ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 15 ตกหลุมรักศัตรูหัวใจ (15)
สนามบินนานาชาติ เมืองเอ
เหยาซานซานถอดแว่นกันแดดออก มองดูบ้านเกิดที่จากไปนาน รอยยิ้มแห่งความคิดถึงผุดขึ้นบนใบหน้างดงามของเธอ—
กู้ซูสิง ฉันกลับมาแล้ว
โรงพยาบาลใจกลางเมืองเอ
ตั้งแต่ออกจากบ้านของเซียวฉิงในคืนนั้น กู้ซูสิงก็ไม่ได้พบหน้าคู่หมั้นที่ไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อนกู้ซูสิงบังเอิญเจอเจียงหมิ่นในหมู่บ้าน ถึงได้รู้จากปากของเจียงหมิ่นว่า ระยะนี้เซียวฉิงเอาแต่คลุกอยู่กับเหยียนมู่ไป๋ ราวกับว่าตัวเองเป็นหุ้นส่วนในร้านเล็ก ๆ ของเหยียนมู่ไป๋ และต้องการช่วยเขาขยายกิจการให้ใหญ่โตและดีขึ้น
พ่อค้าขายของก็อปเกรดเอคนหนึ่ง ไม่รู้หรือไงว่าการทำตัวเป็นจุดสนใจ จะนำมาซึ่งความเดือดร้อน
กู้ซูสิงพูดไม่ออกสำหรับเรื่องนี้ เพียงแค่คิดว่าเซียวฉิงกับเหยียนมู่ไป๋สนิทกันขนาดนี้ เขาก็รู้สึกไม่สบายใจแล้ว
จากการหมั้นกันตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา แม้ว่าตนกับเซียวฉิงจะไม่ได้มีความรู้สึกลึกซึ้งอะไรต่อกัน แต่ทั้งสองก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องยกเลิกการแต่งงานอย่างชัดเจน
แน่นอน ที่กู้ซูสิงเกิดความรู้สึกสับสนในสองสามวันนี้ จริง ๆ แล้วมีสาเหตุจากอีกเรื่องหนึ่ง—
เซียวฉิง เหยียนมู่ไป๋ และเสียวหว่าน
กู้ซูสิงมักรู้สึกว่า ท่าทีที่เซียวฉิงมีต่อคนทั้งสองนั้นประหลาดมาก เธอเหมือนเข้าใจพวกเขาเกินกว่าเหตุ ต่อให้จ้างนักสืบเอกชนไปสืบ ก็ไม่มีทางรู้กระทั่งอาหารการกินหรือรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันเหล่านั้นอย่างแจ่มแจ้ง!
เซียวฉิง คุณ…เก็บงำความลับอะไรไว้กันแน่
กว่าจะเลิกงานจากโรงพยาบาลก็เย็นแล้ว กู้ซูสิงเปลี่ยนเสื้อผ้า และตรงไปที่รถของตนเองในลานจอดรถของโรงพยาบาลเหมือนเช่นเคย ใครจะรู้เล่าว่า ทันทีที่เขาเดินออกจากอาคารผู้ป่วยใน ก็ได้ยินเสียงใส ๆ หวาน ๆ ของหญิงสาวคนหนึ่งเรียกเอาไว้—
“กู้ซูสิง!”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ กู้ซูสิงก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองทางเจ้าของเสียง เหยาซานซานในรเสื้อโค้ทขนสัตว์สีฟ้าอ่อนกำลังยิ้มให้เขาอย่างสดใส ภายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็น
“กู้ซูสิง ฉันกลับมาแล้ว!”
เธอพูดพลางวิ่งเข้าหาเขาอย่างเร็ว พร้อมกางแขนทั้งสองข้างออก โอบกอดเขาแน่น
เมื่อเจ็ดปีก่อน ทั้งสองพบเจอกันที่ต่างประเทศ ตอนนั้นทั้งสองเป็นนักศึกษาต่างชาติ แต่พอต่างฝ่ายต่างรู้ว่าอีกคนมาจากเมืองเดียวกัน ทั้งสองก็ใกล้ชิดสนิทสนมกันมากขึ้น
ความจริงแล้ว ในตอนนั้นเหยาซานซานก็รู้ว่ากู้ซูสิงชอบเธอ แต่เธออยากให้หนุ่มหน้าตายคนนี้สารภาพออกมาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากเอามาก ๆ
แน่นอนว่าสาวสวยอย่างเหยาซานซาน อยู่เมืองนอกย่อมมีคนตามจีบเธอไม่น้อย ในงานปาร์ตี้ฉลองวันเกิดของเธอ เหยาซานซานบอกใบ้กลาย ๆ ให้กู้ซูสิงสารภาพรักตน แต่หมอนี่ดันไม่เข้าใจ
เหยาซานซานโกรธ จึงคว้าหนุ่มต่างชาติคนหนึ่งมาเป็นแฟน ซึ่งจริง ๆ แล้วเธอแค่อยากยั่วโมโหกู้ซูสิงก็เท่านั้น ไม่ได้คิดจริงจังอะไรกับหนุ่มคนนั้น ใครจะรู้เล่าว่า หลังจากกู้ซูสิงรู้เรื่องนี้ กลับโทรศัพท์มาอวยพรให้เธอมีความสุข
หลังจากนั้นทั้งสองก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก
เหยาซานซานเป็นผู้หญิงที่หยิ่งทะนง เธอรู้สึกว่า ในเมื่อกู้ซูสิงไม่ยอมถอยเพื่อเธอแม้แต่น้อย เช่นนั้นก็เลิกคบกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดีกว่า
จวบจนเมื่อสองปีก่อน งานเลี้ยงค็อกเทลงานหนึ่งของบริษัท เหยาซานซานได้เจอเพื่อนนักศึกษาต่างชาติที่เคยเที่ยวเล่นด้วยกันในตอนนั้น ถึงได้รู้จากปากของเขาว่า วันที่เธอเปิดตัวแฟนหนุ่ม กู้ซูสิงนั่งดื่มเหล้าคนเดียวในหอพักจนถึงเช้า
ในฐานะลูกผู้ชายที่ตั้งปณิธานไว้ว่า ต้องเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดคนหนึ่งให้ได้ ย่อมไม่มีทางดื่มเหล้าเป็นอันขาด
แต่ในวันนั้น กู้ซูสิงกลับตั้งใจทำให้ตนเองเมา มีเขาเพียงคนเดียว ยอมรับคนเดียว และหันกายจากไปเงียบ ๆ คนเดียว
หรือนี่จะเป็นวิธีจัดการปัญหาของเขา ในตอนนั้นเหยาซานชานไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว
ดังนั้น เธอกลับมาแล้ว
“ซานซาน?”
เมื่อมองไปยังเหยาซานซานซึ่งแทบจะไม่เปลี่ยนไปจากเดิม ใบหน้าเย็นชาดุจภูเขาน้ำแข็งของกู้ซูสิงก็ปรากฏรอยยิ้มที่ยากจะได้เห็น
“คุณกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“วันนี้ พอลงจากเครื่อง จัดการทุกอย่างเสร็จ ก็มาหานายเลย ซึ้งใจมั้ย”
เหยาซานซานคลายมือทั้งสองข้างออก กระพริบตาปริบ ๆ มองกู้ซูสิง ครั้งนี้ก่อนกลับประเทศ เธอได้จัดการทุกสิ่งทุกอย่างของตนเองจนเรียบร้อย และได้ถามคนรอบข้างถึงข่าวคราวของกู้ซูสิง จึงรู้ว่าเขายังโสดอยู่
คราวนี้ เธอต้องรุกก่อน ต้องไม่คลาดจากผู้ชายคนนี้อีกเป็นอันขาด
“เหอ ๆ”
พอได้ยินเหยาซานซานพูดเช่นนี้ กู้ซูสิงก็ยิ้มน้อย ๆ
“ผมเลิกงานพอดี ไปกินข้าวกัน ผมเลี้ยงต้อนรับคุณกลับบ้าน!”
“ได้เลย!”
เหยาซานซานยิ้มน้อย ๆ พลางหันมายืนข้างกายกู้ซูสิง ยกมือคล้องแขนเขาอย่างเป็นธรรมชาติ
“ตอนที่ฉันยังไม่กลับบ้าน ได้ยินพวกอาเมย์พูดว่า เมืองเอมีร้านอาหารเปิดใหม่ชื่อ อี้เจียงหนาน ว่ากันว่าเมนูเฉพาะของร้านนี้อร่อยมาก เราไปกินที่นั่นกันเถอะ!”
อี้เจียงหนาน.….
จู่ ๆ กู้ซูสิงก็นึกถึงเซียวฉิงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เขายิ้มพลางพยักหน้า “ได้สิ ไปอี้เจียงหนาน!”
ช่วงเลิกงานเป็นช่วงที่ร้านอาหารยุ่งที่สุด เนื่องจากทั้งคู่ไม่ได้จองล่วงหน้า กู้ซูสิงกับเหยาซานซานจึงต้องรอถึงสิบนาที กว่าจะได้ห้องส่วนตัวที่ว่างอยู่ห้องหนึ่ง
“ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณชอบกินอะไร คุณสั่งก็แล้วกัน”
กู้ซูสิงเลื่อนเมนูอาหารมาอยู่ตรงหน้าเหยาซานซานตามประสาสุภาพบุรุษ
เหยาซานซานเม้มปาก ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย “จริง ๆ แล้วฉัน…ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ยังคงชอบ…รสชาติเดิม ๆ น่ะ!”
ต่อให้รุกขนาดไหน ผู้หญิงก็ไม่สามารถพูดจาตรงจนเกินไป ยิ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้พบหน้ากัน หลังจากกลับมาเจอกันอีกครั้ง
เหยาซานซานบอกใบ้ให้กู้ซูสิงมากพอแล้ว แต่น่าเสียดาย…
หมอกู้ในตอนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้สึกถึงความหมายอันลึกซึ้งในคำพูดของเหยาซานซาน
หลังจากเหยาซานซานสั่งอาหารเสร็จ ทั้งสองก็เริ่มหาเรื่องคุยกัน แน่นอนว่าคนเย็นชาอย่างกู้ซูสิง ย่อมมีเพื่อนฝูงน้อย และคนที่พูดคุยกับเขาได้ก็มีไม่มากนัก ซึ่งคนย่างเหยาซานซานก็คือคนประเภทที่คุยกับกู้ซูสิงคุยได้อย่างถูกปากถูกคอ
นี่อาจเป็นสาเหตุที่กู้ซูสิงชอบเหยาซานซานในตอนนั้น
ท่ามกลางผู้คนมากมาย ไม่ง่ายเลยกว่าจะเจอคนรู้ใจที่เข้าใจตนเอง
เพียงแต่ คนรักกับคนรู้ใจ อันที่จริงแล้วช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ในตอนนี้ที่กู้ซูสิงต้องเผชิญหน้ากับเหยาซานซาน เขาได้ปล่อยวางรักแรกในอดีตไปนานแล้ว อาจเพราะเป็นการตกหลุมรักครั้งแรก ไม่รู้ว่าความรักคืออะไร
ความเร็วในการเสริฟอาหารของร้านอี้เจียงหนานยังคงเร็วมาก ทว่ากู้ซูสิงและเหยาซานซานยังไม่ทันได้ขยับตะเกียบ นอกห้องส่วนตัวก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้น—
“ห้องที่ข้าจองไว้เมื่อตอนเที่ยง ตอนนี้เอ็งมาบอกว่าไม่มี พวกเอ็งหมายความว่ายังไง คิดว่าข้าไม่มีปัญญาจ่ายหรือไง”
เป็นน้ำเสียงที่ค่อนข้างโกรธแค้นของผู้หญิง แต่กลับมีคำว่า ‘ข้า’ อยู่แทบทุกคำ เมื่อกู้ซูสิงได้ยินก็รู้ทันทีว่าเป็นเสียงของเซียวชิง
ไม่รู้ว่าทำไม เขาพลันหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
“ซูสิง ทำไมหรอ”
“ไม่มีอะไร เพื่อนคนนึงอยู่ชั้นล่างน่ะ ผมขอลงไปดูหน่อยนะ”
กู้ซูสิงว่าพลางลุกขึ้น แล้วเดินลงชั้นล่างทันที เหยาซานซานจึงเดินตามเขาออกจากห้องส่วนตัวด้วยความสงสัย
ตอนนี้เซียวชิง ซูหว่านและซูรุ่ย ทั้งสามกำลังอยู่ในห้องรับรอง
จะว่าไปก็บังเอิญอยู่เหมือนกัน ซูหว่านลาออกจากงานเมื่อสองสามวันก่อน ตอนนี้ทั้งสามจึงใจจดใจจ่ออยู่กับงานจัดการร้านที่ถนนจิ่วหลิน ทั้งสามร่วมกันวางแผนเคลียร์สินค้าในร้านให้เกลี้ยง จากนั้นก็สรรหาผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ ร่วมมือกันสร้างสรรค์สินค้ายอดนิยมที่เป็นแบรนด์ของตนเองขึ้นมา ทั้งสามช่วยกันทำเรื่องนี้อยู่หลายวัน และในที่สุดวันนี้ก็ได้ไปตรวจดูโรงงานที่ใกล้จะเซ็นสัญญากันแห่งหนึ่งแล้ว
ด้วยความดีใจ เซียวชิงจึงอดไม่ได้ที่จะจองโต๊ะของร้านอี้หนานเจียงไว้โต๊ะหนึ่ง ตั้งใจว่าจะมากินมื้อค่ำสุดหรูกันสามคนเสียหน่อย
ใครจะคิดว่า ก่อนที่พวกเขาทั้งสามจะมาถึง มีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกลุ่มหนึ่งมาจัดเลี้ยงต้อนรับท่านผู้นำที่นี่เช่นกัน และในตอนนั้นทั้งร้านก็เหลือเพียงห้องส่วนตัวที่เซียวชิงจองไว้ห้องเดียวที่ไม่มีใครอยู่ ท่านผู้นำที่ไม่คุยโม้โอ้อวดและเข้าถึงง่าย ก็กล่าวว่า ห้องนี้แหละ! เล็กหน่อยก็ได้! เราไม่ควรเพิ่มภาระให้กับประชาชน
เซียวชิง…..
บิดาเอ็งสิ
“คุณเซียว ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ถ้ายังไงคุณรอสักครู่ เดี๋ยวก็มีห้องว่างแล้ว อีกอย่าง…วันนี้ ค่าอาหารของคุณกับเพื่อน ร้านเราเป็นคนจ่ายให้”
ผู้จัดการแผนกต้อนรับขอโทษขอโพยเซียวชิงไม่หยุด แต่เชียวชิงก็ยังรู้สึกรับไม่ได้—
พับผ่า เมื่อก่อนตอนข้าเป็นผู้ใช้แรงงาน มักถูกคนหล่อสูงรวยข่มเหง ให้ตายสิ ตอนนี้ข้าขาวสวยรวยแล้ว ยังต้องถูกคนข่มเหงอีกหรือนี่
ไร้เหตุผลสิ้นดี