ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 13 เหมยเขียวครองคู่ม้าไม้ไผ่ (13)
เนื่องจากซูรุ่ยไปรับซูหว่านหลังเลิกเรียนเป็นประจำ ผ่านไปเพียงไม่นานทุกคนในซื่อเหอเยวี่ยนก็คุ้นเคยกับเขาเป็นธรรมดา และเพราะฐานะทางบ้านของซูรุ่ยค่อนข้างดี เขาจึงมักจะซื้อลูกอมและคุ้กกี้ไปฝากพวกเด็กๆ ในลานบ้านซื่อเหอเยวี่ยนอยู่เสมอ เพื่อนบ้านในลานซื่อเหอเยวี่ยนทุกคนจึงเข้าใจว่าครอบครัวซูมีญาติที่ร่ำรวยคนหนึ่ง
ถึงแม้จะเป็นญาติของฉินฟัง แต่หลิวลี่ก็รู้สึกมีหน้ามีตาในสังคมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหลังจากที่ซูรุ่ยให้ของฝากเป็นน้ำหอมแบรนด์เนมจากฮ่องกงนั้น หลิวลี่ก็มีท่าทีที่อบอุ่นและใส่ใจต่อซูหว่านมากขึ้น มุมมองที่มีต่อซูหว่านก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ของครอบครัวตัวเองเป็นไปด้วยดีแล้ว ซูกั๋วเลี่ยงก็ถอนหายใจภายในใจด้วยความโล่งอก
ทุกวันนี้ มีเพียงซูชิงเหมยเท่านั้นที่ไม่มีความสุข ชาติที่แล้วเกาอวี่ทำร้ายเธอไว้รุนแรงเหลือเกิน เธอไม่สามารถเกลี้ยกล่อมตัวเองให้เข้ากับเกาอวี่อย่างสงบได้ ดังนั้น เพียงแค่ซูรุ่ยเข้ามาในบ้านครอบครัวซู ซูชิงเหมยก็จะหาวิธีหลบออกมา และไปเล่นอยู่คนเดียวในลานบ้านหรือไม่ก็ข้างถนน
ที่จริงแล้วซูชิงเหมยอยากไปหาเซี่ยฉังอานมาก แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พักหลังมานี้เซี่ยฉังอานไม่ออกจากบ้านมาเลย ซูชิงเหมยเองก็ไม่กล้าไปบ้านเซี่ยฉังอานเอาดื้อๆ เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินไปเดินมาอยู่บริเวณบ้านที่ครอบครัวเซี่ยอยู่อาศัย
“ไฮ!”
ในขณะนั้นเอง มีชายรูปงามเดินออกมาจากสนาม เขายิ้มและกล่าวทักทายซูชิงเหมย
“คุณครูเซี่ย!”
เมื่อซูชิงเหมยเห็นเซี่ยฉังอาน เธอก็รีบทักทายด้วยเสียงหวานทันที
“เสี่ยวชิงเหมย หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเนี่ย?”
เยี่ยคานฮวนมองร่างเล็กๆ ของซูชิงเหมย ก่อนถามออกไปอย่างอ่อนโยน “หนูอยากมาเล่นกับพี่ฉังอานใช่มั้ย?”
“อืม”
เมื่อได้ยินคำพูดของเยี่ยคานฮวน ซูชิงเหมยก็รีบพยักหน้าทันที “หนูไม่เห็นพี่ฉังอานมาหลายวันแล้ว เขาไม่ได้ป่วยใช่มั้ยคะ? หนูเป็นห่วงเขามากเลย”
“โถๆ เป็นเด็กดีจริงๆ !”
เยี่ยคานฮวนยกมือขึ้นและลูบหัวเล็กๆ ของนักแสดงนำหญิงคนนี้ไปเบาๆ “มามามา คุณอาพาหนูเข้าไปเล่นกับพี่ฉังอานนะ!”
ขณะที่พูดเยี่ยคานฮวนก็จูงมือพาซูชิงเหมยเข้าไปในบ้านครอบครัวเซี่ย
ทั้งครอบครัวเซี่ยและครอบครัวซูต่างก็เป็นครอบครัวของคนงานทั่วไปเหมือนกัน ทว่าบ้านของครอบครัวเซี่ยนั้นค่อนข้างใหญ่กว่าบ้านของครอบครัวซู กระทั่งห้องเล็กของเซี่ยฉังอานนั้นก็ยังกว้างมาก
ในชาติก่อน ซูชิงเหมยและซูหว่านเคยมาที่ห้องนี้ด้วยกันหลายครั้ง แต่ในชาตินี้ นี่กลับเป็นครั้งแรกที่เธอมายังห้องเล็กนี้ของเซี่ยฉังอาน เซี่ยฉังอานในตอนนี้เพิ่งจะทำโจทย์คณิตศาสตร์โอลิมปิกที่เยี่ยคานฮวนทิ้งไว้ให้เขาเสร็จ เขากำลังหมุนปากกาเล่นและคิดว่าจะหาเวลาไปหาซูหว่านในช่วงสุดสัปดาห์ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงประตูเปิด
“คุณอา ผมทำเสร็จ… ชิงเหมย?”
ในตอนแรกเซี่ยฉังอานคิดว่าเยี่ยคานฮวนกลับมาแล้ว แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นเขาจึงเห็นว่าเป็นซูชิงเหมยตัวน้อย เธอกระพริบตาโตที่สดใสและมีเสน่ห์ของเธอ และยืนอย่างเขินอายอยู่ที่ประตูห้องของเขา
“ชิงเหมย เธอมาได้ยังไงเนี่ย?”
เมื่อเห็นร่างของซูชิงเหมย ดวงตาเซี่ยฉังอานก็สว่างสดใสขึ้น “พี่สาวเธอพาเธอมาหรอ? ซูหว่านล่ะ?”
คำก็ซูหว่าน สองคำก็ซูหว่าน
เมื่อได้ยินเซี่ยฉังอานถามถึงซูหว่าน ดวงตาที่สดใสของซูชิงเหมยก็หม่นลง จากนั้นเธอก็ยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง “พี่ฉังอานอยากเจอพี่สาวหรอ? พี่สาวกับลูกพี่ลูกน้องกำลังทำการบ้านอยู่ในห้องโน่น ทำการบ้านกันนานๆ ทุกวันเลย พี่สาวก็เลยไม่มีเวลามาเล่นกับหนูเลย ลูกพี่ลูกน้องนิสัยไม่ดีที่สุด!”
เกาอวี่อีกแล้ว…
เซี่ยฉังอานเม้มปาก “พรุ่งนี้เป็นวันสุดสัปดาห์แล้ว คุณอาของพี่จะพาพี่ไปเล่นที่สวนสาธารณะ เธอกับซูหว่านจะไปด้วยกันมั้ย?”
“โอเค โอเค หนูชอบไปพายเรือในสวนสาธารณะที่สุดเลย!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเซี่ยฉังอาน ซูชิงเหมยก็ปรบมือขึ้นอย่างมีความสุขทันที
“โอเค งั้นก็เอาตามนี้นะ พรุ่งนี้แปดโมงเช้า พี่จะไปรอพวกเธอที่ลานหน้าบ้านเธอนะ!”
เมื่อเห็นซูชิงเหมยตกปากรับคำแล้ว เซี่ยฉังอานก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย
วันรุ่งขึ้น เมื่อเซี่ยฉังอานและเยี่ยคานฮวนออกมาที่ลานนอกบ้านของครอบครัวซู ซูรุ่ยและซ่งหยางก็รออยู่ที่นั่นแล้ว
“เกาอวี่ นั่นใช่หนุ่มน้อยหน้าใสคนนั้นเมื่อวันก่อนมั้ย?”
ความสามารถในการจดจำของซ่งหยางค่อนข้างดีเลยทีเดียว เมื่อเขาเห็นร่างของเซี่ยฉังอานเขาก็เอนตัวไปด้านข้างของซูรุ่ยและหัวเราะทันที “ไม่แปลกใจเลยที่ฉันชวนนายไปเล่นบอลแล้วนายไม่ไป ให้ตายยังไงก็จะไปเล่นที่สวนสาธารณะให้ได้ นายทำตัวเป็นพี่ชายที่แสนดีเกินไปหรือเปล่า? แทบจะเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว!”
ซูรุ่ย: …
ถ้าทำได้ล่ะก็ แม่ทัพซูก็ไม่รังเกียจที่จะเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวยี่สิบสี่ชั่วโมงแน่
หลังจากนั้นไม่นาน สองพี่น้องซูหว่านและซูชิงเหมยก็ออกมา ว่ากันว่าเด็กผู้หญิงชอบสิ่งสวยงาม แม้แต่เด็กน้อยที่อายุไม่กี่ขวบก็ยังแต่งตัวก่อนจะออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก
เพียงแต่…
เมื่อเห็นดอกไม้สีแดงขนาดใหญ่ที่ติดอยู่บนหัวของซูหว่านแล้ว ริมฝีปากของซูรุ่ยก็กระตุก…ซูเสี่ยวหว่าน เธอตั้งใจทำมันจริงๆ ใช่มั้ย?
เอ่อ
เมื่อเยี่ยคานฮวนเห็นการแต่งตัวของซูหว่าน แม่เจ้า ซูเสี่ยวหว่าน เธอสามารถทำให้ผู้คนรับรู้ได้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเธอได้จริงๆ ถึงฉันอยากจะแกล้งมองไม่เห็นเธอก็ทำไม่ได้
เมื่อเทียบกับซูหว่านแล้ว ซูชิงเหมยที่ตัวเล็กน่าทะนุถนอม มีหัวเป็นลูกบอล สวมกระโปรงขนสัตว์สีแดงและกระพริบตาโต เธอดูนุ่มนวลและน่ารักมาก
“โอ้โห บ้าจริง! โลลิต้าตัวน้อยนี่เอง!”
ซ่งหยางที่อยู่ด้านข้างเมื่อเห็นสาวน้อยที่น่ารักอ่อนโยน เขายิ้มออกมาทันที ก่อนจะหยิบอมยิ้มออกมาจากกระเป๋าของเขา “มามามา เรียกพี่สิ พี่จะให้อมยิ้มไปกิน!”
ซูชิงเหมย: …
นายไม่สบายหรอ?
ซูชิงเหมยวิ่งเข้าไปหาเซี่ยฉังอานด้วยสีหน้าท่าทางร่าเริงโดยที่ไม่สนใจอมยิ้มของซ่งหยาง และจับมือเขาอย่างมีความสุขเป็นพิเศษ
ซ่งหยาง: …
แม่เจ้า เดี๋ยวนี้เจ้าโลลิตัวน้อยไม่ชอบกินอมยิ้มกันแล้ว นี่มันผิดธรรมชาตินะ!
“คนมากันครบแล้ว พวกเราไปกันเถอะ!”
เยี่ยคานฮวนโบกมือของเขาขึ้น “พวกนายที่เป็นพี่ชายรับบทดูแลน้องสาวด้วยนะ ฉังอาน หลานจับมือชิงเหมยไว้ อย่าปล่อยให้เธอวิ่งไปทั่วล่ะ ส่วนเกาอวี่ เธอก็คอยดูแลซูหว่านด้วย! ไปเถอะ ออกเดินทาง!”
ซ่งหยางที่ถูกเมินเฉยอีกครั้ง: …
เมือง C มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่อยู่สามแห่ง และสวนที่ใกล้บ้านของซูหว่านมากที่สุดก็คือสวนสาธารณะหนานหู ทุกวันนี้สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นอุทยานที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมค่าเข้าอุทยานคนละสองหยวน ซึ่งแน่นอนว่าเด็กๆ เข้าฟรี
เดิมทีเยี่ยคานฮวนตั้งใจว่าจะเป็นคนจ่ายเงินค่าเข้าชมอุทยามเอง เนื่องจากในตอนนี้ มีเพียงตัวเขาเองที่เป็นผู้ใหญ่ท่ามกลางคนกลุ่มนี้ อะแฮ่ม แม้ว่าคนอื่นในที่นี้นอกจากซ่งหยางแล้วเป็นผู้เยาว์ “ปลอม” ก็ตาม
สุดท้ายเมื่อไปถึงประตูของสวนสาธารณะ คุณชายซ่งของเราผู้ซึ่งถูกเมินเฉยมาตลอด ในที่สุดทุกคนก็รับรู้ถึงการมีอยู่ของเขา เขายื่นธนบัตรใบใหญ่ออกไป พร้อมพูดเสียงดังว่า ไม่ต้องทอน! ที่เหลือเป็นทิปของคุณ
พนักงานเก็บค่าบริการอุทยาน: …
ฝูงชนข้างหลัง: ไม่ต้องมองพวกเรา พวกเราไม่รู้จักเจ้าบ้านี่!
….
ตอนนี้อากาศกำลังเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ต้นอ้อริมทะเลสาบเติบโตขึ้นจนสูงเท่าคนคนหนึ่ง มีผู้คนพายเรืออยู่ในทะเลสาบมากมาย เยี่ยคานฮวนตัดสินใจเช่าเรือเล็กสามลำ จากนั้นจึงจัดแจงให้เซี่ยฉังอานและซูชิงเหมยขึ้นเรือลำเดียวกันโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ซูรุ่ยและซูหว่านที่อยู่ข้างๆ ก็ดูแลตัวเองด้วยการขึ้นเรือและพายเรือออกไปแล้ว
ซ่งหยาง: …
“อะแฮ่ม คือว่าคุณครูเซี่ย”
ซ่งหยางมองไปยังเยี่ยคานฮวนด้วยสีหน้าระทมทุกข์ “ครูดูสิชิงเหมยกับเซี่ยฉังอานยังเล็กขนาดนั้น ครูแน่ใจเหรอครับที่จะปล่อยให้พวกเขาสองคนพายเรือลำเดียวกัน?”
แม่เจ้า นี่ล้อกันเล่นใช่มั้ยเนี่ย!
เอ่อ
“ก็จริง”
เยี่ยคานฮวนเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเซี่ยฉังอานเทียบกับซูรุ่ยไม่ได้ และร่างกายเล็กของเขาคงจะถือไม้พายเรือไม่ไหว
“ใช่มั้ยล่ะ? ผมคิดว่าให้ผม…”
ซ่งหยางที่อยู่ด้านข้างและกำลังจะขึ้นเรือ ก็หันไปเห็นเยี่ยคานฮวนกระโดดขึ้นไปบนเรือด้วยก้าวเดียว “ฉันไปกับพวกเขาสองคนเอง ซ่งหยาง นายพายเรือคนเดียวไปนะ!”
ซ่งหยาง ที่สุดแล้ว ฉันก็ถูกทิ้งไว้อีกแล้ว พวกนายรู้หรือเปล่าว่าความสามัคคีและมิตรภาพคืออะไร?