ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 2 เหมยเขียวครองคู่ม้าไม้ไผ่ (2)
รถบรรทุกเก่าๆ สีน้ำเงินคันหนึ่ง บรรทุกเครื่องเรือนเต็มคันรถมาจอดอยู่หน้าประตูข้างบ้าน
หญิงสาวแต่งตัวดีคนหนึ่งก้าวลงจากรถก่อน จากนั้นเด็กผู้ชายอายุราวแปดก้าวขวบก็กระโดดตามเธอลงมา เด็กชายหน้าตาดี ดวงตาเป็นประกาย
พริบตาที่เห็นเด็กชาย ซูชิงเหมยก็หายใจถี่ขึ้นทันที…
เซี่ยฉางอัน
เซี่ยฉางอันในตอนนี้เพิ่งอายุได้สิบขวบ รูปร่างผอมกว่าเด็กทั่วไปอยู่บ้าง แต่จากคิ้วและตาของเขาก็พอจะฉายแววของหนุ่มหล่อในอีกหลายปีข้างหน้าแล้ว
เมื่อรู้สึกถึงฝ่ามือของซูชิงเหมยเต็มไปด้วยเหงื่อ ซูหว่านก็กระพริบตา ก่อนเอ่ยปากเสียงใส
“น้องพี่ ดูตรงนั้นสิ มีคนกำลังย้ายบ้านเข้ามา เรามีเพื่อนบ้านใหม่อีกแล้ว!”
“จริงด้วย”
พอได้ยินคำพูดของซูหว่าน ซูชิงเหมยก็กระพริบดวงตากลมโต แล้วรีบผละออกจากมือน้อยๆ ของซูหว่าน
“พี่ ฉันไปดูหน่อยนะ!” ว่าแล้วซูชิงเหมยก็รีบบึ่งไป พลางนึกถึงหน้าประตูบ้านของเซี่ยฉางอัน
ขณะมองดูร่างน้อยๆ ค่อยๆ ไกลออกไป แววตาของซูหว่านก็ลึกล้ำขึ้นเรื่อยๆ …
ชาติก่อน ซูชิงเหมยหลงรักชื่อเสียงจอมปลอม จึงทิ้งผู้ชายที่แสนดีอย่างเซี่ยฉางอันไป ต่อมา หลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย แม่ก็จัดการให้เซี่ยฉางอันได้แต่งงานกับซูหว่าน สองสามีภรรยาช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามทุกข์ยากหลายครั้ง จึงรักกันมาก
เซี่ยฉางอันยังนึกถึงความกล้าหาญของสาวน้อยซูชิงเหมยในตอนนั้น ที่บอกกับเขาว่า “ฉันชอบนาย” แต่ก็น่าเสียดาย มันผ่านไปแล้ว
ไม่มีใครหยุดอยู่กับที่ได้ตลอด ขณะที่คุณเดินไปข้างหน้านั้น ผู้อื่นก็เดินอยู่บนเส้นทางแห่งชีวิตเช่นเดียวกัน เหตุผลที่คุณมองไม่เห็นเขา อาจเป็นเพราะถนนที่เขากำลังเดินไปเป็นถนนคนละสายกับคุณก็เท่านั้น
อันที่จริงแล้วตอนที่ซูชิงเหมยถูกเกาอวี่ทิ้งนั้น ซูหว่านกับเซี่ยฉางอันก็มีลูกด้วยกันแล้ว
เมื่อเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้นกับซูชิงเหมย เซี่ยฉางอันสงสารเธอ ขณะเดียวกันก็ไม่อยากให้ทางบ้านรู้เรื่องราวเหล่านี้ โดยเฉพาะภรรยาตนเอง ซูหว่าน เนื้อแท้เธอเป็นคนอ่อนแอ สุขภาพก็ไม่ดี ทั้งยังตั้งท้องอีก ถ้าถูกเรื่องเหล่านี้กระตุ้นความรู้สึกเข้า ก็คงไม่ดีนัก
ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง เซี่ยฉางอันจึงแบกรับเรื่องนี้ไว้เพียงลำพัง เขาวิ่งวุ่นไปทั่วเพื่อซูชิงเหมย โดยนึกไม่ถึงว่า เรื่องที่เขาทำเหล่านี้จะทำให้ซูชิงเหมยเข้าใจผิด คิดว่าเซี่ยฉางอันยังคงรักเธออย่างสุดซึ้งอยู่…
หลังจากที่ซูชิงเหมยกลับชาติมาเกิดใหม่ เธอจึงเริ่มตีสนิทกับเซี่ยฉางอันทั้งแบบจงใจและไม่จงใจ โดยรับบทสาวน้อยไร้เดียงสาต่อหน้าเขา
อย่างที่ว่า คู่กันแต่เด็กแล้วย่อมไม่แคล้วกัน เมื่อมีการดำรงอยู่ของซูชิงเหมย ความรู้สึกถึงการดำรงอยู่ของซูหว่านก็กลายเป็นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
ดังนั้นในโลกใบนี้ ร่างเดิมของซูหว่านก็ต้องออกรบในสนามที่ไร้ความเป็นธรรม
เดิมทีเธอกับเซี่ยฉางอันเป็นเนื้อคู่ที่ฟ้าดินกำหนดมา ทว่าในโลกใบนี้ เนื่องจากการกลับชาติมาเกิดใหม่ของซูชิงเหมย ทำให้เธอได้แต่แอบชอบเซี่ยฉางอัน มองดูเซี่ยฉางอันเอ็นดูซูชิงเหมยมากขึ้นเรื่อยๆ มองดูพวกเขารักกันไม่จืดจาง…
ผู้ที่ไม่รู้ความจริงย่อมมีความสุขเสมอ
ร่างเดิมที่ต้องออกรบในสนามรบที่ไร้ความเป็นธรรม ไม่รู้เรื่องราวของชาติที่แล้ว จึงรู้สึกซาบซึ้งใจในสิ่งที่ซูชิงเหมยทำมาตลอด เป็นเพราะซูชิงเหมยในชาตินี้รู้สึกละอายใจต่อซูหว่าน จึงมักจะพูดถึงเธอในทางที่ดีต่อหน้าหลิวลี่ ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องในโลกใบนี้จึงดีเอามากๆ
หลังจากซูชิงเหมยได้อยู่กับเซี่ยฉางอัน เธอก็ช่วยหาผู้ชายที่ดูดีให้ซูหว่านคนหนึ่ง เมื่อได้เห็นซูหว่านแต่งงาน จิตใจของซูชิงเหมยถึงได้สงบลงอย่างแท้จริง…
ใครก็ตามที่ได้อยู่กับซูหว่าน ก็ล้วนมีความสุข เพราะเธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กจิตใจดี
อีกอย่าง ชาติที่แล้ว เซี่ยฉางอันก็ไม่ได้รักซูหว่าน มิใช่หรือ
ซูชิงเหมยเชื่อมั่นเสมอมาว่า เซี่ยฉางอันรักเธอ เขารักเธอมาตลอด เช่นนั้นแล้ว ต่อให้ชาตินี้เธอไม่เข้ามาแทรกกลางระหว่างเขากับซูหว่าน ชีวิตคู่ของทั้งสองก็ต้องจบลงด้วยความเศร้าอยู่ดี ได้กลับชาติมาเกิดใหม่ทั้งที โศกนาฏกรรมเช่นนี้ เธอต้องยับยั้งให้ได้
ซูชิงเหมยเชื่อว่า ที่สวรรค์ให้เธอกลับชาติมาเกิดใหม่ในครั้งนี้ เพราะต้องการให้เธอยับยั้งการเกิดวงจรอุบาทว์…
ซูหว่านเก็บความคิดที่ซับซ้อนของตนเองลง พอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ก็เห็นซูชิงเหมยวิ่งหอบแฮ่กๆ ไปอยู่ตรงหน้าเซี่ยฉางอัน
เธอกระพริบดวงตาใสกระจ่างที่ทำให้คนหลงใหล พลางจ้องมองเซี่ยฉางอันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม น้ำเสียงก็นุ่มนวลไพเราะ
“พี่ชาย พี่ชาย พี่เป็นเพื่อนบ้านใหม่ของเราใช่มั้ยคะ ฉันชื่อซูชิงเหมยนะ พี่ชื่ออะไรคะ”
พอเห็นสาวน้อยน่ารักตรงหน้ามาเรียกตนว่าพี่ชาย เซี่ยฉางอันก็ยิ้มบางๆ ให้ ก่อนยกมือขึ้นลูบหัวซูชิงเหมยเบาๆ “ฉันชื่อเซี่ยฉางอัน เธอเรียกฉันว่าพี่ฉางอันก็ได้”
ว่าแล้วเซี่ยฉางอันก็หันไปมองซูหว่านที่กำลังมองดูทั้งสองคนอยู่เงียบๆ ในระยะที่ไม่ไกลกันนัก
ตอนนี้อากาศเย็นลงแล้ว แต่ซูหว่านยังคงสวมเสื้อผ้าที่บางเบาอยู่
เธอที่มีรูปร่างผอมบาง ยืนอยู่ท่ามกลางลมหนาว มองมาทางพวกเขาอย่างเย็นชา ดวงตาคู่นั้นไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ ไม่มีใครดูออกว่า เธอกำลังคิดอะไรอยู่
“ชิงเหมย นั่นพี่สาวของเธอหรือ”
เซี่ยฉางอันยกมือชี้ไปที่ซูหว่านท่ามกลางลมหนาว
“อึ้ม ใช่ค่ะ”
ซูชิงเหมยอึ้ง แต่ก็รีบตอบอีกประโยค “พี่เขากลัวคนแปลกหน้ามากน่ะ”
“หรอ?”
พอได้ยินคำพูดของซูชิงเหมย เซี่ยฉางอันก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วโบกมือทักทายซูหว่าน
“นี่! สวัสดี! ต่อไปเราเป็นเพื่อนบ้านกันแล้วนะ! ฉันชื่อเซี่ยฉางอัน เธอล่ะ”
“ซูหว่าน”
ซูหว่านยืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับ พลางตอบเซี่ยฉางอันเรียบๆ ไปสองคำ
ซูหว่าน
เซี่ยฉางอันหลุบตาลง แล้วยิ้มน้อยๆ ขณะมองซูชิงเหมยที่อยู่ข้างกาย
“พี่สาวเธอไม่ค่อยพูดจริงด้วย”
“อืม”
พอซูชิงเหมยได้ยินคำพูดของเซี่ยฉางอัน ก็กลอกตาไปอีกทาง
“พี่ฉางอัน ฉันช่วยพี่ย้ายบ้านดีกว่า ฉันแรงเยอะนะ!”
ว่าแล้วเธอก็วิ่งไปข้างรถบรรทุก เขย่งเท้าหวังจะหยิบของบนรถลงมา แม่ของเซี่ยฉางอันที่อยู่อีกด้าน เลี่ยวอวี้ฉิน รู้สึกขบขันในท่าทางของซูชิงเหมย จึงเอ่ยว่า
“เด็กน้อยที่แสนดี เธอหยิบไม่ถึงหรอก มา น้าให้ลูกกวาด แล้วเธอกับพี่ฉางอันไปเล่นกันตรงนั้นนะ!”
เมื่อเห็นเลี่ยวอวี้ฉินยิ้มตาหยีและมอบลูกกวาดเม็ดหนึ่งให้เธอ ซูชิงเหมยก็รีบขอบคุณเสียงหวาน
“ขอบคุณค่ะคุณน้าคนสวย!”
คนสวย?
พอได้ยินคำพูดนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเลี่ยวอวี้ฉินก็กว้างขึ้น
ในตอนนี้ ซูชิงเหมยรู้สึกสุขใจมาก เมื่อชาติที่แล้ว เลี่ยวอวี้ฉินชอบซูหว่านมาตลอด ไม่ชอบซูชิงเหมย ตอนที่ซูชิงเหมยกับเซี่ยฉางอันแอบคบกันนั้น เธอก็รู้ว่าเลี่ยวอวี้ฉินไม่ชอบเธอ
ชาตินี้ ซูชิงเหมยจึงตัดสินใจใช้ข้อได้เปรียบจากอายุของตนเองในปัจจุบันเอาชนะใจเลี่ยวอวี้ฉินแม่สามีในอนาคตผู้นี้ให้ได้ก่อน
“พี่ฉางอัน เราไปเล่นกันตรงนั้นเถอะ!”
ว่าแล้วซูชิงเหมยก็เอื้อมมือเล็กๆ นุ่มๆ ของเธอ ไปจับมือของเซี่ยฉางอัน
เซี่ยฉางอันชะงักไปเล็กน้อย ก่อนปล่อยให้ซูชิงเหมยลากตนเองวิ่งกลับไปยืนตรงหน้าซูหว่าน
“พี่ๆ ๆ นี่คือพี่ฉางอัน!”
“พี่รู้แล้ว”
ซูหว่านตอบอย่างเย็นชา เธอไม่ใช่คนหูหนวก เมื่อครู่เซี่ยฉางอันได้ประกาศชื่อแซ่แล้ว และเธอก็ได้ยินชัดแจ๋ว
พอเหลือบไปเห็นดวงตาใสๆ ทว่าเย็นชาของซูหว่าน เซี่ยฉางอันก็ยิ้มสดใส
“ที่นี่ลมแรง ฉันพาพวกเธอไปเล่นในบ้านดีมั้ย”
“ดีค่ะ ดีค่ะ!”
พอได้ยินคำพูดของเซี่ยฉางอัน ซูชิงเหมยที่อยู่อีกด้านก็รีบตบมือเห็นด้วยทันที ทว่าซูหว่านกลับยักไหล่
“พวกเธอไปเล่นเถอะ ฉันต้องกลับไปทำการบ้านที่บ้านน่ะ!”
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ซึ่งโรงเรียนจะหยุดสลับกัน สัปดาห์หนึ่งหยุดหนึ่งวัน สลับกับอีกสัปดาห์หนึ่งหยุดสองวัน โดยสัปดาห์นี้มีวันหยุดแค่วันเดียว เมื่อคืนซูหว่านช่วยหลิวลี่ทำงานบ้าน จึงยังทำการบ้านไม่เสร็จ