มู่หนานจือ - บทที่ 441 ไปรับตำแหน่ง
ตอนนั้นพอเจียงเซี่ยนได้ยินว่ารองของกองบัญชาการกำลังสำรองส่านซีแซ่ไช่ก็ไม่ดีแล้ว พอได้ยินว่าคนๆ นั้นชื่อไช่ซวง นางก็เกือบจะกระโดดขึ้นมา
ไช่ซวงผู้นี้ ชาติก่อนเจียงเซี่ยนเคยได้ยิน
เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายของไช่หยวน แล้วก็เป็นพี่ชายสามีของไป๋ซู่ในชาติก่อนด้วย
นางเคยได้ยินชื่อของไช่ซวงจากปากของไป๋ซู่
ภาพจำที่เจียงเซี่ยนมีต่อไช่ซวงคือเฉลียวฉลาดพลิกแพลงเก่ง มีไหวพริบมีความสามารถ ถึงจะกินเล็กกินน้อยแต่มีความคิดแบบองค์รวม หน้าตาหล่อเหลาสง่างาม มีช่วงหนึ่งสตรีชนชั้นสูงมากมายในเม มืองหลวงต่างอยากเป็นแม่ยายของเขา เพื่อให้มีความดีความชอบโดดเด่นในวงการราชการ จึงประจบประแจงมากต่อหน้าไป๋ซู่ ฉลาดกว่าไช่หยวนลูกพี่ลูกน้องที่มีศักดิ์เป็นน้องชายที่โง่เขลาของเขา มากทีเดียว
ทว่าปัญหาคือเขาแซ่ไช่
เขามีอาเป็นไช่ติ้งจงจิ้นอันโหว คนๆ นี้มักจะทำอะไรตามสถานการณ์ มีลุงแต่งงานกับท่านหญิงอู่หยาง ในลูกชายสี่คนลูกสาวเจ็ดคนนอกจากลูกชายคนโตที่เกิดจากท่านหญิงอู่หยางแล้ว คนอ อื่นล้วนเกิดจากอนุภรรยา เวลานี้ทะเลาะกันจนสามีภรรยาแยกจวนอยู่ และเขายังมีอาชื่อไช่ติ้งเซี่ยว ซึ่งชาติก่อนทิ้งเมืองหนีไปตอนที่ชนกลุ่มน้อยทางเหนือบุกรุก...
เจียงเซี่ยนยังไม่ได้เจอไช่ซวงก็ไม่ชอบก่อนแล้ว
นางคิดว่าข้างกายหลี่เชียนควรจะเป็นพวกคนที่มีความสามารถอย่างแท้จริง ไม่ใช่คนที่ไม่มีจุดยืนอย่างสิ้นเชิงต่อหน้าสิ่งที่ถูกต้องและจากตระกูลก็เลวหมดแล้วอย่างไช่ซวง!
เจียงเซี่ยนเบ้ปาก
หากไช่ซวงทำงานข้างกายคนอื่น ยังสามารถกลับไปหาเงินเดือนทหารกับยุทธปัจจัยที่เมืองหลวงได้ ติดตามหลี่เชียน จะทำอะไรได้?
คำพูดของนางใช้ได้ผลหรือคำพูดของไช่ซวงใช้ได้ผล?
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไช่ซวงคิดอย่างไร?
เจียงเซี่ยนเรียกหลิวตงเยว่เข้ามา และให้เขาเอาจดหมายที่เฉาเซวียนเขียนให้นางมาให้นางดูอีกครั้ง
นางอยากรู้ว่าจดหมายนี้ส่งออกมาเมื่อไร
เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเตะไช่ซวงออกไปก่อนที่หนังสือราชการที่ไช่ซวงรับตำแหน่งจะออกมา
หลี่จี้เคยเตือนนาง ทว่านางก็ไม่มีตัวเลือกที่ดีเช่นกัน เรื่องนี้จึงตกมาที่ไช่ซวง
เจียงเซี่ยนถอนหายใจ เห็นจดหมายนั้นส่งออกมาสิบวันก่อน ก็จำเป็นต้องล้มเลิกแล้ว
เก็บจดหมายให้เรียบร้อยอีกครั้ง เจียงเซี่ยนก็อาบน้ำอย่างสบายอกสบายใจ
หลายวันก่อนพักในจุดแวะพักระหว่างทางเล็กๆ ตลอด วันนี้กว่าจะได้พักที่จุดแวะพักระหว่างทางที่ยังมีห้องชุดนี้ก็ไม่ง่ายเลย ต้องพักผ่อนและปรับปรุงกำลังให้เต็มที่ถึงจะถูก
เจียงเซี่ยนหยิบหนังสือเบ็ดเตล็ดและเอนตัวพิงหมอนอิงของเตียงอุ่นหลังใหญ่ใกล้หน้าต่างพลางสัมผัสตะเกียงน้ำมันบนโต๊ะอุ่นและมองตามใจชอบ ฉิงเค่อพาพวกสาวใช้มาบีบผมให้นางด้วยผ้ าเช็ดหน้าผ้าฝ้ายแห้ง พลางเตือนนางเสียงอ่อนโยนว่า “ท่านหญิง อากาศหนาวเกินไปแล้ว สองวันนี้ท่านก็ถูไถไปก่อนเถอะ! ไว้ถึงเว่ยหนานแล้ว ท่านค่อยหวีผมและล้างหน้าอย่างดีแล้วกัน”
หลี่ฉางชิงให้คนนำจดหมายไปให้หลี่เชียน ให้เขาไปเจอพวกนางที่กานเฉวียน แต่กานเฉวียนเป็นเมืองเล็ก ยังไม่รู้ว่าจะมีจุดแวะพักระหว่างทางหรือไม่ ทว่าเว่ยหนานกลับเป็นอำเภอที อยู่ใกล้กานเฉวียนที่สุดแล้ว ที่นั่นต้องมีจุดแวะพักระหว่างทางอย่างแน่นอน และขนาดของจุดแวะพักระหว่างทางก็น่าจะไม่เล็กเช่นกัน ฉิงเค่อถึงได้เอ่ยแบบนี้
เจียงเซี่ยนได้ยินก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องอื่นยังอดทนง่าย มีแต่เรื่องล้างหน้าบ้วนปากที่ข้าอดทนไม่ได้…”
นางยังพูดไม่จบ ก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากด้านนอก
เจียงเซี่ยนขมวดคิ้ว
นางไม่ชอบเรื่องไม่คาดฝันที่สุด
ฉิงเค่อรีบเอ่ยว่า “ข้าจะให้คนไปดูเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”
เจียงเซี่ยนพยักหน้า
ฉิงเค่อยังไม่ทันสั่งสักคำ ประตูใหญ่ก็ถูกคนเปิดอย่างกะทันหัน ลมหนาวพัดเข้ามา
เจียงเซี่ยนเลิกคิ้ว และกำลังจะโมโห ทว่าเงาร่างที่สูงใหญ่ร่างหนึ่งกลับเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
คนที่อยู่ในห้องต่างมองออกไปข้างนอกอย่างตกตะลึง
บนหน้าของเจียงเซี่ยนยากที่จะปิดบังความดีใจได้แล้ว “หลี่เชียน!”
หลี่เชียนที่รีบเดินทางอย่างเหน็ดเหนื่อยยิ้มออกมาอย่างสดใส
“หลี่เชียน!” เจียงเซี่ยนดีดตัวขึ้นมา และกระโจนใส่หลี่เชียนที่เดินมาหา
หลี่เชียนรีบเดินไปข้างหน้าอย่างเร็วมาก และกอดเจียงเซี่ยนที่เกือบจะกระโดดลงจากเตียงอุ่นเอาไว้
“หลี่เชียน หลี่เชียน เจ้ากลับมาได้อย่างไร?” เจียงเซี่ยนกอดหลี่เชียนแน่น และโยกไปโยกมา ไม่รู้ว่าจะแสดงความรู้สึกดีใจในใจตนเองออกมาอย่างไร
เขาเร่งเดินทางให้เร็วขึ้นเป็นสองเท่ามาตลอดทาง ก็เพราะกลัวเจียงเซี่ยนจะเผชิญหน้ากับขุนนางระหว่างทางคนเดียว กลัวนางจะกังวลและหวาดกลัวคนเดียว…แล้วก็อยากเจอนาง…อยากเจอนาง เร็วหน่อย…
ในที่สุดเวลานี้ก็สมปรารถนา
สีหน้าประหลาดใจและรอยยิ้มดีใจดั่งบุปผาของเจียงเซี่ยน ล้วนทำให้เขารู้สึกถึงความดีใจที่วิ่งเต้นพันลี้
เขาออกแรงกอดตอบคนตัวเล็กในอ้อมแขน
เหมือนกำลังกอดหยกเนื้ออ่อน
กลิ่นหอมอ่อนๆ ละมุนละไมที่แผ่ออกมาจากตัวนางทำให้หลี่เชียนที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยฝุ่นรู้สึกละอายใจเล็กน้อย
หากรู้ว่าเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก เขาก็น่าจะหวีผมและล้างหน้าสักรอบแล้วค่อยมาพบนาง
ทว่าเขาก็ไม่อยากปล่อย
หลี่เชียนหอมหน้าผากของเจียงเซี่ยนตามใจสองที ถึงจะค่อยๆ ปล่อยนาง แล้วมองดวงตาของนางอย่างอ่อนโยนและอมยิ้มพลางเอ่ยเสียงเบาว่า “ข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยมาคุยกับเจ้า”
เจียงเซี่ยนไม่อยากปล่อยเขาไป แต่พอเห็นหนวดที่เหมือนเสาเล็กๆ ที่ผุดออกมาจากใต้คาง และดวงตาสีแดงทั้งสองข้างที่ปรากฏเส้นเลือดของเขา นางก็ปวดใจมาก และรีบเร่งเขา “รีบไปเปล ลี่ยนเสื้อผ้า!” แล้วก็ตะโกนเรียกฉิงเค่อเสียงดัง “ไปดูว่าจุดแวะพักระหว่างทางยังมีของกินอะไรหรือไม่? หากไม่มี ก็ให้หลิวตงเยว่คิดหาทางทำของอร่อยให้นายท่านหน่อย นายท่านคงจะ รีบเดินทางมาหลายวันแล้ว…”
หลังจากนั้นหลิวตงเยว่ที่ตามเข้ามาก็เอ่ยต่อทันทีว่า “ท่านหญิงวางใจ ข้าสั่งลงไปแล้ว บังเอิญคนครัวของจุดแวะพักระหว่างทางยังไม่กลับไป จึงไปตั้งเตาทำอาหารใหม่แล้ว ท่านแม่ทัพ ล้างหน้าบ้วนปากออกมาก็รับประทานอาหารเย็นได้เลย”
หลายวันนี้หลี่เชียนกินเสบียงมาตลอด จึงอยากกินอาหารที่ร้อนจริงๆ แล้ว เลยไม่ห้ามพวกนางรีบทำงานเช่นกัน เขาลุกขึ้นก็คิดจะไปห้องพักแขกที่หลิวตงเยว่กับอวิ๋นหลินอยู่ข้างๆ ทว่าพอลุกขึ้นกลับพบว่าผมของเจียงเซี่ยนยังกึ่งแห้งและกระจายอยู่ข้างหลัง จึงดึงผ้าห่มผืนบางที่ใช้สำหรับคลุมเข่าบนเตียงอุ่นขึ้นมาห่อเจียงเซี่ยนเหมือนบ๊ะจ่าง และเอ่ยว่า “รีบคลุมไว้ ระวังจะเป็นหวัด”
เจียงเซี่ยนก็ไม่รังเกียจที่ถูกห่อจนขยับไม่ได้เช่นกัน และยิ้มจนตาเป็นสระอิ
หลี่เชียนเห็นท่าทางของนาง ไม่รู้ว่าน่ารักแค่ไหน ใจอ่อนหมดแล้ว จึงหอมอีกสองทีถึงจะปล่อยมือ
เจียงเซี่ยนก็มองหลี่เชียนออกไปข้างนอกอย่างไร้เดียงสา
คนที่อยู่ในห้องต่างเม้มปากยิ้ม ฉิงเค่อเตือนเจียงเซี่ยนเสียงเบาว่า “ท่านหญิง บีบผมให้แห้งดีกว่ากระมัง? ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวท่านแม่ทัพมาเห็น จะเป็นห่วงอีก”
เจียงเซี่ยนก็เอ่ยว่า “เช่นนั้นพวกเจ้าทำความสะอาดหัวเตียงอุ่น ข้านั่งอบผมให้แห้งที่หัวเตียงอุ่นก็เหมือนกัน”
“จะทำแบบนั้นได้อย่างไร!” ฉิงเค่อเอ่ย และล้อมเข้ามากับพวกสาวใช้ “หัวเตียงอุ่นร้อนเกินไป ผิงแล้วจะต้องเป็นร้อนในอย่างแน่นอน พอลมหนาวพัดมา ท่านต้องไม่สบายแน่ๆ พวกเรารีบบี บผมของท่านก่อนที่ท่านแม่ทัพจะกลับมาดีกว่า”
เจียงเซี่ยนอยากอยู่เป็นเพื่อนหลี่เชียน
นางเอ่ยว่า “เช่นนั้นพวกเจ้าให้แม่บ้านตั้งโต๊ะที่ห้องของข้าแล้วกัน!”
เมื่อก่อนนางเกลียดการกินอาหารในห้องนอนที่สุด เพราะรู้สึกว่าจะทิ้งกลิ่นเอาไว้
ฉิงเค่อยิ้มพลางแลกเปลี่ยนสายตากับไป่เจี๋ย แล้วขานรับอย่างดีใจ และให้คนไปสั่งในห้องครัว
หลี่เชียนทำอะไรเร็วมาก ผมของเจียงเซี่ยนยังไม่แห้งสนิท เขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและย้อนกลับมาหลังจากหวีผมและล้างหน้าแล้ว
ฉิงเค่อไปชงชาต้าหงเผาและยกเข้ามาทันที ส่วนไป่เจี๋ยก็สั่งให้คนของห้องครัวเริ่มนำอาหารมา
หลี่เชียนรับถ้วยชาไปและดื่มรวดเดียวหมดเหมือนดื่มเหล้า แล้วรับผ้าเช็ดหน้าในมือของสาวใช้ไปยืนอยู่ข้างหลังเจียงเซี่ยน และเอ่ยว่า “ข้าบีบผมให้เจ้าเอง!”
สาวใช้มองไปที่ฉิงเค่อ
ฉิงเค่อพยักหน้าเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น