ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 23 อุ้มท้องหนีรักมหาเศรษฐี (ปัจฉิมบม)
บนทางเดินอันมืดมิดปราศจากแสงจันทร์ กับสายตาที่พร่ามัว หลิงชีเย่ว์เห็นเพียงตู้เฉินที่นัยน์ตาทั้งสองข้างแดงก่ำเล็กน้อย ยามนี้เขาดูน่ากลัวเป็นพิเศษ
“ตู้เฉิน ตู้เฉิน คุณ…”
สายตาของหลิงชีเย่ว์มองไปยังมือของตู้เฉิน เธอมองเห็นปืนนั่นอยู่ในมือของตู้เฉิน
“หึ”
ตู้เฉินยิ้มเยาะ จากนั้นก็มองไปยังหลิงชีเย่ว์ที่อยู่ไม่ไกลด้วยสายตาว่างเปล่า
“คุณแม่?”
เวลานี้เอง หลิงลี่ที่ได้ยินเสียงแว่วของหลิงชีเย่ว์จู่ๆ ก็เดินออกมาจากด้านในห้อง
ยินดีด้วย คนในบ้านของตัวละครหลักได้มาอยู่พร้อมหน้ากันแล้ว
“เทียนเทียน รีบกลับเข้าไป ตู้เฉิน คุณอย่าซี้ซั้วนะ!”
หลิงชีเย่ว์ตื่นตระหนกที่เห็นร่างของหลิงลี่โผเข้ามาหา
“หุบปาก!”
ด้วยกลัวว่าเสียงของหลิงชีเย่ว์จะปลุกตู้หันให้ตื่น สีหน้าของตู้เฉินจึงดูเหี้ยมขึ้นมาในทันที “หลิงชีเย่ว์ ผมบอกให้คุณหุบปาก ไม่อย่างนั้นอย่าโทษว่าผมไม่เกรงใจคุณนะ!”
เวลานี้ ท่าทีของตู้เฉินดูโหดเหี้ยมขึ้นมาเป็นพิเศษ
คงเป็นครั้งแรกที่หลิงลี่ได้เห็นอีกด้านหนึ่งของตู้เฉิน
ในใจของเด็กทุกคน พ่อแม่ตัวเองย่อมเป็นบุคคลที่สวยงามที่สุดในโลกใบนี้เสมอ
ถึงแม้ว่าตู้เฉินจะเป็นไอ้สารเลวที่ขาดความรับผิดชอบต่อความรัก แต่หลิงลี่ก็ไม่เคยรังเกียจจุดนี้ของเขาเลย แต่ตอนนี้กลับไม่คาดคิดว่าคุณพ่อจะหันปากกระบอกปืนไปที่คุณแม่
“คุณพ่อ คุณพ่อทำอะไร นั่นคือคุณแม่นะครับ!”
หลิงลี่พูดน้ำเสียงสะอื้นไห้ เขากลัวมาก เขาไม่อยากสูญเสียคนในบ้านคนใดไปเลย
“เหอะ เขาเป็นแม่ของเธอ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพ่อล่ะ”
ตู้เฉินในเวลานี้ได้ขาดสติไปนานแล้ว
หลายปีมานี้เขาเป็นดั่งบุตรชายแห่งสรวงสวรรค์มาโดยตลอด เขาเหยียบย่ำสรรพชีวิตให้อยู่ใต้ฝ่าเท้า เขาเคยชินกับชีวิตเหนือมวลเมฆ และไม่ยินยอมให้ตัวเองตกลงมาจากที่สูง
เมื่อคนคนหนึ่งผู้มีรัศมีตัวละครหลักอยู่บนร่างได้ตกจากมวลเมฆลงมายังกองโคลนในข้ามคืนเดียว คุณยังหวังให้เขามีจิตใจปกติดีอยู่ไหม
ไม่ เขาไม่มีทางมีแน่นอน ไม่มีใครสามารถสงบสติอารมณ์ได้เมื่อพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
“คุณพ่อ คุณพ่อไม่เคยรักคุณแม่สักนิดเลยหรือครับ ถึงคุณพ่อจะไม่รักคุณแม่ อย่างน้อยคุณพ่อก็ควรคิดถึงผมบ้าง ผมไม่อยากสูญเสียพวกคุณไปนะครับ”
ในค่ำคืนอันมืดมิด น้ำเสียงหลิงลี่ดูเจ็บปวดและสิ้นหวังเป็นพิเศษอย่างเห็นได้ชัด
“พ่อไม่เคยรักเขาเลย ถ้าหากปีนั้นพ่อรู้ว่าเขามีลูกละก็ พ่อจะไม่ยอมให้เขาคลอดลูกออกมาเด็ดขาด”
ตู้เฉินหรี่ตามองหลิงลี่ “เทียนเทียน ถ้าตอนนี้ลูกมาอยู่ฝั่งนี้ ลูกจะยังเป็นลูกชายของพ่อต่อไป ไม่อย่างนั้น…”
“ไม่อย่างนั้นอะไรเหรอครับ”
เมื่อหลิงลี่มองหน้าตู้เฉิน แววตาก็เปลี่ยนไปทีละน้อยๆ เช่นเดียวกัน
อย่างที่คิด คุณลุงพูดถูก
คุณพ่อไม่ได้รักพวกเขา คุณพ่อรักแต่ตัวเองเท่านั้น รักในชีวิตที่สุขสบายพรั่งพร้อมของคุณพ่อนั่น
วันหนึ่งถ้าพ่อลูกต้องมาดวลกันละก็…
หลิงลี่นึกถึงสิ่งที่คุณลุงเคยถามเขาขึ้นมา
เขาอดไม่ได้ที่จะหลับตาลงอย่างช้าๆ
ในเมื่อคุณพ่อไม่เคยคาดหวังในการเกิดมาของเขา แล้วเขาจะกอดความคาดหวังอะไรในตัวคุณพ่ออีกล่ะ
คนผู้นี้ไม่รักคุณแม่และไม่รักตัวเขาด้วย
“คุณลุง”
หลิงลี่พูดเบาๆ ขึ้นมาคำหนึ่ง “คืนความรู้สึกผมมาเถอะครับ ขอให้คุณลุงช่วยจัดการด้วย”
ในช่วงเวลานี้ หลิงลี่รู้สึกว่าตัวเองเติบโตขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ถึงแม้มูลค่าแห่งการเติบโตนั่นจะสูงถึงขนาดนั้นก็ตาม
สายลมวูบหนึ่งพัดผ่านไป ตู้เฉินรู้สึกเหมือนมือของตัวเองเบาลง ปืนในมือนั่นหายไปอย่างน่าประหลาด ไม่นานก็มีกระบอกปืนเย็นๆ จ่อเหนือขมับเขา “น้องรอง ปืนเขาเล่นกันแบบนี้”
ร่างของซูรุ่ยจู่ๆ ก็มาปรากฏอยู่ข้างตัวตู้เฉิน เขาพูดจบก็หันไปหาหลิงชีเย่ว์และหลิงลี่ “หลิงลี่ พยุงคุณแม่กลับเข้าห้องไป ถัดจากนี้จะเป็นฉากนองเลือดจึงไม่เหมาะกับเด็กๆ พวกเธอเองก็คงไม่อยากดูหรอก”
หลิงชีเย่ว์ที่ยังหน้าซีดอยู่ พอได้ยินคำพูดของซูรุ่ย เธอก็กัดปากเต็มแรง หันไปมองตู้เฉินให้เต็มตา
ผู้ชายคนนี้มีผลกระทบต่อเธอมาชั่วชีวิต ตอนนี้ในที่สุดทุกสิ่งก็จะจบลงแล้วใช่ไหม
“คุณแม่ พวกเราเข้าไปกันเถอะครับ”
เมื่อเทียบกับจิตใจที่สลับซับซ้อนของหลิงชีเย่ว์ เห็นได้ชัดว่าหลิงลี่ดูสงบนิ่งกว่ามาก
เมื่อตัดสินใจลงมือทำก็ไม่คิดเสียใจในภายหลัง ไม่ลังเล นี่ถึงจะเป็นชายที่จะทำการใหญ่อย่างแท้จริง
เมื่อเห็นคนสองคนกลับห้องนอนไปเรียบร้อยแล้ว เวลานี้ซูรุ่ยถึงหันไปทางตู้เฉิน “วันนี้เป็นวันขึ้นสิบห้าค่ำ พระจันทร์เต็มดวงพอดี เหมาะที่จะไปอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับคุณพ่อคุณแม่ในนรกแล้ว”
“หึ ตู้หัน ฉันประเมินตัวพี่ต่ำมาโดยตลอด”
ในช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตายตู้เฉินกลับดูสงบนิ่งอย่างน่าประหลาดใจ เวลานี้เขาไม่เสียใจกับความไร้เหตุผลของตัวเอง
ชั่วชีวิตของมนุษย์เรานี้มักทำในสิ่งที่เอากลับคืนมาไม่ได้เพราะอารมณ์ชั่ววูบทั้งนั้น
ชนะเป็นเจ้าแพ้เป็นโจร ก็แค่นี้เอง
“เสี่ยวหว่านล่ะ ฉันอยากพบเธอ”
เวลานี้ความปรารถนาในใจเขาอาจจะเป็นการได้เจอหน้าซูหว่านเป็นครั้งสุดท้ายกระมัง
“ภรรยาพี่ไม่อยากเจอพี่หรอก”
ซูรุ่ยตอบด้วยสีหน้าที่เย็นชา ศัตรูหัวใจอะไรกันน่ารังเกียจเป็นที่สุด
“ตู้หัน พี่เป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า หรือแม้แต่ความปรารถนาของคนที่กำลังจะตาย พี่ยังไม่ยอมส่งเสริมอีกเหรอ”
ตู้เฉินมองพี่ใหญ่ของตัวเอง ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าพี่ดูแปลกหน้า ราวกับตัวเขาเองแทบไม่รู้จักพี่เลยแม้แต่น้อย
“พี่เป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า ภรรยาพี่รู้อยู่แล้ว ถ้านายอยากตายพี่จะช่วยส่งเสริมให้เดี๋ยวนี้”
ซูรุ่ยไม่ลังเลที่จะเหนี่ยวไกปืนออกไปในขณะที่พูด
ขอขอบคุณทางสำนักงานใหญ่สำหรับการแนะนำบทลงโทษเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
แม่ทัพซูบอกความรู้สึกยามลงมือฆ่าศัตรูหัวใจอะไรนั่นด้วยมือของตัวเองได้เลยว่ามันยอดเยี่ยมจริงๆ
ขณะที่ร่างของตู้เฉินค่อยๆ ร่วงลงสู่พื้น ซูรุ่ยก็ทำการแกะปืนเก็บเสียงกระบอกนั้นและแยกออกเป็นชิ้นส่วนอย่างไม่ไยดี จากนั้นก็แยกวางไว้ข้างตัวตู้เฉิน
พรุ่งนี้ทางหนังสือพิมพ์ค่ายใหญ่แต่ละค่ายของเยียนจิงจะต้องลงข่าวที่ตู้เฉินประสบเหตุร้ายที่ต่างประเทศแน่
ไม่ผิด โลกของคนมีเงินก็เป็นไปอย่างอำเภอใจแบบนี้แหละ
ขณะที่ซูรุ่ยกำลังจะสั่งการให้หุ่นยนต์ในบ้านจัดการกับร่างของตู้เฉิน จู่ๆ หลิงลี่ก็เดินออกมาจากห้องของตัวเอง “คุณลุง ให้ผมทำเถอะครับ”
เป็นพ่อลูกกันชาติหนึ่ง เขาก็ขอเป็นธุระจัดการกับร่างของคุณพ่อ ให้คุณพ่อได้กลับสู่ผืนดินอย่างเป็นสุข
เมื่อเห็นคิ้วและแววตาที่ดูเคร่งขรึมขึ้นของหลิงลี่ รวมถึงใบหน้าปราศจากความรู้สึกใดๆ ซูรุ่ยก็หรี่ตาลง
เวลานี้จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่า คนที่เข้มแข็งที่สุดในโลกใบนี้ไม่ใช่ตู้เฉิน แต่เป็นหลิงลี่ต่างหาก
เมื่อเทียบกับหลิงลี่แล้ว ออร่าตัวละครหลักของตู้เฉินและหลิงชีเย่ว์ช่างดูอ่อนแอเสียจริง
สุดท้ายหลิงลี่ก็ให้คนนำร่างของตู้เฉินไป ส่วนเขาจะพาไปที่ไหนนั้น ซูรุ่ยไม่เคยถาม
ตั้งแต่ตู้เฉินประสบ ‘อุบัติเหตุ’ ซูรุ่ยก็กลายเป็นผู้ดูแลตระกูลตู้แต่เพียงคนเดียว แต่ในเวลานี้เขากลับคืนสู่ซิงหงอิเล็กทรอนิกส์เพื่อทุ่มเทให้กับการวิจัยหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์
เขาต้องการให้โลกในอนาคตข้างหน้า ทั้งหุ่นยนต์และมนุษย์สามารถอยู่ร่วมกันอย่างเป็นมิตร มีสถานะเท่าเทียมกัน
นี่เป็นสิ่งเดียวที่พอจะทำเพื่อซูเสี่ยวซูได้ก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไป
บริษัทของตระกูลตู้ทั้งหมดถูกส่งมอบให้หลิงลี่ เด็กที่อายุไม่ถึงหกขวบจะต้องมาจัดการกับอาณาจักรขนาดใหญ่ที่มีเม็ดเงินจำนวนมหาศาล และท่ามกลางความสงสัยของโลกภายนอก เด็กคนนี้กลับทำให้ผู้คนประหลาดใจ
ให้ตายเหอะ นายแน่ใจนะว่าเป็นเด็กจริงๆ
คุณชายใหญ่ตู้ คุณเอาหุ่นยนต์ไอคิวสูงมาหยอกพวกเราเล่นหรือเปล่าครับ
…
ห้าปีต่อมา ในวันเกิดอายุครบสิบเอ็ดปีของหลิงลี่
“สุขสันต์วันเกิด”
ซูเสี่ยวซูมองหลิงลี่ที่ตัวสูงกว่าตัวเองมาก จึงทำได้เพียงยื่นของขวัญไปที่ระดับอกของเขา
“ขอบคุณครับ ซูซู”
หลิงลี่ยกมือลูบผมของซูเสี่ยวซูด้วยความเคยชิน
“เฮ้ ต้องเรียกพี่ซูซูสิ!”
ซูเสี่ยวซูไม่พอใจ พี่สาวที่เคยพูดกันไว้ดิบดีล่ะ? พอเธอเห็นว่าฉันเตี้ยก็จะรังแกฉันสินะ?
เมื่อมองซูเสี่ยวซูที่ยังดูเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง หลิงลี่ก็ทำได้เพียงส่งยิ้มอ่อนโยนออกมา “พี่ซูซู โอเคหรือยังครับ”
“แบบนี้ยังพอรับได้อยู่บ้าง”
ซูเสี่ยวซูร่าเริงขึ้นมาทันควัน “ฉันจะบอกเธอให้นะ ถ้ามีเด็กผู้หญิงส่งของกินมาให้เธอ เธอห้ามกินเด็ดขาดเลยนะ”
“ทำไมล่ะ”
หลิงลี่แววตาเป็นประกายและมองซูเสี่ยวซูด้วยสีหน้าจริงจัง
“เพราะต้องเก็บไว้ให้ฉันน่ะสิ! ไม่เคยเรียนเรื่องข่งหรงสละลูกสาลี่หรือ การไม่มีวัฒนธรรมมันช่างน่ากลัวเสียจริง”
หลิงลี่ถึงกับพูดไม่ออก…
ตกลงใครกันที่ไม่เคยเรียนหนังสือ ใครไม่มีวัฒนธรรมกันแน่เนี่ย…
หลายปีต่อมา ในวันเกิดอายุสิบห้าปีของหลิงลี่
“นี่ สุขสันต์วันเกิด”
เดี๋ยวนี้ซูเสี่ยวซูไม่ชอบฉลองวันเกิดให้หลิงลี่เลยแม้แต่น้อย เพราะแต่ก่อนมีเด็กผู้หญิงมาชอบเขาเยอะมาก แล้วยังให้ช็อกโกแลตเขาอีก ซูเสี่ยวซูชอบกินช็อกโกแลตเป็นที่สุด
แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีเด็กผู้หญิงเอาของมาให้เขาแล้ว
ก็ดูเขาสิ ทำหน้าเย็นยะเยือกได้ทั้งวัน เหมือนภูเขาน้ำแข็งเลย มิน่าถึงไม่มีเด็กผู้หญิงมาชอบ น่าสงสารเหลือเกิน
ช่างเถอะ ฉันก็ทำให้เขามีความสุขแล้วกัน
“หลิงลี่ ดูสิว่าฉันให้อะไร”
ซูเสี่ยวซูเห็นหลิงลี่กำลังจะเก็บของขวัญ ก็กล่าวเตือนเขาด้วยความกระตือรือร้นในทันที
อันที่จริงของขวัญวันเกิดที่ซูเสี่ยวซูมอบให้ไปให้มาก็เป็นของไม่กี่อย่างเท่านั้น แม้จะดูธรรมดามาก แต่หลิงลี่ก็ตั้งใจเก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี
วันนี้พอเห็นซูเสี่ยวซูเอาแต่กะพริบตาวิบวับมองดูเขา หลิงลี่ก็ได้แต่เปิดของขวัญออกมา
เป็น…
ช็อกโกแลตรูปหัวใจ?
ในช่วงเวลานั่น หลิงลี่รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองจะเต้นเร็วเป็นพิเศษ
แม้ว่า…
หลายปีมานี้ซูเสี่ยวซูจะไม่เจริญเติบโตขึ้นเลย แต่หลิงลี่รู้ว่าตัวเองนับวันจะยิ่งชอบเธอมากขึ้น
เขาจะถูกมองว่าเป็นไอ้โรคจิตไหมนะ
สิ่งนี้ทำให้หลิงลี่กลัดกลุ้มใจเป็นอย่างมาก ในโลกนี้คนหรือข้อเท็จจริงที่ทำให้เขารู้สึกกลัดกลุ้มใจมีอยู่น้อยมาก แต่ซูเสี่ยวซูกลับทำให้เขากลัดกลุ้มใจได้ตลอดเวลา
“ชอบไม่ชอบ ชอบไหมเอ่ย”
ซูเสี่ยวซูโน้มตัวไปข้างหน้า กะพริบตามองหลิงลี่แล้วทำสีหน้าเอาใจ
“ชอบ ชอบเป็นพิเศษเลย”
หลิงลี่อดฉีกยิ้มขึ้นมาไม่ได้ อันที่จริงเวลายิ้มเขาจะดูดีมากเป็นพิเศษ แต่ซูเสี่ยวซูกลับไม่มีเวลามาชื่นชม เธอหยิบช็อกโกแลตกลับมาไว้ที่อกของตัวเอง “เอาล่ะ มองก็มองแล้ว ชอบก็ชอบแล้ว ตอนนี้ก็คืนฉันมาได้แล้ว”
หลิงลี่พูดไม่ออกอีกครั้ง…
พอเห็นหลิงลี่ทำหน้ามึนงง ซูเสี่ยวซูก็อดไม่ได้ที่จะอธิบายอย่างจริงจัง “เธอลืมแล้ว เธอเคยรับปากฉันว่าจะส่งของขวัญทุกชิ้นที่เด็กผู้หญิงมอบให้เธอกับฉันไม่ใช่เหรอ หรือว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิง? นายดูถูกหุ่นยนต์ใช่ไหม”
“…” หลิงลี่หมดคำจะพูด
ไม่ไกลนัก ซูหว่านที่เห็นหลิงลี่หน้าเสียอย่างหาได้ยากก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะคว่ำหน้ากับหัวไหล่ของซูรุ่ย “สามี คุณว่าตอนนี้หลิงลี่อยู่ในอารมณ์ไหนคะ”
“คงคิดจะไปตายก่อนละมั้ง”
ซูรุ่ยมองแววตาของหลิงลี่ที่กำลังมองดูซูเสี่ยวซู แววตานั่นดูคุ้นเคยสำหรับเขามาก เป็นเพราะตัวเขาเองก็มักใช้แววตาเช่นนั้นมองซูหว่านอยู่เสมอ
“ภรรยา ปีหน้าเสี่ยวซูก็จะอายุสิบแปดปีแล้ว พวกเรา…จัดงานฉลองวันเกิดให้เธอแล้วค่อยจากไปเนอะ”
สิบปีไวเหมือนดีดนิ้วในชั่วพริบตา ปัจจุบันหุ่นยนต์เป็นที่แพร่หลายมากในโลกใบนี้ ถึงขนาดมีคนสนับสนุนให้มีการประกาศใช้กฎข้อบังคับการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างหุ่นยนต์กับมนุษย์ผ่านการแต่งงานมาแล้ว
แน่นอน สิ่งนี้ในตอนนี้ยังถูกต่อต้านโดยคนส่วนใหญ่อยู่ แต่ซูรุ่ยเชื่อว่าตราบใดที่หลิงลี่ยังมีใจ เขาจะต้องเปลี่ยนโลกได้
และมีเพียงส่งลูกสาวไว้ในมือของหนุ่มน้อยคนนี้ ซูรุ่ยถึงจะวางใจได้อย่างแท้จริง
พวกเขาอยู่ในโลกใบนี้นานเกินไปแล้ว สมควรที่จะต้องจากไปเสียที
มีบุพเพ มีความผูกพันบางอย่างที่ถูกลิขิตไว้ไม่ให้อยู่ร่วมกับพวกเขาไปตลอดชีวิตได้
“พวกเราควรไปได้แล้ว แต่ว่า…”
ซูหว่านหันไปมองซูรุ่ย “พวกเรา…ยังจะได้กลับมาอีกใช่ไหม”
รอให้ทุกอย่างสิ้นสุดลง หลังจากที่เธอและซูรุ่ยได้พ้นจากการเป็นผู้ทำภารกิจ พวกเขาก็สามารถเลือกมิติที่อยากไปใช้ชีวิตตลอดไปได้ ที่นี่บางทีอาจจะเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเอามากๆ ก็เป็นได้
เมื่อถึงตอนนั้น โลกใบนี้จะเป็นอย่างไรอีกนะ