มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1988
และก็เพราะว่ามีเขาเจี้ยนโหยวคอยเป็นกำลังหนุน เซวียนจิงหยุนจึงได้กล้าหาญทำเรื่องพรรค์นี้โดยไร้ความกังวล
สีหน้าของหนิงหานยู่ก็กลายเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา นางมักจะออกไปสืบเสาะข้อมูลจากด้านนนอกบ่อยครั้ง สำหรับเขาเจี้ยนโหยวแห่งจินเฮ่าซิงนางย่อมรู้จักเป็นอย่างดี ความแข็งแกร่งของเขาเจี้ยนโหยวที่จินเฮ่าซิงอยู่ในระดับเจ้าเหนือหัวอย่างแน่นอน หากพวกเขาสองคนพี่น้องถูกหมายตาเข้าให้ ต้องเป็นอันตรายมากแน่นอน
“ท่านพี่ พวกเรารีบหนีเถอะ ท่านพี่เย่ในตอนนั้นได้ทิ้งของขลังนภาเวหาให้เราไว้ชิ้นหนึ่ง หากพวกเราใช้กำลังทั้งหมดขับเคลื่อน โดยทั่วไปแล้วผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพก็ยากจะตามได้ทัน ความเป็นไปได้ที่เราจะหลบหนีสำเร็จยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี” หนิงหานยู่กล่าวหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง
ในตอนที่หลัวซิวจากไปนั้น เขายังกลั่นของขลังหลายชิ้นเอาไว้ให้พวกนาง ในมือของฉียู่หรงก็มีของขลังหอคอยมรกตชิ้นหนึ่ง เป็นถึงสมบัติระดับมกุฎเทพ
ถึงแม้ว่าของขลังที่หลัวซิวกลั่นด้วยมือของตนเอง จะไม่ได้มีระดับที่สูงมากนัก แต่กลับสลักไว้ด้วยตราประทับค่ายกลและออร่ากฎของเขา ถึงแม้จะเป็นราชาแห่งศัสตราวุธชั้นยอด แต่พลังอำนาจกลับสามารถเทียบเท่าได้กับของขลังระดับมกุฎเทพทั่วไปได้เลย
“รอบ ๆ ลานสวนแห่งนี้มีการจัดวางค่ายกลระดับสูงถึงเพียงนี้เสียด้วย ดูท่าแม่นางที่ท่านชายหมายตาไว้น่าจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว”
ที่หน้าประตูของลานสวน หญิงสาวหน้าตาสะสวยสองคนยืนเคียงข้างกัน หนึ่งในนั้นพูดด้วยรอยยิ้ม
“บางทีแม่นางผู้นั้นอาจจะเป็นนักค่ายเทพระดับเก้า หากเป็นจริงดังว่า ไม่แน่ว่านางอาจจะกลายเป็นแขนซ้ายแขนขวาของท่านชายก็เป็นได้” หญิงสาวอีกคนพูดพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ
“เมื่อครู่พวกเราสัมผัสถูกวิชาห้ามค่ายกลไปแล้ว ข้าคิดว่านางต้องสังเกตถึงมันได้จากด้านในเป็นแน่ แต่ก็ไม่รู้ว่านางจะยินยอมทำตามใจปรารถนาของท่านชายหรือไม่”
“ที่จินเฮ่าซิงแห่งนี้ ยังไม่เคยมีแม่ผู้คนใดที่กล้าปฏิเสธท่านชายของพวกเราเลยหนา”
ผู้หญิงสองคนหัวเราะและพูดคุยกันราวกับไม่มีผู้ใดอยู่ใกล้ ๆ พวกนางต่างก็เป็นหญิงสาวที่ติดตามเซวียนจิงหยุน แต่ความเป็นจริงพวกนางรู้ดีว่า เหตุที่พวกนางติดตามเซวียนจิงหยุน ไม่ใช่เพราะตัวเขา แต่เป็นภูมิหลังและตำแหน่งของเขาต่างหาก
ซวบ!
ในขณะนี้ เสียงเจาะทะลุอากาศดังกึกก้องในทันใด แสงกลลำแสงหนึ่งบินออกมาจากส่วนลึกของลานสวน เพียงชั่วพริบตา ก็หายไปที่เส้นขอบฟ้า
ในเมื่องมีจอมยุทธ์จำนวนไม่น้อยที่มองเห็นภาพนี้ แต่ก็มีคนไม่น้อยที่คิดว่าตนตาลายไปเอง เพราะความเร็วของแสงกลนั้นมันเร็วเกินไป เพียงพริบตาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“เร็วเกินไปแล้ว! นางคิดจะหนีหรือ?”
หญิงสาวสองคนที่อยู่หน้าประตูของลานสวนย่อมเห็นภาพนี้ด้วยเช่นกัน สีหน้าของพวกนางเปลี่ยนไปอย่างช่วยไม่ได้
“พวกขยะไม่รู้จักคว้าโอกาส ข้าจะรายงานท่านชายเดียวนี้!” หญิงสาวทั้งสองรับหยิบม้วนหยกส่งข้อความออกมา นำเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นรายงานให้เซวียนจิงหยุนได้รู้
เมื่อเซวียนจิงหยุนได้รับรายงานดังกล่าว แสงกลที่ฉียู่หรงและหนิงหานยู่ร่วมมือกันบังคับนั้นก็บินหนีออกไปไกลมากแล้ว กระทั่งใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถบินออกมาจากจินเฮ่าซิง เข้าสู่อนัตตาไม่สิ้นของด้านนอกดาราได้
“ฮึ หญิงสาวที่ข้าเซวียนจิงหยุนหมายตายังไม่มีใครที่ข้าไม่ได้มาครอง ให้ผู้อาวุโสที่ประจำการอยู่ด้านนอกอนัตตาลงมือ ขวางนางไว้! ”
เซวียนจิงหยุนพูดเสียงเย็น ด้วยกองกำลังของเขาเจี้ยนโหยว เพียงแค่อยู่บนจินเฮ่าซิงแห่งนี้ ยังจะให้คนหนีไปอย่างง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร?
อนัตตาของด้านนอกดารา รวมถึงห้วงดาราด้านนอกอนัตตา ต่างก็มีอาณาเขตของกองกำลังต่าง ๆ
ดังนั้นตั้งแต่ต้น หนิงหานยู่ก็รู้ดีอยู่แล้วว่าพวกนางสองคนพี่น้องไม่มีทางที่จะหนีออกจากจินเฮ่าซิงได้เลย
เพียงแค่ผู้แข็งแกร่งแห่งเขาเจี้ยนโหยวที่ประจำการอยู่ในอนัตตาและห้วงดาราออกโรงขัดขวาง พวกนางสองคนพี่น้องก็ต้องตกไปอยู่ในมือของเซวียนจิงหยุนท่านชายผู้ฝักใฝ่ในกาม เป็นโชคชะตาที่คาดเดาได้
“พวกเราไปที่เทือกเขาวายุเปราะ! ”
ตั้งแต่บังคับแสงกลบินออกมาจากเมืองแล้ว หนิงหานยู่ก็รีบตัดสินใจในทันที
“เทือกเขาวายุเปราะ?” ฉียู่หรงชะงักไปเล็กน้อย เพราะนางไม่รู้ว่าเทือกเขาวายุเปราะมันคือสถานที่ใดกันแน่