ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 11 อุ้มท้องหนีรักมหาเศรษฐี (11)
เพราะการอยู่ของตู้เฉินทำให้บนโต๊ะอาหารยามเช้าเย็นยะเยือกไปไม่น้อย รอจนกระทั้งเด็กทั้งสองต่างทานอาหารเสร็จ หลิงชีเย่ว์ก็นำเอาหนังสือสัญญาหย่ายื่นไปด้านหน้าของตู้เฉิน “เซ็นชื่อเถอะ! ”
เจอกันด้วยดีก็ขอให้จากกันด้วยดี คือคำขอเพียงอย่างเดียวของเธอ
“เซ็นชื่อ?” มุมปากของตู้เฉินยกขึ้น ในตาที่เรียวยาวมีรอยยิ้มปรากฏชั่วครู่ “คุณเสนอราคามาก่อนสิ”
“อะไรนะ?”
หลิงชีเย่ว์ชะงักไปชั่วครู่ ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของตู้เฉิน “ฉันมีมือมีเท้าหาเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องการค่าเลี้ยงดูของคุณ”
ค่าเลี้ยงดู? ตู้เฉินตะลึงเล็กน้อย จากนั้นเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ “ผมให้คุณเสนอราคามา ต่อไปนี้คืนหลิงลี่ให้ผมเลี้ยงดู! ”
“คุณพูดว่าอะไรนะ?”
ได้ยินข้อเสนอที่ไร้เหตุผลของตู้เฉิน หลิงชีเย่ว์ตัวสั่นด้วยความร้อนรนไปทั้งตัว “ตู้เฉินคุณอย่าได้ทำอะไรเกินเลยเกินไป! หลิงลี่เป็นลูกชายของฉัน ฉันเป็นคนคลอดเขาเลี้ยงเขา หลายปีมานี้คุณไม่เคยทำหน้าที่ของการเป็นพ่อคนหนึ่งเลย คุณจะแย่งสิทธิการเลี้ยงดูกับฉันด้วยอะไร?”
“พวกนี้คุณสามารถเอาไว้พูดกับทนาย แต่ผมจะบอกคุณไว้หลิงชีเย่ว์ อย่าว่าผมมีหลักฐานร้อยเปอร์เซ็นที่จะสนับสนุนให้ผมได้สิทธิการเลี้ยงดู ต่อให้ผมไม่มีโอกาสอะไรเลย ผมก็สามารถชนะคุณได้เหมือนกัน เพราะว่าผมคือตู้เฉิน! ”
ตู้เฉินสองคำนี้ ในเมืองหวาไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อ ๆ หนึ่งธรรมดาขนาดนั้นอย่างแน่นอน เขาเป็นตัวแทนของความร่ำรวยและเกียรติยศที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ร่างกายของหลิงชีเย่ว์สั่นไหวครู่หนึ่ง สีหน้าขาวซีดไปหมด ใช่สิ เธอจะเอาอะไรไปแย่งกับตู้เฉิน? แต่ว่าเธอมีแค่เทียนเทียนน้อยที่เป็นคนในครอบครัวคนเดียวแล้ว นี้เป็นคนในครอบครัวของเธอเพียงคนเดียวและเป็นลูกชายที่เธอรักมากที่สุด เธอไม่สามารถที่จะดูเขาห่างไปจากเธออย่างทำอะไรไม่ได้
“ต่อให้มีโอกาสแค่หนึ่งในล้าน ฉันก็จะช่วงชิงมาให้ได้จนถึงที่สุด! ตู้เฉินฉันคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าคุณจะทำได้ไร้หัวใจขนาดนี้” หลิงชีเย่ว์กุมหนังสือสัญญาหย่าในมือของตัวเองอย่างแน่น “คุณอยากเจอกันในศาล ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็เจอกันในศาล! ”
“คุณแม่ คุณพ่อ”
ในเวลานี้เอง หลิงลี่ที่แต่เดิมควรเล่นอยู่ในห้องรับแขกจู่ ๆ ก็มาโผล่อยู่ด้านหลังของทั้งสองคน บนหน้าเล็กๆ วัยละอ่อนมีสีหน้าอารมณ์สับสนงงงันที่ไม่เคยมีมาก่อน “พวกคุณจะฟ้องร้องกันหรือ?”
การฟ้องร้องสำหรับเด็กธรรมดาแล้วเป็นเรื่องที่ห่างไกลมาก พวกเขาไม่เข้าใจคำว่า “การฟ้องร้อง” แปลว่าอะไรอยู่แล้วโดยสิ้นเชิง แต่ว่าฉลาดแบบหลิงลี่รู้ความหมายในคำพูดของพวกเขาเป็นธรรมดา
“เทียนเทียนเป็นเด็กดีนะ นี่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ลูกอย่ายุ่งเลยนะ”
หลิงชีเย่ว์อดไม่ได้ที่จะอ่อนเสียงลงปลอบโยนลูกชายของตัวเอง แต่หลิงลี่แค่เบิกตากว้างมองเธอแล้วมองตู้เฉิน “พวกคุณคืนดีกันไม่ได้หรอ? คุณแม่ คุณแม่ให้อภัยคุณพ่อแล้วไม่ใช่หรอ? เป็นเพราะเรื่องของคุณน้าซูหรือเปล่า? ผมไปขอโทษเธออีก ผมไปขอโทษเธอทุกวันเลยดีไหมครับ?”
“นี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของซูหว่านเลย! ” ตู้เฉินได้ยินหลิงลี่พูดถึงซูหว่านออกมาอีก อารมณ์ที่เขาเก็บกดมาหนึ่งวันหนึ่งคืนในที่สุดก็ได้ระเบิดออกมาในเวลานี้ “ปีนั้นที่พ่อแต่งงานกับแม่ของลูกนั้นคือความผิดพลาด พวกบ้านตระกูลหลิงที่วางแผนใส่พ่อส่งเธอมาบนเตียงของผม วันนั้นพ่อดื่มจนเมา คิดว่าเธอคือซูหว่านถึงได้……”
“ตู้เฉิน! พอได้แล้ว! ” หลิงชีเย่ว์ขัดคำพูดของตู้เฉินเสียงดังจนเสียงแหบแห้ง เสียดายที่สายเกินไป
หลิงลี่น้อยตะลึง ในตามีแววตื่นตระหนกที่ไม่เคยมีมาก่อนกระพริบผ่าน ที่แท้คุณพ่อไม่เคยรักคุณแม่เลย พวกเขาไม่ได้เป็นเพราะการปรากฏตัวของ “มือที่สาม” จึงเลิกกันตามที่เขาจินตนาการเลย คุณพ่อนั้นเกลียดคุณแม่ ฉะนั้น เขาก็เกลียดตัวเองด้วยใช่ไหม?
ที่แท้ตัวเองคือ……เด็กที่ไม่ได้ถูกเฝ้าปรารถนารอคอย
ความจริงบางอย่างก็โหดร้ายเยี่ยงนี้ หลายปีนี้หลิงชีเย่ว์ไม่เคยพูดถึงตู้เฉินต่อหน้าหลิงลี่ ทุกครั้งที่ลูกถามถึงคุณพ่อ เธอก็จะใช้เรื่องอื่นเฉไฉไปเรื่องอื่น เรื่องราวชีวิตของหลิงลี่น้อยเป็นบาดแผลในใจของหลิงชีเย่ว์ชั่วนิรันดร แต่ตอนนี้ตู้เฉินกลับเปิดบาดแผลชั้นนี้ที่ภายนอกดูสมานหายดี แต่ข้างในนั้นได้เปื่อยเป็นแผลเหวอะหวะมานานต่อหน้าของลูก
“ผมเกลียดพวกคุณ! ผมเกลียดพวกคุณ! ”
นี้เป็นครั้งแรกที่หลิงลี่ร้องไห้น้ำตาอาบหลังกลับจากเมืองนอก อัจฉริยะน้อยรู้สึกว่าตัวเองนั้นได้เป็นชายชาตรีแล้วมาโดยตลอด หลั่งเลือดไม่หลั่งน้ำตา แต่ว่า……
อยากร้องไห้เหลือเกิน น้ำตาเค็มเหลือเกิน
ในร่างเล็กๆ ขณะนี้ได้ถูกเติมเต็มไปด้วยความโศกเศร้าที่ไม่มีที่สิ้นสุด หลิงลี่ได้วิ่งออกไปอย่างล้มลุกคลุกคลาน
“เทียนเทียน! ” หลิงชีเย่ว์คิดอยากไล่ตามออกไปติดๆ แต่กลับถูกตู้เฉินขวางเอาไว้อย่างแรง
“คุณไม่ต้องไปแล้ว เขาอยู่ในบ้านไม่เกิดเรื่องอะไรหรอก” ตู้เฉินรู้ตัวดีว่าตัวเองนั้นพูดพลั้งปากไป ดังนั้นเสียงในตอนนี้จึงอ่อนโยนลงไม่น้อย “ผมไม่ควรพูดเรื่องพวกนี้ต่อหน้าลูก แต่ว่าพวกนี้คือความจริงทั้งนั้น เทียนเทียนเขาฉลาดขนาดนี้ สักวันหนึ่งเขาก็ต้องรู้อยู่แล้ว”
“คุณก็รู้ว่านั้นเป็นเรื่องหลังจากนี้อีกนาน ตอนนั้นไม่แน่ว่าเขาโตแล้วเข้าใจแล้วว่าเรื่องของความรักความรู้สึกบังคับฝืนใจกันไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้ ตอนนี้เขาอายุแค่ห้าขวบ! ตู้เฉินทำไมคุณถึงได้ ทำไมคุณถึงได้โหดร้ายขนาดนี้! ”
หลิงชีเย่ว์รู้สึกในใจของตัวเองเจ็บปวดมาก ผู้ชายคนนี้ ผู้ชายคนนี้เลือดเย็นแบบนี้ได้อย่างไร?
……
ในสวนดอกไม้บ้านตระกูลตู้
หลิงลี่นั่งอยู่กลางแปลงเพาะดอกไม้คนเดียว มองดูดอกไม้สีสันสดใสหลากหลายรอบๆ ตัว ประกายในตาของเขามืดลง
เป็นคนโกหกหลอกลวงกันหมด หลอกกันทั้งนั้น ทุกอย่างพังทลายหมดแล้ว ทุกอย่างควรพังทลายให้หมด!
เขายกมืออันเล็กๆ ทั้งคู่ขึ้นหักเอาดอกไม้พวกนั้นที่อยู่ในพุ่มดอกไม้อย่างบ้าคลั่งไม่หยุดหย่อน จากนั้นก็ใช้เท้าทั้งสองของตัวเองกระทืบลงไปอย่างแรง
“โอ้โห ไอ้เจ้าเด็กใจดำ ถึงกับกล้ามาเหยียบดอกไม้ของพ่อฉันจนเละ”
ซูเสี่ยวซูที่ไล่ตามหลังหลิงลี่ออกมาติดๆ มองดูร่างเล็กๆ ในพุ่มดอกไม้ที่กำลังแตกสลาย อดไม่ได้ที่จะหยอกไปคำหนึ่ง
“เธอ! ”
ได้ยินคำพูดของซูเสี่ยวซู หลิงลี่มองขึ้นมาอย่างเย็นเยือก จ้องมองเธอด้วยสายตาโหดเหี้ยม “เธอก็ด้วย พ่อเธอแม่เธอ พวกเธอทุกคนเป็นคนไม่ดี! ”
“คนไม่ดีแล้วทำไมหรือ? พวกฉันชอบที่จะเป็นคนร้าย ยังไงก็ดีกว่าผู้ชายเลวๆ แบบพ่อของเธอ”
ซูเสี่ยวซูกลอกตาขึ้น จากนั้นก้าวยาวๆ เดินมาอยู่ตรงหน้าของหลิงลี่ “ไอ้เด็กอมมือ เธอรู้จักกาลเทศะล่ะก็ รีบๆ ออกมาซะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าพี่สาวไม่เตือนนะ! ”
“ฉันจะไม่ออกไป เธอเก่งมากก็มากัดฉันสิ?”
หลิงลี่ได้ยินคำพูดที่หยิ่งผยองของซูเสี่ยวซู อดไม่ได้ที่จะยืดหน้าอกขึ้น จากนั้น……
ซูเสี่ยวซูกระโจนเข้าไปกัดที่ไหล่ของหลิงลี่อย่างแรงจริงๆ “อุ๊……เธอให้ฉันกัดเองนะ อืม ฉันก็ขอเริ่มทานไม่เกรงใจละนะ”
หลิงลี่ “……”
ทำไมในการตั้งค่าตัวละครที่โคตรเท่เยอะแยะขนาดนี้ของอัจฉริยะอย่างฉัน ถึงไม่มีค่าพลังการต่อสู้ที่สูงสุดๆ นะ? นี่มันไม่ตรงตามหลักวิทยาศาสตร์เลย!
ชั้นสามของบ้านพักตากอากาศ กั้นด้วยหน้าต่างคริสตันที่ใสโปร่งสะอาด ซูหว่านกับซูรุ่ยยืนเคียงไหล่อยู่ตรงนั้นมองออกไปนอกหน้าต่าง เจ้าตัวเล็กสองคนในสวนดอกไม้มองดูตัวเล็กเป็นพิเศษ
“ฉันจำได้ว่าในสวนดอกไม้ปลูกกุหลาบที่มีหนามไว้เต็มอยู่ไม่น้อย เจ้าเด็กซนทั้งสองคนนั้นจะไม่ทำให้ตัวเองเป็นแผลทั้งตัวใช่ไหม?”
เห็นทั้งสองคนกอดกันเป็นก้อน กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ในพุ่มดอกไม้อีก ซูหว่านอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความเป็นห่วงขึ้นมาคำหนึ่ง
“ไม่เป็นไรหรอก”
ซูรุ่ยยิ้มพร้อมส่ายหัว “ในการตั้งค่าของซูซูมีฟังก์ชั่นการรักษา ต่อให้หลิงลี่บาดเจ็บ เธอก็สามารถช่วยเขาทำการรักษาที่เหมาะสมเรียบร้อยที่สุด”
ฉะนั้นพูดได้ว่า มีซูเสี่ยวซูอยู่ในมือ ไปเที่ยวนอกบ้านได้โดยไม่ต้องห่วง
ได้ยินคำพูดของซูรุ่ย ซูหว่านจึงได้พยักหน้าอย่างวางใจ ใช่สินะ เธอเกือบจะลืมไปอีกแล้ว ซูเสี่ยวซูเธอ……ก็แค่หุ่นยนตร์ที่มีความรู้สึก
แต่ว่า หุ่นยนตร์ถ้าหากได้มีความรู้สึกของมนุษย์ เธอจะมีความแต่งต่างอะไรจากมนุษย์หรือ?
เธอเองก็มีสุข มีทุกข์ มีเศร้า มีดีใจ มีความรักในใจ ร้องไห้เป็นหัวเราะเป็นเหมือนกัน แม้กระทั่งที่จริงๆ แล้วซูเสี่ยวซูที่สามารถใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานแก่ร่างกาย ยังเป็นนักกินตัวยงที่ตระกะอีกด้วย
แน่นอนว่าของพวกนั้นเธอกินเข้าไปแล้วก็ไม่สามารถถูกย่อยได้ แค่จะถูกถือว่าเป็นขยะที่ขจัดออกไปนอกร่างกายตามเวลาที่กำหนดแค่นั้นเอง
หุ่นยนตร์แบบนี้มองดูเหมือนมีระดับเป็นพิเศษ แต่ในความเป็นจริงแล้วน่าเศร้าเป็นที่สุด
“ถ้าหากพวกเราไปแล้ว ซูเสี่ยวซูจะทำอย่างไร?”
ซูหว่านจู่ๆ ถามขึ้นมาอย่างอดไมได้
ซูเสี่ยวซูเป็น “ลูกสาว” ที่ซูรุ่ยสร้างขึ้นมา คุณค่าของการมีตัวตนของเธอก็คือการอยู่ด้วยกันกับพ่อแม่ของตัวเอง แต่ว่าซูหว่านกับซูรุ่ยอย่างไรก็ต้องจากไปจากโลกนี้ แล้วซูเสี่ยวซูล่ะ?
เพียงแค่เครื่องยนต์หลักของเธอไม่เสียหาย เพียงแค่ยังมีแหล่งพลังงาน เธอก็จะมีชีวิตอยู่ต่อไปเรื่อยๆ
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็อยู่ในโลกนี้นานขึ้นสักนิดเถอะ รอจนกว่าเธอจะเติบโต”
ซูรุ่ยมองเงาของร่างกายของซูเสี่ยวซูและหลิงลี่ในพุ่มดอกไม้ พูดด้วยเสียงต่ำเบาๆ ว่า “รอให้เธอเติบโตแล้ว เธอเองก็จะมีคนที่ตัวเองชอบใช่ไหม?”
“ซูเสี่ยวซูโตได้ด้วยหรือ?”
ได้ยินคำพูดของซูรุ่ย ซูหว่านกลับตะลึงไปหมด หุ่นยนตร์ยังสามารถที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ได้ด้วยหรือ? ฉันเรียนหนังสือมาน้อย คุณอย่ามาหลอกฉัน
“ร่างกายนี้เติบโตขึ้นไม่ได้อยู่แล้วแน่นอน แต่ว่า…… ”
ซูรุ่ยยิ้มอย่างลึกลับ “ผมได้เตรียมของขวัญบรรลุนิติภาวะอายุสิบแปดปีให้เธอไว้แล้ว เป็นร่างอันใหม่เอี่ยมร่างหนึ่ง”
โอเค ซูหว่านยอมรับนับถือกับการมองการณ์ไกลของท่านแม่ทัพซุจริงๆ แต่ว่าผู้ปกครองทั้งสองท่าน พวกคุณเคยคิดถึงความรู้สึกของคนอื่นบ้างไหม?
ลูกสาวบ้านคุณใช้หน้าโลลิอายุเจ็ดขวบมาตลอด จากนั้นจู่ๆ กลายเป็นสาวสะพรั่งอายุสิบแปดในชั่วข้ามคืน นี้ใครจะไปรับได้หรือ? อย่างไรก็ตามหนุ่มบางคนบอกว่าตัวเองไม่สามารถรับได้จริงๆ
หลังจากนี้สิบเอ็ดปี พิธีบรรลุนิติภาวะของลูกสาวคนโตบ้านตระกูลตู้นั้นจะอลมานวุ่ยวายเกิดเรื่องไม่หยุดอย่างไร นั่นเป็นเรื่องราวหลังจากนี้จริงๆ แล้วล่ะ