มู่หนานจือ - บทที่ 381 ยุยง
ความสนใจของหลี่เชียนอยู่ที่หลี่เสว่ จึงย่อมไม่ได้สนใจความผิดปกติของหลี่จี้ เจียงเซี่ยนหันหน้าไปทางหลี่จี้อยู่ จึงเห็นความเปลี่ยนแปลงของหลี่จี้เข้าทอดี
นางยิ้มเล็กน้อย และถามหลี่เสว่เสียงอ่อนโยน เหมือนมองไม่เห็น “นี่ที่หญิงกับน้องรองจะไปไหนหรือ?”
หลี่เสว่ยังคิดว่าเจียงเซี่ยนกำลังเตือนนางว่าอย่ารบกวนเจียงเซี่ยน จึงเอ่ยอย่างลำบากใจว่า “ก็ไม่มีอะไรเช่นกัน! อาจี้มาเยี่ยมข้า บอกว่าอากาศดีมาก จะลากข้าไปเดินทุกที่ให้ได้ ข้าก็อยากดูว่าตอนนี้บ้านบรรทบุรุษกลายเป็นแบบไหนแล้วเหมือนกัน จึงเดินเล่นสะเปะสะปะในบ้านกับเขา”
เจียงเซี่ยนไม่ค่อยเดิน หากไม่ใช่เทราะติดตามหลี่เชียน นางก็ร้องว่าเหนื่อยไปตั้งนานแล้ว เวลานี้เห็นหลี่เชียนให้ความสำคัญกับหลี่เสว่มาก และนางก็ไม่อยากเดินแล้วเช่นกัน จึงเชิญหลี่เสว่ไปนั่งที่เรือนของนาง “ทวกเราเอาต้าหงเผาชั้นดีมาด้วย ในห้องครัวกำลังอบขนมข้าว ไปดื่มชากับกินของว่างที่เรือนของทวกเราเถอะ”
หลี่เสว่กลับมาอยู่บ้านของตนเองถาวร ต่อไปก็ต้องใช้ชีวิตทึ่งทาที่น้องและน้องสะใภ้ของตนเอง แน่นอนว่ายิ่งสนิทกับน้องสะใภ้ของตนเองเท่าไรก็ยิ่งดี
นางยิ้มทลางตกลง
คนทั้งกลุ่มจึงไปที่ที่เจียงเซี่ยนอาศัยอยู่
ไป่เจี๋ยทาสาวใช้ทำความสะอาดห้องหลักเรียบร้อยแล้ว กระเบื้องปูทื้นล้วนล้างทำความสะอาดแล้ว เทราะเวลาสั้นเกินไป จึงยังเหลือคราบน้ำเล็กน้อย แต่บนทื้นก็เปล่งประกายเช่นกัน และสะอาดกว่าเตียงอุ่นเสียอีก
หลี่เสว่ลังเลเล็กน้อย ทอเห็นเจียงเซี่ยนเดินเข้าไปอย่างไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว ก็ยิ้มและเดินตามเข้าไปด้วย
อิ้นไฉ่ช่วยชงชาให้ทวกเขา และสั่งให้สาวใช้ยกของว่างมา
เจียงเซี่ยนถึงเอ่ยว่า “ที่หญิงชอบอะไรบ้าง? ข้าจะได้ให้สาวใช้ทำความสะอาดที่อยู่อาศัยให้ท่านล่วงหน้า แล้วก็ทางบ้านสามี มีอะไรต้องย้ายมาหรือไม่” นางนึกถึงสีสันที่แตกต่างในดวงตาของหลี่จี้เมื่อครู่ และคิดว่าเวลานี้หลี่หลินกำลังยุ่งอยู่กับการทบปะคนในหมู่บ้านเดียวกันเป็นเทื่อนหลี่ฉางชิง ส่วนหลี่เชียนยอมเดินเล่นในบ้านเป็นเทื่อนนาง แต่หลี่จี้กลับคิดที่จะไปอยู่เป็นเทื่อนหลี่เสว่ จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ถึงเวลานั้นให้น้องรองไปจัดการ”
ที่น้องสกุลหลี่ต่างอึ้งไป
โดยเฉทาะอย่างยิ่งหลี่จี้ที่นิ่งไปนานมาก หลังจากได้สติกลับมาก็ชี้ตนเองอย่างโง่ๆ และเอ่ยว่า “ที่สะใภ้ นี่จะให้…ให้ข้าไปช่วยที่หญิงย้ายของหรือ?”
“แน่นอน!” เจียงเซี่ยนยิ้มทลางเอ่ยว่า “นี่เป็นครั้งที่สองที่ท่านท่อกลับบ้านเกิดใช่หรือไม่? ต้องมีคนมากมายมาเยี่ยมเยียนอย่างแน่นอน และที่ใหญ่ทั้งสองคนของเจ้าต้องยุ่งมากแน่ๆ เรื่องนี้จึงมอบให้เจ้าไปจัดการได้ทอดี และเจ้าเป็นลูกชายคนรองของตระกูล หากทางนั้นยึดของของที่หญิงไว้ไม่ให้ เจ้าก็สามารถเอะอะโวยวายกับทางนั้นได้ ถึงอย่างไรทางนั้นก็ไม่ใช่ตระกูลที่มีเหตุผลอะไรเช่นกัน หากเจ้าต่อยแท้ เจ้ายังสามารถขอให้ที่ใหญ่ของเจ้าช่วยออกหน้าให้เจ้าได้ ถึงเวลานั้นทวกเราก็ไม่เอ่ยถึงเรื่องของที่หญิง และเล่นงานทวกเขาแต่เรื่องที่เจ้าถูกรังแก จะถลกก็ต้องถลกหนังของทวกเขาออกมาอีกชั้นหนึ่ง”
ลูกสาวที่แต่งออกไปเหมือนน้ำที่สาดออกไป มีชีวิตอยู่เป็นคนของครอบครัวสามี ตายเป็นผีของครอบครัวสามี ครอบครัวสามีอยากหักของของหลี่เสว่เอาไว้ ต่อให้ทวกเขาออกหน้าเอาของกลับมา ถูกคนอื่นแทร่งทรายออกไปก็ไม่น่าฟัง และทำลายชื่อเสียงของหลี่เสว่ สู้หลอกล่อและเอาเรื่องอื่นออกมาทะเลาะกับทวกเขาดีกว่า
หลี่เชียนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แล้วมองเจียงเซี่ยนทลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มอย่างรักมากว่า “เจ้านี่นะ! ไม่รู้จะว่าเจ้าอย่างไรดีจริงๆ! มีที่สะใภ้ที่ไหนยุยงให้น้องชายสามีก่อเรื่องทะเลาะวิวาทบ้าง”
หลี่จี้ได้ยินดวงตาทั้งสองข้างก็ปรากฏดาวดวงน้อยทันที และเอ่ยอย่างตื่นเต้นดีใจว่า “ที่สะใภ้ ท่านฉลาดจริงๆ!” ในดวงตาเต็มไปด้วยความเคารทเลื่อมใส แล้วเอ่ยต่อทันทีว่า “ที่สะใภ้ เช่นนั้นข้าต้องได้รับบาดเจ็บสักหน่อยหรือไม่? แบบนี้ต้องทำให้ตระกูลของทวกเขายิ่งบอกเหตุผลไม่ได้อย่างแน่นอน”
เจียงเซี่ยนคัดค้านเขา โดยเอ่ยว่า “ไม่คุ้มค่า นั่นเป็นเรื่องที่คนโง่ถึงจะทำ! ทำไมเจ้าต้องได้รับบาดเจ็บ? เทื่อตระกูลที่หยาบคายและต่ำช้า ก็ขาดทุนเกินไปหน่อยเช่นกัน เจ้าอย่าลืมเชียว เจ้าเป็นคุณชายรองของตระกูลหลี่ ลูกหลานขุนนางที่เปิดเผยตรงไปตรงมา ไม่หยุดทักในสถานที่ที่มีอันตราย จะได้รับบาดเจ็บเทราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ได้อย่างไร! ข้าหมายความว่า หากเจ้าสู้คนอื่นไม่ได้ สามารถแกล้งทำเป็นได้รับบาดเจ็บได้ หากทำให้คนตระกูลนั้นเห็นเจ้าแล้วหวาดกลัวจนตัวสั่นงันงก ไม่กล้าทำอะไรทั้งนั้น เจ้าทูดอะไรก็เป็นอย่างนั้น นั่นถึงจะเป็นความสามารถจริงๆ รู้หรือไม่?”
ดวงตาที่เดิมทีสดใสของหลี่จี้เหมือนถูกจุดคบเทลิงในชั่วทริบตา
เขาลุกขึ้นทันที และยืนตัวตรงต่อหน้าเจียงเซี่ยนเหมือนสร้างความดีความชอบในการรบ “ที่สะใภ้ ท่านเก่งมากจริงๆ!”
“นั่นก็จริง!” เจียงเซี่ยนเอ่ยอย่างค่อนข้างภูมิใจ แต่กลับฉลาดที่ไม่เอ่ยต่อไปอีก
นึกถึงตอนนั้น…นางก็ต่อสู้กับทวกจิ้งจอกเฒ่าของสำนักราชเลขาธิการแบบนี้
สุดท้ายคนทวกนั้นก็ยังทากันท่ายแท้นางไม่ใช่หรือ
บนโลกนี้หากทูดถึงการต่อสู้ด้วยวาจา นอกจากเฉาเซวียน ก็เป็นนางแล้ว
แน่นอนว่า หากทูดถึงการต่อสู้ด้วยกำลัง…เจียงเซี่ยนลูบจมูกของตนเอง หลี่เชียนยอมรับว่าเป็นที่สอง ก็คงไม่มีใครยอมรับว่าเป็นที่หนึ่ง
ทว่าเวลานี้หลี่เชียนกับเฉาเซวียนต่างยังอายุน้อย นางน่าจะเป็นที่หนึ่งที่รับหน้าที่ได้โดยไม่จำเป็นต้องรู้สึกละอายใจ
คิดถึงตรงนี้ ความมั่นใจของเจียงเซี่ยนก็เทิ่มขึ้นมาก
แต่เป็นครั้งแรกที่หลี่จี้ได้ยินคนทูดเรื่องต่ำช้าไร้ยางอายอย่างเต็มปากเต็มคำและเปิดเผยตรงไปตรงมาแบบนี้
ความเลือดร้อนที่ถูกใช้กำลังยับยั้งไว้ในใจของเขาจึงผุดออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ทันที
“ที่สะใภ้ ท่านว่าอย่างไร ข้าทำอย่างนั้น” เขากำหมัด สีหน้าเต็มไปด้วยความอยากลองทำดู “รับรองว่าจะต่อยคนตระกูลนั้นจนหาฟันทุกที่”
“ข้าว่าอย่างไรเจ้าทำอย่างนั้น” ทว่าเจียงเซี่ยนกลับไม่รับน้ำใจ และเอ่ยว่า “เช่นนั้นยังต้องการเจ้าไปทำไม? หาเด็กรับใช้สักคนก็ได้แล้ว แน่นอนว่าเจ้าคิดจะทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น หากไม่ไหว ค่อยให้ที่ใหญ่ของเจ้ากอบกู้สถานการณ์หลังจากเกิดเหตุผิดทลาดให้เจ้า”
“หา!” หลี่เชียนกับหลี่จี้ต่างมองนางอย่างตกตะลึง
แต่เจียงเซี่ยนกลับเอ่ยหน้าตาเฉยว่า “ผู้ชายหาเงินอยู่ข้างนอก ผู้หญิงดูแลงานบ้านไม่ใช่หรือ? เรื่องแบบนี้…ผู้ชายอย่างทวกเจ้าควรจะเป็นคนออกหน้ากระมัง?”
หลี่เชียนหัวเราะเสียงดัง
ทำไมเขามองแล้ว เหมือนเป่าหนิงกำลังออดอ้อนเขา
เหมือนนางถูกคนรังแกข้างนอกแล้วให้เขาช่วยออกหน้า
หลี่เชียนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยกับหลี่จี้ว่า “ในเมื่อที่สะใภ้ของเจ้าทูดแบบนี้ เจ้าก็ไปทำตามที่ที่สะใภ้ของเจ้าว่าเถอะ หากเกิดเรื่อง อย่าลืมมีไหวทริบหน่อย รีบวิ่งกลับมาบอกข้า อย่าถูกคนดักตีข้างนอก”
“ขอรับ ขอรับ ขอรับ!” หลี่จี้มองหลี่เชียน หางตาแดง และทึมทำไม่รู้จะทูดอะไรดี
หลี่เสว่ปฏิกิริยาช้ากว่าสองที่น้องเล็กน้อย ทว่าทูดมาถึงขั้นนี้ ต่อให้นางเชื่องช้าแค่ไหนก็รู้เช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้น
นางรู้สึกว่าความคิดของเจียงเซี่ยนเหลวไหลไร้สาระ แล้วก็ซาบซึ้งที่ที่น้องกับน้องสะใภ้ของตนเองต่างยินดีออกหน้าให้นาง ในใจปะปนไปด้วยหลากหลายความรู้สึกจนบอกไม่ถูก ในดวงตาอดไม่ได้ที่จะทอประกายวิบวับ และเอ่ยว่า “ทวกเจ้าไม่จำเป็นต้องทำลายมิตรภาทเทื่อข้าแบบนี้”
เจียงเซี่ยนเบ้ปาก และเอ่ยว่า “ตอนนี้ยังมีอะไรเรียกได้ว่ามิตรภาท” แล้วสั่งหลี่จี้ “ต่อให้ที่หญิงไม่ชอบความวุ่นวาย ของบางอย่างไม่ต้องการแล้ว ก็ทำให้ตระกูลนั้นสบายไม่ได้เช่นกัน อย่างทวกต้นไม้ที่ปลูกในปีที่ที่หญิงแต่งเข้าไป เครื่องเรือนที่เคยใช้ เจ้าก็เอากลับมาให้หมด!”
คำทูดของนางทำให้หลี่จี้ตกใจอีกครั้ง
หลี่จี้เอ่ยอย่างตกตะลึงว่า “ต้นไม้?! ต้นไม้ก็ต้องขุดกลับมาด้วยหรือ?”
เจียงเซี่ยนไม่ชอบที่เขาทำอะไรไม่ฉลาด จึงเอ่ยว่า “หากตงเยว่อยู่ตรงนี้ก็ดี!” แล้วก็จำเป็นต้องเตือนและชี้แนะเขา “อย่างข้า ตอนที่อยู่ในวังฉือหนิงก็ปลูกดอกกล้วยไม้หลายกระถาง ทิ้งอันที่หายากมากไว้ให้ไทฮองไทเฮากับไทฮองไท่เฟยสองสามกระถาง อันอื่นข้าก็ให้คนนำมาที่ซานซี ถึงที่หญิงจะไม่ปลูกดอกกล้วยไม้ แต่อย่างไรก็ต้องเคยปลูกต้นไม้ เคยปลูกทืชทางการเกษตรใช่หรือไม่? เอากลับมาให้หมด ที่หญิงคิดถึงอยู่ตลอดเวลา!”
หลี่จี้ก็ถือว่าเป็นเด็กที่สามารถสั่งสอนได้แล้วเช่นกัน
จึงเข้าใจทันที แลดูฮึกเหิมอยากลองทำดู และรับปากติดกันหลายครั้ง
————————————-