ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 17 เหมยเขียวครองคู่ม้าไม้ไผ่ (17)
ขณะเดียวกัน ซูรุ่ยก็กลับมา หลังจบการศึกษาจากจิงต้า
ตามวิถีชีวิตเดิมของเกาอวี่ เขาไปเป็นครูสอนในโรงเรียนมัธยมก่อน แล้วค่อยๆ ก้าวเข้าสู่แวดวงข้าราชการ นี่คือเส้นทางชีวิตที่เกาเจี้ยนปูไว้ให้ลูกชายตนเอง แต่หลังจากซูรุ่ยเรียนจบมหาวิทยาลัย กลับไม่ได้ทำตามที่เกาเจี้ยนคิด เขาจดทะเบียนบริษัทตัวเอง แล้วเริ่มทำธุรกิจอินเทอร์เน็ต ในยุคนี้ อินเทอร์เน็ตในประเทศเพิ่งถือกำเนิด กำลังเป็นยุคแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
ส่วนซ่งหยางซึ่งเรียนจบพร้อมกันกับซูรุ่ย และได้กลายเป็น ‘นักศึกษาดีเด่นแห่งจิงต้า’ ไปแล้วนั้น กลับไม่ได้โชคดีขนาดนั้น เขาถูกคุณตาของตนจับให้ไปเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนมัธยมสือซาน ทำหน้าที่สอนนักเรียนชั้นม.ต้นสี่ชั้นเรียน โดยมีซูชิงเหมยอยู่ในชั้นเรียนด้วยพอดี
ซูชิงเหมยได้เกรดไม่ต่ำไม่สูงมาตลอด เนื่องจากหน้าตาสวยหวาน พอเข้ามาเรียน ก็เป็นดาวเด่นในโรงเรียนทันที ขนาดเพิ่งอยู่ชั้นม.หนึ่ง ก็ถูกนักเรียนทุกชั้นเรียนตามจีบมากมายแล้ว
ช่วงพักเที่ยง หนุ่มหล่อคนหนึ่งมายืนขวางทางซูชิงเหมยอยู่ตรงระเบียงทางเดิน แล้วทำการสารภาพรักอย่างสุดซึ้งกับเธอไปรอบหนึ่ง ทำเอาซ่งหยางที่บังเอิญผ่านมาเห็นทุกอย่าง ต้องถอนหายใจออกมา…
พับผ่าสิ ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ตอนข้าอยู่ม.ต้น ทำไมไม่เปิดกว้างขนาดนี้นะ
เมื่อเห็นซูชิงเหมยมีท่าทีเหมือนไม่ค่อยพอใจ ซ่งหยางก็อดไม่ได้ที่จะก้าวเข้าไปปรามเธอไว้ “ชิงเหมย ทำไมยังไม่ไปทานข้าวอีก”
“ครูซ่ง!”
พอเห็นซ่งหยาง ซูชิงเหมยก็ดีใจมาก เมื่อก่อนตอนซูรุ่ยอยู่ม.ปลาย มักพาซ่งหยางไปบ้านสกุลซูด้วย ซูชิงเหมยจึงคุ้นเคยกับซ่งหยางมาก และเข้าใจนิสัยของเขาดี รู้ว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง
“ครูซ่ง พอดีหนูมีคำถามเกี่ยวกับภาษาอังกฤษที่ไม่เข้าใจนิดหน่อย ครูพอจะสอนหนูได้ไหมคะ”
ซูชิงเหมยกะพริบตาปริบๆ ซ่งหยางจึงยิ้มน้อยๆ “ได้สิ ฉันกินข้าวอิ่มพอดี เธอไปหาฉันที่ห้องพักครูก็แล้วกัน!”
…..
บางคนกลับชาติมาเกิดแล้ว สามารถชะล้างเครื่องประทินผิวออก กลายเป็นคนเรียบๆ ง่ายๆ ได้
แต่บางคนกลับชาติมาเกิดแล้ว กลับหิวแสง หยิ่งทะนงตน
เห็นชัดว่า ซูชิงเหมยก็คือคนแบบที่สอง ชาติก่อน เธอหน้าตาดี แต่กลับถูกเกาอวี่หลอกจนไม่เหลืออะไรเลย
ส่วนตอนนี้ ได้กลับชาติมาเกิด เธอก็รู้สึกว่าตนเองควรเป็นจุดสนใจของผู้คน โดยเฉพาะหลังจากซูหว่านสอบได้ที่หนึ่งของเมือง ครูทั้งโรงเรียนล้วนจับจ้องมองเธอ ทุกคนล้วนรู้ว่าเธอเป็นน้องสาวของซูหว่าน ยากหลีกเลี่ยงที่จะนำเธอมาเปรียบเทียบกับซูหว่าน
ซึ่งความจริง ซูชิงเหมยรู้สึกเก็บกดในใจ ชาติก่อนเธอไม่ตั้งใจเรียน พอเข้ามหาวิทยาลัยก็เอาแต่ใช้ชีวิตผ่านไปวันๆ ตอนนี้ในที่สุดเธอก็นึกขึ้นได้ว่า ต้องขยันหมั่นเพียรจึงจะก้าวหน้า แต่ด้วยนิสัยที่อยู่อย่างสงบไม่เป็นแต่เกิด เธอจึงไม่มีทางที่จะทำใจให้สงบและตั้งใจเรียนได้
ขณะเดียวกัน เซี่ยฉางอันก็กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ไม่มีเวลามาสอนพิเศษเธออีก และตอนนี้ซ่งหยางก็มาที่โรงเรียนมัธยมสือซานพอดี ทำให้ซูชิงเหมยรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที จะอย่างไรซ่งหยางก็เป็นนักศึกษาดีเด่นของจิงต้าเชียวนา! และยังเป็นครูสอนวิชาภาษาอังกฤษด้วย ซึ่งภาษาอังกฤษนั้น ไม่ว่าใครเขียนหรือพูดได้ ก็ล้วนเป็นคนเก่งอย่างแน่นอน
และแล้วซูชิงเหมยก็ใช้โอกาสนี้ ไปที่ห้องพักครูของเขาบ่อยๆ เวลาต้องการถามคำถามกับซ่งหยาง สุดท้ายก็ชักชวนซ่งหยางมาสอนพิเศษที่บ้านสำเร็จ
นี่น่าจะเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง แต่ไม่รู้ทำไม ในโรงเรียนกลับมีข่าวแพร่ออกมาเงียบๆ ว่าซูชิงเหมยชอบครูซ่ง ถึงได้หาวิธีล่อหลอกครูซ่ง ข่าวนี้ถูกลือกันอย่างโจ๋งครึ่ม ทำให้นักเรียนทุกชั้นเรียนต่างมองซูชิงเหมยด้วยสายตาแปลกๆ
ข่าวลือเหล่านี้ค่อยๆ เข้าถึงหูของซูชิงเหมย เธอจึงพลันหวนคิดถึงเรื่องในชาติก่อน
ความรักระหว่างครูกับนักเรียนในชาติก่อนของเธอ คือความเจ็บปวดที่เธอไม่มีวันลืม
ชาตินี้ ซูชิงเหมยจึงลาป่วยหนึ่งอาทิตย์ เพราะข่าวฉาวโฉ่เหล่านั้น ต่อมาพอหลิวลี่ล่วงรู้เรื่องในโรงเรียนเข้า ก็บึ่งไปอาละวาดที่โรงเรียนทันที จึงยิ่งโหมกระพือข่าวลือให้เกินเลยเข้าไปอีก
สุดท้าย ยังคงเป็นซูหว่านไปหาซูรุ่ย ให้เขาใช้เส้นสายทำเรื่องย้ายโรงเรียนให้ซูชิงเหมย
โรงเรียนใหม่ที่ซูชิงเหมยย้ายไปเรียนก็คือโรงเรียนเอกชนที่ดีที่สุดในเมืองซี สืบเนื่องจากเส้นสายของซูรุ่ย ทางโรงเรียนจึงไม่เก็บค่าแป๊ะเจี๊ยะเพิ่มเติมกับซูชิงเหมย
เมื่อเข้าสู่สภาพแวดล้อมใหม่ ซูชิงเหมยกลับปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่ไม่ว่าชาติก่อนหรือชาตินี้ ผู้ซึ่งเกิดมาในครอบครัวธรรมดาๆ อย่างเธอไม่เคยเรียนในโรงเรียนเอกชนดีๆ อย่างนี้มาก่อน
การได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่หมด ทำให้ซูชิงเหมยรู้จักกับเพื่อนซึ่งชาติที่แล้วตนไม่เคยรู้จักมาก่อน ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้ก็คือค่ายของลูกคนรวยกับลูกข้าราชการดีๆ นี่เอง ชนิดสุ่มเลือกนักเรียนคนใดคนหนึ่งในชั้นเรียนออกมา ถ้าไม่ใช่เด็กผู้ชายหล่อหรูรวย ก็คือเด็กผู้หญิงสวยขาวรวย กับของแบรนด์เนมทั้งตัว
ถ้าเป็นชาติก่อน ซูชิงเหมยต้องรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อยมากเมื่อเข้ามาอยู่ในโรงเรียนแบบนี้ แต่ชาตินี้ ดีร้ายอย่างไรเธอก็คือคนที่กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ซูชิงเหมยที่มีความคิดอ่านแบบผู้ใหญ่ ได้ใช้วิธีของตนเองจัดการเรื่องต่างๆ และคบหาสมาคมกับเพื่อนใหม่ไม่น้อย
ขณะที่ซูชิงเหมยกำลังยุ่งอยู่กับการคบเพื่อนในโรงเรียนหรูนั้น เซี่ยฉางอันก็กำลังเตรียมต้อนรับวันสำคัญที่สุดวันหนึ่งในชีวิต
การสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ใกล้จะมาถึง!
โดยโรงเรียนประถมและมัธยมในเมืองปิดเทอมก่อนวันสอบทั้งหมด เพราะถูกใช้เป็นสนามสอบ
เซี่ยฉางอันโทรศัพท์หาซูหว่านล่วงหน้า นัดเธอออกมาเจอที่ร้านชานมใกล้บ้านร้านหนึ่ง
ตอนซูหว่านมาถึง เซี่ยฉางอันก็ได้นั่งรออยู่ข้างหน้าต่างพักใหญ่แล้ว พอเห็นซูหว่าน เขาก็ลุกขึ้นยืน ยิ้มน้อยๆ พลางกวักมือเรียก
“มาแล้วเหรอ”
“อืม”
ซูหว่านตอบรับคำหนึ่ง ก่อนนั่งลงตรงข้ามเซี่ยฉางอันเงียบๆ
“สั่งชานมไข่มุกให้แล้ว ชอบไหม”
ในความทรงจำของเซี่ยฉางอัน ซูหว่านชอบรสชาติชานมแบบนั้นเป็นพิเศษ แต่ตอนนี้ พอได้ยินคำพูดของเซี่ยฉางอัน ซูหว่านกลับแค่เหลือบมองเขาอย่างเฉยเมย “ก็ดี ฉันไม่เลือกกินเท่าไหร่ เซี่ยฉางอัน นายมาหาฉันมีธุระอะไรหรือเปล่า”
ก็บอกแล้วไงว่า ฤดูจบการศึกษา คือฤดูสารภาพรัก
สองสามวันมานี้เซี่ยฉางอันเก็บจดหมายรักได้ไม่น้อย เขาคิดมาตลอดว่า สมควรแก่เวลาแล้ว ตอนนี้ซูหว่านอยู่ม.ปลาย ก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย อย่างน้อยต้องให้เธอได้รับรู้ถึงความรู้สึกของตน
“ซูหว่าน ฉัน…”
เซี่ยฉางอันอ้าปาก พลางจ้องมองซูหว่านที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยสายตาอันอ่อนโยน “ซูหว่าน ฉันชอบเธอ!”
“อ้อ”
พอได้ยินคำพูดของเซี่ยฉางอัน ซูหว่านก็ตอบรับเรียบๆ คำเดียว
เซี่ยฉางอัน…
“ซูหว่าน เธอ…ชอบฉันไหม”
พอเห็นซูหว่านตอบรับคำเดียวแล้ว ไม่มีปฏิกิริยาอะไรอีก เซี่ยฉางอันก็ถามอย่างลังเลใจออกมา
อันที่จริงเซี่ยฉางอันได้ค้นพบตั้งแต่เมื่อสองสามปีก่อนแล้วว่า ในชาตินี้วิถีชีวิตของทุกคนเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากชาติที่แล้วไม่มากก็น้อย ดังนั้น ท่าทีของซูหว่านที่มีต่อตนจึงแตกต่างไปจากชาติที่แล้วอย่างสิ้นเชิง เขาจึงทำใจยอมรับไว้แต่เนิ่นๆ แล้ว
เพียงแต่ ส่วนลึกในใจของเขายังคงไว้ซึ่งความหวังสุดท้ายเสมอมา
เมื่อซูหว่านในชาติก่อนยังรักตนได้ ชาตินี้ตนก็น่าจะมีโอกาสทำให้ซูหว่านรักตนได้เช่นกัน ต้องมีโอกาสสิ
“ไม่ชอบ”
ซูหว่านพลันเงยหน้าขึ้น จ้องมองเซี่ยฉางอันนิ่ง พลางพูดสองคำนี้ออกมาอย่างเฉยชาสุดจะเปรียบ
ไม่ชอบ…
เซี่ยฉางอันคาดเดาได้แต่แรกแล้ว เขาจึงยิ้มขมขื่น
“งั้นเธอชอบ…เกาอวี่ไหม”
“ชอบ”
ครั้งนี้ซูหว่านกลับตอบอย่างไม่ลังเลใจแม้แต่น้อย
“หึ”
พอได้ยินคำตอบของซูหว่าน เซี่ยฉางอันก็หัวเราะเยาะตัวเอง “ก็ดี ดีเหมือนกัน แบบนี้ฉันจะได้สมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัยต่างเมืองได้อย่างสบายใจแล้ว”
ไปจากที่นี่ ไปยังสถานที่ที่ตนเองไม่เคยไป เริ่มต้นชีวิตใหม่ๆ ที่มีสีสัน
สวรรค์ให้โอกาสเขากลับมาเกิดใหม่ แต่ก็ไม่ได้ต้องการให้เขามีวิถีชีวิตซ้ำรอยเดิมแบบชาติที่แล้วไม่ใช่เหรอ
โลกกว้างใหญ่ขนาดนี้ ก็ควรออกไปดูๆ หน่อย