มู่หนานจือ - บทที่ 436 พนัน
น้ำเสียงของหลี่ฉางชิง…ฟังอย่างไรก็มีความอิจฉาริษยาเล็กน้อย
เจียงเซี่ยนอดไม่ได้ที่จะเม้มปากยิ้ม
หลี่ฉางชิงก็ยกชา
เจียงเซี่ยนย่อตัวคารวะ และถอยออกไป
หลี่จี้กำลังวนไปวนมาอยู่หน้าประตูห้องหนังสือของหลี่ฉางชิงอย่างดีอกดีใจ
พอเห็นเจียงเซี่ยนออกมา ก็เข้าไปหาทันที
“พี่สะใภ้” เขาเอ่ยเสียงเบา “ครั้งที่แล้วท่านไปเมืองหลวง เพราะเรื่องนี้ใช่หรือไม่?”
ดวงตาของหลี่จี้เปล่งประกาย ทำให้เจียงเซี่ยนนึกถึงสายตาที่หลี่เชียนมองนาง
นางจึงใจอ่อนทันที และอดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปาก เรื่องที่เดิมทีไม่ควรบอกเขาก็บอกเขาเช่นกัน…นางพยักหน้า และเอ่ยเบาๆ ว่า “อืม”
หลี่จี้กระโดดขึ้นมาทันที
“เยี่ยมไปเลย!” เขาตะโกน และเหมือนนึกถึงอะไรบางอย่างทันที จึงรีบกดเสียงให้เบาลง แล้วถามเจียงเซี่ยนด้วยสายตาเปล่งประกายว่า “พี่สะใภ้ เช่นนั้นท่านอาจารย์คังกับท่านอาจารย์เจิ้ งก็น่าจะไปส่านซีกับพวกท่านด้วยใช่หรือไม่? ท่านจะรอพี่ใหญ่กลับมาแล้วไปซีอานด้วยกันหรือไปเจอพี่ใหญ่ที่ซีอาน? พี่สะใภ้ ข้าไปกับพวกท่านด้วยได้หรือไม่? ท่านดูสิ ข้าเรียนกับท่ านอาจารย์คังมาระยะหนึ่งแล้ว กำลังเป็นช่วงเวลาที่ค่อยๆ ดีขึ้น อย่างไรก็ล้มเลิกกลางคันไม่ได้กระมัง? แต่ท่านกับพี่ใหญ่เพิ่งไปซีอาน ต้องมีธุระมากมายอย่างแน่นอน ข้ากลัวว่าท่าน นพ่อจะไม่อนุญาต ท่านไปขอร้องท่านพ่อกับข้าเถอะ! ให้ข้าตามท่านไปซีอานด้วยได้หรือไม่?”
เขาพูดจนดวงตาฉายแวววิงวอนแล้ว
เจียงเซี่ยนนึกถึงจุดจบของเขาในชาติก่อน แล้วก็รู้สึกสงสาร ทว่ากลับไม่แสดงออกทางสีหน้า นางรู้ว่า สำหรับคนบางคน ความเห็นใจเหมือนตบหน้าเขา มีแต่จะทำให้คนรู้สึกเสียหน้า และไม่ มีศักดิ์ศรี
นางจึงหยอกหลี่จี้เล่นว่า “แต่ข้าไม่รู้ว่าท่านอาจารย์คังกับท่านอาจารย์เจิ้งจะตามข้าไปซีอานหรือไม่? อย่างที่เจ้าบอก พวกเขาสองคนเพิ่งจะเป็นอาจารย์ได้ไม่กี่วัน ก็ตามไปซีอาน แล้ว ข้ากลัวว่าท่านพ่อจะไม่เห็นด้วย!”
“หา?!” หลี่จี้อ้าปากกว้างอย่างตกตะลึง
ท่าทางนั้นเหมือนลูกสุนัขที่ถูกตีจนมึนงง
เจียงเซี่ยนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
เด็กรับใช้ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูของหลี่ฉางชิงชะเง้อคอยาวมองมาทางนี้แล้ว
เจียงเซี่ยนรีบหยุดหัวเราะ และเอ่ยกับหลี่จี้ว่า “หยอกเจ้าเล่น! เรื่องพวกนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจเลย! ข้าต้องเตรียมสัมภาระที่จะไปซีอานก่อน ต้องอีกสองวันถึงจะรู้ว่าท่านอาจารย ย์คังกับท่านอาจารย์เจิ้งจะตามพวกเราไปซีอานหรือไม่”
ไม่เพียงแต่ท่านอาจารย์คังกับท่านอาจารย์เจิ้ง ยังมีพวกจงเทียนอวี่กับหม่าหย่งเซิ่ง ชาติก่อนติดตามหลี่เชียน ชาตินี้มีความเปลี่ยนแปลงมากขนาดนี้ ไม่รู้ว่าจะตามหลี่เชียนไปเหมื อนชาติก่อนหรือไม่
เซี่ยหยวนซีก็ไม่อยู่ หลี่เชียนจะไปเจอนางที่ซีอาน เรื่องพวกนี้ก็ตกอยู่ในมือของนางแล้ว
ถึงอย่างไรนางก็เป็นสมาชิกในครอบครัวที่เป็นผู้หญิง จึงย่อมไม่อาจเรียกพวกเขาไปคุยเรื่องพวกนี้ได้ ทว่าหากไม่พาคนพวกนี้ไปตอนนี้ ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นอีก ก็ไม่มีใครรู้เช่นกัน. …
เจียงเซี่ยนค่อนข้างปวดศีรษะ
แต่หลังจากหลี่ขุยแต่งลูกสะใภ้ พวกฮูหยินหลู่ก็เหมือนปรึกษากันเรียบร้อยแล้ว จึงพากันมาแสดงความยินดีกับนาง นางจำเป็นต้องจัดงานเลี้ยงต้อนรับคนพวกนี้โดยเลี้ยงอาหารและแสดงงิ้ว วอีก แล้วก็พบว่าเสื้อผ้าที่ซื้อเพิ่มให้หลี่เชียนปีนี้หากเขายังเป็นแม่ทัพโหยวจีระดับสี่ของกองบัญชาการซานซีแลดูล้ำค่าเล็กน้อย ทว่าหากเป็นผู้บัญชาการกองบัญชาการกำลังสำรองส ส่านซีระดับสองกลับไม่ค่อยพอ จึงรีบเรียกช่างตัดเสื้อทั้งหมดในเมืองไท่หยวนมาทำเสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวให้หลี่เชียนที่บ้าน แม้แต่คนที่ตอนอยู่ในวังเจอเรื่องเลื่อนตำแหน่งอย่าง กะทันหันและต้องรีบทำเครื่องแบบขุนนางที่สอดคล้องกันจนชินแล้วอย่างฉิงเค่อ ก็รีบจนเป็นแผลพุพองในปาก และเอ่ยอย่างรู้สึกดีใจว่า “ยังดีที่เอาผ้าชั้นดีมาจากในวังมากมาย ไม่อ อย่างนั้นท่านแม่ทัพคงต้องเสียหน้าจริงๆ แล้ว”
ไป่เจี๋ยที่กำลังพาสาวใช้ทั้งหมดของจวนสกุลหลี่รีบทำรองเท้ากับถุงเท้าให้หลี่เชียนได้ยินก็วางงานเย็บปักถักร้อยในมือลง และหัวเราะพลางเอ่ยว่า “ฉิงเค่อ ต้องเปลี่ยนคำพูดแล้ ว เวลานี้ท่านแม่ทัพเป็นผู้บัญชาการแล้ว ควรเรียกใต้เท้าแล้ว”
พอถึงซีอาน ต่อให้พวกเขาตั้งจวน ข้อจำกัดก่อนหน้านี้ก็ยกเลิกแล้ว
อย่างเช่น ในบ้านมีหลี่ฉางชิง พวกนางไม่สามารถเรียกหลี่เชียนว่าใต้เท้าได้ หลี่ฉางชิงใส่ผ้าไหม พวกนางก็ไม่สามารถให้หลี่เชียนใส่ผ้าไหมทอลายได้ แต่ผ้าไหมทอลายเป็นสิ่งที่ เจอได้ยากข้างนอก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงใส่อยู่บนตัว…ตอนนี้ไม่ต้องกังวลแล้ว ฉิงเค่อกับไป่เจี๋ยเอาชุดของในวังออกมาหมด ขาดเพียงไม่ได้ปักมังกรสี่เล็บแล้ว
เจียงเซี่ยนเห็นแล้วก็พอใจมากเช่นกัน
ในที่สุดนางก็สามารถใส่ทุกอย่างตามที่ต้องการได้แล้ว
นางอดไม่ได้ที่จะเล่าให้นายหญิงคังฟังเป็นการส่วนตัว “เมื่อก่อนตอนที่อยู่ในวังก็ไม่มีคนคุมเช่นกัน แต่ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยชอบของที่แข็งกระด้างอย่างผ้าไหมทอลาย หากเห็นว่ามีค คนใส่ ยังรู้สึกว่าคนนี้แสร้งทำตัวเหนือกว่าคนทั่วไป ทว่าเวลานี้มีคนคุมแล้ว กลับรู้สึกว่าผ้าไหมทอลายกับงานปักของมณฑลเสฉวนล้วนเป็นของดี เลี่ยมสายคาดเอวหรือบนไหล่สวยมาก จะเห็นได้ว่าคนนี้ไม่ได้อะไรก็อยากได้อันนั้น?”
นายหญิงคังหัวเราะไม่หยุด และเอ่ยว่า “ก่อนที่พ่อสามีของข้าจะจากไปกินลูกอมไม่ได้ คนที่เมื่อก่อนแข็งแกร่งมาก สุดท้ายถึงวัยชราแล้วยังขโมยลูกอมกิน ข้าไม่เคยคิดฝัน แถมยังต้องแ แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอีก”
ทุกคนต่างก็หัวเราะออกมา
คังเสียงอวิ๋นได้ยินเสียงหัวเราะที่ดังมาจากเรือนด้านในที่อยู่ใกล้มากเป็นระยะ ก็รีบลุกขึ้นปิดลูกกรงหน้าต่าง และเอ่ยกับเจิ้งเจียนที่กำลังเดินไปเดินมาในห้องอย่างตื่นเต้นว่า “เจ้าก็อย่าตื่นเต้นขนาดนั้นเช่นกัน ได้ยินใต้เท้าติงบอกว่า รองของกองบัญชาการกำลังสำรองส่านซียังไม่ได้ตัดสินใจเลย คาดว่าราชเลขาธิการวังกับราชเลขาธิการสยงกำลังแข่งขันเรื่องนี้ กันอย่างดุเดือด!”
“ไม่ต้องสนใจว่าตัดสินใจหรือยัง” คำพูดของคังเสียงอวิ๋นไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้เจิ้งเจียนสงบลงได้ ทว่ายังทำให้เขาตื่นเต้นมากขึ้นด้วย และเอ่ยว่า “ตอนนั้นข้าก็รู้สึกว่าท่าน นหญิงเจียหนานผู้นี้ไม่ธรรมดา คิดไม่ถึงว่านางจะมีความกล้าและความเด็ดขาดแบบนี้ ละทิ้งเมืองหลวงและเลือกซีอานทันที ต่อให้เวลานี้ใต้เท้าหลี่ยังไม่มีความสามารถในการควบคุมกองบัญชากา ารกำลังสำรองส่านซี มีผู้หญิงอย่างท่านหญิงเจียหนานรักษาการณ์ด้วยตนเอง ถึงจะเข็น ก็จะเข็นใต้เท้าหลี่จนมีวันที่ลืมตาอ้าปากได้ในที่สุดเช่นกัน หากเจ้าไม่เชื่อ ลองพนันกับข้าก็ได้ ข้ากล้าบอกว่า ไม่เกินสามวัน ไม่ ไม่เกินเจ็ดวัน ท่านหญิงเจียหนานก็จะมาหาเจ้า! เจ้าจะพนันหรือไม่?”
ใต้เท้าหลี่ที่เขาหมายถึงในเวลานี้ หมายถึงหลี่เชียนแล้ว
คังเสียงอวิ๋นตกตะลึง และเอ่ยว่า “เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับข้า?”
“ทำไมเจ้าไม่ใช้สมองคิดสักนิด?” เจิ้งเจียนเอ่ยอย่างรู้สึกโกรธและเสียดาย “เจ้าลองคิดดู เวลาแบบนี้…ใต้เท้าหลี่กลับไม่อยู่ ถึงพวกเขาจะปิดบังอย่างแน่นหนา แต่ข้ากลับไม่เชื่อพวกข ข่าวที่ตระกูลหลี่ปล่อยออกมา ว่าใต้เท้าหลี่อยู่เมืองหลวงยังไม่กลับมา ข้าว่าเป็นไปได้มากว่าเขาออกเดินทางอย่างลับๆ แล้ว ฤดูนี้…หากเขาไม่ไปซื้อม้าก็ไปซื้อเกลือที่ตะวันตกเฉ ฉียงเหนือ คิดไม่ถึงว่าประกาศของเมืองหลวงจะมาเร็วขนาดนี้ จึงกลับมาไม่ทันแล้ว เขากับท่านหญิงหากไม่ไปเจอกันที่หลินถงก็ไปเจอกันที่ซีอาน ก่อนหน้านี้ผู้ช่วยของใต้เท้าหลี่ก็ไม่อยู่ ข้าว่าเกาฝูอวี้นั่นค่อนข้างเอาใจใส่งานของตระกูลหลี่ แต่กลับดูถูกงานของใต้เท้าหลี่เล็กน้อย จึงอาจจะไม่ได้วางแผนให้ใต้เท้าหลี่อย่างจริงใจ ใต้เท้าหลี่ไปส่านซีต้องเอาของ งอะไรหรือพาใครไปบ้าง น่าจะยังต้องให้ท่านหญิงตัดสินใจ ถึงอย่างไรท่านหญิงก็เป็นผู้หญิง เรื่องบางเรื่องกลับไม่อาจเข้าร่วมด้วยตนเองได้ ต้องหาคนช่วยออกหน้าสักคนอย่างแน่นอน เจ จ้าเป็นคนที่นางพามาจากเมืองหลวง ถึงเวลานั้นนางจะต้องมาให้เจ้าช่วยอย่างแน่นอน…”
คังเสียงอวิ๋นได้ยินก็รู้สึกว่ามีเหตุผลมาก จึงอดไม่ได้ที่จะถามเจิ้งเจียนว่า “เช่นนั้นข้าต้องช่วยเรื่องนี้หรือไม่?”
ในแผนการของพวกเขา พวกเขาเพียงแค่ไปช่วยซ่อมทางน้ำ ดูดาว และชี้แนะการไถดินกับการเพาะปลูกเล็กน้อย…แต่ไม่เคยคิดที่จะเป็นกุนซือ และพวกเขาก็ไม่ถนัดที่จะออกความคิดให้คนอื่นด ด้วย ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็คงไม่ล่วงเกินผู้บังคับบัญชาและถูกบีบจนจำเป็นต้องลาออกหรอก!