มู่หนานจือ - บทที่ 446 ตั้งถิ่นฐาน
“สระหวาชิงตอนนี้ยังอยู่หรือ?” เจียงเซี่ยนประหลาดใจมาก
หลี่เชียนเอ่ยด้วยรอยยิ้มอย่างไม่ค่อยแน่ใจ “น่าจะยังอยู่กระมัง?”
ทั้งสองคนซุบซิบกันนานมาก สุดท้ายจึงตัดสินใจส่งหลิวตงเยว่ไปสืบ
ช่วงนี้ทุกคนเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง พอได้ยินว่าพวกหลี่เชียนจะไปแช่น้ำพุร้อน เช่นนั้นคนที่ติดตามรับใช้ข้างกายอย่างพวกเขาก็จะได้พักหนึ่งวันด้วย จึงดีใจกันมาก ปรากฏว่า หลิวตงเยว่ยังไม่ออกไปข้างนอก ก็มีผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘ผู้ช่วยของหนานซืออดีตผู้บัญชาการกองบัญชาการกำลังสำรองส่านซี’ ส่งเทียบขอพบมา บอกว่านายท่านของพวกเขาไปกองขุนนางฝ่ายบ บู๊กรมกลาโหม กลางเดือนสิบสองต้องไปรับตำแหน่ง กำลังรอหลี่เชียนไปถึงอยู่ตลอด จะได้ส่งมอบและรับช่วงต่อ
หลี่เชียนกับเจียงเซี่ยนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
เจียงเซี่ยนไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้จริงๆ จึงเรียกเจิ้งเจียนมา และเอ่ยว่า “ต้องส่งมอบและรับช่วงต่อหรือ?”
เจิ้งเจียนเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “หากเป็นผู้ว่าราชการมณฑลที่ควบคุมสถานที่หนึ่ง และไม่มีผู้บังคับบัญชาโดยตรง ก็ต้องส่งมอบและรับช่วงต่อ แต่อย่างใต้เท้าหนานนั้น หากเวลารับตำแหน่ง กำหนดกระชั้นชิด สามารถส่งมอบและรับช่วงต่อกับผู้ว่าราชการมณฑลได้ ไว้ขุนนางใหม่รับตำแหน่ง ค่อยส่งมอบและรับช่วงต่อกับผู้ว่าราชการมณฑลก็เหมือนกัน”
เจียงเซี่ยนเอ่ยว่า “เช่นนั้นเขารอพวกเราทำไม?”
เจิ้งเจียนมองหลี่เชียนครั้งหนึ่ง เห็นหลี่เชียนเพียงแค่มองเจียงเซี่ยนด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม โดยไม่พูดอะไร ก็ทำได้เพียงยิ้มและเอ่ยว่า “คงจะคิดว่าใต้เท้าหลี่สร้าง ผลงานที่ค่อนข้างโดดเด่นตั้งแต่อายุน้อย จึงอยากเจอใต้เท้าหลี่สักครั้งก่อนที่จะไปจากซีอาน ทั้งสองฝ่ายจะได้ผูกมิตรกัน”
ยุ่งยากจริงๆ!
ภูเขาหลีกับสระหวาชิงก็ไปไม่ได้แล้ว!
หลี่เชียนปลอบใจนาง “วันหน้าพวกเราค่อยมากันตามลำพัง”
เจียงเซี่ยนได้ยินแล้วถึงจะอารมณ์ดีขึ้นอีกครั้ง
ทุกคนจำเป็นต้องเปลี่ยนแผน เตรียมต้อนรับหนานซือ
ตอนกลางคืน หลี่เชียนขดตัวอยู่บนเตียงอุ่นหลังใหญ่ใกล้หน้าต่างพลางคุยเล่นกับเจียงเซี่ยน “เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าภายภาคหน้าบ้านของพวกเราจะเป็นแบบไหน?”
แน่นอนว่าเคยคิด!
เจียงเซี่ยนยันข้อศอกและเอ่ยว่า “ต้องมีคนเยอะๆ มีสวนดอกไม้ใหญ่ ปลูกต้นไม้มากมาย เลี้ยงแมวหนึ่งตัว นกสองสามตัว”
เด็กกลุ่มหนึ่งหยอกล้อกันในสวนดอกไม้ แม่นมกับสาวใช้ติดตามอยู่ข้างหลังพวกเขาอย่างกระวนกระวายใจ
ประโยคนี้…นางอายที่บอกหลี่เชียนเล็กน้อย
หลี่เชียนได้ยินแล้วก็ยิ้มอย่างรักมากพลางลูบผมของนาง และเอ่ยว่า “ได้ ข้าจะให้อวิ๋นหลินไปซื้อบ้านที่เถียนสุ่ยจิ่งไว้ บ้านหลังนั้นแบ่งพื้นที่ออกเป็นสี่ส่วนและมีทางเข้าอ ออกสองทาง เรือนด้านในมีสวนดอกไม้ใหญ่มาก สร้างเลียนแบบเจียงหนาน น้ำใต้สะพานเล็กกำลังไหลริน แถมยังมีเรือนกระจกด้วย คล้ายกับที่เจ้าชอบ ไว้พวกเราเข้าไปอยู่แล้ว ค่อยปรับปรุงอย่า างช้าๆ”
สักวันหนึ่ง…จะปรับปรุงเป็นแบบที่เจ้าพอใจได้
หลี่เชียนเอ่ยในใจ
เขาชอบที่เจียงเซี่ยนคุยกับเขาแบบนี้มาก
ขอเพียงนางชอบ เขาก็จะคิดหาทางช่วยนางทำให้เป็นจริง
แต่อันดับแรกต้องให้นางยอมเปิดใจบอกเขาว่านางชอบอะไรบ้างก่อน
ด้วยนิสัยของเจียงเซี่ยน คุยเรื่องพวกนี้กับเขาได้ แสดงว่าในใจเจียงเซี่ยน เขาสำคัญมาก
หลี่เชียนคิด และอดไม่ได้ที่จะลูบผมของนางเบาๆ อีกครั้ง
เจียงเซี่ยนรู้สึกว่าแบบนี้ดีมาก
นางไม่อยากอยู่ศาลาว่าการ
ชาติก่อน หลี่เชียนอยู่ซีอานตลอด
จนใช้ซีอานเป็นฐานที่มั่น ควบคุมพื้นที่ส่วนหนึ่งของกานซู่กับเสฉวน
ซีอานสำคัญขนาดนี้ นางคิดว่าชาตินี้หลี่เชียนก็คงจะไม่ย้ายที่ง่ายๆ เช่นกัน
ในเมื่อนางจะอยู่ที่ซีอานนานมาก การตกแต่งบ้านหลังเล็กของนางกับหลี่เชียนให้อบอุ่นและสบายก็จำเป็นมากเช่นกัน
นางพยักหน้าด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
หลี่เชียนก็ตะโกนเรียกหลิวตงเยว่เข้ามา ให้เขาถ่ายทอดคำพูดให้อวิ๋นหลิน ไปซื้อบ้านที่เถียนสุ่ยจิ่งไว้ และเอ่ยว่า “เซี่ยหยวนซีถึงซีอานแล้ว จึงช่วยดูบ้านหลายหลังให้พวกเรา ล่วงหน้า บ้านหลังนี้เขาก็เป็นคนแนะนำ ได้ให้เขาไปจัดการเรื่องนี้พอดี พรุ่งนี้เจอหนานซือแล้ว วันมะรืนคงจะต้องเข้าเมืองไปส่งมอบและรับช่วงต่อกับเขา และดำรงตำแหน่งผู้บัญชากา ารของกองบัญชาการกำลังสำรองส่านซีอย่างเป็นทางการแล้ว วันมะรืนเจ้าตามข้าเข้าเมืองไปก็มีที่พักเช่นกัน ไว้จัดหาที่อยู่ให้เจ้าเรียบร้อยแล้ว ข้าค่อยไปรับตำแหน่งที่กองบัญชาการกำลังส สำรองเมืองกาน”
“เจ้าว่าอะไรนะ?” เจียงเซี่ยนเด้งตัวขึ้นมาทันทีเหมือนลูกแมวที่ถูกเตะหาง “เจ้า…เจ้าจะไปเมืองกาน? กองบัญชาการกำลังสำรองส่านซีอยู่เมืองกาน? ไม่ได้อยู่ซีอานหรือ?”
หลี่เชียนก็เบิกตาโตเช่นกัน และเอ่ยว่า “เจ้าไม่รู้ว่ากองบัญชาการกำลังสำรองส่านซีอยู่เมืองกานหรือ?”
เช่นนั้นนางยังหาตำแหน่งของกองบัญชาการกำลังสำรองส่านซีมาให้เขา!
“ข้า…ข้าไม่รู้!” เจียงเซี่ยนตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
ชาติก่อน นางกลัวหลี่เชียนถูกคนอาศัยอำนาจและอิทธิพลบีบบังคับให้ยอมทำตาม จึงให้เขาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการของกองบัญชาการกำลังสำรองส่านซีควบกองบัญชาการส่านซี กระทั่งเพื่อไม่ให้ เขาถูกคนรบกวนการทำงาน หลังจากย้ายซย่าเจ๋ออดีตผู้ว่าราชการมณฑลส่านซีไปดำรงตำแหน่งรองเสนาบดีที่กรมกลาโหม ก็ไม่ตั้งผู้ว่าราชการมณฑลส่านซีอีกเลย
ตอนนั้นหลี่เชียนอยู่ที่ซีอานตลอด
นางเข้าใจมาตลอดว่ากองบัญชาการกำลังสำรองกับกองบัญชาการส่านซีต่างอยู่ซีอาน
หลี่เชียนก็ดูออกแล้วเช่นกัน
ที่แท้เป่าหนิงของเขาไม่รู้อะไรเลย คิดว่ากองบัญชาการกำลังสำรองกับกองบัญชาการส่านซีเหมือนกัน เห็นว่าล้วนเป็นขุนนางใหญ่ระดับสอง ก็หาตำแหน่งผู้บัญชาการอะไรก็ได้มาให้เขา…
เขากลืนไม่ค่อยเข้าคายไม่ค่อยออก
แต่ซาบซึ้งมากกว่า
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร” เขาอดไม่ได้ที่จะกอดเจียงเซี่ยนไว้ในอ้อมแขน “กองบัญชาการกำลังสำรองส่านซีขึ้นตรงต่อส่านซี พวกหนังสือราชการกับราชโองการล้วนต้องส่งมาที่ซีอาน ดังนั้นไม่ว่า จะเป็นกองบัญชาการกำลังสำรองหรือกองบัญชาการ ต่างก็จัดให้ครอบครัวอยู่ที่ซีอาน ถึงข้าจะอยู่เมืองกาน แต่ก็จะกลับซีอานบ่อยๆ พอกลับซีอาน ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้า รอสองสามปี ข้าคิ ดหาทางย้ายมาที่กองบัญชาการ ก็สามารถอยู่เป็นเพื่อนเจ้าได้ทุกวันแล้ว…พวกเราไม่เสียใจ ดีหรือไม่?”
เขาเอ่ยพลางประคองหน้าของเจียงเซี่ยนและหอมติดกันหลายครั้ง
ทว่าเจียงเซี่ยนกลับผิดหวังเป็นอย่างมาก
นางเข้าใจมาตลอดว่ากองบัญชาการกำลังสำรองกับกองบัญชาการส่านซีต่างอยู่ซีอาน...
“เช่นนั้นข้าตามเจ้าไปเมืองกานดีกว่า?” นางไม่อยากแยกกับหลี่เชียน จึงเอ่ยอย่างกลัดกลุ้มว่า “ข้าอยู่ซีอานคนเดียวไม่สนุก ข้าได้ยินว่าทิวทัศน์ของเมืองกานก็ไม่เลวเช่นกัน!”
ความจริงแล้ว นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมืองกานอยู่ที่ไหน
ชาติก่อน หลี่เชียนเป็นคนควบคุมแถบตะวันตกเฉียงเหนือทั้งหมด นางจึงไม่อยากยุ่งอย่างสิ้นเชิง ตอนหลังทั้งสองคนแตกหักกันแล้ว นางได้ยินเรื่องของตะวันตกเฉียงเหนือก็ปวดศีรษะ ไม่อยาก ยุ่ง…เวลานี้ดีแล้ว กรรมตามสนองแล้ว
แน่นอนว่าหลี่เชียนอยากได้มาก
แต่เขากลับไม่อยากให้เจียงเซี่ยนตามเขาไปลำบาก
ที่นั่นห่างจากส่านซีต้องขี่ม้าสิบกว่าวัน
เจียงเซี่ยนเป็นดอกไม้ที่งดงามและน่ารักในใจเขา ให้นางตามเขาไปซานซี และมาซีอานก็ทำให้นางลำบากแล้ว เขายังจะให้นางตามเขาไปเมืองกานได้อย่างไร?
เขาจึงโกหกนางว่า “แต่ที่นั่นเป็นค่ายทหาร ปกติสมาชิกในครอบครัวที่เป็นผู้หญิงต่างไม่อยู่ที่นั่น”
ก็หมายความว่า ที่นั่นมีแต่ฐานที่มั่น ไม่มีครอบครัว
แน่นอนว่าเจียงเซี่ยนไม่อาจให้หลี่เชียนทำลายกฎนี้ได้
นางจำเป็นต้องเอ่ยว่า “เช่นนั้นเมืองที่อยู่ใกล้เมืองกานที่สุดคือที่ไหน? ข้าอยู่ที่นั่นได้หรือไม่?”
เมืองที่ดีที่สุดของตะวันตกเฉียงเหนือก็คือซีอาน หลี่เชียนไม่คิดจะให้เจียงเซี่ยนไปทางตะวันตกต่ออย่างสิ้นเชิง
เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ถึงกองบัญชาการกำลังสำรองส่านซีจะอยู่เมืองกาน ทว่าที่ซีอานก็มีศาลาว่าการเช่นกัน เพียงแต่อยู่ถนนเหนือ ข้างกองบัญชาการส่านซี ส่วนศาลาว่าการผู้ว่าราชการมณ ณฑลส่านซีกับศาลาว่าการเมืองซีอานตั้งอยู่ถนนใต้ ยืนเผชิญหน้ากัน ครอบครัวของพวกซย่าเจ๋อผู้ว่าราชการมณฑลส่านซี หลินอวี้เจ้าเมืองซีอาน และหวังเฉิงผู้บัญชาการกองบัญชาการส่านซีต่า างก็อาศัยอยู่ในศาลาว่าการ เจ้าอยู่ที่ซีอาน จะได้ไปมาหาสู่กับพวกนาง”
ความนัยที่แฝงในนั้นคือ ให้นางไปมาหาสู่กับครอบครัวของขุนนางเหล่านี้
คนต่างไปมาหาสู่กัน ยิ่งบ่อยก็ยิ่งสนิทกัน!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้หลี่เชียนจะไปรับราชการที่เมืองกาน ปกติก็ไม่อยู่ซีอานด้วยซ้ำ และบนศีรษะก็ยังมีซย่าเจ๋ออยู่
เจียงเซี่ยนพยักหน้า และเอ่ยว่า “เจ้าวางใจ ข้าจะเข้ากับพวกนางได้ดี”
ปกติการกระซิบของฮูหยินก็ร้ายกาจมากเช่นกัน
ถึงนางจะไม่กลัว ทว่าหากสามารถจัดการเรื่องราวได้อย่างง่ายดาย แล้วทำไมจะไม่ยินดีที่จะทำล่ะ?