซูรุ่ย “ภรรยา คุณเดินหมากเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอีกแล้ว ไม่ได้การ คุณต้องให้ผมจูบสองที!”
ซูหว่าน “ฉันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาที่ไหนกัน ใครเห็นบ้าง ปี้ลั่ว เจ้ามาตัดสินหน่อย!”
ปี้ลั่ว “…”
นายท่าน บ่าวตาร้อนจะแย่อยู่แล้ว วันๆ เห็นพวกท่านกุ๊กกิ๊กกันเช่นนี้ ตาฝังทองกี่กระรัตมาก็ร้อนหมด
แพ้จูบทีหนึ่ง ชนะจูบสองที อะไรกันเนี่ย พวกท่านกำลังเดินหมากหรือนั่น แสดงความรักร้อนแรงเช่นนี้ พวกท่านเคยนึกถึงหัวอกข้าบ้างไหม
ในฐานะอดีตหัวหน้าองครักษ์ลับ ปี้ลั่วรู้สึกเสมอมาว่า ชั่วชีวิตนี้ตนติดตามฝ่าบาทไปทุกที่ก็ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีผู้ชาย ยิ่งไม่จำเป็นต้องมีความรัก แต่ตอนนี้…
ปี้ลั่วเพียงอยากบอกสวรรค์ว่า ‘ขอท่านประทานผู้ชายสักคนให้ข้าด้วยเถิด ข้าจะได้ไปให้พ้นๆ จากชีวิตโสดที่ขมขื่นนี้เสียที’
“ฝ่าบาท!”
ขณะที่ซูหว่านกับซูรุ่ยเอาแต่เถียงกันไม่หยุดเรื่องจะจูบทีเดียวหรือจูบสองทีนั้น (รู้ไหม ท่านทั้งสองนี่น่าเบื่อเอามากๆ??) พ่อบ้านของจวนกงจู่ก็สาวเท้าก้าวเข้ามาอยู่ตรงหน้าซูหว่าน
“ฝ่าบาท กองพระภูษาได้ส่งเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ท่านสั่งตัดมาแล้ว จะให้ส่งไปที่ห้องพระบรรทมเลยไหมพ่ะย่ะค่ะ”
“อืม ส่งไปเถิด”
ซูหว่านโบกมือ แล้วเหลือบมองซูรุ่ย “เอาล่ะ ไม่เล่นแล้ว เมื่อชุดนี้ตัดเสร็จ ข้าก็รอพิธีอภิเษกสมรสของซูม่านกับเย่ว์ชิงไปพลางๆ ละ”
ใช่สิ พริบตาเดียวก็ปลายเดือนแล้ว
ซูรุ่ยจึงอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองซูหว่าน “คุณตัดชุดใหม่นี่คือ ตัดสินใจเข้าวัง ร่วมพิธีอภิเษกสมรสของฝ่าบาทเหรอ”
“ไม่”
ซูหว่านสั่นศีรษะ “ฉันแค่อยากแสดงละครฉากสุดท้ายให้สมบูรณ์ ในฐานะราชินีวงการบันเทิงคุณภาพคับจอ ก็ต้องยืนหยัดให้ได้จนภารกิจสุดท้าย!”
ดีแล้ว คุณสมกับเป็นราชินีวงการบันเทิงสามครั้งติดต่อกันจริงๆ
พิธีอภิเษกสมรสของฝ่าบาท ซูหว่านไม่ต้องไปก็ได้ แต่ซูรุ่ยในฐานะเสนาบดีกลาโหม ต้องไปแน่นอน หลังจากที่เขาปฏิเสธฉือเสวี่ยยวน ซูม่านก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจกับสกุลเฟิง แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่สำคัญ แคว้นเล็กๆ อย่างแคว้นหลวนเฟิ่ง ไม่อยู่ในสายตาแม่ทัพซูจริงๆ
ว่ากันว่า พิธีอภิเษกสมรสของฝ่าบาทในครั้งนี้ จอมทัพลู่ฉางเกอที่เฝ้าประจำการณ์อยู่แนวชายแดนมาตลอดก็ต้องกลับเมืองหลวงเช่นกัน คราวนี้จึงถือว่าตัวละครกลุ่มเป้าหมายอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างแท้จริง
เฮ้อ ก็เพราะโลกใบนี้มีตัวละครกลุ่มเป้าหมายมากจนเกินไป ถึงได้ทำให้แม่ทัพซูรู้สึกพูดไม่ออก การที่ผู้หญิงคนเดียวต้องการผู้ชายมากขนาดนี้ แสดงว่าไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่เสียที! ซึ่งเรื่องแบบนี้กลับถูกเรียกว่ารักแท้ แทนที่จะเรียกว่าเจ้าชู้?
“ภรรยา ลู่ฉางเกอน่าจะกลับถึงเมืองหลวงในอีกสามวันข้างหน้า คุณคิดจะทำยังไงกับเขา”
แม้ซูหว่านไม่มีองครักษ์ลับแล้ว แต่นางยังมีทหารส่วนตัวและนักรบเดนตาย นี่ล้วนเป็นหมากเด็ดที่มีประโยชน์ยิ่ง
ในโลกใบนี้ แม้ซูรุ่ยเป็นถึงเสนาบดีกลาโหม มีวรยุทธ์ที่โดดเด่น แต่จริงๆ แล้วเขาไม่มีอำนาจทางทหาร ซึ่งอำนาจทางทหารของแคว้นหลวนเฟิ่ง ซูม่านควบคุมอยู่ในมืออย่างรัดกุมมาตลอด ทั่วทั้งแคว้นหลวนเฟิ่งนอกจากซูม่านแล้ว ก็มีเพียงฉือเสวี่ยยวนที่มีเครื่องรางพยัคฆ์หนึ่งชิ้น สามารถใช้ระดมกำลังทหารทุกหมู่เหล่าในยามคับขันได้
ลู่ฉางเกอ…
นั่นเป็นแม่ทัพผู้เก่งกล้าสามารถในการทำสงครามท่านหนึ่ง!
ซูหว่านหลุบตาคิดครู่หนึ่ง ค่อยเงยหน้ามองซูรุ่ย ยิ้มน้อยๆ พลางพูดเสียงเบา “ว่ากันว่าลู่ฉางเกอเป็นคนที่เห็นคุณค่าทางจิตใจเป็นสำคัญ เป็นผู้ชายที่ใส่ใจคนเป็นพิเศษ”
เอ่อ
พอได้ยินคำพูดของซูหว่าน ซูรุ่ยพลันนึกถึงเนื้อหาในเนื้อเรื่องเดิม
ลู่ฉางเกอกับซูม่านเป็นขุนนางกับจักรพรรดินีที่ชื่นชมซึ่งกันและกัน จึงคอยสนับสนุนซึ่งกันและกัน ความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่เย็นชา แต่ก็ไม่ร้อนแรงมาตลอด ทว่าสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดจริงๆ ก็คือ การดื่มจนมึนเมาครั้งหนึ่ง
สุรา เป็นสิ่งที่ดีจริงๆ เป็นเวทมนตร์ที่ใช้ได้ผลเสมอ!
หลังดื่มสุรา
ความมึนเมา ความต้องการทางเพศ อะไรต่อมิอะไร เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยที่สุดเช่นกัน
“ภรรยา หรือคุณคิดจะ…”
ซูรุ่ยพลันคาดเดาในใจ ส่วนซูหว่านที่อยู่อีกด้านเพียงยิ้มลึกลับ จากนั้นก็หันไปมองปี้ลั่วที่อยู่ข้างกาย “ปี้ลั่วเอ๋ย ข้ามีเรื่องมอบหมายให้เจ้าไปทำ เรื่องนี้มีแต่เจ้าเท่านั้นที่ทำได้!”
“ขอฝ่าบาททรงสั่งการ!”
ในที่สุด พอได้ยินว่าตนมีภารกิจ เด็กหญิงปี้ลั่วก็ยืดตัวตรง…มารดาเอ๋ย บ่าวกำลังจะหลุดพ้นจากทะเลอันขมขื่นแล้วหรือนี่
“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด อีกสามวันข้างหน้า กองทัพขนาดใหญ่ของลู่ฉางเกอจะเข้าเมืองหลวง ส่วนพิธีอภิเษกสมรสของฝ่าบาทยังเหลืออีกสี่วัน ข้าไม่อยากให้เขาเข้าร่วมพิธี ปี้ลั่วเจ้า…”
“บ่าวเข้าใจ ภายในสามวันนี้ ต้องกำจัดลู่ฉางเกอขณะอยู่นอกเมืองหลวงให้ได้! ต่อให้ต้องตาย บ่าวก็จะลากลู่ฉางเกอให้ตกตายไปตามกัน!”
ปี้ลั่วขัดจังหวะคำพูดของซูหว่านด้วยคำมั่นสัญญา แม้ลู่ฉางเกอมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่ปี้ลั่วคิดว่า ไม่มีปัญหา ถ้าสู้ตัวต่อตัวแล้วคิดจะชนะเขา ต่อให้ไม่ชนะ ก็สามารถสู้จนบาดเจ็บด้วยกันทั้งสองฝ่าย
“ตายไม่ตายอะไรกัน?”
ซูหว่านยิ้มพลางล้วงห่อยาผงหนึ่งห่อออกจากอกเสื้อ “อะ เอาสิ่งนี้ไป จัดการลู่ฉางเกอให้ข้า!”
ปี้ลั่ว “…”
ไม่ใช่อย่างที่ข้าคิดกระมัง
ฝ่าบาท ทรงต้องการให้หม่อมฉันเล่นลูกไม้? แถมยังเล่นลูกไม้กับแม่ทัพใหญ่ที่คุมกำลังทหารเป็นหมื่นเป็นพันอีก?
เด็กหญิงปี้ลั่วพลันรู้สึกกดดันเป็นอย่างยิ่ง
พอเห็นปี้ลั่วอึ้งอยู่อย่างนั้น ซูหว่านก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาหงส์ “ทำไม เจ้าทำไม่ได้หรือ”
“รับประกัน ภารกิจสำเร็จลุล่วง!” พอเห็นนายกดเสียงลงต่ำ ปี้ลั่วก็รีบกุลีกุจอรับยาผงห่อนั้นไว้ แล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจัง
“เอาล่ะ เจ้าไปเตรียมตัวเถิด คืนนี้ออกจากเมืองหลวงเลย อย่าบอกใครล่ะ”
พอจัดการให้ปี้ลั่วออกไปได้ ซูหว่านก็เบิกบานใจยิ่ง ตนเป็นนายที่ดีที่สุดในใต้หล้าจริงๆ รู้ว่าปี้ลั่วโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา จึงโยนพระเอกคนหนึ่งให้นางเล่น อืม ทางที่ดีทั้งสองคนเล่นกันไปเล่นกันมาจนมีเจ้าตัวน้อยออกมา แบบนี้จวนกงจู่ก็ยิ่งคึกคักแล้ว
“ปี้ลั่วจะทำได้เหรอ”
ซูรุ่ยอดไม่ได้ที่จะถาม ขณะมองตามแผ่นหลังของปี้ลั่วที่จากไปไกล
ความภักดีที่เด็กคนนี้มีต่อซูหว่านย่อมไม่ต้องพูดถึง แต่ซูรุ่ยดูออกว่าปี้ลั่วเป็นเด็กหัวแข็ง กับเรื่องของความรักอะไรทำนองนี้ ต้องมีปฏิกิริยาที่เชื่องช้าอย่างแน่นอน
“คุณให้เขาไปดูแลคนเงียบๆ ก็เหมือนให้คนที่ชอบวิ่งไล่หิมะแบบเขา ค่อยๆ เปลี่ยนสายลมในฤดูใบไม้ผลิให้เป็นฝน เขาย่อมทำไม่ได้ แต่ถ้าคุณให้เขาใช้กำลัง อันนี้เขาทำได้ เพราะเป็นสายงานที่ชำนาญ!”
อะแฮ่ม แน่นอน การใช้กำลังที่ซูเสี่ยวหว่านพูด หมายถึงท่าทีดั้งเดิมตอนปฏิบัติภารกิจในฐานะองครักษ์ลับของปี้ลั่ว น้องสาวคนนี้ไม่เคยรูจักคำว่าไม้อ่อน ใช้เป็นแต่แข็ง
และที่ซูหว่านเลือกปี้ลั่ว ก็มิใช่เพราะได้รับอิทธิพลจากแม่ทัพซูในอดีตหรอกเหรอ พระเอกล้วนเป็นหุ้นทรงคุณภาพ ของดีจะให้คนนอกได้ยังไงกัน
และแล้วเช่นนี้ ใต้เท้าพระเอกบางท่าน ยังไม่ทันกลับเมืองหลวง ก็ถูกสามีภรรยาสกุลซูคาดเดาไว้แล้วว่า หัวใจต้องโบยบินไปอย่างชื่อฉ่ำใจแล้ว…
แน่นอน วิธีนี้ใช้จัดการได้แค่ลู่ฉางเกอ หรือหลีเซียว ที่ยังไม่ค่อยสนิทกับจักรพรรดินีชั่วคราว ถ้าเปลี่ยนเป็นหลิ่วลั่ว กับเย่ว์ชิง ก็ต้องใช้อีกวิธีแล้ว
เย่ว์ชิง…
พอนึกถึงเย่ว์ชิง ซูหว่านก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลง ละครฉากนี้ นางลงทุนไปสูงแล้ว จนถึงตอนนี้ ขาดก็แต่เพียงยาแรงขนานสุดท้าย…
เมื่อคนที่ข้ารักแต่งงาน แต่เจ้าสาวไม่ใช่ข้า ข้าควรทำอย่างไร นี่เป็นหัวข้อบทความที่ไม่เลวจริงๆ