มู่หนานจือ - บทที่ 426 เกิดความรู้สึกรัก
เจียงเซี่ยนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
นางรู้สึกว่าหลี่ตงจื้อมีพรสวรรค์ จึงอยากฝึกฝนอีกฝ่าย ต่อไปตระกูลหลี่มีคนฉลาดเพิ่มขึ้นคนหนึ่ง ก็เป็นเรื่องดีสำหรับนางเช่นกัน แต่ไม่เคยคิดที่จะทำให้เกิดผู้หญิงที่มีความสา ามารถด้วยไม้กระบอง
“ท่านพูดเกินไปแล้ว” เจียงเซี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ผู้หญิงอยู่บ้านตนเองเป็นแขก จะตีได้อย่างไร?”
“ท่านพูดถูก ท่านพูดถูก!” หลี่ฉางชิงถูกลูกสะใภ้สอน สีหน้าก็แดงเล็กน้อย และยอมรับผิดติดกันหลายครั้งอย่างลำบากใจ “ข้าหมายความว่า…ท่านอยากทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ข้ามอบตงจื อให้ท่านแล้ว”
“ขอบคุณที่ท่านเชื่อในตัวข้าขนาดนี้” ความไว้วางใจที่เจียงเซี่ยนมีต่อหลี่ฉางชิงคือความขอบคุณ “ข้าจะสอนตงจื้ออย่างสุดความสามารถของข้าอย่างแน่นอน”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร” ลูกสะใภ้ขอบคุณหลี่ฉางชิงอย่างจริงจังแบบนี้ หลี่ฉางชิงไม่ค่อยชิน
เจียงเซี่ยนก็ใช้ชื่อและอาศัยอำนาจกับอิทธิพลของหลี่ฉางชิง ให้หลี่ตงจื้อย้ายไปอยู่ที่ห้องข้างใกล้สวนดอกไม้ด้านหลังของเรือนตะวันตก ที่นั่นห่างจากตระกูลคังกับตระกูลเจิ้งแค ค่กำแพงที่ฉลุลายท่อนบนกั้น ต่อไปนายหญิงคังมาสอนหนังสือ ก็สะดวกมากเช่นกัน
แน่นอนว่านายหญิงคังไม่รู้สาเหตุในนี้ และคิดว่าหลี่ตงจื้อย้ายมาเพื่ออยู่ใกล้นาง จึงรู้สึกซาบซึ้งมาก และเอาใจใส่การสอนหลี่ตงจื้อมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหลี่ตงจื้อก็หลุดพ้ นจากร่องรอยที่ฮูหยินเหอทิ้งเอาไว้บนตัวนางด้วยเหตุนี้ และกลายเป็นอีกคนหนึ่งเหมือนเป็นคนใหม่ แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องราวที่คุยกันภายหลัง
นายหญิงคังในเวลานี้ยังเพียงแค่เตรียมการสอนอย่างกระวนกระวายใจ เดี๋ยวก็หยิบ ‘บันทึกชีวประวัติสตรี’ ออกมาอ่าน เดี๋ยวก็หยิบ ‘คัมภีร์กตัญญู’ ออกมาอ่าน ไม่รู้จะเริ่มจากหนังสือเล่ม มไหนดี คุณหนูใหญ่คังจึงเตือนมารดาว่า “ท่านควรจะดูว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่เรียนอะไรบ้างก่อน ข้าได้ยินคนบอกว่า ใต้เท้าหลี่มีผู้ช่วยคนหนึ่ง แซ่เกา เขามีหลานสาวคนหนึ่ง ติ ดตามอยู่ข้างกายฮูหยินเหอตั้งแต่เด็กจนโต ความรู้เลิศล้ำมาก ก่อนหน้านี้คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ก็เรียนหนังสือกับนางมาตลอด ไม่รู้เพราะเหตุใด เหมือนท่านหญิงจะไม่ค่อยถูกชะตา จึงอย ยากหาอาจารย์ให้คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ใหม่ และก่อนหน้านี้…คุณหนูเกาเริ่มจัดชมรมอ่านหนังสือในห้องหนังสือของคุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ คุณหนูจากตระกูลลูกน้องเก่ามากมายของตระกูลห หลี่ต่างก็เข้าร่วมชมรมอ่านหนังสือนี้ ฮูหยินเหอยังออกเงินจัดชมรมกวีเดือนละครั้งด้วย ผู้ชนะมีโอกาสได้รางวัลเป็นพวกกระดาษเฉิงซิน หมึกฮุย[1] และจานฝนหมึกตวน รางวัลเหล่านี ฮูหยินเหอก็เป็นคนออกเงินช่วยเหลือเช่นกัน ข้าคิดว่าท่านต้องระวังสักหน่อย อย่าเข้าไปพัวพันกับเรื่องภายในของตระกูลหลี่เลย”
นายหญิงคังตกใจมาก และเอ่ยว่า “เจ้ารู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร?”
ใบหน้าทะเล้นของหลี่จี้ผุดขึ้นในสมองของคุณหนูใหญ่ตระกูลคัง นางขมวดคิ้วเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น และเอ่ยว่า “แน่นอนว่าเพราะข้าสืบมาได้อยู่แล้ว! ส่วนสืบมาได้อย่างไรนั้น ท่า านก็อย่าสนใจเลย ท่านเพียงแค่จัดการตัวท่านเองให้ดีก็พอแล้ว”
นายหญิงคังกลัวจะสร้างปัญหาให้สามีที่สุด
สามีเพิ่งมาถึง หากทำลายชื่อเสียงหรือแผนการสำคัญของสามีเพราะนางโลภเงินค่าตอบแทนของอาจารย์ไม่กี่ตำลึงนี้ ไม่ว่าอย่างไรนางก็จะไม่ทำ
“ไม่อย่างนั้น…ข้าไปบอกปัดท่านหญิง?” นายหญิงคังเอ่ยอย่างลังเล “ก็บอกว่าน้องชายคนเล็กของเจ้าเด็กเกินไป ห่างจากคนไม่ได้ ข้าจึงเจียดเวลามาสอนคุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ไม่ได้?”
“นี่ก็เป็นเพียงสิ่งที่ข้าได้ยินเช่นกัน สรุปแล้วเป็นเช่นนี้หรือไม่ยังไม่รู้เลย!” คุณหนูใหญ่ตระกูลคังรู้สึกว่ามารดาระมัดระวังเกินไป จึงจำเป็นต้องเตือนมารดา “ท่านเพียงแค่สอนเ เสร็จแล้วก็กลับ ปกติไม่ไปมาหาสู่กับพวกเขาเก็พอแล้ว หากบอกปัดไม่ได้ ก็ไปบอกท่านหญิงสักหน่อย ไม่ล่วงเกินคนก็พอแล้ว” แล้วนางก็นึกถึงที่ท่านหญิงเป็นคนเชิญบิดามา ต่อให้อยากกำหนด ดเส้นแบ่งกับท่านหญิงให้ชัดเจนก็เป็นไปไม่ได้ ยิ่งกว่านั้นท่านหญิงดีกับครอบครัวของพวกนาง ต่อให้ท่านหญิงตกต่ำที่ตระกูลหลี่ พวกนางก็ไม่อาจผิดสัญญาและทรยศได้อยู่ดี คุณหนูใหญ่ ตระกูลคังคิดแล้วก็เอ่ยว่า “ท่านแม่ เพียงแค่จำไว้ว่า พวกเราเป็นคนของท่านหญิง ทำอะไรก็ต้องยึดผลประโยชน์ของท่านหญิงเป็นหลักก็พอแล้ว ส่วนคนอื่น…ท่านไม่จำเป็นต้องสนใจก็ได้”
นายหญิงคังเอ่ยว่า “เช่นนั้นฮูหยินเหอ ก็ไม่สนใจเหมือนกันหรือ?”
“ก็ไม่สนใจเหมือนกัน!” คุณหนูใหญ่ตระกูลคังเอ่ยอย่างเด็ดขาดว่า “คนที่คิดเหยียบเรือสองแคม สุดท้ายจะตกลงไปในน้ำ ในเมื่อพวกเราเลือกแล้ว ต่อให้เป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดก็ต้อง เดินต่อไปอยู่ดี”
นายหญิงคังถอนหายใจ และเอ่ยว่า “ข้ายังคิดว่ามาถึงตระกูลหลี่ก็ดีแล้ว ใครจะรู้ว่ายังมีความขัดแย้งมากขนาดนี้”
“ตราบใดที่มีคน ก็มีความขัดแย้ง!” คุณหนูใหญ่คังเห็นมารดายังไร้เดียงสาเช่นนี้ ก็ถอนหายใจในใจ และรู้สึกว่าหากคุยกับมารดาต่อไป พรุ่งนี้มารดาอาจจะไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะเดินออก กจากห้องนี้ จึงเปลี่ยนเรื่อง โดยเอ่ยว่า “ท่านแม่ บอกว่าหมักสาโทจะส่งไปให้ท่านป้าตระกูลเจิ้งชิมสักหน่อยไม่ใช่หรือ? อันไหนจะส่งให้ท่านป้าเจิ้ง ข้าจะให้ทิงเซียงส่งไป”
ทิงเซียงคือสาวใช้ที่เจียงเซี่ยนจัดให้ครอบครัวของพวกเขา เป็นคนสุขุมและขยันมาก นายหญิงคังกับคุณหนูใหญ่ตระกูลคังต่างก็ชอบ ตอนหลังตระกูลคังซื้อสาวใช้เข้ามาอีกสองคน ก็มอ อบให้ทิงเซียงนำทั้งหมด
นายหญิงคังถูกเปลี่ยนความสนใจ ก็รีบลงจากเตียงอุ่นไปหาข้าวหมากที่จะส่งให้ตระกูลเจิ้ง ลืมเรื่องนี้ไปจนหมดสิ้นชั่วขณะ
คุณหนูใหญ่ตระกูลคังถอนหายใจยาวเหยียด และตัดสินใจไปยืมเส้นด้ายจากฉิงเค่อสาวใช้ส่วนตัวของเจียงเซี่ยนที่เรือนของเจียงเซี่ยน จะได้ถือโอกาสดูว่าเจียงเซี่ยนกำลังทำอะไรอยู่ด้วย
แต่ใครจะรู้ว่าพอออกไปข้างนอก กลับเห็นหลี่จี้ยืนมองไปรอบๆ อยู่ข้างกำแพงที่ฉลุลายท่อนบนระหว่างเรือนของพวกนางกับเรือนหลักของท่านหญิงเจียหนาน
นางตกใจมาก กำลังคิดจะถอยกลับไป ทว่าหลี่จี้เห็นนางแล้ว
“คุณหนูคังใหญ่!” เขาทักทายนางอย่างดีใจ สีหน้ายากที่จะปิดบังความตื่นเต้นเอาไว้ได้
คุณหนูใหญ่ตระกูลคังอดไม่ได้ที่จะเอ่ยอย่างระแวดระวังว่า “คุณชายรองมีธุระอะไรหรือ?”
หลี่จี้หัวเราะพลางลูบศีรษะ เหมือนไม่สามารถตอบคำถามของนางได้ นานมากถึงจะเอ่ยว่า “ก็ไม่มีอะไรเช่นกัน แค่พี่ใหญ่ของข้าให้คนส่งของกลับมาให้พี่สะใภ้อีกแล้ว ท่านพ่อให้ข้านำมา าให้พี่สะใภ้ ข้ากำลังคิดอยู่ว่าจะไปเยี่ยมที่เรือนของพวกเจ้าหรือไม่…พวกเจ้าเพิ่งจะเข้ามาอยู่ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าขาดอะไรหรือไม่? ถึงอย่างไรพวกเราก็มาจากเมืองหลวงด้วยกัน แล ละเวลานี้พ่อของเจ้าก็เป็นอาจารย์ของข้า อย่างไรข้าก็ต้องดูแลพวกเจ้ามากหน่อยเช่นกัน ใช่แล้ว ครอบครัวของพวกเจ้าขาดอะไรหรือไม่? หากไม่รู้ว่าจะไปซื้อที่ไหน ให้เด็กรับใช้ไปถามข้ าได้เลย หรือถามชีกูที่อยู่ข้างกายพี่สะใภ้ก็ได้ ชีกูเป็นคนที่พี่ใหญ่จัดให้ไปอยู่ข้างกายพี่สะใภ้เพื่อดูแลนางโดยเฉพาะ คอยช่วยพี่สะใภ้ดูแลพวกเรื่องจุกจิกของนาง เจ้ามีอะไรไป ปหานาง ไม่ผิดอย่างแน่นอน!”
“ขอบคุณคุณชายรองมาก” คุณหนูใหญ่คังคารวะหลี่จี้ ไม่รู้เป็นอย่างไร จู่ๆ ก็รู้สึกว่าหน้าร้อนผะผ่าว “ข้ากำลังจะไปที่เรือนของท่านหญิงพอดี มีอะไร ข้าจะไปหาชีกู”
“เช่นนั้นก็ดี!” หลี่จี้พูดไปก็ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างลังเล เหมือนไม่อยากไป
คุณหนูใหญ่คังคล้ายจะเข้าใจเล็กน้อย และรู้สึกเหมือนซ่อนกวางเอาไว้ทันที นางไม่สบายใจมาก จนไม่กล้าหยุดอยู่อีกสักครู่ จึงรีบเอ่ยว่า “คิดว่าคุณชายรองจะต้องยุ่งมากอย่างแน่นอน ข้าก็ต้องรีบไปที่เรือนของท่านหญิงเช่นกัน เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน คุณชายรองรักษาตัวด้วย!” นางเอ่ยจบก็เดินไปที่เรือนหลักของเจียงเซี่ยนอย่างเร็วมากโดยไม่กล้าหันกลับมา
หลี่จี้ชะเง้อคอยาวมองภาพเงาด้านหลังของคุณหนูใหญ่ตระกูลคังหายไปหลังกำแพงที่ฉลุลายท่อนบน แล้วถึงจะก้มหน้าลงและไปที่ประตูฉุยฮวา
ศีรษะของคุณหนูใหญ่ตระกูลคังโผล่ออกมาจากหลังกำแพงที่ฉลุลายท่อนบน และเห็นหลี่จี้ค่อยๆ หายไปในทางเดินอย่างไร้ชีวิตชีวา
นางถอนหายใจเบาๆ พลางกุมหน้าอก และก้มหน้าลง
———————————–
[1] หมึกฮุย หมึกที่ผลิตที่เมืองฮุยโจว