ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 10 อุ้มท้องหนีรักมหาเศรษฐี (10)
หลังจากนั้น ในขณะที่หลิงลี่ได้เห็นแววตาอันโมโหของแม่ตัวเอง หลิงลี่จึงได้กล่าวขอโทษซูหว่านอย่างไม่เต็มใจ พ่อหนุ่มน้อยก็ทำหน้าบึ้งลากแล้วดึงแม่ของตัวเข้าบ้าน
ซูเสี่ยวซูขึ้นบ้านไปพักผ่อนตั้งนานแล้ว เหลือเพียงแค่ซูรุ่ยกับซูหว่านที่อยู่ข้างล่าง ส่วนซูเจี้ยนจวินและภรรยาของเขาเนี่ย? สามีภรรยาคู่นี้ถือว่าเป็นคู่ที่โด่งดังมาก ๆ เลยแหละ หลังจากที่พวกเขาปิดการถ่ายทอดสดลง พวกเขาทั้งสองคนก็มีคนโทรเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน บริษัทที่พวกเขาเป็นหนี้ก็ได้โทรหาพวกเขาด้วยตัวเองแล้วบอกว่า “ไม่ต้องชำระหนี้ยอดที่เหลือแล้วนะ” ญาติห่าง ๆ ต่างก็แห่กันเข้ามาหาพวกเขากัน
ถ้าพูดถึงคนประเภทนี้ ใครจะไม่หยิ่งยโสล่ะ? ตัวเองใช้ชีวิตสบายแล้ว ยังอยากที่จะป่าวประกาศให้ทั้งโลกได้รับรู้ ซูรุ่ยเข้าใจความคิดของของซูเจี้ยนจวินเป็นอย่างดี
นี่มันไม่ใช่ ซูรุ่ยสั่งจัดเตรียมบอดี้การ์ดและคนขับรถ แล้วยังทำบัตรใช้จ่ายให้พวกเข้าอีกสองใบ ตอนนี้พวกเขาสองคนไม่รู้จะไปใช้เงินที่ไหนแล้วนะเนี่ย
โลกใบนี้มันชั่งกว้างใหญ่ การใช้เงินนี่แหละสำคัญที่สุด
สำหรับคู่สามีภรรยาที่ชอบใช้เงินฟุ้งเฟ้อคู่นี้ ซูรุ่ยไม่ได้จะอะไรกับพวกเขา ขอเพียงแค่พวกเขาไม่หาเรื่องให้ซูรุ่ยกับซูหว่าน ใช้เงินตามกำลังทรัพย์ของตระกลูตู้ เลี้ยงดูพวกเขาสิบชาติก็ไม่เป็นปัญหาอะไร
ถ้าพูดถึงซูรุ่ยกับซูหว่านก็เคยเป็นประธานบริษัทและเป็นลูกคนมีเงินมาก่อน แต่ความจริงแล้ว ในโลกใบนี้ พวกเขาพึ่งเข้าใจคำว่า “เงินเป็นเพียงแค่ตัวเลข” ที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร
ถูกต้องแล้วแหละ ตระกูลตู้จัดว่าเป็นตระกูลที่ร่ำรวยเทียบเท่าระดับประเทศ นี่มันสุดยอดทะลุฟ้าไปเลยนะเนี่ย
“ที่รัก เราขึ้นไปนอนกันดีไหม? ”
ซูรุ่ยเห็นว่าผู้คนกลับกันไปหมดแล้ว เลยอดใจไม่ไหวที่จะพิงที่รักของตัวเองแล้วพูดว่า “ฉันคิดถึงคุณนะ”
“คิดถึงอะไรกัน วันนี้เราตัวติดกันไม่ห่างกันทั้งวันเลยนะ”
“นี่…” แม่ทัพซูยังหน้าด้านพูดต่อไปอีกว่า “จริง ๆ แล้ว คือซูรุ่ยคิดถึงคุณต่างหาก”
“คุณนี่มันโรคจิตจริง ๆ เลย”
ซูหว่านรู้สึกว่าแม่ทัพซูนับวันยิ่งหน้าไม่อาย
“ถึงฉันจะเป็นโรคจิต แต่ฉันก็โรคจิตแต่กับคุณแค่คนเดียว”
ขณะที่พูดคุยกัน ซูรุ่ยหัวเราะอยู่ดี ๆ ก็ล้มลงไปทับร่างกายของซูหว่าน และซูหว่านก็โดนทับอยู่ด้างล่างของร่างกายซูรุ่ย
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ยืนอยู่ที่มุมห้องรับแขกรอให้คนมาบังคับใช้งาน พอเห็นฉากที่บนโซฟาเท่านั่นแหละ ตาทั้งสองข้างก็เป็นสีแดงประกายขึ้นมา
ติง! แสกนเห็นฉากที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก ปิดฟังชั่นการถ่ายวิดีโอและการบันทึกเสียง
ซีพียูหยุดทำงานอัตโนมัติ
จะว่าไป เทคโนโลยีขั้นเทพเนี่ย มันเจ๋งจริง ๆ เลยนะ
ในขณะที่ซูรุ่ยและซูหว่านกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ประตูใหญ่ของคฤหาสน์จู่ ๆ ก็มีคนผลักเข้ามาผลักเข้ามาอย่างรุนแรง ตู้เฉินวิ่งเข้าห้องอย่างล้มลุกคลุกคลาน
เสียงดัง “ปัง” เขาปิดประตูใหญ่คฤหาสน์อย่างสุดกำลัง
เอิ๊กกก
สีหน้าของตู้เฉินก็ยังระคายเคืองอยู่ ในขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นมา สายตาของเขาก็ได้ไปจ้องตากันกับสองคนที่อยู่บนโซฟาพอดี
“พวกคุณทำอะไรกันอยู่น่ะ? ”
ฉากที่อยู่ต่อหน้ามันทำให้สีหน้าของเขานั้นหงอยไปเลย
ซูหว่านขยิบตา มองสายตาของแม่ทัพซู และยังเห็นใบหน้าของตู้เฉินที่อยู่ดี ๆ ก็หงอยลง
“น้องชายคนรอง กลับมาแล้วหรอ? จะให้พวกพี่ทำอะไรกันล่ะ? นี่พวกพี่กำลังเตรียมตัวจะกลับเข้าห้องไปนอนกันแล้ว”
พอพูดเสร็จ ซูหวานก็เอามือทั้งสองไปโอบกอดคอของซูรุ่ย แล้วพูดว่า “คุณสามี ขอกอดหน่อย เรากลับไปนอนกันเถอะ”
“อย่าดื้อนะ”
พอแม่ทัพซูได้ยินคำพูดของที่รักตัวเอง สีหน้าของแม่ทัพซูก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที อุ้มที่รักของตัวเองโดยไม่สนใจตู้เฉินที่อยู่ตรงประตู และซูรุ่ยหันหลังก้าวขาวิ่งขึ้นห้องอย่างรวดเร็ว
ตู้เฉิน ”……”
คุณชายรองตู้ผู้ที่ต้องใช้ความพยาพยามเป็นอย่างมากถึงจะจากหนีออกมาจากสื่อที่มากวนใจได้ เขารู้สึกเสียใจมาก
ฉันดูดี เลิศหรูขนาดนี้ แต่กลับโดนพี่ชายตัวเองเมินเฉยเลย
แน่นอน นี่มันไม่ใช่จุดสำคัญ แต่ที่สำคัญคือเข้าห้องแค่ชั่วพริบตาเดียวและได้เห็นตู้หันตัวชิดกันกับซูหว่านเต็มตาตู้เฉินรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก และซูหว่านยังเรียกว่าเขาว่า ”น้องชายคนรอง” มันสะกิดใจจริง ๆ เลย ทำให้ตู้เฉินรู้สึกเหมือนว่าใจจะสลาย ใช่ไหมล่ะ?
ไม่รู้เราจะรีบร้อนกลับมาทำไม เพื่ออะไร
ก็แค่อยากจะพูดกับเธอให้เข้าใจ เวลานี้ทำให้ตู้เฉินสับสนอย่างมาก
จู่ ๆ เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ มันคืออะไรกันแน่
เขานั่งลงที่บนโซฟาอย่างหมดอาลัยตายอยาก นั่งก้มหน้าลง มือสองมือกุมขมับ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาเหงาหงอยอย่างมาก
หลิงชีเย่ว์หลังจากที่กล่อมหลิงลี่นอนเสร็จก็ออกมาจากห้องนอน และพอได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งโดดเดี่ยวคนเดียวที่บนโซฟา เธอก็หยุดชะงักแบบไม่ได้ตั้งใจ
ฉันยังรักเขาอยู่หรอ?
ตอบแรกเขาเป็นคนลบหลู่เหยียดหยามฉัน หลินชีเย่ว์เดินออกมาด้วยความแค้นใจ ในตอนนี้เธอกำลังอุ้มท้องหลิงลี่อยู่ ตอนที่ใช้ชีวิตลำบาก ไม่เคยคิดว่าจะกลับไปหาเขา จนกระทั่ง……
ก็เหมือนที่ซูหว่านได้ให้สัมภาษณ์ไปอย่างนั้นไปว่า ผู้หญิงทุกคนต่างก็มีความเซ็กซี่และคิดไปเองกันหมด
ตอนนั้นหลิงชีเย่ว์ก็เคยจินตนาการว่า ถ้าวันนึงตู้เฉินได้มายืนอยู่ตรงหน้าของตัวเอง ใช้สีหน้าที่อ่อนโอนและพูดกับตัวเองว่า “ภรรยา ฉันมารับคุณกลับบ้าน”
แต่ว่า ในความเป็นจริงฉันก็แค่ได้แต่คิดไปเอง ซึ่งมันขัดแย้งกับความเป็นจริง
เรื่องราวของซูหว่านกับตู้หัน ทำให้หลิงชีเย่ว์ได้รู้ว่าความไร้เดียงสาของตัวเอง ความรักที่ลึกซึ้งที่แท้จริงควรจะเหมือนตู้หันที่ปฏิบัติต่อซูหว่านแบบนั้น
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ตอนที่คุณตกระกำลำบาก ฉันจะอยู่เคียงเข้าคุณ ยิ้มแบบจริงใจและพูดกับคุณว่า “กลับบ้านกับฉันนะ ฉันอยู่ตรงนี้ อะไรก็ไม่ต้องไปกลัว”
นั่นถึงจะเป็นความรักไม่ใช่หรอ?
หลินชีย์ถอนหายใจสุดลมหายใจ กำลังจะกลับหลังกลับไป แต่กลับเห็นตู้เฉินแหงนหน้ามองขึ้นมาจากข้างล่างบ้าน และสบตากับหลินชีเย่ว์
หลินชีเย่ว์นิ่งอึ้งไปซักพัก ถึงจะพูดออกมาเบาๆว่า “คุณกลับมาแล้วหรอ? ”
พอตู้เฉินเห็นใบหน้าของหลินชีเย่ว์ จู่เขาก็นึกถึงคำพูดที่อยู่ในคลิปที่พูดทุกวัน
“นังจิ้งจอก” ”นังมือที่สาม” ลูกอายุเพียงห้าขวบ ในหัวคิดแต่เรื่องอะไรแบบนี้หรอ?
“หลินชีเย่ว์ หลายปีที่ผ่านมาคุณสอนลูกยังไงกัน คำพูดที่ดูถูกซูหว่าน คุณเป็นคนสอนลูกใช่ไหม”
“คุณคิดว่าฉันเป็นคนสอนหรอ? ”
เป็นไปอย่างที่คิดจริง ๆ ด้วย เขาไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนตัวเองเลย คิดเองเออเองตลอด
“ถ้าไม่ใช่คุณแล้วจะเป็นใครหล่ะ? ”
พอหลินชีเย่ว์ถามกลับ ตู้เฉินหัวเราะเยาะและตอบกลับไปว่า “คุณกลับมาครั้งนี้ คือจะมากลับมาหย่าร้างกับฉันใช่ไหม? ทำไมคุณไม่ส่งเอกสารการหย่าร้างไปที่บริษัทฉัน? แต่กลับต้องรอให้ฉันกลับมาตอบรับเองที่บ้านหรอ? หลินชีเย่ว์ คุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่? ”
ถ้าคลิปที่ซูหว่านเผยแพร่ไปเป็นเรื่องจริง ถ้าอย่างนั้นแค่เด็กตัวเล็ก ๆ คนนึงทำไมถึงทำเรื่องแบบนั้นได้ ต้องมีคนแอบสอนเขาแน่ ๆ ทุกวันที่อยู่ข้าง ๆ ลูกนอกจากตู้เฉินก็มีแค่หลินชีเย่ว์แค่นั้น
“ตู้เฉิน คุณก็โทษฉันเป็นแบบนี้ตลอด ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณแล้วนะ เรื่องเอกสารการอย่างร้างฉันได้ทำการเซ็นเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้เช้าหวังว่าคุณจะเซ็นชื่อคุณลงไปด้วย พอแค่นี้แล้วกัน”
พอหลินชีเย่ว์พูดเสร็จก็หลังหลังกลับไปแบบไร้เยื่อใย ครั้งนี้จะไม่มีความอาลัยอาวรณ์เลยสักนิดเลย
คำของลูกทีทำให้เธอเปลี่ยนไป ณ เวลานี้ก็จะได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม
พอเห็นหลินชีเย่ว์เดินจากไป ตู้เฉินก็ก้มลงไปทำลายข้าวของบนโต๊ะชา
คุณอยากจะหย่าร้างอย่างนั้นหรอ? ได้ แต่เขาเป็นลูกของฉัน ลูกของฉันก็ต้องอยู่กับฉัน
……
วันต่อมา สื่อมวลชนที่มาอ้อมล้อมคฤหาสน์ของตระกลูตู้เพิ่มขึ้นอย่างมาก กระแสดังขึ้นมากเพราะคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ไป จะให้ไปลูกเข้าเรียนอนุบาลก็ไม่ได้แล้ว และเรื่องงานภายในประเทศหลินชีเย่ว์ก็ติดต่อประสานใกล้จะเสร็จแล้ว ตอนนี้รอแค่ตู้เฉินเซ็นเอกการการหย่าร้าง เธอก็จะภาษลูกหนีไปทันที
ซูรุ่ยและซูหว่านไม่ได้ลงมากินข้าวเช้าตามปกติ ผู้ที่พักผ่อนเต็มอิ่มและมีชีวิตชีวาอย่างซูเสี่ยวซูกลับนั่งรับประทานอาหารที่โต๊ะอย่างเอร็ดอร่อย
“เหอะ ไม่มีความเป็นกุลสตรีเอาซะเลย”
พอเห็นลักษณะท่าของการกินของซูเสี่ยวซู เทียนเทียนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ทนไม่ได้ที่จะไม่เอ่ยปากพูดเยาะเย้ยไปว่า
”อาหารเต็มปากก็ปิดปากคุณไม่ได้ คุณจะมองฉันทำไม ไม่เคยเห็นคนสวยหรือไง”
ซูเสี่ยวซูพูดประชดกลับไปอย่างไม่ลังเลว่า “เหอะ ๆ ๆ จะมาแข่งกับพี่อย่างนั้นหรอ ไอ้น้องชาย แกเทียบฉันไม่ติดหรอก”
“ตู้อวี่ หลินลี่ ตั้งใจกินข้าว หยุดทะเลาะกันได้แล้ว”
ตู้เฉินที่กำลังรับประทานอาหารอยู่อย่างเงียบ ๆ พอได้ยินเสียงของพวกเขาทั้งสองคน ก็ได้ทำเสียงดื่มน้ำเสียงดังเพื่อให้พวกเขาหยุดทะเลาะกัน
“ฉันชื่อว่าซูเสี่ยวซู ไม่ได้ชื่อว่าตู้อวี่”
ซูเสี่ยวซูแก้คำที่ตัวเองได้พูดไป
“ตู้อวี่อะไรกัน จะมาเทียบความน่ารักของแม่นางซูได้ยังไง”
”ซูเสี่ยวซูอย่างนั้นหรอ”
พอตู้เฉินได้สติ เขาไม่ได้สังเกตหุ่นยนต์เครื่องนี้ คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าพี่ชายจะเปลี่ยนชื่อให้เธอ แถมยังแซ่ ”ซู” อีก
นี่เขาจะประกาศยึดอำนาจอธิปไตยแล้วรึไง