มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1995
ด้านนอกเทือกเขาวายุเปราะ หลัวซิวและจีเสี่ยวจื่อยืนอยู่บนศีรษะของอสูรดูดจิต มองไปยังสถานที่อันตรายแห่งนี้จากระยะไกล
จากอาคารพาณิชย์ใจกลางจินเฮ่าซิง หลัวซิวได้รับข้อมูลเกี่ยวกับฉียู่หรงและหนิงหานยู่ แน่นอนว่าเขารู้ว่าพวกนางทั้งสองคนบุกเข้าไปในสถานที่อันดุร้ายนี้
และสาเหตุที่ไม่เข้าไปช่วยเหลือในทันทีนั้น แต่เลือกที่จะไปทำลายเขาเจี้ยนโหยวเสียก่อน นั่นก็เป็นเพราะว่ากฎชีวิตของหนิงหานยู่ ที่เชี่ยวชาญที่สุดก็คือการรักษาชีวิต คนทั่วไปเข้าไปในสถานที่ที่อันตรายเช่นนี้ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่สำหรับหนิงหานยู่แล้วนั้น มันกลับเป็นเพียงการขัดเกลาประเภทหนึ่ง
ชีวิตหนึ่งของจอมยุทธ์ หากต้องการไล่ตามจุดสูงสุด ไม่มีทางรู้ว่าต้องสัมผัสประสบการณ์ความยากลำบากและบททดสอบมากมายเพียงใด หลัวซิวรู้ดีว่าเขาไม่สามารถอยู่เคียงข้างพวกนางได้ตลอดเวลา ความยากลำบากบางอย่าง จำเป็นต้องให้พวกนางแบกรับไว้ด้วยตัวเอง
สำหรับพรสวรรค์ของหนิงหานยู่ หลัวซิวค่อนข้างที่จะให้ความสำคัญมาก กระทั่งพิจารณาว่าจะมอบการสืบทอดหินนิรันดร์ในกับนาง ในวันข้างหน้าให้นางเดินบนเส้นทางการฝึกตนทำความเข้าใจเกณฑ์นิรันดร์
ดังนั้น หากหนิงหานยู่ต้องการเดินไปบนเส้นทางนี้ให้ไกลยิ่งขึ้น ก็จำเป็นต้องได้รับการขัดเกลามากกว่านี้ ดั่งคำกล่าวที่ว่า หากหยกไม่ได้รับการเจียระไน ก็ไม่สามารถทำเป็นเครื่องมือได้ มันคือหลักการเดียวกัน
“ศิษย์พี่ พวกเราต้องเข้าไปหรือ?”
มองไปยังเทือกเขาวายุเปราะที่ห่างไกล จีเสี่ยวจื่อมีสีหน้าเคร่งเครียด ถึงแม้นางจะเป็นมกุฎเทพที่ชำนาญกฎปริภูมิ แต่ที่พลังอัสนีวาโยรุนแรงและโหดร้ายเช่นนี้ ปริภูมิจะได้รับผลกระทบและผันผวนอย่างมาก สำหรับนางผู้ควบคุมกฎปริภูมิแล้วนั้นจะต้องถูกจำกัดอย่างมากอย่างแน่นอน
สถานที่เช่นนี้ จีเสี่ยวจื่อไม่มั่นใจว่าตนเข้าไปและจะสามารถรอดชีวิตออกมาได้หรือไม่ แต่ด้วยความเชื่อใจที่มีต่อหลัวซิว นางกลับไม่มีความคิดที่จะยอมแพ้
“แน่นอนว่าต้องเข้าไป แม้ว่าสภาพแวดล้อมในสถานที่นี้จะค่อนข้างรุนแรง แต่สำหรับการขัดเกลากฎปริภูมิของเจ้า ก็ถือว่ามีประโยชน์ทีเดียว”
หลัวซิวพูดพร้อมรอยยิ้ม ถึงแม้จีเสี่ยวจื่อในด้านของแดนกฎปริภูมิจะสูงกว่าเขาขั้นหนึ่ง แต่ถ้าหากพูดถึงความเข้าใจและชำนาญในกฎปริภูมิ จีเสี่ยวจื่อกลับยังห่างไกลจากหลัวซิวอยู่มากทีเดียว
ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าหากหลัวซิวยินยอม เขาสามารถยกระดับแดนกฎให้ถึงแดนขั้นที่หกได้ตลอดเวลา แต่เข้าเลือกที่จะหยุดอยู่ที่ขั้นที่ห้า นั่นก็เป็นเพราะต้องการเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความพิสดารทั้งหมดที่แฝงอยู่ในแดนกฎแต่ละขั้น
แดนกฎ กับการฝึกตนโลกยุทธ์คือหลักการเดียวกัน รากฐานเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
เช่นเดียวกับอาจารย์จีเสวียนคงของเขา เหตุผลที่หลายปีมานี้การที่จะฝึกตนกฎชีวิตให้ถึงขั้นปฐมภูมิขั้นที่สิบเป็นเรื่องยากที่จะขยับแม้เพียงเล็กน้อย เป็นเพราะกฎสัมผัสรู้และชำนาญก่อนหน้านี้ของเขา รากฐานยังไม่แน่นพอ
แต่ด้วยแดนกฎในปัจจุบันของเขา หากต้องการจะกลับไปสัมผัสรู้ความพิสดารของกฎที่มีระดับต่ำกว่า มันกลับเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เสียแล้ว นอกเสียจากจะได้พบโอกาสหรือโชคลาภอันยิ่งใหญ่ ไม่เช่นนั้นตลอดชีวิตของจีเสวียนคง ก็จะหยุดอยู่ที่ขั้นปฐมภูมิขั้นที่สิบเพียงเท่านั้นแล้ว
ความผิดแบบเดียวกัน หลัวซิวจะไม่ปล่อยให้มันปรากฏขึ้นอีกไม่ว่าจะเป็นกับเขาหรือกับจีเสี่ยวจื่อก็ตาม ดังนั้นหลัวซิวจึงคิดที่จะให้จีเสี่ยวจื่อเข้าไปในเทือกเขาวายุเปราะเพื่อขัดเกลา เพราะนางจะยกระดับกฎปริภูมิให้ถึงขั้นที่หก ด้วยการอาศัยแร่อนัตตา หากไม่ตอกรากฐานของกฎให้แน่น ในวันข้างหน้าหากจะก้าวต่อไปก็จะลำบากมาก
เทือกเขาวายุเปราะน่ากลัวกว่าที่คิดเอาไว้มาก หลัวซิวเพิ่งจะเข้ามา พลังอัสนีวาโยอันรุนแรงไม่มีที่สิ้นสุดก็พรั่งพรูออกมา
หลัวซิวไม่ได้อัญเชิญของขลังที่ใช้คุ้มกันแต่อย่างใด และไม่ได้สำแดงพลังอมตะ ปล่อยให้อัสนีวายุม้วนร่างของตนเข้าไป และปล่อยเสียงดังอึกทึกออกมา
ร่างยุทธ์ร่างเนื้อของในวันนี้เพียงพอที่จะเทียบเท่ากับศัตราวุธราชาชั้นสูง แต่ภายใต้บททดสอบอันยิ่งใหญ่ของพลังอัสนีวาโย เพียงพริบตาการคุ้มกันก็แตกสลายไปในทันที ทำให้ทั่วทั้งร่างของเขาโชกไปด้วยเลือด