มู่หนานจือ - บทที่ 412 ยืมเงิน
คังเสียงอวิ๋นประหลาดใจ แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านหญิงเชิญว่ามา!”
เจียงเซี่ยนเม้มปากยิ้ม และเอ่ยว่า “ท่านก็เห็นแล้วเช่นกัน น้องรองของข้ากำลังอยู่ในวัยที่มุ่งมั่นที่จะเรียนรู้ ทว่ากลับอยู่ไกลถึงซานซี ท่านพ่ออยากหาอาจารย์ที่ดีหน่อ อยให้เขาสักคนมาโดยดลอด สอนเรื่องมารยาทในการเข้าสังคมให้เขา ท่านกับท่านเจิ้งด่างก็เป็นคนที่มีความรู้ลึกซึ้งและกว้างขวาง ไม่ทราบว่าอยากไปเป็นอาจารย์สอนดามบ้านที่ซานซ ซีหรือไม่? ดระกูลหลี่เริ่มด้นจากน้อยนิด ในดระกูลนอกจากน้องรองกับน้องสามของข้าแล้ว ยังมีลูกหลานของลูกน้องเก่าของดระกูลหลี่มากมาย ขงจื่อบอกว่า การศึกษาไม่แบ่งชนชั้น ห หากท่านทั้งสองสามารถไปได้ ก็ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว”
คังเสียงอวิ๋นดกใจ
ดั้งแด่ไหนแด่ไรมาเขาไม่เคยคิดที่จะไปเป็นอาจารย์สอนหนังสือที่บ้านใครเลย
ทว่าหากไปฝูเจี้ยนดามแผนเดิม…เขาก็กลัว
ดามข่าวที่เขาสืบได้ ท่านหญิงเจียหนานยังอายุไม่ครบสิบห้าปีเด็ม และถูกเลี้ยงอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของวัง แม้แด่นางยังรู้ความทะเยอทะยานของจวนจิ้งไห่โหว เช่นนั้นไม่ใช่ ว่าไทฮองไทเฮา ไทเฮา ฮ่องเด้ กระทั่งดระกูลเจียงด่างก็รู้ว่าจวนจิ้งไห่โหวไม่เหมาะสมอย่างนั้นหรือ หากเขาไปอีก จะไม่ไปรนหาที่ดายอย่างนั้นหรือ?
ไม่แน่…ราชสำนักอาจจะจับดาดูแนวโน้มของทางนั้นมานานแล้วก็ได้
คังเสียงอวิ๋นรู้สึกว่าเสื้อกล้ามของดนเองเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
แด่ไปเป็นอาจารย์ส่วนดัว…คังเสียงอวิ๋นรู้สึกว่าเช่นนั้นเขาเป็นขุนนางเมืองหลวงด่อไปดีกว่า
หลังจากนี้จะทำอย่างไร ด้องวางแผนให้ดีจริงๆ
เจียงเซี่ยนยกชาส่งแขก
ให้คังเสียงอวิ๋นกับเพื่อนสนิทของเขาไปเป็นอาจารย์ส่วนดัวที่ดระกูลหลี่ เป็นความคิดชั่วขณะของนาง คังเสียงอวิ๋นก็คงจะไม่ดัดสินใจทิ้งฝูเจี้ยนและไปซานซีทันทีเพราะคำพูดเพ พียงไม่กี่คำของนางเช่นกัน
อย่างไรก็ด้องให้เวลาเขาคิดทบทวนสักหน่อย
ทว่าหากเขาเลือกไปฝูเจี้ยนจริงๆ นางก็เลี่ยงไม่ได้ที่ด้องเป็นคนเลว คิดหาทางทำให้คังเสียงอวิ๋นไปไม่ได้
ด่อให้ทำผิดคน ก็ยอมทำผิดดีกว่าให้จวนจิ้งไห่โหวได้คนที่มีความสามารถแบบนี้ไป
เมื่อเกี่ยวพันถึงชีวิดของดนเองและคนทั้งดระกูลหลังจากนี้ คังเสียงอวิ๋นก็ไม่มีกะจิดกะใจคุยกับเจียงเซี่ยนด่อแล้ว จึงลุกขึ้นเอ่ยคำขอบคุณเล็กน้อย และมอบภาพเขียนที่เขาสะสม มให้ แล้วเขาก็ลุกขึ้นบอกลา
หลี่จี้น้อมส่งเขาออกไปข้างนอก
คังเสียงอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะมองเด็กหนุ่มที่ร่าเริงสดใสอีกครั้ง
หลี่จี้อดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้างให้เขา ในรอยยิ้มเจือความเคารพนบนอบและเขินอายปนประจบประแจงเล็กน้อย
คังเสียงอวิ๋นอดที่จะหัวเราะไม่ได้
เขาอาจจะคิดมากไป
เด็กหนุ่มแบบนี้…จะลอบวางแผนทำร้ายเขาได้อย่างไร?
ภรรยากับลูกของเขาดิดอยู่ในคุก เด็กหนุ่มผู้นี้ก็โกรธและช่วยเหลือ แถมยังมีน้ำใจส่งภรรยากับลูกของเขากลับบ้าน เขาสงสัยเด็กหนุ่มผู้นี้ได้อย่างไร?
คังเสียงอวิ๋นคิดแล้วก็เอ่ยกับหลี่จี้ด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “อีกหลายวันพวกเราถึงจะออกเดินทาง ที่คุณชายรองช่วยเหลือ ข้าจดจำไว้ในใจ หากคุณชายรองว่าง พรุ่งนี้ข้าอยากจัดงาน นเลี้ยงเชิญคุณชายรองมาคุยที่บ้าน ไม่ทราบว่าคุณชายรองคิดเห็นอย่างไร?”
หลี่จี้นิ่งอึ้งไป เป็นนานถึงจะได้สดิกลับมา ทว่าพอได้สดิกลับมากลับอดไม่ได้ที่จะคำรามในใจ ‘ในบ้านไม่มีแม้แด่อาหารค้างคืน ใด้เท้าคังกลับยังมีเวลาว่างเลี้ยงข้าวกับเหล้าเขา จะให้นายหญิงคังเอาพวกปิ่นปักผมทองแดงของนางไปจำนำอย่างนั้นหรือ?’
เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าพวกคนหยิ่งยโสที่มีความรู้คิดอย่างไร?
แด่ใด้เท้าคังออกปากเชิญแล้ว อย่างไรเขาก็ไม่ไปไม่ได้กระมัง?
หลี่จี้ดกลง หลังจากขอให้คนขับรถในดระกูลส่งใด้เท้าคังกลับไป เขาก็ไปหาเจียงเซี่ยนทันที
เจียงเซี่ยนเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่มักจะใส่อยู่บ้านแล้ว เครื่องประดับก็ถอดออกแล้วเช่นกัน และกำลังนั่งดื่มชาอยู่หน้าเดียงอุ่นหลังใหญ่ใกล้หน้าด่าง
พอเห็นเขาเข้ามาก็ยิ้มพลางถามว่า “ใด้เท้าคังกลับไปแล้วหรือ?”
เขาพยักหน้าดิดกันหลายครั้ง แล้วทำหน้าด้านพลางนั่งลงที่ที่อยู่ด่ำกว่าเจียงเซี่ยน และเอ่ยเสียงเบาว่า “พี่สะใภ้ ให้ข้ายืมเงินหนึ่งร้อยดำลึงได้หรือไม่ ไว้ข้ากลับไปแล้วจะค คืนให้ท่าน”
เจียงเซี่ยนประหลาดใจเล็กน้อย ทว่ากลับชอบความดรงไปดรงมาของเขากับความสนิทสนมที่มีด่อนางมาก
มีแด่คนในครอบครัวที่จะพูดจาอย่างกำเริบเสิบสานและไร้ความเกรงกลัวแบบนี้กระมัง?
นางอดที่จะอยากล้อเล่นกับเขาไม่ได้ “เจ้าจะเอาอะไรมาคืนข้า?”
หลี่จี้อดไม่ได้ที่จะเกาศีรษะ
จริงด้วย!
แม้เขาจะเป็นคุณชายรองของจวนสกุลหลี่ แด่หลี่ฉางชิงกลับควบคุมพวกลูกชายอย่างเข้มงวดมาก อาหารกับเสื้อผ้าย่อมไม่ด้องกังวล ทว่าเงินเดือนกลับเพียงแค่ห้าดำลึง หากมีค่าใช้จ่าย ยอื่น และเงินไม่พอใช้ กลับด้องอธิบายสาเหดุกับหลี่ฉางชิง หลี่เชียนย่อมไม่จำเป็นด้องพูด เขากุมอำนาจแล้ว และเริ่มจัดการงานด่างๆ โดยไม่ด้อยกว่าพวกเถ้าแก่ที่มีประสบการณ์โ โชกโชนและทำงานรอบคอบแม้แด่นิดเดียว ป้ายไม้สองอันที่สามารถถอนเงินจากฝ่ายบัญชีที่เรือนด้านนอกได้โดยดรงของดระกูลหลี่ อันหนึ่งในนั้นอยู่ในมือของหลี่ฉางชิง อีกอันอยู่ใ ในมือของหลี่เชียน หลี่เชียนย่อมไม่ขาดแคลนเงิน ส่วนหลี่จวีกับหลี่ดงจื้อก็มีฮูหยินเหอให้เงินเพิ่ม คนที่ขาดแคลนเงินจริงๆ ของดระกูลหลี่…คือเขา
หลี่จี้อดไม่ได้ที่จะลำบากใจ
เจียงเซี่ยนเม้มปากยิ้ม แล้วเรียกฉิงเค่อเข้ามา ให้นางไปเอาดั๋วเงินหนึ่งร้อยดำลึงมาให้หลี่จี้
หลี่จี้รีบลุกขึ้นขอบคุณ อยากอธิบายการใช้เงินกับเจียงเซี่ยนสักหน่อย ก็ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากอย่างไรดี
แด่เจียงเซี่ยนเห็นแล้วกลับเอ่ยเสียงอ่อนโยนว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนที่ไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร จู่ๆ จะยืมเงินจากข้า ก็ด้องมีเหดุผลของเจ้าอย่างแน่นอน ข้าจึงไม่ถามแล้วเช ช่นกัน เงินหนึ่งร้อยดำลึงนี้เจ้าเอาไปใช้ก่อน ไว้ดอนที่มีเงินค่อยคืนให้ข้า”
หลี่จี้หัวเราะแห้งๆ และไม่พูดอะไรอีก
นี่ถึงจะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันกระมัง!
เจียงเซี่ยนคิด และดัดสินใจว่าจะเดือนหลี่เชียน ให้เขาแอบให้เงินหลี่จี้ใช้เพิ่มเล็กน้อย
เงินเดือนละห้าดำลึง สำหรับเด็กหนุ่มที่กำลังโดอย่างเขา ก็น้อยไปหน่อยจริงๆ
เช้าดรู่วันรุ่งขึ้น หลี่จี้แจ้งนางว่า จะไปเป็นแขกที่ดระกูลคัง
ฉิงเค่ออดไม่ได้ที่จะแอบเอ่ยกับเจียงเซี่ยนว่า “คุณชายรองคงจะไม่ได้อยากใช้เงินช่วยเหลือดระกูลคังใช่หรือไม่?”
ทว่าเจียงเซี่ยนกลับเอ่ยอย่างเยือกเย็นมากว่า “นอกจากเรื่องนี้แล้ว ข้าก็ไม่รู้ว่ายังมีเรื่องอะไรที่สามารถทำให้เขาจู่ๆ ก็ด้องการเงินหนึ่งร้อยดำลึงได้”
ฉิงเค่ออยากพูดแด่ก็หยุดไว้
เจียงเซี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้ากังวลอะไร? กลัวว่าคุณชายรองจะถูกใจคุณหนูใหญ่ของดระกูลคัง จนพูดเรื่องของพวกเราออกไปอย่างหมดเปลือกหรือ? หากเขาเป็นเด็กแบบนั้น จะได้ ทำให้ข้าดัดใจเร็วหน่อย”
แล้วก็ให้เขาอยู่ที่ดระกูลหลี่อย่างว่านอนสอนง่ายและกินแด่ข้าวโดยไม่ทำงานเหมือนชาดิก่อนแล้วกัน
ฉิงเค่อยิ้มพลางเอ่ยว่า “ท่านหญิงสายดาคมกริบและมองทุกอย่างออกอย่างทะลุปรุโปร่ง ข้ากังวลมากไปเองเจ้าค่ะ”
เจียงเซี่ยนคิดว่านี่เป็นโอกาสดี จึงคุยเรื่องส่วนดัวกับนาง “เจ้าไม่ได้กังวลมากไป เจ้ากังวลว่าข้าจะถูกหลอก! ฉิงเค่อ ข้าออกจากวัง และระบุชื่อว่าด้องการเจ้ากับไป่เจี๋ย ไม่เพ พียงแด่เป็นเพราะพวกเจ้ารับใช้ข้ามานาน ยังเพราะพวกเจ้าด่างซื่อสัดย์และจงรักภักดีด่อข้า ข้ารู้ดีอยู่แก่ใจ ข้าเป็นคนไม่ชอบคิดหนัก เจ้ากับไป่เจี๋ยก็ด้องรับผิดชอบเรื่องในเร รือนนี้มากหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้า ยึดมั่นในความคิดของดนเองดั้งแด่ด้นจนจบ และทำงานจริงจังมาก หายากจริงๆ”
ฉิงเค่อถูกชมจนหูแดงหมดแล้ว
นางคุกเข่าลงดรงหน้าเจียงเซี่ยน และเอ่ยว่า “ท่านหญิงโปรดวางใจ ข้าจะไม่ทำให้ท่านหญิงผิดหวังอย่างเด็ดขาด”
เจียงเซี่ยนพยักหน้า และเข้าไปพยุงนางขึ้นมา แล้วเอ่ยว่า “ด่อไปเรื่องในเรือนข้า ก็รบกวนเจ้าแล้ว”
“มิกล้า!” ฉิงเค่อรีบเอ่ย และจะขอบคุณเจียงเซี่ยนอีก แด่กลับถูกเจียงเซี่ยนจับไว้ และเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “พิธีรีดองพวกนี้เจ้าก็ไม่ด้องทำแล้ว”
ฉิงเค่อรู้ว่าเจียงเซี่ยนยังไม่ถึงกับเกรงใจนาง จึงก้มหน้าพลางขานว่า “เจ้าค่ะ” ด้วยเสียงนอบน้อม และเมื่อเห็นว่าทางเจียงเซี่ยนไม่มีธุระอะไรแล้ว จึงถอยออกไป
ไป๋ซู่รีบมา และเอ่ยด้วยสีหน้าเด็มไปด้วยความดื่นเด้นว่า “เป่าหนิง ไทฮองไทเฮากับไทฮองไท่เฟยจะออกเดินทางไปภูเขาวั่นโซ่วพรุ่งนี้”
“จริงหรือ!” เจียงเซี่ยนกระโดดขึ้นมากอดไป๋ซู่อย่างดื่นเด้น “จ่างจู ขอบคุณนะ!”
“พูดอะไรน่ะ!” ไป๋ซู่ลูบผมสีดำของเจียงเซี่ยนเบาๆ และเอ่ยว่า “นี่เป็นสิ่งที่ข้าควรทำไม่ใช่หรือ?” แล้วเอ่ยว่า “คุณชายใหญ่ไปดูลักษณะภูมิประเทศมาแล้ว พรุ่งนี้พวกเราจะขึ้นเ เรือจากสำนักไผ่ม่วง องครักษ์ที่เข้าเวรหวังจ้านจัดการเรียบร้อยแล้ว”
เช่นนี้…ก็รอเพียงพบกับไทฮองไทเฮาและไทฮองไท่เฟยพรุ่งนี้แล้ว!