ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 12 เหมยเขียวครองคู่ม้าไม้ไผ่ (12)
กว่าซูรุ่ยจะออกมาจากบ้านของซูหว่าน ท้องฟ้าก็มืดแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้รีบร้อน เพราะปกติแล้วเกาเจี้ยนก็ทำงานยุ่งมาก ทั้งยังทำงานล่วงเวลาเป็นปกติ ยิ่งในตอนนี้ที่ตัวเขา “ทำตัวดีขึ้น” แล้ว ต่งย่วนย่วนเองก็วางใจในตัวเขามากขึ้น เธอมักจะออกไปกินข้าวและเล่นไพ่นกกระจอกกับเหล่าเพื่อนๆ ของเธอ และมักจะกลับบ้านดึกมากด้วย
“เกาอวี่!”
แต่สิ่งที่ซูรุ่ยไม่ได้คาดคิดมาก่อนก็คือ เมื่อเขาออกมาจากประตูลานบ้าน ก็ถูกเซี่ยฉังอานหยุดเอาไว้ทันที
เซี่ยฉังอานที่ในตอนนี้อายุสิบขวบและยังสูงไม่ถึงหน้าอกของซูรุ่ยด้วยซ้ำ เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ซูรุ่ยด้วยสายตาจริงจัง
“เกาอวี่ ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”
“อืม?”
ซูรุ่ยยกมุมริมฝีปากของเขาขึ้นเล็กน้อยราวกับกำลังยิ้มเยาะใส่เด็กน้อยตรงหน้าตัวเอง “นายรู้จักฉันหรอ?”
“ฉันไม่เพียงแต่รู้จักนาย ฉันยังรู้เรื่องของบ้านนายอีกหลายอย่างด้วย รวมถึงเรื่องของครอบครัวต่ง และเรื่องของพ่อนายด้วย”
ขณะที่พูดถึงสิ่งเหล่านี้ ดวงตาของเซี่ยฉังอานก็ซับซ้อนและลึกล้ำ ใบหน้าที่ยังอ่อนเยาว์ของเขากลับแสดงถึงวุฒิภาวะที่ไม่ตรงกับอายุของตัวเอง
“โอ้?”
เมื่อซูรุ่ยได้ยินคำพูดของเซี่ยฉังอาน เขาก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลงและยกสองมือขึ้นกอดอก มองไปยังพระเอกตรงหน้าด้วยความสนใจ
“นายคงไม่ได้… ขู่ฉันอยู่หรอกนะ?”
ซูรุ่ยพูดไปพลาง เดินไปด้านหน้าของเซี่ยฉังอานพลาง “เจ้าเด็กอย่างนายนี่ น่าสนใจดีนะ นายต้องการอะไร? ไหนลองพูดมาสิ!”
“ฉันอยากให้นายอยู่ห่างๆ ครอบครัวซูเอาไว้ ชั่วชีวิตนี้อย่าได้มายุ่งกับคนของตระกูลซูอีก”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการจ้องมองที่ขี้เล่นของซูรุ่ย น้ำเสียงของเซี่ยฉังอานยังคงจริงจังและสงบมาก “นายอาจจะคิดว่าฉันยังเป็นเด็ก แต่ฉันแนะนำให้นายเชื่อในสิ่งที่ฉันพูด”
“โอ้~”
ซูรุ่ยตั้งใจลากเสียงของเขาให้ยาวขึ้น จากนั้นเขาก็ก้มลงและกระซิบที่ข้างหูของเซี่ยฉังอาน “ฉันเชื่อว่านายคงรู้อะไรมาไม่น้อย แต่ว่า… ฉันเองก็รู้เรื่องของนายเหมือนกัน เซี่ยฉังอาน!”
ทันทีที่ได้ยินซูรุ่ยเรียกชื่อของเขา แววตาของเซี่ยฉังอานก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เมื่อทำให้เซี่ยฉังอานตื่นตระหนกได้ในที่สุด ซูรุ่ยก็หัวเราะใส่หูของเซี่ยฉังอานเบาๆ ด้วยความพึงพอใจ “ชาตินี้ ซูหว่านเป็นของฉัน ถ้านายอยากแข่งกับฉันล่ะก็ ฉันอยู่ตรงนี้เสมอ! ไม่ต้องมัวพูดอะไรไร้สาระ ลูกผู้ชาย มาสู้กันอย่างสง่าผ่าเผยไปเลย!”
ชาตินี้…
หรือว่า เกาอวี่ก็เหมือนกัน?
คราวนี้เซี่ยฉังอานนิ่งอึ้งไปเลย สมองของเขาในตอนนี้ขาวโพลนไปหมด เมื่อเขารู้สึกตัวกลับมาอีกครั้ง ก็พบว่าร่างของเกาอวี่ได้หายไปท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนแล้ว
เซี่ยฉังอานยังคงยืนอยู่ที่เดิมและไม่ขยับเขยื้อนเช่นนั้นเป็นเวลานาน
คำพูดของซูรุ่ยเมื่อครู่นี้ เซี่ยฉังอานเข้าใจแล้ว แต่ยังมีอีกเรื่องที่เขาไม่เข้าใจเลย
อันที่จริงแล้วในชาติก่อนเกาอวี่กับซูหว่านไม่มีการติดต่อกันโดยตรง ทั้งสองสัมพันธ์กันก็เพราะเรื่องของเกาอวี่และซูชิงเหมย ทำให้ซูหว่านคลอดลูก และก็ทำให้ร่างกายของเธอยิ่งแย่ลง
ทำไมเกาอวี่ถึงมายุ่งกับซูหว่าน…
เซี่ยฉังอานคิดเรื่องนี้ไม่ตก เขาถอนหายใจออกมา และเมื่อคิดไม่ออกก็เลิกคิดในที่สุด
ในเมื่อโลกนี้ยังมี “การเกิดใหม่” ที่เป็นเรื่องนอกเหนือการอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้ ถ้าอย่างนั้นหลังจากนี้ก็คงไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
เกาอวี่พูดมาก็ถูกแล้ว ในชาตินี้ควรเป็นการเริ่มต้นใหม่ หากตัวเองยังสนใจและรักมั่นคงลึกซึ้งต่อซูหว่านอยู่ ก็ควรจะเริ่มจากจุดเริ่มต้นและก้าวไปทีละก้าว ค่อยๆ ทำให้เธอใจเต้นและรู้สึกดี แม้ว่าคู่ต่อสู้จะแข็งแกร่งเช่นนี้แล้วยังไง? เขาอาจจะไม่แพ้ก็ได้
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ดวงตาของเซี่ยฉังอานก็ค่อยๆ มั่นคงขึ้น…
วันรุ่งขึ้น ซูหว่านมาถึงประตูโรงเรียนโดยรถจักรยานของซูกั๋วเลี่ยง ทันทีที่เธอลงจากรถ ก็เห็นเซี่ยฉังอานยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนและกำลังมองไปรอบๆ เห็นได้ชัดว่ากำลังรอเธออยู่
“สวัสดีค่ะพ่อ!”
หลังจากที่โบกมือลาซูกั๋วเลี่ยงแล้ว ซูหว่านก็แกล้งทำเป็นไม่เห็นเซี่ยฉังอาน เธอสะพายกระเป๋าหนังสือเดินตรงไปยังอาคารเรียน
“ซูหว่าน!”
เมื่อเห็นร่างของซูหว่าน เซี่ยฉังอานก็รีบตามเธอไปทันที “เมื่อวานหลังเลิกเรียนทำไมไม่เห็นเธอเลย?”
“เมื่อวานฉันหลับในห้องเรียน ก็เลยโดนคุณครูเซี่ยเรียกไปหาที่ห้องพักครูน่ะ”
ซูหว่านตอบคำถามของเซี่ยฉังอานอย่างแผ่วเบา
เอ่อ คุณครูเซี่ยที่ซูหว่านพูดถึง คงจะเป็นคุณอาเซี่ยจื่อซวินของเขาเองสินะ?
“เย็นนี้ฉันจะรอเธอนะ เลิกเรียนแล้วเราเดินกลับด้วยกันดีมั้ย?”
เซี่ยฉังอานที่กำลังเดินตามฝีเท้าของซูหว่านเอ่ยถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“กลับด้วยกัน?”
ซูหว่านหยุดฝีเท้าและมองเซี่ยฉังอานที่อยู่ข้างกาย “ทำไม?”
“เอ่อ คือว่า… แม่ของฉันบอกว่ามีพวกคนลักพาตัวเยอะน่ะ!”
คนลักพาตัว…
เอาเถอะ ถือว่าเป็นคำแก้ตัวที่ไม่เลวเลย
ซูหว่านแสดงสีหน้าลังเลเล็กน้อย “แต่ว่าลูกพี่ลูกน้องรับปากไว้ว่าจะมารับฉันหลังเลิกเรียนทุกวันเลย”
ลูกพี่ลูกน้อง? ไม่ใช่เกาอวี่หรอกเหรอ?
เมื่อได้ยินซูหว่านพูดถึงศัตรูหัวใจของตัวเอง สีหน้าของเซี่ยฉังอานก็เคร่งขรึมขึ้นมา “ลูกพี่ลูกน้องเธอเป็นนักเรียนมัธยมปลายใช่มั้ยล่ะ? เขาเลิกเรียนช้ากว่าไม่ใช่หรอ? หรือว่าเขาจะโดดเรียนมารับเธอทุกวัน? แบบนี้… ที่จริงถึงเขาจะมารับเธอ แต่พวกเราเป็นเพื่อนบ้านกัน ฉันเองก็ไปทางเดียวกับเธอ งั้นก็เดินไปด้วยกันหลายคนจะได้ช่วยกันดูแลไง!”
“อืม โอเค”
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดซูหว่านก็พยักหน้า “งั้นก็กลับด้วยกันนะ จริงสิ ขอบคุณนะที่นายให้ช็อคโกแลตน้องฉัน เธอชอบมากเลย”
“หา?”
เซี่ยฉังอานชะงักไปครู่หนึ่ง ทันทีที่พูดจบซูหว่านก็เดินต่อไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว “ฉันจะสายแล้ว ไม่คุยกับนายแล้ว ไว้เจอกันหลังเลิกเรียนนะ!”
เซี่ยฉังอาน: …
ช็อคโกแลตนั่นฉันให้เธอ ให้เธอ ให้เธอ!
เด็กชายเซี่ยฉังอานรู้สึกหดหู่ใจ ช็อคโกแลตราคาแพงกล่องนั้นเขาเก็บไว้ให้ซูหว่านโดยเฉพาะ แล้วมันกลายเป็นของขวัญที่เขาให้ซูชิงเหมยได้ยังไงกัน?
ความเข้าใจผิดนี้ทำให้จิตใจของเซี่ยฉังอานกระสับกระส่ายทั้งวัน กว่าจะถึงเวลาเลิกเรียนนั้นไม่ง่ายเลย ทันทีที่เลิกเรียนเขาก็รีบเก็บกระเป๋านักเรียนและออกจากห้องเรียนโดยเร็วที่สุด ทว่าเมื่อมาถึงประตูเขาก็เห็นผู้ชายที่ยืนสงบนิ่งอยู่ที่นั่นพร้อมแผนการสอน
“คุณอา!”
เมื่อเซี่ยฉังอานเห็นเยี่ยคานฮวน เขาก็ขานเรียกออกมาอย่างอ่อนแรง
“ฉังอาน! เลิกเรียนแล้วใช่มั้ย? ไปเถอะ อาไปส่งหลานที่บ้านเอง!”
เยี่ยคานฮวนยิ้มตาหยีและโอบไหล่ของเซี่ยฉังอาน ก่อนจะพาเขาเดินไปยังบันได…
พ่อคนแสนดี นายเป็นพระเอก ดังนั้นอย่าไปวุ่นวายกับพวกซูหว่านเขาเลย!
“คุณอา ที่จริงแล้วผม…”
เซี่ยฉังอานถูกเยี่ยคานฮวนลากตัวลงจากตึกมา ขณะที่กำลังเดินออกจากโรงเรียนนั้น เซี่ยฉังอานก็หันไปเห็นร่างของซูรุ่ย เขาอดไม่ได้ที่จะพูดสิ่งที่เขาต้องการ ทว่าพูดไปได้เพียงครึ่งเดียวก็ถูกเยี่ยคานฮวนขัดจังหวะเอาไว้
“ฉังอาน! ช่วงนี้ผลการเรียนของหลานไม่ค่อยมั่นคงเลย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปอาจะสอนพิเศษให้เอง!”
เซี่ยฉังอาน: …
จากอันดับสามของชั้นเรียนกลายมาเป็นอันดับหนึ่ง แบบนี้ยังเรียกวาไม่มั่นคงอีกเหรอ? คุณบอกผมหน่อยได้ไหมว่าอะไรที่เรียกว่ามั่นคง?
“คุณอา ที่จริงแล้วผม…”
เซี่ยฉังอานกำลังจะพูดขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็โดนเยี่ยคานฮวนตัดบทไปเช่นเคย “ฉังอาน ช่วงนี้ในเมืองกำลังจะมีการจัดการแข่งขันคณิตศาตร์โอลิมปิก อาว่าหลานมีโอกาสได้รับรางวัลนะ ดังนั้นช่วงนี้หลานต้องไม่ฟุ้งซ่าน แล้วก็อย่ามัวเที่ยวเล่น อาจะคอยช่วยดูแลหลานเอง!”
เซี่ยฉังอาน: …
ด้วยเหตุนี้ เยี่ยคานฮวนจึงนำตัวพระเอกผู้เศร้าโศกออกไปพ้นจากสายตาของซูรุ่ย
กระทั่งซูหว่านเลิกเรียนออกมา เธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อไม่เห็นร่างของเซี่ยฉังอาน
“เซี่ยฉังอานล่ะ?”
ซูหว่านมองซูรุ่ยที่ยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียน และถามเขาขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“โดนอาของเขาพาตัวไปแล้ว!”
ซูรุ่ยยิ้มและยักไหล่ จากนั้นก็ตบลงบนเบาะหลังของจักรยานตัวเอง “มา โลลิตัวน้อย พี่คนนี้จะพาเธอขี่รถเล่นเอง!”
วันนี้ซูรุ่ยตั้งใจเปลี่ยนจักรยานให้มีเบาะหลังถาวรเป็นพิเศษ เพื่อให้ซูหว่านสามารถนั่งได้
ซูหว่านมองที่จักรยานคันใหม่ จากนั้นก็มองไปยังซูรุ่ยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เอาจักรยานมาเพื่อจะได้ใช้เวลากับฉันหรอ? แต่ว่านะ ฉันก็ชอบแบบนี้แหละ ไปกันเถอะ ออกรถ!”
ขณะที่พูด ซูหว่านก็ค่อยๆ กระโดดขึ้นไปนั่งบนเบาะหลังของจักรยาน มือเล็กๆ ทั้งสองข้างกอดเอวของซูรุ่ยเอาไว้อย่างเป็นธรรมชาติ