ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 6 ปีศาจห้วงลึก (6)
พอได้ยินคำถามของติงจยาจยา เบลเลียที่อยู่อีกด้านก็คล้ายลืมไปว่าตนเองในตอนนี้เละเทะไปทั้งตัว จึงเงยหน้าขึ้นอย่างสง่างาม และตอบอย่างภาคภูมิใจ “ข้าน้อยเบลเลีย ทายาทลำดับที่สามแห่งตระกูลฟิตต์รุ่นที่สิบ!”
ทายาทตระกูลฟิตต์
อ้อ ใช่ตระกูลใหญ่จอมวายร้ายที่ถูกส่งไปรบในสงครามที่ไม่เป็นธรรมหรือเปล่านะ
ติงจยาจยาจ้องมองเบลเลีย ตาสวยกะพริบ…นางจำไม่ได้แล้วว่าตระกูลฟิตต์มีตัวเอกเช่นนี้ด้วยหรือ
หรือว่า…
ติงจยาจยากะพริบตา ยิ้มน้อยๆ ให้เบลเลียพลางพยักหน้า “สวัสดี! ข้าคือเชอร์ลีย์”
ว่าแล้วนางก็หันกายไปโบกมือให้กับผู้ที่อยู่ด้านหลัง “ที่รัก ลงมาเร็ว!”
พอได้ยินติงจยาจยาเรียก ผู้ชายที่นั่งอยู่บนบ่าของราชันย์ซากศพนรกค่อยวาบร่าง กระโดดตัวเบาลงมาอย่างสบายๆ
สายลมอ่อนๆ พัดหมวกสีดำบนศีรษะของเขาออก เผยให้เห็นผมดำยาวสลวย ดวงตาดำขลับ และขณะมองตาติงจยาจยา ดวงตาของชายรูปงามไร้ที่ติผู้นี้ก็เต็มไปด้วยความอ่อนโยน
โอ้ ติงจยาจยาสายตาไม่เลวทีเดียว
ขณะมองดูใบหน้าอันหล่อเหลาดุจรูปสลักอันประณีต ซูหว่านก็ลูบคางไปมาอย่างอดไม่ได้
“อะแฮ่ม”
ซูรุ่ยที่อยู่อีกด้านรีบใช้แรงกระแอมไอออกมาสองที แล้วในหัวของซูหว่านก็มีเสียงของซูรุ่ยดังขึ้น “ภรรยา หล่อไหม เขาหล่อ หรือผมหล่อ”
ซูหว่าน…
“แน่นอน…คุณหล่อ”
ซูหว่านต้องรีบตอบ
จริงๆ แล้วเธออยากจะบอกว่าทั้งสองคนเทียบกันไม่ได้ต่างหาก ไม่ว่าชายอื่นจะหน้าตาดีขนาดไหน ก็ไม่มีทางเทียบได้กับแม่ทัพซูของเธอ
ซึ่งคำพูดนี้ซูหว่านไม่บอกซูรุ่ยแน่ หาไม่แล้ว ใครบางคนจะยกหางตัวเองขึ้นสูงเทียมฟ้าเลย
“ซู”
ติงจยาจยาแย้มยิ้มพลางจับมือซูหว่าน ก่อนลากนางมายืนตรงหน้าชายชุดดำ “นี่แฟรงค์ เขาเป็นนักเวทวิญญาณขั้นศักดิ์สิทธิ์ท่านหนึ่ง!”
ขั้นศักดิ์สิทธิ์?
พอได้ยินคำพูดของติงจยาจยา ซูหว่านก็พยักหน้าให้แฟรงค์
ผู้ที่มีออร่าของตัวเอกถือว่าขี้โกง! นึกไม่ถึงว่านักเวทวิญญาณขั้นศักดิ์สิทธิ์…ให้ตายสิ สามารถใช้ออร่าสังหารคนกลุ่มใหญ่ในหนึ่งวิได้เลยนะเนี่ย
ต่อให้อัสโน พระเอกคนเดิมของโลกใบนี้ มายืนอยู่ตรงหน้า ก็ต้องถูกเขาข่มจนกลายเป็นคนไร้ค่าในทันที!
แล้ว…
พระเอกผู้ทรงพลังเช่นนี้ กลับถูกผู้คุมกฎแห่งห้วงกาลอวกาศไล่ล่าจนต้องหลบหนี ผู้คุมกฎนั่นต้องแข็งแกร่งขนาดไหน ไม่กล้าคิดเลยจริงๆ
“เอาล่ะ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่อยู่ได้นาน”
พอติงจยาจยาแนะนำกลุ่มคนเสร็จ แฟรงค์ก็รีบกระซิบบอก จากนั้นเขาก็เป่าปากหนึ่งที ราชันย์ซากศพนรกที่อยู่อีกด้านพลันก้มร่างอันน่าเกลียดและสูงใหญ่ของตนลง
“ขึ้นไปทั้งหมดก็แล้วกัน ข้าจะพาพวกเจ้าไปยังฐานที่มั่นของเรา”
ว่าแล้วแฟรงค์ก็อุ้มติงจยาจยากระโดดขึ้นไป ซูรุ่ยที่อยู่อีกด้านไม่รอช้า ใช้มือข้างหนึ่งโอบเอวซูหว่าน แล้วทั้งสองก็เหาะขึ้นไปนั่งด้วยกัน
เหลือแต่เบลเลียที่แสดงท่าทีรังเกียจ ยืนอยู่ที่เดิม
หมอนี่น่าเกลียดเกินไป!
น่าเกลียดเกินไป!
คุณชายอย่างข้าไม่นั่ง! ไม่ นั่ง เด็ด ขาด!
“เจ้าไม่ขึ้นมาหรือ”
ติงจยาจยาบนบ่าของราชันย์ซากศพนรกยิ้มน้อยๆ ขณะจ้องมองเบลเลียที่อยู่บนพื้น “เจ้าไม่ขึ้นมาจริงๆ หรือ”
ว่าแล้วติงจยาจยาก็กระซิบข้างหูแฟรงค์ไปประโยคหนึ่ง
“ข้าไม่…”
เบลเลียที่อยู่บนพื้นอ้าปากพูดยังไม่ทันจบ ราชันย์ซากศพนรกที่อยู่อีกด้านพลันยกเท้าอันใหญ่โตของตนเองขึ้น ย่ำไปที่ร่างของเบลเลีย
ฉิบหาย!
เบลเลียรีบวาบหลบอย่างรวดเร็ว ก่อนจ้องมองติงจยาจยาอย่างเย็นชา “หญิงอัปลักษณ์ เจ้าทำอะไรน่ะ”
หญิงอัปลักษณ์?
ติงจยาจยาแอบกัดฟัน แต่ใบหน้ากลับมีรอยยิ้มน้อยๆ “โทษที เจ้าตัวเล็กลื่นน่ะ”
ลื่นน้องสาวเจ้าสิ!
เบลเลียจ้องมองพื้นที่รกร้างโดยรอบตาเขม็ง ก่อนก้มลงมองชุดนักเวทที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อนของตนเอง
สุดท้ายยังคงยกมือขึ้น หยิบยันต์วายุจากแหวนช่องมิติออกมา “พวกเจ้านำทาง ข้าตามไปได้!”
ติงจยาจยา…
ทำเป็นเก่งอะไรกันนักหนา! ชายตุ้งติ้ง! เฮอะ!
“ที่รัก เราไปกันเถอะ!”
ติงจยาจยากระซิบบอกแฟรงค์อีกครั้ง แล้วราชันย์ซากศพนรกก็รีบยกเท้าขึ้น ก้าวยาวๆ ออกจากป่าไป
ตลอดทางที่ผ่าน เต็มไปด้วยกระดูกขาวโพลน
ป่าแห่งวิญญาณ คือสวนสนุกของคนตาย ถ้าคนตายไม่มีความหวาดกลัวในตัวราชันย์ซากศพนรก เกรงว่าพวกเขาคงถูกวิญญาณเดนตายและซอมบี้กลุ่มใหญ่ล้อมไว้แต่แรกแล้ว
กลุ่มคนเดินทางราวชั่วโมงกว่าๆ ในที่สุดก็มาถึงแหล่งรวมชนเผ่าปีศาจแห่งหนึ่ง ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งที่ล่มสลายแล้ว กระทั่งประตูเมืองดีๆ สักบานก็ไม่มี พอเข้าประตูเมืองมาก็เห็นชนเผ่าอเวจีมากมาย เดินไปมากันขวักไขว่
บนพื้นถนนใหญ่ เต็มไปด้วยโลหิต
ชนเผ่าปีศาจบางตนต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงเหยื่อ บางตนแย่งชิงผู้หญิง กระทั่งบนถนนใหญ่ยังมีปีศาจนรกสองสามตนกำลังฟีเจอริ่งกับนางปีศาจอเวจีสองสามตนอย่างเปิดเผย
นี่ ก็คือห้วงลึกชั้นลึก
ที่นี่ไม่มีกฎระเบียบ ที่นี่ทุกอย่างนับถือกันที่ความแข็งแกร่ง
ที่นี่ไม่มีคุณธรรม ไม่มีศีลธรรม มีเพียงการเข่นฆ่าไร้ที่สิ้นสุด
ราชันย์ซากศพนรกเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของแฟรงค์ เขาเป็นผู้แข็งแกร่งสุดในฐานที่มั่นนี้ ผู้ที่อยู่บนท้องถนน พอเห็นร่างของราชันย์ซากศพนรก ล้วนต้องหลีกทางให้ตามจิตใต้สำนึก ผู้ที่เพิ่งสังหารคนมา ก็ต้องรีบเก็บอาวุธสังหารขึ้น แล้วลากศพออกไปให้ไกลๆ โดยปริยาย
เมื่อเห็นถนนโกลาหลเส้นนี้ สีหน้าของซูรุ่ยไม่เปลี่ยน แต่ภายในใจกลับสื่อสารกับซูหว่านตลอด “ภรรยา ต่อไปอย่ารับงานแบบนี้อีกได้ไหม เห็นแล้วสะอิดสะเอียนจริงๆ”
“อันที่จริงฉันก็ไม่อยาก”
ซูหว่านก็กลุ้มใจมากเช่นกัน ตอนที่เยี่ยซินเอ่ยปาก เธอไม่รู้ว่าว่าติงจยาจยาจะเข้ามาในโลกภารกิจแบบนี้
อีกอย่าง นางปีศาจอเวจีอะไรนี่ ว่ากันว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่ชอบความสัมพันธ์แบบคลุมเครือเป็นที่สุด แค่คิดก็รู้สึกเมามายแล้ว
……
กลุ่มคนมาถึงที่พักของติงจยาจยากับแฟรงค์ได้อย่างราบรื่นไร้อุปสรรคกีดขวาง ซึ่งที่พักของทั้งสองกลับไม่เลวทีเดียว
เมื่อเบลเลียก้าวเข้าประตูมา ก็หาที่อาบน้ำก่อน ส่วนติงจยาจยากลับพาซูรุ่ยกับซูหว่านเข้าไปในห้องนอนตนเอง ทันทีที่เข้าห้อง แฟรงค์ก็โบกมือสร้างฉากกั้นเวท
“ซูหว่าน ซูรุ่ย แฟรงค์รู้สถานะของฉันแล้ว”
พอติงจยาจยาเอ่ยปาก ก็เรียกชื่อซูหว่านกับซูรุ่ยเลย เมื่อได้ยินคำพูดของติงจยาจยา ซูหว่านกับซูรุ่ยกลับไม่แปลกใจเท่าไหร่
ซูหว่านยังคงไม่พูดไม่จา แต่ซูรุ่ยกลับจ้องมองแฟรงค์อย่างเย็นชา
“เล่าเรื่องของเจ้าให้ฟังหน่อยได้ไหม”
“เรื่องของข้า?”
แฟรงค์เหลือบมองซูรุ่ย ก่อนพูดเรียบๆ “ข้ามาจากแผ่นดินใหญ่มอนเต เนื่องจากข้าเป็นนักเวทวิญญาณ จึงถูกคนของศาลศักดิ์สิทธิ์ตามกฎหมายไล่ล่ามาตลอด ต่อมาคนของโบสถ์มืดเจอตัวข้าเข้า ก็บอกว่าข้าเป็นบุตรแห่งความมืด พวกเขาให้ปัจจัยในการฝึกฝนกับข้า ให้ข้าฝึกไปเรื่อยๆ รอจนข้าฝึกถึงคอขวด พวกเขาก็ส่งข้าไปทดสอบที่แดนลี้ลับ พอข้าบรรลุขั้นศักดิ์สิทธิ์ ห้วงเวลาและมิติในแดนลี้ลับก็เผอิญเกิดความปั่นป่วน แล้วข้าก็มาถึงนรกอเวจีตามกระแสหมุนวนของห้วงมิติ ได้เจอกับติงจยาจยา”
“อืม”
พอได้ยินคำพูดของแฟรงค์ ติงจยาจยาก็พยักหน้า “ฉันเข้ามาในโลกภารกิจได้ไม่นาน ก็เจอกับแฟรงค์แล้ว จากนั้น…อะแฮ่ม เราสองคนก็ชอบพอกัน คนรักกันย่อมต้องแต่งงานกัน เดิมทีฉันตัดสินใจพาเขาไปกำจัดอัสโนกับลิลลิก้าคนเลวนั่น ใครจะรู้ว่าระหว่างทาง เราก็เจอกับผู้คุมกฎแห่งห้วงกาลอวกาศที่น่าหมั่นไส้นั่นแล้ว!”
“ผู้คุมกฎแห่งห้วงกาลอวกาศ? พวกเธอเคยประมือกับเขาตรงๆ หรือเปล่า พลังของเขาเป็นยังไงบ้าง พวกเธอหนีรอดมาได้อย่างไร”
สิ่งที่ซูรุ่ยกังวลมากที่สุด ยังคงเป็นเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับผู้คุมกฎแห่งห้วงกาลอวกาศ เขาไม่มีทางปล่อยให้อันตรายที่ไม่รู้จักเช่นนี้ มาคุกคามความปลอดภัยของเขากับซูหว่าน