ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 14 เหมยเขียวครองคู่ม้าไม้ไผ่ (14)
ทะเลสาบฤดูใบไม้ร่วง ลมเย็นๆ พัดมาเอื่อยๆ
ซูรุ่ยเป็นผู้นำ พายเรือน้อยไปที่ใจกลางทะเลสาบ จากนั้นก็ปล่อยให้เรือลอยอยู่บนผิวน้ำ เขาเหยียดขาทั้งสองข้างออกให้สบายตัว แล้วยกมือขึ้นตบตักตนเอง
“มา ภรรยา เอนลงตรงนี้”
ซูหว่านยิ้มตาหยี พลางเอนตัวลงบนตักซูรุ่ย หลังจากมาถึงโลกใบนี้ เนื่องด้วยเรื่องของอายุ ทำให้ซูหว่านไม่มีเวลาออกมาสักที นี่เป็นครั้งแรกที่เธอออกมาเที่ยว แม้มาด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ แต่อย่างน้อยตอนนี้ ที่นี่ก็มีเพียงเธอกับซูรุ่ย
“ซูรุ่ย คุณรู้ไหม ตอนเป็นเด็ก ฉันชื่นชมเด็กๆ ที่มีคนในครอบครัวอยู่เล่นเป็นเพื่อนเสมอเอามากๆ ฉันชื่นชมมากเลยทีเดียว อืม ไม่สิ ควรพูดว่าฉันอิจฉาพวกเขามากต่างหาก”
ซูหว่านหรี่ตามองท้องฟ้าสีสดใส ท้องฟ้าในยุคนี้เป็นสีฟ้าจริงๆ ขนาดอากาศก็สดชื่นเป็นพิเศษ
ตอนเป็นเด็ก…
พอได้ยินคำพูดของซูหว่าน ซูรุ่ยก็ยกมือขึ้น ยีผมสีดำของเธอด้วยนิ้วเรียวยาวเบาๆ แล้วว่า “ซูหว่าน เล่าเรื่องคุณตอนเป็นเด็กให้ผมฟังหน่อยสิ”
เกี่ยวกับอดีตของซูหว่าน นอกจากรู้ว่าเธอมาจากเขตแดนที่ล่มสลายแล้ว ซูรุ่ยก็ไม่รู้อะไรอื่นอีก
“ตอนเป็นเด็ก?”
ซูหว่านกะพริบตาปริบๆ “วัยเด็กของฉัน มีแต่เรียนกับเรียน เรียนมารยาททุกอย่าง เรียนดนตรีกับการเต้นรำทุกชนิด แถมต้องเรียนความรู้ด้านการเงินทุกประเภทอีก ฉันน่ะ น่าจะถือว่าเป็นเด็กเนิร์ดคนหนึ่งเลยล่ะ”
พอพูดถึงตรงนี้ ซูหว่านก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเองคนเดียว
ความเย็นชาของพ่อแม่ การทะเลาะวิวาทกันเองในครอบครัว วัยเด็กของเธอจึงน่าเบื่อและเย็นยะเยือก
“ฉันเป็นเด็กที่ไม่พึงปรารถนา”
ความเศร้าค่อยๆ เคลือบแววตาของซูหว่านชั้นหนึ่ง เธอไม่เคยเล่าอดีตของตนเองให้ใครฟังมาก่อน
นอกจากสวีเช่อแล้ว ก็ไม่มีใครรู้อดีตของเธออีก
“จะพูดยังไงดีล่ะ”
ซูหว่านถอนหายใจ “แม่ฉันก็คือนางร้ายในสายตาคนอื่น เธอเป็นคุณหนูใหญ่สกุลฉิน หมั้นกับพ่อฉันแต่เด็ก แต่ไม่ใช่คนที่พ่อฉันชอบ เพื่อผลประโยชน์ของตระกูล สุดท้ายทั้งสองก็ยังคงอยู่ด้วยกัน แถมมีฉันด้วย ปีที่ฉันเกิด คนรักของพ่อก็มีลูกเหมือนกัน เด็กคนนั้นเกิดก่อนฉันเดือนหนึ่ง เธอชื่อซูโหยว”
ซูโหยว นางเอกตัวจริงของโลกใบนั้น
พวกเธอ เป็นพี่น้องกัน พวกเธอ มีหน้าตาคล้ายคลึงกัน แต่ ชีวิตของพวกเธอกลับต่างกันราวฟ้ากับเหว…
“หลังจากแม่ฉันรับรู้ถึงการมีอยู่ของซูโหยว ก็รีบจ้างคนให้พาเธอไปที่อื่น ส่วนคนรักของพ่อซึ่งสูญเสียลูกสาวของตนเองไปได้ล้มป่วยลง จากนั้นไม่นานก็เสียชีวิตทั้งที่ยังสาว เรื่องนี้ทำให้พ่อกับแม่ฉันทำสงครามเย็นต่อกันเรื่อยมาอีกหลายปี พวกเขาจึงไม่ชอบการมีอยู่ของฉัน เช่นเดียวกันกับที่แม่ไม่ชอบฉัน เพราะฉันไม่ใช่เด็กผู้ชาย เธอ พยายามทำทุกวิถีทาง ลำบากลำบนกว่าจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สักครั้ง แต่กลับต้องให้กำเนิดลูกสาวที่ไร้ประโยชน์คนหนึ่งออกมา คุณว่าเธอจะดีกับฉันไหมล่ะ”
“ภรรยา…”
พอได้ยินคำพูดของซูหว่าน ซูรุ่ยก็ก้มหน้า โน้มตัวลง ใช้หน้าผากแนบหน้าผากของซูหว่าน “ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่ต้องคิดแล้ว ล้วนผ่านไปแล้ว ผ่านไปหมดแล้ว”
เขาไม่อยากคิดอีก กระทั่งไม่กล้าฟังต่อด้วย
ภรรยาสุดที่รักของเขา ที่ผ่านมาต้องทุกข์ใจแค่ไหน เสียน้ำตาไปมากเท่าใด
เพียงนึกถึงตรงนี้ ซูรุ่ยก็รู้สึกปวดใจเหลือทน เขารู้ว่า ทั้งหมดที่ซูหว่านพูดมา เป็นเพียงเศษเสี้ยวที่ไม่ควรค่าแก่การพูดถึงในชีวิตของเธออย่างแน่นอน ยังมีเรื่องราวที่ทุกข์กว่า ขมขื่นกว่า ฝังอยู่ที่ส่วนลึกในใจเธอ
“ผ่านไปแล้ว”
ซูหว่านหายใจเข้าลึกๆ กะพริบตาทั้งสองข้างแล้วมองหน้าซูรุ่ยนิ่งๆ “ใช่เลย ล้วนผ่านไปแล้ว!”
ไม่ว่าซูโหยว หรือฉินชิง ไม่ว่าสิงอี้ หรือหลีเฝ่ย พวกเขาล้วนมิได้ดำรงอยู่แล้ว…
หนึ่งเดียวที่เป็นพยานได้ หนึ่งเดียวที่มีส่วนร่วมในอดีตช่วงนั้นของเธอ มีเพียงสวีเช่อ
สวีเช่อ
ชื่อของชายคนนี้ ซูหว่านมิได้นึกถึงมานานมากแล้ว
ขณะที่หน้าผากของทั้งสองคนแนบกันเงียบๆ ซ่งหยางก็พายเรือเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ซูรุ่ย…
นายคนนี้ไม่รู้งานเอาเสียเลย! การพานายออกมา คือความล้มเหลวที่สุดในวันนี้ของฉัน ไม่มีอื่นอีก!
“เกาอวี่ เกาอวี่!”
ซ่งหยางเห็นร่างของซูรุ่ยมาแต่ไกล จึงพยายามพายเรือเข้าหาเขา จ้ำเอาๆ สุดท้ายเรือน้อยของเขาก็เปลี่ยนทิศทางเองอัตโนมัติ หมุนเป็นวงกลมอยู่ตรงที่ที่หนึ่งไม่หยุด
ซ่งหยาง…
ฉิบ! นี่ฉันเจอผีอำเข้าแล้วใช่ไหม โอ๊ยๆๆ ไม่ถูก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ซ่งหยางหน้าซีด พอเห็นซูรุ่ยอยู่ไม่ไกล ก็วางไม้พายลง แล้วยกแขนขึ้นโบก พลางตะโกนสุดเสียง “เกาอวี่! เกาอวี่! มานี่เร็วเข้า!”
เอ่อ
อันที่จริง ซูรุ่ยกับซูหว่านเห็นอาการแปลกๆ ของซ่งหยางแล้ว แต่ทั้งสองต่างไม่ขยับ กระทั่งหันหน้าไปอีกทาง แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงร้องตะโกนของซ่งหยาง
เยี่ยคานฮวน ผู้บงการสายน้ำ
นี่คือนิ้วทองคำของเยี่ยคานฮวน ซูรุ่ยเคยเห็นประวัติของเยี่ยคานฮวนมาก่อน ย่อมรู้ว่าเขามีฤทธิ์เดชอะไร
“ซ่งหยาง นายไม่เป็นไรนะ”
ในตอนนี้เอง เยี่ยคานฮวนที่อยู่บนเรืออีกลำก็ถามเสียงสูงมา
พอได้ยินเสียงของเยี่ยคานฮวน ซ่งหยางก็ตื้นตันใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา “ครูเซี่ย ผม…ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น! เรือมันขยับไปไหนไม่ได้!”
“นายไม่ต้องร้อนใจ ฉันไปดูให้!”
ไม่นาน เยี่ยคานฮวนก็พายเรือมาถึงข้างกายซ่งหยาง เขาลุกขึ้นกระโดดเบาๆ ก็ข้ามมายืนบนเรือของซ่งหยางได้ทันที
เรือน้อยโยกอย่างแรงชั่วขณะ หัวใจของซ่งหยางก็เต้นแรงตามสองสามตุบ ยังดี เรือน้อยถูกเยี่ยคานฮวนทำให้นิ่งลงได้อย่างรวดเร็ว
“เอาล่ะ ไม่เป็นไรแล้ว”
เยี่ยคานฮวนยิ้มตาหยีขณะมองดูซ่งหยาง แล้วค่อยหันไปมองเซี่ยฉางอันกับซูชิงเหมยที่อยู่บนเรือลำข้างๆ “ฉางอัน นายดูชิงเหมยให้ดี อาต้องอยู่ช่วยพี่ซ่งหยางพายเรือก่อน”
“อ้อ”
พอได้ยินเสียงของเยี่ยคานฮวน เซี่ยฉางอันก็พยักหน้ารับ ซึ่งจริงๆ แล้วตัวเขาเองก็พายเรือเป็น และว่ายน้ำเก่ง จึงไม่กังวลแม้แต่น้อยว่าจะเกิดอุบัติเหตุอะไร
“เพื่อสร้างโอกาสให้พระนางแล้ว เยี่ยคานฮวนก็พยายามอย่างถึงที่สุดเหมือนกัน”
พอเห็นสถานการณ์ด้านนั้น ซูรุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะกระซิบบอกซูหว่าน
“นี่เพียงแค่เริ่มต้น คนที่ทำอะไรไม่มีหลักการอย่างเยี่ยคานฮวน ต่อไปคุณก็จะรู้เองว่าเขากลวงแค่ไหน” พอได้ยินคำพูดของซูรุ่ย ซูหว่านก็อดแขวะไม่ได้
ฉินอวี่จงใจอย่างแน่นอน แต่ซูหว่านกลับยอมให้ฉินอวี่ส่งผู้หญิงใจดำอำมหิต และไร้คุณธรรมยิ่งกว่าเยี่ยคานฮวนอย่างหลินรั่วมา
ตอนนี้ซูชิงเหมยอายุเพียงห้าขวบ สิ่งที่เยี่ยคานฮวนทำได้ ก็คือสร้างโอกาสในการอยู่ด้วยกันของเธอกับเซี่ยฉางอันให้มากเข้าไว้ แล้วพอเธออายุสิบห้าล่ะ?
เยี่ยคานฮวนก็ต้องโยนซูชิงเหมยลงบนเตียงของเซี่ยฉางอันทันทีอย่างไม่ต้องสงสัย
ซูหว่านถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ระบบแจ้งเตือนภารกิจ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหว นั่นหมายความว่า อนาคตเต็มไปด้วยสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ วิธีการแบบนั้นของเยี่ยคานฮวนก็มีสิทธิ์สัมฤทธิ์ผลเช่นเดียวกัน
อย่างไรเสีย แม้ชาติที่แล้วเซี่ยฉางอันไม่ได้รักซูชิงเหมยอีก แต่เขาก็ไม่ได้รังเกียจเธอนี่!
ถ้าชาตินี้ ซูชิงเหมยจัดการเองได้ดี และมีเทพอย่างเยี่ยคานฮวนคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ โอกาสที่ทั้งสองคนจะได้อยู่ด้วยกันก็ยังมีสูงมาก!
แน่นอน ถ้าตอนนี้ซูหว่านลงมือ ก็สามารถทำการแย่งเซี่ยฉางอันผู้มีความทรงจำในอดีตกลับคืนมาจากซูชิงเหมยได้อย่างง่ายดาย
แต่ซูหว่านไม่อยากใช้การเสแสร้ง ทำร้ายผู้อื่นอีก
เมื่อก่อน เธอถูกความเคียดแค้นจู่โจมจนมึนงง ถึงได้ใช้ความรู้สึกของผู้บริสุทธิ์เป็นเครื่องมือในการทำภารกิจมากมาย พร้อมกับหัวใจที่ด้านชา ซึ่งจริงๆ แล้ว สิ่งที่เธอทำ ต่างจากสวีเช่อตรงไหน
ในเมื่อ เพื่อภารกิจของตนเองแล้ว ไม่เสียดายที่จะเหยียบย่ำความรู้สึกของผู้อื่น ทำลายน้ำใสใจจริงของผู้อื่นเช่นเดียวกัน
เธอไม่อยากทำภารกิจแบบนั้นอีก
ซึ่งความจริง เซี่ยฉางอันไม่ได้ทำผิดอะไรเลย เขาเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่งด้วยซ้ำ ถึงกลับชาติมาเกิดใหม่ เขาก็คู่ควรที่จะมีผู้หญิงดีๆ คนหนึ่งเคียงข้าง
ส่วน…ซูชิงเหมยนั้น
ซูหว่านอดไม่ได้ที่จะหันไปมองซูชิงเหมยที่กำลังแอบอิงอยู่ข้างกายเซี่ยฉางอันพร้อมรอยยิ้มสดใส
ดังคำที่ว่า สันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก ซูหว่านไม่เชื่อว่า นิสัยของซูชิงเหมยที่กลับชาติมาเกิดใหม่จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้น ซูชิงเหมย จึงเป็นกุญแจสำคัญอย่างแท้จริงในภารกิจนี้