ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 9 ปีศาจห้วงลึก (9)
การมาถึงของคนทั้งสี่ทำให้ผู้คนแตกตื่นกันยกใหญ่ โดยเฉพาะราชันย์ซากศพนรกของแฟรงค์ตนนั้น ที่หลายคนมองอย่างหวาดกลัว
ตอนนี้แฟรงค์ยังคงสวมชุดฮู้ดสีดำสนิท ซึ่งเข้ากับใบหน้าอันหล่อเหลาเย็นชาของเขา ดูๆ ไปก็เหมือนรูปสลักเทพบุตรอยู่บ้างจริงๆ
ทว่า ซูหว่านกับซูรุ่ยเห็นธาตุแท้ผู้ชายธรรมดาๆ ของเขาอย่างทะลุปรุโปร่งแต่แรกแล้ว
แฟรงค์ คือแบบฉบับของพระเอกที่เรียบร้อยและได้มาตรฐานรูปแบบหนึ่ง!
ใบหน้าพอได้ มีชะตาขบถ มีสาวใส่พานมาให้ มีผู้ติดตามหรือสัตว์เลี้ยงที่ทั้งแปลกทั้งแข็งแกร่งหลายชนิด
ให้ตายเถอะ ตัวเอกแบบนี้ ไม่ต้องถึงผู้คุมกฎหรอก ซูเสี่ยวหว่านเองก็อยากตบเขามาก
……
“เบลเลีย!”
ซูรุ่ยเร่งฝีเท้ามาถึงข้างกายเบลเลียแล้ว และจ้องมองเขาอย่างเคร่งขรึม “เหตุใดวันนั้นเจ้าจึงจากไปโดยไม่ล่ำลาเล่า”
แม้การตกเป็นผู้ต้องสงสัยของเบลเลียจะมีไม่มาก แต่พฤติกรรมของเขาไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้างจริงๆ
พอได้ยินคำถามของซูรุ่ย เบลเลียก็เงยหน้าขึ้นอย่างเยือกเย็น และจ้องมองเขาอย่างหยิ่งยโส “เจ้าเป็นใคร นายน้อยรู้จักเจ้าด้วยหรือ”
ไม่ใช่ ‘ข้า’ แต่เปลี่ยนเป็น ‘นายน้อย’ แล้ว!
พับผ่าสิ บุคลิกของเจ้าเปลี่ยนอย่างไวเลยนะ
ซูรุ่ยไม่ได้พูดอะไร หันกายก้าวกลับมาที่กลุ่ม
“เขาเป็นอะไรไป” ติงจยาจยาถามอย่างแปลกใจเช่นกัน ซูรุ่ยที่อยู่อีกด้านไม่พูด กลับเป็นซูหว่านที่ใช้พลังจิตอธิบายตัวตนของเบลเลียให้ติงจยาจยาฟัง
สุนัขนรกสองหัว? ฟังดูเหมือนลักษณะไม่เลวเลยทีเดียว
ติงจยาจยาเลียริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว พลางจ้องแผ่นหลังเบลเลียเขม็ง จะให้พูดอะไรอีก ตอนหมอนี่ไม่ตุ้งติ้ง ดูๆ ไปก็หล่อไม่เบา!
พอซูหว่านที่อยู่อีกด้าน เหลือบเห็นแววตากะลิ้มกะเหลี่ยของติงจยาจยา ก็อดไม่ได้ที่จะราดน้ำเย็นใส่นาง “ฉันขอเตือนเธอว่า ทางที่ดีอย่าไปตอแยเขา ไม่แน่ว่าตอนที่พวกเธอทั้งสองเล่นจ้ำจี้กันนั้น เขาได้เปลี่ยนบุคลิกหรือกลายร่างกะทันหันแล้ว ฉันเกรงว่าเธอจะตกอยู่ในเงามืดของจิตใจไปชั่วชีวิต!”
ติงจยาจยา…
ฮือๆๆ ซูเสี่ยวหว่าน เธอไม่ได้รักฉันจริงๆ
สู้เทพบุตรของฉันไม่ได้!
ติงจยาจยาเงยหน้าขึ้นมองซูรุ่ยอีกโดยไม่รู้ตัว เทพบุตรหล่อมาก! เทพบุตรเท่มาก! เทพบุตรมีเอกลักษณ์มาก! เทพบุตร…มีเจ้าของแล้ว?
พอนึกขึ้นได้ว่า เทพบุตรที่เพียบพร้อมแบบนี้เป็นของผู้อื่นแล้ว ติงจยาจยาก็รู้สึกว่า หัวใจของตนกำลังมีเลือดหยดติ๋งๆ!
ซูหว่าน…
เธอน่ะ ลืมที่พูดไว้เมื่อวานแล้วเหรอว่า เธอกับแฟรงค์ต่างตกหลุมรักซึ่งกันและกัน เข้ากันได้ดีทั้งความรู้สึกและทัศนคติ
“ซูหว่าน ตอนนี้คนในแผนกล้วนรู้ว่า เธอกับซูรุ่ยอยู่ด้วยกัน แล้วพวกเธอทั้งสองอยู่ด้วยกันจริงๆ เหรอ”
ติงจยาจยาอดไม่ได้ที่จะใช้พลังจิตสื่อสารกับซูหว่าน หลังจากซูหว่านเสร็จสิ้นภารกิจกู้ภัย ทุกคนก็รู้ว่า คนที่ซูหว่านช่วยเป็นใคร
เมื่อเป็นคนของอีกฝั่ง นี่คือโรมิโอกันจูเลียตเวอร์ชั่นมีจุดยืนเหรอ
เอ๊ะ ว่ากันว่า นั่นเป็นโศกนาฏกรรมนะ
พอได้ยินคำพูดของติงจยาจยา ซูหว่านก็หลุบตาลง แล้วยิ้มอย่างไม่คิดมาก “ติงจยาจยา เธอสนใจซูรุ่ยเหรอ”
“เปล่า ไม่มี! สุภาพชนไม่แย่งของรักของหวงใคร ฉันเป็นคนที่รักเพื่อนร่วมงานมาก จะแย่งผู้ชายของเพื่อนร่วมงานได้ยังไงกัน”
เสียงพูดลนลานของติงจยาจยาพลันสะท้อนไปมาในหัวของซูหว่าน แต่ซูหว่านยังคงทำหน้าไม่ยี่หระ “ถ้าเธอชอบจากใจจริง ก็จีบได้นะ และถ้าจีบได้ ก็ถือว่าเธอเก่งมาก!”
ติงจยาจยา…
นี่ตนหูแว่วไปหรือเปล่า ซูเสี่ยวหว่านบอกให้ตนจีบซูรุ่ยเนี่ยนะ
ขณะจับต้นชนปลายไม่ถูก เสียงของซูหว่านก็ดังขึ้นในหัวของติงจยาจยาอีก “เธอสงสัย…คนคนนั้นเหมือนกันใช่ไหม เธอลองทดสอบปฏิกิริยาของเขาดูสิว่าเป็นยังไง”
ติงจยาจยา…
ฉันก็รู้อยู่ว่า ซูเสี่ยวหว่านไม่ใช่คนที่พูดดีๆ กันแบบนี้ได้! เธอจะยอมให้ตนจีบผู้ชายของเธอจริงๆ ได้ไง
อะแฮ่ม แล้วถ้าตนจีบได้จริงๆ จะทำไงดีล่ะ
ติงจยาจยา เธอคิดมากไปหรือเปล่า!
“นี่ คนกลุ่มนั้นน่ะ!”
เบลเลียที่กำลังยืนอยู่หน้ากลไลเทเลพอร์ตพลันเรียกเสียงดังขึ้นมา “พวกเจ้าไม่กี่คนจะไปด้วยกันกับนายน้อยไหม อะแฮ่ม ที่ตรงนี้ของนายน้อยพอดีมีที่นั่ง ไม่ได้อยากจะตอบแทนน้ำใจของพวกเจ้าหรอก!”
เอ่อ
นายน้อยที่หยิ่งยโสแบบนี้ พอกันทีจริงๆ
สุดท้าย ซูหว่านกับพวกซูรุ่ยยังคงติดตามเบลเลียกลับไปด้วยกัน ยังคงไม่เสียค่าเทเลพอร์ตแม้แต่แดงเดียว
ความรู้สึกของการติดตามคนมีเงินนั้น ไม่เลวจริงๆ
จากห้วงลึกชั้นลึกกลับไปห้วงลึกชั้นกลาง
ขณะมองดูท้องฟ้าสีเทาหม่น พระจันทร์สีแดง ทั้งหมดล้วนดูกลมกลืนเป็นพิเศษ
ให้ตายเถอะ ต่อให้ที่นี่ดำมืดแค่ไหน ก็ดีกว่าในห้วงลึกชั้นลึกมาก
“พวกเจ้ากำลังจะไปไหน”
เบลเลียยังคงพาคนรับใช้กลุ่มหนึ่งออกจากกลไลเทเลพอร์ต ซึ่งแน่นอน คนกลุ่มนี้กับคนกลุ่มที่เขาพามาตอนขาไปไม่เหมือนกัน
นายน้อยตระกูลใหญ่ ย่อมต้องแลดูเอิกเกริก
“เราจะกลับเมืองเบเกอร์”
พอซูรุ่ยได้ยินเบลเลียถาม ก็อดไม่ได้ที่จะตอบเบาๆ
“เมืองเบเกอร์?”
เบลเลียเลิกคิ้วขึ้น “ที่แท้พวกเจ้าเป็นคนเมืองเบเกอร์นี่เอง พวกเจ้ายังไม่รู้สินะว่า ช่วงนี้มีการก่อกบฏในเมืองเบเกอร์ ลอร์ดองค์เดิม สแตนโคดอร์ ต่อสู้จนเสียชีวิต ส่วนลูกสาวของเขาก็แต่งงานกับอัสโน ลอร์ดองค์ใหม่!”
เวลาพูดถึงชื่ออัสโน ดวงตาของเบลเลียมีแววซับซ้อนวาบผ่าน
แม้สองสามวันมานี้ เบลเลียเอาแต่ทำภารกิจในห้วงลึกชั้นลึก ตามที่ได้รับมอบหมายจากตระกูลจนเสร็จสิ้น แต่การข่าวของเขาก็ยังคงมีประสิทธิภาพ เหตุการณ์ใหญ่ๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นล่าสุดในห้วงลึกชั้นกลาง เขาล้วนรู้อย่างแจ่มแจ้งดุจนิ้วบนฝ่ามือ!
อัสโนได้เป็นลอร์ดแล้วเนี่ยนะ ไวจัง!
พอได้ยินคำพูดของเบลเลีย แววตาของซูหว่านก็มืดมนลง
และแล้ว การจากไปของตน ทำให้ลิลลิก้ารู้สึกไม่ปลอดภัย จึงทำการเสกสมรสกับอัสโนก่อน แล้วค่อยช่วยเขาแย่งชิงเมืองเบเกอร์หรือ
“เห็นทีพวกเราต้องรีบรุดไปเมืองเบเกอร์แล้ว”
แววตาของติงจยาจยาพลันเคร่งเครียดขึ้นมา อัสโนกับลิลลิก้า พระนางคู่นี้ไม่เหมือนกับพระนางคู่อื่นๆ
ในโลกใบอื่นๆ ไม่ว่าจะทำการทรมานความรักอันสุดซึ้งอย่างไร อย่างน้อยพระนางก็มีความรักที่ลึกซึ้งเป็นพื้นฐาน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างลิลลิก้ากับอัสโน กลับมีเพียงการพึ่งพาอาศัยกัน
ลิลลิก้าพึ่งพาอัสโน แน่นอน นางอาจชอบอัสโนเช่นกัน แต่เมื่ออยู่ในโลกห้วงลึก ชอบกับรักล้วนเป็นความรู้สึกที่ฟุ่มเฟือยยิ่ง
จากความรู้สึกเจียมตัวของลิลลิก้า ย่อมไม่กล้าคาดหวังว่าอัสโนจะรักตนเอง
ส่วนอัสโนที่มักใหญ่ใฝ่สูง ก็ได้แต่เพลิดเพลินกับการเชื่อฟังและเป็นที่พึ่งของลิลลิก้าอย่างบริสุทธิ์ใจ
คิดแยกพวกเขาออกจากกัน นอกจากทำให้อัสโนทิ้งลิลลิก้าก่อนแล้ว ก็เหลือเพียงวิธีเดียว
นั่นคือ กำจัด กำจัดการดำรงอยู่ของคนหนึ่ง พอโลกใบหนึ่งสูญเสียตัวเอกไปคนหนึ่ง กฎของโลกทั้งใบจะเปลี่ยนไปตามนั้น ผู้คุมกฎก็ไม่มีทางบังคับใช้กฎได้อีกต่อไป
ติงจยาจยากับซูหว่านจึงจะเสร็จสิ้นภารกิจ และถอยออกได้อย่างราบรื่น
หลังจากคิดในใจแล้ว กลุ่มคนก็เดินทางไปยังทิศที่ตั้งของเมืองเบเกอร์ทันที
เบลเลียยิ้มบางๆ ขณะมองดูร่างที่จากไปของคนทั้งสี่
“นายน้อย”
ผู้รับใช้ที่อยู่อีกด้านจ้องมองเบลเลียอย่างกังขา “เหตุใดจึงบอกข่าวของเมืองเบเกอร์กับพวกเขา”
“เอ่อ”
พอได้ยินคำพูดของผู้รับใช้ เบลเลียก็ยิ้มน้อยๆ “แรมปานั่น คือองครักษ์ปีศาจนักรบของลูกสาวสแตนโคดอร์ เหตุใดองครักษ์ปีศาจนักรบตนหนึ่งถึงได้ออกจากเมืองเพียงลำพัง ข้างกายยังมีปีศาจห้วงลึกตนหนึ่งติดตาม และปีศาจห้วงลึกนั่นยังเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่เก่งกาจมากด้วย!”
เครือข่ายข่าวกรองของตระกูลฟิตต์แข็งแกร่งมาก อันที่จริง แวบแรกที่เห็นซูรุ่ย เบลเลียก็รู้สถานะของเขาแล้ว และเพราะเหตุนี้ ถึงได้จงใจเข้าไปตีสนิท…
“ซู”
นั่นไม่ใช่ชื่อปีศาจห้วงลึก แต่เป็นชื่อลูกสาวของลอร์ดแห่งเมืองเบเกอร์
ช่วงนี้ เมืองเบเกอร์ค่อยมีเรื่องสนุกๆ ให้ดูจริงๆ เสียที