มหากาพย์ดาบเทวะ! - ตอนที่ 45
ตอนที่ 45 เดิมพันระหว่างผู้ทดสอบ
หอคอยผู้รับใช้ดาบตั้งอยู่บนยอดเขาโดดเดี่ยว มันกินพื้นที่ประมาณหนึ่งกิโลเมตร มีความสูงอยู่ยี่สิบเก้าชั้น และทุกชั้นสูงประมาณสิบห้าเมตร ดังนั้นเมื่อมองขึ้นไปยังหอคอยจากพื้นดิน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นยอดหอคอย
เฉาหัวแสดงท่าทีเคร่งขรึมขณะมองไปยังหอคอยผู้รับใช้ดาบตรงหน้า จากนั้นไม่นานเขาหันไปมองผู้ทดสอบด้วยท่าทีประหลาดใจและจริงจัง “หอคอยผู้รับใช้ดาบคือสถานที่ประดิษฐ์แห่งเต๋าที่บรรพบุรุษสร้างไว้ให้เมื่อนานมาแล้ว และยังเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของสำนักดาบราชัน มันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการบ่มเพาะพลัง เช่นนั้นหากเป็นไปได้ จงพยายามผ่านให้ได้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะว่ายิ่งสูงเท่าไหร่ เจ้าก็สามารถอยู่ในชั้นนั้นได้เท่าที่ต้องการ!”
ฝูงคนส่งเสียงอึกทึกดังเมื่อได้ยินเฉาหัวกล่าว สายตาทั้งหมดพวกเขามองไปยังหอคอยผู้รับใช้ดาบด้วยไฟแห่งความปรารถนา พวกเขาไม่เคยทราบมาก่อนว่าหอคอยนี้คือวัตถุแห่งเต๋า!
อะไรคือวัตถุแห่งเต๋า? มันคือของวิเศษที่เหนือล้ำกว่าวัตถุแห่งความมืด! แม้ว่าต้นกำเนิดของวัตถุแห่งความมืดไม่ค่อยดีเท่าใดนัก แต่อย่าได้กล่าวถึงวัตถุแห่งเต๋า แม้แต่วัตถุแห่งความมืดขั้นปฐพีและสีดำยังยากพบเห็น ตอนนี้ ที่พวกเขาได้เห็นคือวัตถุแห่งเต๋าอันเป็นตำนาน เช่นนั้นจะไม่ให้ตื่นเต้นได้อย่างไร?
ไม่เพียงแค่ผู้ทดสอบคนอื่น แม้กระทั่งหยางเย่ที่เย็นชาและมั่นคงเองยังตื่นเต้นเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาสังเกตเห็นสัญลักษณ์บนหอคอย และทราบดีว่ามันไม่ธรรมดาแน่นอน แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะเป็นของวัตถุแห่งเต๋า หยางเย่เคยพบกับของวิเศษแห่งความมืดขั้นปฐพีมาก่อน และมันน่ากลัวอย่างมาก ดังนั้นวัตถุแห่งเต๋าที่เหนือกว่าวัตถุแห่งความมืด มันจะไม่ร้ายกาจได้เช่นไร?
เฉาหัวส่ายหัวและยิ้มออกมาเมื่อเห็นสายตาที่ลุกเป็นไฟของผู้ทดสอบ ‘ท่าทีพวกเขาไม่ต่างจากเราเมื่อหลายสิบปีก่อนเลย’
จากนั้นจึงกล่าวต่อ “อย่าตื่นเต้นมากเลย จงจำสิ่งที่ข้าจะบอกจากนี้ให้ดี หลังจากเข้าไปยังหอคอยแล้ว ผู้รับใช้ดาบจะปรากฏขึ้นทุกชั้น เจ้าจะต้องขึ้นไปยังชั้นต่อไปโดยการเอาชนะมัน แต่หากพ่ายแพ้จะถูกส่งออกมาข้างนอก พวกเจ้าจะมีเวลาหนึ่งชั่วยามในการฟื้นฟูสำหรับทุกชั้นที่ผ่าน”
“ผู้อาวุโสเฉา พวกเราสามารถใช้ยันต์หรือทรัพยากรเพิ่มความแข็งแกร่งอื่นในหอคอยได้หรือไม่?” ทันใดนั้นสตรีสวมชุดเขียวเดินมาตรงหน้าพร้อมถามอย่างสุภาพ
เมื่อมองไปที่สตรีตรงหน้า เฉาหัวเผยรอยยิ้มอันอบอุ่น ในการทดสอบสองอย่างที่ผ่านมา มีเพียงสตรีผู้นี้และเจียงหยวนเท่านั้นที่ทดสอบได้ดีที่สุด ยิ่งกว่านั้นพวกเขาทั้งสามที่เป็นผู้ทดสอบของการทดสอบสำนักนอกเองก็ตกตะลึง เพราะสตรีผู้นี้อายุเพียงสิบหกปีและบรรลุระดับเก้าขั้นปราณมนุษย์แล้วเช่นกัน เหตุนี้ทำให้ทั้งสามค่อนข้างตื่นเต้นอย่างมาก
“การทดสอบนี้จุดประสงค์คือทดสอบความสามารถในการต่อสู้ของทุกคน ดังนั้นเจ้าไม่สามารถใช้สิ่งของใดอย่างหินพลังปราณหรือยันต์!” เฉาหัวกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ
สตรีชุดเขียวคารวะเฉาหัวเมื่อได้ยิน จากนั้นจึงถอยไปด้านข้าง
“มันก็เป็นเพียงภาพมายา ดังนั้นเหตุใดจึงต้องใช้ทรัพยากรอื่นเพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งล่ะ?” ทันใดนั้นเจียงหยวนมองไปยังสตรีชุดเขียวพร้อมกล่าวอย่างเย็นชา ถึงแม้จะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สงบ แต่อาการเหยียดหยามและยั่วยุแสดงออกที่แววตาอย่างปกปิดไม่ได้
ท่าทีสตรีชุดเขียวเปลี่ยนไป แม้จะแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโส แต่ไม่ได้หมายความว่าจะแสดงความเคารพต่อคนอื่น นางเอ่ยอย่างเย็นชา “วาจาโอหังสิ้นดี พูดมาจงระวังจะกัดลิ้นตนเอง!”
“งั้นหรือ?” เจียงหยวนเริ่มหัวเราะออกมาทันที “ข้าเห็นเจ้าทดสอบในค่ายกลมายาก่อนหน้านี้ไม่เลวเลย เช่นนั้นข้าสงสัยว่าเจ้าสนใจจะเดิมพันกับข้าหรือไม่?”
“เดิมพันอะไรล่ะ?” สตรีชุดเขียวขมวดคิ้วพร้อมกล่าว ในเมืองที่อาศัยอยู่นางไม่เคยเกรงกลัวใครทั้งนั้น
เมื่อเห็นพวกเขาเริ่มทำการแข่งขัน เฉาหัวเองก็ไม่ได้ห้ามปรามแต่อย่างใด เขากลับมองดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นแทน
เมื่อได้ยินสตรีชุดเขียวกล่าว เจียงหยวนพลิกฝ่ามือทันที ดาบไฟสีแดงปรากฏขึ้นในมือ เขากล่าวอย่างภาคภูมิใจ “ข้าเดิมพันว่าผู้ใดจะสามารถขึ้นไปสูงกว่ากันในหอคอยนี้ ข้าจะใช้ดาบขั้นสีดำระดับต่ำในการเดิมพัน ดาบสีชาด!”
หลังจากหมดสิ้นความสนใจในตัวหยางเย่ ในที่สุดเจียงหยวนก็พบคู่ปรับใหม่ที่คู่ควร อย่างไรก็ตามเขาเองก็ค่อนข้างประหลาดใจ สตรีชุดเขียวตรงหน้าบรรลุระดับเก้าขั้นปราณมนุษย์ด้วยอายุเพียงสิบหกปีเช่นกัน เจียงหยวนไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด แต่กลับตื่นเต้นมากกว่า ด้วยการที่มีคู่ปรับที่เหมาะสมในการทดสอบ ชื่อเสียงของเขาจะต้องโด่งดังขึ้นอย่างแน่นอน ไม่เพียงแต่จะได้รับความสนใจจากคนระดับสูงในสำนักดาบราชัน มันยังสามารถสร้างเครือข่ายในสำนักดาบราชันได้อีกด้วย!
เมื่อพวกเขาเห็นเจียงหยวนแสดงวัตถุแห่งความมืดขั้นสีดำ ทุกคนรอบด้านเกิดความโกลาหลทันที สายตาของสตรีนับไม่ถ้วนมองไปที่เจียงหยวนด้วยความปรารถนาที่แรงกล้า เจียงหยวนมีทั้งการบ่มเพาะพลังที่ร้ายกาจ ทั้งยังหล่อหลา ยิ่งกว่านั้นเขายังมีดาบขั้นสีดำ กล่าวคือเขาเป็นดั่งบุคคลตัวอย่างของชายที่ทั้งร่ำรวยและหน้าตาดี!
แม้กระทั่งสายตาของพวกชายหนุ่มเองยังเต็มไปด้วยไฟแห่งความปรารถนา แน่นอนมันไม่ใช่เพราะพวกเขาชื่นชอบเจียงหยวน แต่เพราะพวกเขาตั้งใจจะสร้างความสัมพันธ์ต่างหาก พวกเขาไม่ได้ค้นหาคนที่แข็งแกร่งและมีอิทธิพล แต่เพราะไม่ว่าที่ใดก็มีแต่ผู้คนและการแก่งแย่งแข่งขัน ชายหนุ่มและหญิงสาวตรงหน้าเพิ่งเข้ามายังสำนักดาบราชัน ดังนั้นพวกเขาต้องหาผู้ที่จะสร้างกลุ่มและพึ่งพิงเป็นอันดับแรก
สำหรับคนหนุ่มที่มาจากครอบครัวยากจน เจียงหยวนที่มีพลังร้ายกาจและความมั่งคั่งจึงเป็นคนที่น่าพึ่งพิงมากที่สุด
หยางเย่ค่อนข้างประหลาดใจเมื่อเห็นเจียงหยวนมีวัตถุแห่งความมืดขั้นสีดำ แต่ก็ไม่ได้สนใจมันแต่อย่างใด เพราะเขาเองก็มีของวิเศษขั้นสีดำเช่นกัน มันคือของวิเศษขั้นสีดำระดับกลาง แม้แต่หยางเย่เองยังไม่เคยใช้มันสักครั้ง
หลังจากประหลาดใจอยู่ชั่วครู่ ท่าทางของสตรีชุดเขียวกลับมาปกติทันที นางไม่แสดงความอ่อนแอออกมาและพลิกฝ่ามือปรากฏผลไม้ประกายแสงสีแดง “นี่คือของวิเศษขั้นสีดำ ผลไม้จิตวิญญาณสีชาด มันมีค่าไม่ด้อยไปกว่าดาบสีชาดของเจ้าแน่!”
เจียงหยวนค่อนข้างประหลาดใจเมื่อเห็นสตรีชุดเขียวมีของวิเศษขั้นสีดำเช่นกัน เขามองไปยังผลไม้นั้นก่อนจะเอ่ย “ตกลง!”
“ข้าจะร่วมเดิมพันด้วย!” ทันใดนั้นเองมีเสียงดังขึ้นอย่างรีบร้อน ทุกคนต้องตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงนี้
มันคือเสียงของหยางเย่ ด้วยการระงับอารมณ์ที่ดี เขาแทบจะไม่สนใจในการเข้าร่วมเดิมพัน แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น! สหายตัวจ้อยที่นอนหลับอยู่ในตันเถียนน้ำวนตื่นขึ้นทันทีที่สตรีชุดเขียวนำผลไม้จิตวิญญาณสีชาดออกมา จากนั้นมันอ้อนวอนหยางเย่ให้เอาผลไม้นั้นมาให้ได้ หากหยางเย่ไม่ตกลง มันจะออกไปเอาด้วยตนเองแน่นอน
สหายตัวจ้อยแต่เดิมมันลึกลับอย่างยิ่ง ดังนั้นจะให้เขาปล่อยมันออกไปเอาผลไม้เองได้ยังไง? ยิ่งกว่านั้นมันเป็นครั้งแรกที่สหายตัวจ้อยปรารถนาบางสิ่งบางอย่างเช่นนี้ ดังนั้นหยางเย่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเข้าร่วมเดิมพัน
เมื่อเห็นหยางเย่ ไม่เพียงแต่เจียงหยวนและสตรีชุดเขียวที่ประหลาดใจ แม้แต่ผู้อาวุโสเฉาหัวที่ยืนดูอยู่ยังประหลาดใจเช่นกัน เขาจำหยางเย่ได้ดี หากไม่เพราะหยางเย่ ปีศาจน้อยเปาเอ๋อคงไม่หยุดสร้างปัญหาในวันนั้นแน่นอน แต่ก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดหยางเย่ถึงสนใจเข้าร่วมเดิมพัน แต่ยังไงความสามารถของหยางเย่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าสองคนนี้เลย!
“เจ้า?” เจียงหยวนเอ่ยด้วยวาจาเหยียดหยาม “พวกเรามีของวิเศษขั้นสีดำ แล้วเจ้ามีสิ่งใดล่ะ?”
หยางเย่ไม่รอช้าและพลิกฝ่ามือทำให้ดาบขั้นสีดำปรากฏขึ้นบนมือ “ข้ามีของวิเศษขั้นสีดำเช่นกัน มันเพียงพอหรือไม่?”
เวลานี้ไม่เพียงแค่ทั้งสองที่ตกตะลึง ผู้คนรอบข้างเองก็ตกตะลึงเช่นกัน ของวิเศษขั้นสีดำดูเป็นสิ่งของธรรมดาหาง่ายแล้วงั้นหรือ? ทั้งสามชิ้นปรากฏขึ้นมาพร้อมกันในทันที!
“ข้าตกลง!” ทันใดนั้นเองสตรีชุดเขียวกล่าว นางไม่ลังเลที่จะเข้าข้างคนที่เกลียดเจียงหยวน แม้มันอาจทำให้เจียงหยวนไม่พอใจได้
เมื่อได้ยินสตรีชุดเขียวตอบตกลง เจียงหยวนกล่าวอย่างเย็นชา “เมื่อเจ้าต้องการทิ้งของวิเศษตนเอง เช่นนั้นพวกเราก็ให้เจ้าเข้าร่วมได้!” ทันทีที่กล่าวจบเขาถอนสายตาจากหยางเย่อย่างรวดเร็ว
หยางเย่ไม่มีความประทับใจใดกับชายที่หยิ่งผยองตรงหน้า ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจเจียงหยวนเช่นกัน เขาหันไปพยักหน้าให้สตรีชุดเขียวด้วยท่าทีทักทาย
เมื่อเห็นหยางเย่ทักทายมา นางลังเลอยู่ชั่วคราวก่อนจะพยักหน้าตอบกลับ
เวลานี้เฉาหัวเผยรอยยิ้มพร้อมกล่าว “สำนักดาบราชันไม่มีข้อจำกัดในการแข่งขันของศิษย์ เพราะด้วยความกดดันจากการแข่งขันเท่านั้น ที่จะทำให้พวกเจ้าเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ทุกคนจงจำเอาไว้ขณะแข่งขันกัน อย่าได้เล่นสกปรกเป็นอันขาด หากจับได้ว่ามีการกระทำที่สกปรกเกิดขึ้น สำนักดาบราชันจะทำลายวรยุทธ์ทั้งหมดและไล่ออกจากสำนักโดยทันที จงจำเอาไว้!”
ทุกคนรีบพยักหน้าเมื่อได้ยิน แม้กระทั่งเจียงหยวนและสตรีชุดเขียวเองก็รีบพยักหน้าเช่นกัน พวกเขาไม่กล้าที่จะต่อต้านใดทั้งนั้น
เฉาหัวพยักหน้าอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นทุกคนตกลง จากนั้นเขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “เอาละ ข้ามีบางสิ่งจะบอกพวกเจ้า ในการทดสอบนอกสำนักในอดีต มีบางคนสามารถขึ้นไปยังชั้นยี่สิบของหอคอยนี้ได้ มันคือระดับที่ดีที่สุดของสำนักดาบราชันในรอบร้อยปีมานี้ ข้าหวังว่าจะมีพวกเจ้าสักคนสามารถทำลายสถิตินี้ได้ และสร้างชื่อในสำนักดาบราชัน!”