มรรคาสู่สวรรค์ - ตอนที่ 67 ทรายขาวกำลังปนเปื้อน
ในเวลานี้นิ้วมือของจักรพรรดิแห่งหมิงได้จมลงไปในข้อมือของเขาจนหมดแล้ว ราวกับหลอมรวมเป็นร่างเดียวกัน
นิ้วมือของชายชรายกขึ้นมา เขาไม่อยากจะสัมผัสกับร่างกายของจักรพรรดิแห่งหมิง แต่ฝ่ามือของเขาไม่สามารถแยกออกมาได้ มันหลอมรวมเข้ากับข้อมือของจักรพรรดิแห่งหมิง มองดูคล้ายดอกไม้
หากปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ สุดท้ายเขาก็จะหลอมรวมเป็นร่างเดียวกับจักรพรรดิแห่งหมิง
เสียงคำรามอันดังสนั่นแผดร้องออกมาจากปากของชายชรา
แขนเสื้อเขาโบกสะบัดอย่างรุนแรง บึงน้ำสีเขียวคล้ำเกิดคลื่นยักษ์กระเพื่อมขึ้นมา กระแทกไปมากับผนังของสวรรค์ในกา ส่งเสียงตูมตามดังสนั่นราวเสียงกลองรบ
ร่างกายของจักรพรรดิแห่งหมิงลอยขึ้นมาจากน้ำในบึง คล้ายไร้ซึ่งน้ำหนัก
เมื่อดวงจิตของมังกรชางหลงโจมตีอย่างเต็มที่ เพลิงวิญญาณที่ห่อหุ้มร่างกายเขาอยู่ก็เกิดรอยแตกขึ้นมาเป็นจำนวนมาก น้ำในบึงไหลเข้าไปกัดกินร่างกายจนเกิดเป็นฟองอากาศและรอยเปื่อยยุ่ยเล็กๆ จำนวนมาก
แต่มือของเขายังคงจับข้อมือของชายชราเอาไว้แน่น พูดให้ถูกยิ่งกว่านั้นก็คือมือของเขาเหมือนงอกออกมาจากร่างกายของชายชรา
น้ำในบึงกระเพื่อมไปมา แขนเสื้อของทั้งสองคนค่อยๆ ฉีกขาด แขนหลอมรวมเข้าด้วยกัน กระดูกและเนื้อที่อยู่ด้านในก็รวมเข้าด้วยกัน ไม่สามารถแยกจากกันได้อีก
การหลอมรวมดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนก็หดสั้นลงเรื่อยๆ ใบหน้าแทบจะแนบชิดติดกัน
ชายชรามองเห็นความเฉยชาและความเยือกเย็นที่อยู่ในดวงตาสีดำของจักรพรรดิแห่งหมิงได้อย่างชัดเจน
จักรพรรดิแห่งหมิงเองก็มองเห็นความหวาดกลัวในดวงตาของชายชราได้อย่างชัดเจน นั่นคือความหวาดกลัวอย่างแท้จริง
ชายชราไม่สามารถแบกรับความหวาดกลัวที่จะถูกกลืนกินเอาไว้ได้อีก เขาคิดจะคลายสวรรค์ในกาออก
ถึงแม้จะคลายสวรรค์ในกา เขาก็ยังไม่สามารถแยกออกมาจากร่างกายของจักรพรรดิแห่งหมิงได้ แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องแช่อยู่ในน้ำสีเขียวที่เป็นเหมือนสุราแห่งนี้…..
ชายชราคิดถึงเรื่องเหล่านี้ ทันใดนั้นพลันรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง
คำศัพท์สำคัญบางอย่างผุดขึ้นมาในสมองของเขาอย่างรวดเร็ว
สวรรค์ในกาที่ไม่สามารถออกไปได้ บึงน้ำที่มีพิษรุนแรง การควบคุมดวงจิต…
“ฮ่าๆๆๆๆๆ!”
ชายชราพลันหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา หัวเราะจนเกือบจะน้ำตาไหล มองดูจักรพรรดิแห่งหมิงพลางกล่าวว่า “ฝ่าบาทช่างยอดเยี่ยมจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะเล่นงานดวงจิตของข้า จนข้าเกือบจะเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องจริง!”
จักรพรรดิแห่งหมิงมองดูเขาเงียบๆ พลางกล่าว “เดิมเรื่องเหล่านี้มันก็เป็นเรื่องจริงอยู่แล้ว”
ชายชราคำราม “ไม่! ทุกอย่างเป็นภาพลวงตา! เจ้าหลอกข้าไม่ได้หรอก!”
คำพูดเพิ่งพูดจบ ความคิดเขาพลันขยับ ทำให้น้ำภายในกาแห่งสวรรค์หมุนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว กลายเป็นน้ำวนสายหนึ่ง
ร่างกายของเขาและจักรพรรดิแห่งหมิงคล้ายก้อนหินที่อยู่ในน้ำวน ถูกกระแทกไปมาไม่หยุด
ผ่านไปไม่นานเท่าไร เพลิงวิญญาณที่ห่อหุ้มร่างกายจักรพรรดิแห่งหมิงก็ถูกกัดกร่อนไปจนหมด น้ำสีเขียวถาโถมเข้าไป
บนใบหน้าของจักรพรรดิแห่งหมิงมีรูเลือดเล็กๆ ปรากฏขึ้นมานับไม่ถ้วน จากนั้นค่อยๆ ลุกลามออกไป
ร่างกายของเขาเองก็ถูกกัดกร่อนด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เผยให้เห็นกระดูกที่เป็นเหมือนหยกสีขาว บนผิวกระดูกมีฟองอากาศเล็กๆ มากมาย
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร น้ำวนภายในบึงค่อยๆ สงบลง
กาแห่งสวรรค์ค่อยๆ เปิดออก บึงน้ำไหลกลับไปยังพื้นด้านล่าง ท้องฟ้าอันมืดมิดยกตัวกลับขึ้นไปด้านบน
ชายชรายืนอยู่ริมบึง มองดูน้ำในบึงเงียบๆ มิกล่าวกระไร
จอกแหนกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ปกปิดน้ำสีเขียวคล้ำ ภายในน้ำนอกจากโครงกระดูกที่ปีศาจยักษ์ตัวนั้นทิ้งเอาไว้เมื่อในอดีตแล้วก็ไม่มีร่องรอยใดๆ หลงเหลืออยู่อีก กระทั่งเศษซากก็ไม่มีเหลือ
ชายชรามองไปทั่วทุกที่ภายในคุกสะกดมาร
เพลิงวิญญาณที่หน้าตาเหมือนจักรพรรดิแห่งหมิงตัวเล็กๆ เหล่านั้นก็บินออกมาจากรอยแตกเหล่านนั้น ก่อนจะสลายหายไปอย่างช้าๆ
จักรพรรดิแห่งหมิงตายแล้ว
ชายชรามองดูแขนของตัวเอง
ข้างในไม่มีมือของจักรพรรดิแห่งหมิง ไม่มีบาดแผล ไม่มีร่องรอยแม้แต่นิดเดียว
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ล้วนแต่เป็นภาพลวงตาจริงๆ ด้วย
ชายชราครุ่นคิดถึงเหตุการณ์อันน่าตกใจและอันตรายก่อนหน้านี้ ก่อนจะบินขึ้นไปยังด้านบนหน้าผาด้วยความรู้สึกหวาดกลัว จากนั้นเดินออกไปทางด้านนอกคุกสะกดมาร
ที่นี่คือชั้นสองของคุกสะกดมาร ร้อนระอุเป็นอย่างยิ่ง เส้นลวดลายที่หมุนวนอยู่บนหน้าผาเหล่านั้นถูกทำลายลงจนหมด ห้องขังที่อยู่ในความมืดทั้งสองด้านเงียบสงัดไร้ซึ่งเสียงใดๆ
หลังเจอกับสวรรค์ในกา ภายในคุกสะกดมารก็ถูกทำลายไปไม่น้อย
นักโทษเหล่านั้นสวมใส่กุญแจพลังวิญญาณเอาไว้ ไม่สามารถทนรับต่อการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ว่างอันรุนแรงเช่นนี้ได้ ดูแล้วคงจะตายไปจนหมดแล้ว
เมื่อเดินไปเรื่อยๆ ชายชราก็ค่อยๆ สงบสติอารมณ์ลงไป ขณะเดียวกันก็เริ่มดูดซับพลังที่จักรพรรดิแห่งหมิงทิ้งเอาไว้ในบึงน้ำ
ทันใดนั้นเอง เขาพลันหยุดนิ่งอยู่บนที่โล่งกว้าง
เขารับรู้ได้ว่าในร่างกายของตัวเองมีพลังที่แข็งแกร่งและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตสายหนึ่งปรากฏขึ้นมา เขาคล้ายรู้สึกว่าตนเองได้บรรลุไปถึงสภาวะที่สูงส่งอย่างที่ไม่เคยได้พบเจอมาก่อน
พลังและสภาวะเช่นนี้ช่างมหัศจรรย์เป็นอย่างมาก คล้ายกับสุราชั้นเลิศที่แท้จริงอย่างไรอย่างนั้น ทำเอาเขารู้สึกลุ่มหลงเมามาย
หรือกำลังจะบรรลุกลายเป็นเซียน?
ชายชราคิดอย่างตกใจและยินดี ลางสังหรณ์ที่จะได้หลุดพ้นจากโลกมนุษย์เช่นนั้นยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำเอาเขาอดหัวเราะเสียงดังขึ้นมาไม่ได้
หากมิเป็นเพราะเขาไม่สามารถบรรลุเป็นเซียนและหวาดกลัวต่อความตาย ไหนเลยเขาจะยอมแปลงกลายเป็นคุกสะกดมารมาอยู่ใต้เมืองเจาเกอเป็นเวลานานขนาดนี้?
ในที่สุดตอนนี้เขาก็จะได้โบยบินกลายเป็นเซียน ในที่สุดเขาก็จะได้กลายเป็นเทพมังกรที่แท้จริง แล้วจะไม่ให้เขารู้สึกตื่นเต้นยินดีได้อย่างไร!
เสียงหัวเราะของชายชราดังสะท้อนไปมาในคุกสะกดมารอันเงียบสงัด กัมปนาทราวเสียงฟ้าคำราม
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะพลันหยุดชะงักไป
ชายชรารู้สึกแปลกใจ
เห็นๆ อยู่ว่าในเวลานี้เขาอยู่ในอารมณ์ที่ยินดีเป็นอย่างมาก เขายังรู้สึกอยากจะหัวเราะเสียงดัง หางตาถึงขนาดยังมีรอยยิ้มอยู่ แต่เหตุใดเสียงหัวเราะกลับหยุดไป?
ราวกับมีใครหันหลังให้กับเจตจำนงของเขา ทำให้ปากของเขาต้องหุบลง
ทันใดนั้น เขาพลันอ้าปากเอ่ยออกมาว่า “ความยินดีของเจ้ามาจากไหนกัน?”
……
……
ใบหน้าของชายชราแปรเปลี่ยนเป็นขาวซีดเป็นอย่างมาก
เขาไม่ได้มีความคิดที่จะพูดเลย
คำพูดประโยคนี้ใครเป็นคนพูด?
คนที่อยู่ในคุกสะกดมารตายกันไปหมดแล้ว คำพูดประโยคนี้พูดให้ใครฟัง?
จากนั้นชายชราพลันรู้สึกว่าในร่างกายของตัวเขาองก็เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้น เขารู้สึกเหมือนร่างกายเตี้ยลง
เขามองดูมือของตัวเอง พบว่ามือทั้งสองข้างดูขาวและน่ารักขึ้น
ม่านตาของชายชราหดเล็กน้อย เขาจำมือสองข้างนี้ได้ เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน มือสองข้างนี้เคยคว้าจับอยู่ที่ข้อมือของเขา แล้วค่อยๆ จมลงไปในร่างกายเขา
ในจุดที่ชายชรามองไม่เห็น ยังมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างกำลังเกิดขึ้น
ขนคิ้วของเขาค่อยๆ จางลง จนกระทั่งหายไป ม่านตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นดำขึ้น ราวอัญมณีสีดำอย่างไรอย่างนั้น
“เจ้า….ยังมีชีวิตอยู่?”
ชายชรากล่าวเสียงสั่นขึ้นมา
“ถูกต้อง”
เสียงเสียงหนึ่งดังออกมาจากในปากเขา
นั่นคือเสียงของตัวชายชรา แต่เขารู้ว่านั่นเป็นอีกคนหนึ่ง
“เจ้าอยู่ในตัวข้า?”
“ข้าเคยบอกแล้ว เรื่องการควบคุมดวงจิต ข้าคือที่หนึ่งในใต้หล้า ยิ่งไปกว่านั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้มิใช่การคิดไปเอง”
ร่างกายของชายชราสั่นเทิ้มขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุมได้
เขาถึงได้รู้ว่าพละกำลังที่ตนเองรับรู้ได้ก่อนหน้าที่มิใช่สิ่งที่ได้มาจากการกลืนกินจักรพรรดิแห่งหมิง
ความรู้สึกที่เหมือนจะได้บรรลุเป็นเซียนที่เขารับรู้ได้ก็ย่อมไม่ใช่การบรรลุเป็นเซียนเช่นกัน อย่างนั้นมันคืออะไร?
“นั่นคือความตาย”
“เจ้า…เจ้า…คิดจะทำอะไรกันแน่?”
“เจ้าน่าจะรับรู้ได้แล้วว่าข้ากำลังจะฆ่าเจ้า”
“ไม่! เจ้าทำเช่นนี้ไม่ได้! ดวงจิตของข้ากับเจ้าหลอมรวมเข้าด้วยกัน หากเจ้าฆ่าข้า เจ้าก็จะตายไปด้วย!”
“เจ้าไม่เคยคิดมาก่อนหรือว่าเหตุใดข้าถึงออกมาจากประตูพายุ แล้วทำให้เจ้าได้มีโอกาสกินข้า?”
“มีแต่แบบนั้นเจ้าถึงจะฆ่าข้าได้…แต่ว่า…หรือว่า….เจ้าไม่ได้อยากจะมีชีวิตอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว?”
“ถูกต้อง ข้าอยากตายตั้งแต่แรกแล้ว หากพาเจ้าตายไปด้วยได้ เช่นนั้นคงเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก”