ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 25 ตำนานแม่พระแห่งวังหลัง
“เหยียนอวี่นั่ว!”
สวีปิงเย่ว์รู้สึกมึนงงที่ถูกตบเขาโดยไม่ทันตั้งตัว นางลูบหน้าแดงก่ำของตัวเอง แววตาฉายประกายเยือกเย็น ”พี่อวี่นั่ว พี่ทำอะไรน่ะ มาตบข้าแทนพี่ซูหว่านด้วยเหตุใดกัน”
เห็นสวีปิงเย่ว์ทำหน้าตาไม่รู้ร้อนรู้หนาวเช่นนั้น เหยียนอวี่นั่วอดไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองดูเสิ่นเฉิงเป่ยที่ยืนงงงวยอยู่ข้างๆ “ท่านคือเสิ่นเฉิงเป่ยสินะ?”
ได้ฟังคำถามของเหยียนอวี่นั่ว เสิ่นเฉิงเป่ยพยักหน้าเล็กน้อย ที่จริงแล้วตอนที่เหยียนอวี่นั่วเข้ามาตบสวีปิงเย่ว์ เสิ่นเฉิงเป่ยจะเข้าไปหยุดยั้ง แต่เมื่อเขาได้ยินนางพูดชื่อของซูหว่าน เสิ่นเฉิงเป่ยก็นิ่งอึ้งไป ไม่ได้ยื่นมือเข้าช่วย
“สวีปิงเย่ว์”
เมื่อเห็นเสิ่นเฉิงเป่ยยืนยันตัวตน เหยียนอวี่นั่วก็หันมามองสวีปิงเย่ว์ “พี่เสิ่นเป็นคู่หมั้นของซูหว่าน เจ้ากับเขามาแอบพลอดรักกันลับๆ ล่อๆ เจ้ายังมองหน้าซูหว่านติดอยู่อีกหรือ”
“ข้ากับพี่เสิ่นต่างเปิดเผยจะต้องกลัวอะไร หากพี่อวี่นั่วคิดว่าไม่เหมาะสม ท่านก็ไปบอกพี่ซูหว่านได้ นางไม่ต้องการพี่เสิ่นแล้ว ทำไมข้าจะคบกับพี่เสิ่นไม่ได้”
คำตอบของสวีปิงเย่ว์กำกวมสองแง่สองง่ามเพื่อให้การรับรู้ของเหยียนอวี่นั่วสับสน
“หึๆ”
เมื่อได้ฟังนางว่าเช่นนั้น เหยียนอวี่นั่วก็ยิ้มมาในที่สุด เมื่อครู่ที่นางจงใจถามไปเช่นนั้น ไม่คิดว่าสวีปิงเย่ว์จะกล้าตอบมาจริงๆ
“ใครบอกเจ้าว่าซูหว่านไม่ต้องการเสิ่นเฉิงเป่ยเล่า?”
เหยียนอวี่นั่วนำจดหมายของซูหว่านที่อกออกมา ”หลังจากที่เจ้าไปหานาง ซูหว่าน0tฆ่าตัวตายที่ศาลจงเหรินไปแล้ว! นี่คือจดหมายลาตายของนาง! สวีปิงเย่ว์ เจ้ากล้าบอกเสิ่นเฉิงเป่ยหรือไม่ว่าเจ้าพูดอะไรกับซูหว่านบ้างที่ศาลจงเหริน”
“อะไรนะ”
ได้ยินว่าซูหว่านฆ่าตัวตายไปแล้ว สวีปิงเย่ว์รู้สึกคาดไม่ถึง เสิ่นเฉิงเป่ยข้างๆ รีบเดินรุดขึ้นมาด้านหน้า จับไหล่ของเหยียนอวี่นั่วไว้แน่น “เจ้าพูดจริงหรือ ซูหว่าน…เสี่ยวหว่านเป็นยังไงบ้าง ช่วยชีวิตไว้ได้หรือไม่”
“ที่แท้ท่านยังรู้จักเป็นห่วงนางด้วยรึ”
เหยียนอวี่นั่วหันกลับไปมองมองเสิ่นเฉิงเป่ยที่เห็นได้ชัดว่าถูกหลอกเสียเต็มประดา “สวีปิงเย่ว์บอกกับซูหว่านว่าท่านกับนางรักกันด้วยใจจริง ซูหว่านยอมถอยให้พวกทนและได้ตัดสินใจจบชีวิตเช่นนี้!”
“ปิงเย่ว์!”
ได้ยินคำพูดของเหยียนอวี่นั่วดังนั้น เสิ่นเฉิงเป่ยมองใบหน้าของสวีปิงเย่ว์ด้วยสายตาเย็นชาคมกริบราวมีด “ที่นางพูดเป็นความจริงหรือ เจ้าพูดเช่นนั้นกับซูหว่านจริงๆ งั้นหรือ!”
“ข้า…ข้า…”
สวีปิงเย่ว์กระสับกระส่ายอยู่ระยะหนึ่ง นางไม่รู้ว่าเหยียนอวี่นั่วแท้จริงรู้มากแค่ไหน ยิ่งไม่รู้ใหญ่ว่าจดหมายลาตายเขียนว่าอย่างไรบ้าง เวลาสั้นๆ อย่างนี้ยังต้องคิดคำพูดอธิบายให้ดีแถมยังต้องไม่ทำให้คนสงสัยอีก ช่างเป็นเรื่องที่ยากเกินขีดสุดเสียจริง
เสิ่นเฉิงเป่ยเห็นปฎิกิริยาของสวีปิงเย่ว์ ก็นึกออก มิน่าเล่านางถึงโน้มน้าวไม่ยอมให้เขาไปเผชิญหน้ากับซูหว่านมาตลอด
มิน่าเล่า เมื่อก่อนทุกครั้งที่มาส่งจดหมายให้เขา นางจะต้องจงใจถ่วงเวลาเฉไฉเพื่อสนทนากับตนเอง
เสิ่นเฉิงเป่ยนำเรื่องราวทั้งหมดประติดประต่อเข้าด้วยกัน ไม่นานก็เข้าใจแผนการเห็นแก่ตัวของสวีปิงเย่ว์
อย่างที่คิดไว้ ภายในวังหลวงนี้จะมีความสัมพันธ์ฉันพี่น้องกันได้อย่างไร
“เจ้ามันงูพิษ!”
เสิ่นเฉิงเป่ยมองสวีปิงเย่ว์ด้วยสายตาเดือดดาล ภายในแววตานอกจากความเกลียดชังยังมีความความขยะแขยงฝังลึก แต่ไหนแต่ไรเสิ่นเฉิงเป่ยเป็นผู้มีความซื่อสัตย์อย่างมาก ปกติเขาก็เกลียดพวกคนที่ละโมบโลภมากคอยยุแยงใส่ไข่ บัดนี้ได้มองเห็นธาตุแท้ของสวีปิงเย่ว์แล้ว จากนี้เสิ่นเฉิงเป่ยไม่อาจมองนางเหมือนเดิม นับประสาอะไรกับความเห็นใจอันน้อยนิด
เมื่อหันกลับไป เสิ่นเฉิงเป่ยมองเหยียนอวี่นั่วผู้มีสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าวเช่นเดียวกัน “แม่นางเหยียน ขอบคุณเจ้ามากที่นำความจริงมาบอกข้า ตอนนี้ซูหว่านเป็นอย่างไรบ้าง”
“ซูหว่านถูกช่วยชีวิตกลับมาได้ พ้นขีดอันตราย แต่นางยังมีอาการมึนงง”
เรื่องอาการของซูหว่าน ไป๋เพ่ยเป็นผู้บอกเหยียนอวี่นั่วเอง อีกทั้งไป๋เพ่ยยังเตือนใจดีเหยียนอวี่นั่วอีกว่า ศาลจงเหรินเกิดเรื่องเช่นนี้จะต้องนำทูลฝ่าบาทให้ทรงตัดสินพระทัย ดังนั้นตอนนี้ศาลจงเหรินได้ปฎิเสธการสืบสวนแล้ว หากพวกเขาต้องการไปเยี่ยมซูหว่านก็ต้องรอให้ฝ่าบาทจัดการกับเรื่องนี้เสียก่อน
เพราะได้เหยียนอวี่นั่วมาได้ทันเวลา เสิ่นเฉิงเป่ยจึงรอดพ้นจากถูกหลอกโดยสวีปิงเย่ว์ไว้ได้ เมื่อเรื่องราถึงวจุดจบเสิ่นเฉิงเป่ยและเหยียนอวี่นั่วทยอยกันจากไป เหลือไว้เพียงสวีปิงเย่ว์ยืนอยู่ที่เดิมจ้องด้วยสายตาอาฆาตแค้นตามเงาของเหยียนอวี่นั่วที่กำลังจากไป
เหยียนอวี่นั่ว ยัยแมลงสาบแส่ไม่เข้าเรื่อง!
ข้าไม่อภัยให้เจ้าแน่ ๆ เจ้าไม่ให้ข้ามีความสุข ข้าก็จะไม่ให้เจ้ามีความสุขเช่นกัน!
ในเมื่อพี่เสิ่นรังเกียจข้าไปแล้ว แล้วเจ้ามีสิทธิ์อะไรจะได้ครองรักกับหมอหลวงลู่อย่างเป็นสุขกัน?
สวีปิงเย่ว์เป็นคนเช่นนี้เสมอมา ไม่ว่าเจอกับเรื่องอะไรก็จะต้องเป็นความผิดของผู้อื่น นางไม่เคยโทษตัวเอง นางรู้แต่เพียงว่า หากนางไม่ได้อยู่อย่างเป็นสุข นางก็จะทำให้ทุกคนไม่อยู่อย่างเป็นสุข
เหยียนอวี่นั่ว เจ้าคอยดูละกัน!
ในก้นบึ้งหัวใจเปี่ยมไปด้วยความเคียดแค้นที่มีต่อเหยียนอวี่นั่ว สวีปิงเย่ว์หันหลังกลับช้าๆ แต่ไม่ได้กลับกองพระภูษา นางเดินเนิบนาบไปยังอีกสถานที่หนึ่งในวังหลังเพียงลำพัง
ยามดึก
ค่ำคืนอันหนาวเหน็บของฤดูหนาว ลู่มู่สวินไม่ได้ถือตะเกียงไฟ เขาเดินไปตามเส้นทางในความทรงจำของตนเอง กระย่องกระแย่งมาจนถึงพื้นที่ว่างเปล่าข้างตำหนักแห่งหนึ่งที่วังหลัง
รอบด้านไร้ผู้คน เสียงลมยามค่ำคืนโหยหวน
ลู่มู่สวินจับเสื้อคลุมผ้าฝ้ายของตนไว้แน่น สายตาทอดมองรอบข้าง ไม่นานนักก็ปรากฎเงาเล็กๆ ขึ้นบนดวงตาของเขา
เงานั้นเดินอย่างรีบร้อนอยู่ในความมืด มองไกลๆ เห็นแค่เพียงรูปร่างเลือนลาง เมื่อเดินเข้ามาใกล้ เขาถึงได้พบว่าผู้นั้นปกคลุมอยู่ใต้เสื้อคลุมดำหนาทั่วทั้งตัว
“อวี่นั่ว?”
ลู่มู่สวินร้องเสียงเบา เงานั้นได้ยินเสียงของเขาเร่งฝีเท้าอย่างไม่รอช้า ตามเสียงมายืนต่อหน้าลู่มู่สวิน
“อวี่นั่ว เจ้า…”
ลู่มู่สวินอยากจะถามเหยียนอวี่นั่วเหตุใดจึงนัดเขามายังที่แห่งนี้ คนเบื้องหน้ากลับอยู่ๆ ถอดหมวกเสื้อคลุมออก สิ่งที่ปรากฎภายใต้หมวกคลุมกลับเป็นใบหน้าของอวี่ชิง!
“เหยียนเหม่ยเหริน?”
ลู่มู่สวินก้าวถอยหลังเล็กน้อยมองเหยียนอวี่ชิงอย่างประหลาดใจ ”เหตุใดท่านถึง…”
“พี่สาวข้านัดข้ามาที่นี่น่ะสิ!”
เหยียนอวี่ชิงขณะนั้นเองก็มองลู่มู่สวินอย่างงงงวย “ทำไมถึงมีท่านแค่คนเดียวเล่าท่านหมอลู่ พี่สาวข้าเล่า?”
“แย่แล้ว!”
ลู่มู่สวินได้ฟังคำเหยียนอวี่ชิงดังนั้น ก็สีหน้าถอดสี
เหยียนอวี่ชิงก็คิดอะไรออกเช่นเดียวกัน น่าเสียดายที่มันสายไปเสียแล้ว แสงจากเปลวไฟส่องแสงให้ค่ำคืนมืดสนิทสว่างจ้า ทหารอารักขากลุ่มใหญ่ถือคบเพลิงล้อมทั้งสองไว้ภายใต้การนำของวั่งอี้ ผู้ที่ยืนอยู่ข้างๆ วังอี้เป็นใครไปไม่ได้นั่นก็คือ สวีปิงเย่ว์!
เดิมทีเหยียนอวี่ชิงผู้นี้ก็เป็นคนระมัดระวังมากผู้หนึ่ง แต่ครั้งนี้ก็ยังตกหลุมพรางของสวีปิงเย่ว์ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะสวีปิงเย่ว์รู้จักพวกเขามากเกินไป
นางปลอมลายมือของเหยียนอวี่นั่วนัดลู่มู่สวินออกมา จากนั้นก็ส่งจดหมายหนึ่งฉบับให้เหยียนอวี่ชิงเรียกนางออกมายามวิกาลเพื่อปรึกษาเรื่องของซูหว่าน
ตอนนี้เหยียนอวี่ชิงกำลังจิตใจร้อนรน เห็นว่าเหยียนอวี่นั่วในที่สุดก็ยอมเป็นฝ่ายนัดตนเองออกมาก่อน นางก็นึกว่าเหยียนอวี่นั่วตัดสินใจยอมช่วยเหลือนาง เหยียนอวี่ชิงจึงได้ไม่คลางแคลงสงสัยอันใดตกหลุมกับดักของสวีปิงเย่ว์อย่างไร้การป้องกัน
ดังนั้นแล้ว บางครั้งผู้ที่ทำร้ายเจ้ามากที่สุดไม่ใช่ศัตรูของเจ้า แต่อาจจะเป็นเพื่อนของเจ้าก็ได้
ยิ่งเป็นผู้ที่ใกล้ชิดมากเท่าไหร่ ยามลงมือก็ยิ่งเร็ว แรง และแม่นยำ!