ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 18 เหมยเขียวครองคู่ม้าไม้ไผ่ (ปัจฉิมบท)
วันที่เซี่ยฉางอันไปจากเมืองซี ท้องฟ้ามืดครึ้ม มิหนำซ้ำยังมีฝนตกปรอยๆ ช่างเป็นวันแห่งการจากลาเสียนี่กระไร โดยที่สถานีรถไฟล้วนมีแต่เหล่าผู้ปกครองที่มาส่งลูกหลานตนเอง
สำหรับการเลือกทางเดินของเซี่ยฉางอันนั้น เยี่ยคานฮวนไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่ง เดิมทีเขานึกว่าเซี่ยฉางอันจะอยู่เมืองซีต่อ ไม่นึกว่าตนไม่สนใจหน่อยเดียว หมอนี่กลับสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัยกฎหมายและการเมืองที่อยู่ทางใต้สุดซะงั้น กะว่าอนาคตจะเป็นนักกฎหมายมือฉมังหรือไง
นอกจากพ่อแม่ของเซี่ยฉางอันกับเยี่ยคานฮวนแล้ว ซูหว่านกับซูชิงเหมยก็มาส่งเซี่ยฉางอันที่สถานีรถไฟด้วยเช่นกัน
ซูชิงเหมยรู้ว่า ชาติที่แล้วเซี่ยฉางอันเรียนด้านการเงิน แต่ชาตินี้เขากลับสอบได้คณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งด้วยคะแนนอันยอดเยี่ยม
เห็นที โลกใบนี้แตกต่างกับโลกที่ตนเคยประสบมาจริงๆ
เดิมทีนึกว่าตนเป็นนางเอกที่กลับชาติมาเกิดพร้อมนิ้วทองคำที่สามารถทำลายล้างผู้ชายเลวๆ แล้วหาสามีดีๆ คนหนึ่ง ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขเสียอีก นาทีนี้ซูชิงเหมยพลันลุกลี้ลุกลนขึ้นมา…
ถ้าโลกใบนี้ ไม่ใช่โลกใบเดิมของตนแล้ว การอดทนยืนหยัดของตน ยังจะมีความหมายอะไรอีก
ตอนนี้ เซี่ยฉางอันกำลังจะขึ้นรถไฟสายใต้แล้ว ตนควรสารภาพรักกับเขาดีหรือไม่
ในชาติที่แล้ว ซูชิงเหมยชิงสารภาพรักกับเซี่ยฉางอันก่อน อีกทั้งยังรีบจับน้ำใสใจจริงของหนุ่มน้อยไว้ แต่ชาตินี้ล่ะ
ตอนกลับชาติมาเกิดใหม่ ทั้งๆ ที่บอกตัวเองว่าต้องวางแผนจับผู้ชายดีๆ ให้มั่น แต่ซูชิงเหมยที่พลันพบว่าทุกอย่างล้วนไม่เหมือนเดิม เกิดลังเลใจแล้ว…
ตนเอง รักเซี่ยฉางอันหรือเปล่า
รักไหม
ซูชิงเหมยไม่รู้
หลังจากกลับมาเกิดใหม่ เธอก็บอกตัวเองมาตลอดว่าต้องอยู่ห่างๆ เกาอวี่เข้าไว้ และต้องจับผู้ชายดีๆ อย่างเซี่ยฉางอันไว้ให้แน่น แต่จริงๆ แล้วเธอรักเซี่ยฉางอันหรือไม่
ไม่รัก
ความรักฝืนกันไม่ได้ รักก็คือรัก ไม่รักก็คือไม่รัก
เธอแค่เสียใจ แค่สำนึกผิด
เสียใจที่ตนไม่ได้พบเจอผู้ชายดีๆ สำนึกผิดในความโลภโมโทสันของตน
ตอนรถไฟส่งเสียงดังหวูดๆ กำลังจะจากไป พริบตาที่มองดูหนุ่มน้อยหน้าหยกยื่นมือออกนอกหน้าต่าง โบกมือลาทุกคนนั้น ซูชิงเหมยก็ลังเลใจขึ้นวาบหนึ่ง
แต่สุดท้าย เธอก็ยังคงไม่ได้พูดอะไร
ชาติก่อน พลาดไปแล้ว
ชาตินี้ล่ะ พอใจในสิ่งที่มีอยู่เถอะ
ระหว่างทางกลับบ้าน ซูชิงเหมยเดินครุ่นคิดอยู่ด้านหน้าเพียงลำพัง ส่วนเยี่ยคานฮวนจงใจดึงฝีเท้าให้ช้าลง พลางมองดูซูหว่านที่อยู่ด้านข้างอย่างอดไม่ได้
“ฉันนึกว่านางเอกจะสารภาพรักก่อนจากลาเสียอีก พับผ่าสิ ไม่ทำตามกลยุทธ์ที่วางเอาไว้เลย แล้วจะให้คนอื่นเล่นสนุกได้ไงกันล่ะเนี่ย”
“นี่ล่ะ ชีวิตที่แท้จริงของคนเรา”
ซูหว่านชำเลืองมองเยี่ยคานฮวน “ถ้าคุณไม่ได้รักผู้หญิง ต่อให้เธอดีกับคุณขนาดไหน คุณก็ไม่มีทางรักเธอหรอก ความรักไม่ใช่ความสงสาร และฝืนกันไม่ได้ ถ้ามีผู้หญิงที่คุณไม่ได้รักคนหนึ่งยอมตายเพื่อคุณ แล้วคุณได้กลับชาติมาเกิดใหม่ คุณจะยอมรักเธอตลอดไปหรือเปล่า”
“เอ่อ”
พอได้ยินคำถามของซูหว่าน เยี่ยคานฮวนก็รู้สึกสับสน…
โอ๊ย คำถามนี้ยากเกิน!
รักหรือไม่รักกันนะ รักเหอะ เหมือนสงสารตัวเองนิดๆ ไม่รักแหละ ก็โหดร้ายกับเค้าจนเกินไปอีก!
รอเดี๋ยว คล้ายมีบางอย่างไม่ถูกต้อง
“ปัดโธ่!”
เยี่ยคานฮวนตบตักตนเองแรงๆ “คุณชายอย่างฉัน…ยังไม่มีใครมารักสักหน่อย แล้วฉันจะมามัวครุ่นคิดถึงปัญหานี้ทำลิงอะไร! เรื่องของเรื่องก็คือ ต้องมีสาวมารักฉันก่อน!”
ซูหว่าน…
เยี่ยคานฮวน นายพอทีเถอะ!
พอเหลือบเห็นซูหว่านทำหน้าเบื่อหน่าย เยี่ยคานฮวนก็ยกมือขึ้นโอบไหล่เธอ แต่เขายังไม่ทันได้พูด ก็สัมผัสได้ถึงความเย็นที่แทรกซึมถึงหัวใจ
เฮือก
เยี่ยคานฮวนปล่อยมือลงจากไหล่ของซูหว่านราวกับถูกไฟช็อตทันที จากนั้นก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้มองไปรอบๆ แน่นอนว่า เขาเห็นร่างของซูรุ่ยอยู่ในรถอาวดี้สีดำคันหนึ่งตรงหัวมุมถนน
คุณชายเกากลายเป็นเถ้าแก่ขับอาวดี้ไปแล้ว ส่วนตนยังเป็นครูสอนเด็กประถม ที่วันๆ ต้องลำบากลำบนรับมือเด็กซนกลุ่มใหญ่อยู่เลย
ขณะนี้ ในใจเยี่ยคานฮวนกำลังฝนตก
“นายส่งชิงเหมยกลับไปเถอะ!”
ซูหว่านก็เห็นรถของซูรุ่ยแล้วเช่นกัน จึงไหว้วานเยี่ยคานฮวน แล้วสาวเท้าก้าวไปที่รถของซูรุ่ย
เยี่ยคานฮวน…
เราเป็นคู่แข่งกันนะ! แต่พวกเธอคิดว่าฉันเป็นพี่เลี้ยงอะไรทำนองนี้ มันจะดีเหรอ
แม้ก่นด่าในใจนับไม่ถ้วน แต่พอเห็นนางเอกเดินคิดฟุ้งซ่านเตร็ดเตร่อยู่ด้านหน้า เยี่ยคานฮวนก็ได้แต่ลอบถอนหายใจ…
ซูรุ่ยเลือกอยู่กับภรรยาตามอำเภอใจ กระทั่งภารกิจก็ไม่สนใจแล้ว ถึงฟ้าดินใหญ่เพียงใด ภรรยาก็ใหญ่สุด
ส่วนตนเล่า ถึงฟ้าดินใหญ่เพียงใด ภารกิจก็ใหญ่สุด!
……
รอจนซูหว่านขึ้นรถเรียบร้อย ซูรุ่ยก็สตาร์ตรถทันที
“เป็นไงบ้าง ซูชิงเหมยสารภาพรักหรือเปล่า”
ซูรุ่ยเอ่ยปากถาม เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่สำคัญมากวันหนึ่ง แม้ไม่สามารถตัดสินได้ทันทีว่า ภารกิจจะสำเร็จหรือไม่ แต่วันนี้ การแสดงออกของซูชิงเหมยเกี่ยวข้องกับการวางแผนในอนาคตเป็นอย่างยิ่ง
“เปล่า”
ซูหว่านเอนหลังพิงเบาะรถพลางหัวเราะ “ถ้าเธอสารภาพ อย่างน้อยก็ยังมีโอกาสห้าสิบห้าสิบ กระทั่งมากกว่า ในการตามจีบเซี่ยฉางอัน แต่ความพยายามในหลายปีมานี้ ทำให้เธอลังเลใจในที่สุด”
“หรือเธอลังเลใจแต่แรกแล้ว”
ซูรุ่ยขับรถพลางหัวเราะเบาๆ “ตอนแรกที่คุณจงใจให้คนปล่อยข่าวลือของเธอออกไป อีกทั้งให้ผมใช้เส้นสายย้ายเธอไปโรงเรียนเอกชน คุณรู้อยู่แต่แรกแล้วสินะ ซูชิงเหมยเป็นลูกสาวของหลิวลี่ พวกเขาสองแม่ลูกล้วนเป็นผู้หญิงที่มีอารมณ์ไม่มั่นคง หลิวลี่หน้าตาพื้นๆ แม้อยากมีใจเป็นอื่น ก็ไม่มีคุณสมบัติพอ แต่ซูชิงเหมยหน้าตาสะสวยอยู่เป็นทุนเดิม ต่อให้กลับชาติมาเกิดใหม่ เธอก็ยังคงไม่มีปณิธานยิ่งใหญ่อะไร ในหัวเต็มไปด้วยเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ผู้หญิงแบบนี้ ขอเพียงพบเจอคนที่มีคุณสมบัติดีพอ ก็พร้อมพุ่งเข้าใส่ทันที เมื่อมีเพื่อนร่วมชั้นที่ทั้งอายุน้อย ทั้งหล่อ และรวยมากมาย เธอหันหลับมามองเซี่ยฉางอันอีกครั้ง ย่อมไม่กระตือรือร้นเหมือนเดิมอีก”
พอได้ยินคำพูดของซูรุ่ย ซูหว่านก็หลับตาลงพลางพยักหน้า เนื้อแท้ของคน ยากเปลี่ยนแปลงจริงๆ
ในเมื่อชาติก่อน ซูชิงเหมยทิ้งเซี่ยฉางอันไปหาเกาอวี่ได้ ชาตินี้เธอก็สามารถทิ้งเซี่ยฉางอัน ไปหาจ้าวอวี่ หวังอวี่ได้อีกครั้งเหมือนกัน
พอแผลหาย ก็ลืมความเจ็บปวด นี่คืออาการของคนส่วนใหญ่
หนึ่งปีให้หลัง
ขณะที่เยี่ยคานฮวนกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่กับเซี่ยฉางอัน สัญญาณเตือนว่าภารกิจล้มเหลว ก็ปรากฏขึ้นในหัวเขา
ทำเอาเขาอึ้งไปทั้งร่าง!
เยี่ยคานฮวนรู้สึกเสมอมาว่า การกลับชาติมาเกิดใหม่ของเซี่ยฉางอันคือปัจจัยที่ไม่แน่นอนที่สุดของโลกใบนี้
เพราะต้องการยับยั้งไม่ให้เซี่ยฉางอันมีความรักระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย เยี่ยคานฮวนจึงทำกระทั่ง ลาออกจากงานที่ทำอยู่ เดินทางไปยังเมืองที่เซี่ยฉางอันเรียน เปิดบริษัทขึ้นที่นั่น แล้วใช้ชีวิตให้คุ้มค่า พลางกำกับดูแลเซี่ยฉางอันให้เขา ‘มุ่งเน้นการศึกษา’ ไม่อนุญาตให้มีแฟน
เดิมทีเยี่ยคานฮวนวางแผนเอาไว้เรียบร้อยแล้วว่า รอให้ซูชิงเหมยอายุสิบหก ตนค่อยคิดหาวิธี จัดให้เธอกับเซี่ยฉางอันนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน ภารกิจก็จะสำเร็จในทันที
แต่คิดไม่ถึงว่า แผนการนี้ยังไม่ทันได้ดำเนินการ ภารกิจบ้านี่ ก็ล้มเหลวแล้ว! ไร้เหตุผลสิ้นดี!
ก็ตกลงกันแล้วว่า นางเอกกลับชาติมาเกิดใหม่ จะพันพัวอยู่แต่กับพระเอกที่คู่กันมาแต่เด็กไม่เลิกไง
ก็ตกลงกันแล้วว่า จะเป็นเรื่องราวซาบซึ้งกินใจของนางเอกกลับชาติมาเกิดใหม่ผู้ตามหารักแท้ไง
“อาเล็ก มีอะไรหรือครับ”
พอเห็นเยี่ยคานฮวนถือตะเกียบค้างอยู่อย่างนั้น เซี่ยฉางอันก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงเรียกเขา
พอเยี่ยคานฮวนได้สติ ก็หันมาจ้องมองเซี่ยฉางอันอย่างซึมเซา “ฉางอัน นายบอกฉันมาตามตรง นายรู้สึกยังไงกับซูชิงเหมย”
น้องชิงเหมย?
“ก็ดีนี่ครับ”
เซี่ยฉางอันตอบพลางพยักหน้า ชาติก่อนซูชิงเหมยเป็นคนเอาแต่ใจและไม่ประสา แต่ชาตินี้ เธอคล้ายเปลี่ยนไปไม่น้อย อย่างน้อยก็ประสีประสามากกว่าที่ตนจำได้
“แล้วนายชอบเธอไหม”
ชอบ?
ไม่รู้ทำไม เซี่ยฉางอันพลันนึกถึงสาวน้อยที่กล้าสารภาพรักตนคนนั้น นาทีนั้น ใช่ความชอบหรือเปล่า
ทว่า นั่นเป็นเรื่องเมื่อชาติที่แล้วไม่ใช่เหรอ
พอเห็นเซี่ยฉางอันไม่พูด เยี่ยคานฮวนก็ถอนหายใจออกมาเอง
ภารกิจล้มเหลวแล้ว คุณว่าเขายังจะอยู่ที่นี่ยุ่งเกี่ยวกับอะไรอีก ต่อให้เซี่ยฉางอันชอบซูชิงเหมย แล้วไง ให้ตายสิ ชาตินี้ซูชิงเหมยเปลี่ยนใจอีกจนได้!
ผู้หญิงที่กลับชาติมาเกิดใหม่ ล้วนพึ่งพาไม่ได้จริงๆ
ขณะเดียวกัน เมืองซี
ซูชิงเหมยกำลังเดินจูงมือกับหนุ่มน้อยผู้หล่อเหลาคนหนึ่งบนท้องถนน คล้ายฉากในนิยายรักโรแมนติกนับไม่ถ้วน ที่สาวน้อยกับหนุ่มน้อยเดินทอดน่องจูงมือกันบนถนนที่เงียบสงบ แล้วด้านหลังของทั้งสองก็มีรถหรูแล่นตามอยู่เงียบๆ
ตอนนี้หัวใจของซูชิงเหมยมีแต่ความหวานชื่น หนุ่มน้อยเป็นลูกชายข้าราชการระดับสูงท่านหนึ่งในเมืองซี เขาตามจีบตนอย่างต่อเนื่องมาหนึ่งปี แม้ตนพูดกับเขาอย่างเย็นชา แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้
ค่อยเป็นค่อยไป ซูชิงเหมยยังคงหวั่นไหวต่อการจู่โจมอันทรงพลังของเขา
ส่วนซูหว่านกับซูรุ่ยก็ได้เปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อหน้าคนสกุลซู
แม้แรกเริ่มซูกั๋วเลี่ยงเห็นแย้งอยู่บ้าง แต่ภายใต้คำรับรองที่ย้ำซ้ำของซูรุ่ย รวมทั้งได้เห็นเกรดอันยอดเยี่ยมเหมือนเช่นเคยของซูหว่าน ซูกั๋วเลี่ยงจึงยอมรับความสัมพันธ์ของทั้งสองไปโดยปริยาย
ส่วนความคิดความอ่านของหลิวลี่ไม่เหมือนกับซูกั๋วเลี่ยง เธอเห็นกับตาว่าซูรุ่ยเปิดบริษัทและมีรถยนต์ขับ จึงชอบมากแต่แรกแล้ว ตอนนี้ในเขตเล็กๆ มีใครไม่รู้บ้างว่า ลูกเขยในอนาคตของเธอเป็นเถ้าแก่
เมื่อเทียบกันแล้ว ยิ่งมาหลิวลี่ก็ยิ่งรู้สึกว่าซูหว่านก้าวหน้ากว่าลูกสาวในใส้ของตนเสียอีก
คุณชายเหยียนเค้าตามจีบถึงบ้านนับครั้งไม่ถ้วน แถมยังส่งเครื่องสำอางกับอาหารเสริมระดับพรีเมี่ยมมาให้ แต่ลูกสาวที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ของตน กระทั่งเพื่อนก็ยังไม่ยอมเป็นกับเค้า
แม้อายุยังน้อย การมีแฟนเป็นเรื่องเร็วเกินไป แต่ผู้ชายดีๆ ต้องไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆ สิ!
ขอเพียงอยู่ในขอบเขต หลิวลี่ยังคงเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่ลูกสาวของตนจะคบกับคุณชายเหล่านั้น
ตอนที่ทั้งสองเพิ่งคบกัน ก็ตัวติดกันอย่างกับตังเม เนื่องจากบิดาของเหยียนหมิงมีตำแหน่งสูงกว่าเกาเจี้ยน ซูชิงเหมยจึงรู้สึกว่า ในที่สุดตนก็ได้เลิกคิ้วอย่างสะใจต่อหน้าซูหว่านเสียที
เสียดาย ช่วงเวลาดีๆ มีได้ไม่นาน หลังจากทั้งสองคบหาดูใจกันครึ่งปี วัยรุ่นใจร้อนอย่างเหยียนหมิงก็ไม่คิดสำรวมต่อ เขาอยากสัมผัสแนบชิดกับซูชิงเหมยอีกหน่อย ซึ่งซูชิงเหมยที่ได้รับความเจ็บปวดจากชาติที่แล้วย่อมต่อต้านเรื่องทำนองนี้ สุดท้ายทั้งสองจึงเลิกรากันไปแบบจบไม่สวย
จากนั้นไม่นาน เหยียนหมิงก็ควงสาวคนใหม่ และยังเที่ยวพูดไปทั่วโรงเรียนว่า ตนเคยขึ้นเตียงกับซูชิงเหมยมาแล้ว และเธอก็เป็นของมือสองที่เขาไม่ต้องการ!
ตอนที่รู้ว่าตนเอง ‘ถูก’ บอกเลิกนั้น ซูชิงเหมยก็เคียดแค้นมากโขอยู่แล้ว พอได้ยินคำพูดให้ร้ายตนเองของเหยียนหมิงเข้าไปอีก จึงคลั่งทันที เธอบุกเข้าไปโต้เถียงกับเหยียนหมิงในชั้นเรียนของเขา แต่เหยียนหมิงมีอิทธิพลล้นหลามในโรงเรียน ซูชิงเหมยแค่คนเดียวย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
ขณะที่เธอคิดว่า ตนเองคงต้องลาออกจากโรงเรียนภายใต้สายตาดูแคลนของผู้คนเหมือนชาติที่แล้วอีก จู่ๆ เหยียนหมิงกลับบาดเจ็บจนถึงกับต้องลาออกจากโรงเรียน ไม่เพียงเท่านี้ เขายังลากสังขารไปที่บ้านสกุลซู พูดขอโทษ ยอมรับผิดกับซูชิงเหมยด้วยตนเองอีก ส่งผลให้ความคิดเห็นสาธารณะของทุกคนที่มีต่อเรื่องเกี่ยวกับเหยียนหมิงและซูชิงเหมยในโรงเรียน เปลี่ยนทิศทางไปในพริบตา
จวบจนเหยียนหมิงและครอบครัวออกจากเมืองซีไป ซูชิงเหมยถึงได้รู้ว่า ผู้ที่จัดการเรื่องนี้ให้ตนอยู่เบื้องหลัง กลับเป็นเกาอวี่ ผู้ที่ตนกลัวและพยายามหลีกหนีมาโดยตลอด!
“ทำไมคุณถึงช่วยฉัน”
พอล่วงรู้ความจริง ซูชิงเหมยก็ไปหาซูรุ่ยด้วยความรู้สึกสับสน
“ฉันไม่ได้ช่วยเธอ ฉันเพียงแค่ไม่อยากเห็นคนเลว”
ซูรุ่ยจ้องมองซูชิงเหมยอย่างเรียบเฉย “แน่นอน เธอเป็นน้องสาวของซูหว่าน ต่อไปก็เป็นน้องสาวของฉันด้วย เธอจะถือว่าฉันกำลังช่วยเธอก็ได้”
ซูหว่าน
เพราะพี่สาวอีกแล้วหรือ
ซูชิงเหมยในตอนนี้พลันนึกถึงชาติที่แล้ว ตอนที่ตนนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย…
ทำไมต้องช่วยฉันด้วย
เธอก็ถามเซี่ยฉางอันแบบนี้เหมือนกัน
ตอนนั้นเซี่ยฉางอันตอบว่าไงนะ
‘คุณเป็นน้องสาวของเสี่ยวหว่าน ซึ่งก็เป็นน้องสาวของผมเหมือนกัน ผมก็ต้องช่วยคุณอยู่แล้วนี่!’
ตอนนั้นเซี่ยฉางอันได้พูดอย่างชัดเจนแล้ว ว่าเขาก็ทำเพื่อพี่สาวเหมือนกัน
หึๆ น่าขันมากใช่ไหม
นาทีนี้ ซูชิงเหมยตระหนักถึงความจริงในที่สุด
ไม่ว่าชาติก่อนหรือชาตินี้ เธอล้วนเป็นผู้แพ้
สวรรค์ให้โอกาสเธอกลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้ง เธอคือผู้โชคดีในบรรดาคนนับหมื่นนับพันแล้ว แต่เธอกลับยังคงทำผิดซ้ำซาก
เป็นเพราะตนเจอแต่คนไม่ดีมาตลอด หรือเป็นเพราะตนมีตาหามีแววไม่?
เส้นทางชีวิตของซูชิงเหมยยังอีกยาวไกล แล้วหนทางในวันข้างหน้า เธอควรเดินอย่างไร
สิ่งเหล่านี้ ซูหว่านกับซูรุ่ยล้วนไม่รู้ และไม่คิดจะสนใจ พวกเขาทำภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว เริ่มรามือออกจากโลกใบนี้แล้ว…
เส้นทางชีวิตของแต่ละคนล้วนต้องเลือกเดินด้วยตนเอง ไม่มีใครช่วยคุณได้ แม้แต่ตัวคุณเองในชาติที่แล้ว ก็ช่วยไม่ได้เช่นกัน