มู่หนานจือ - บทที่ 455 ไปมาหาสู่กัน
หลังจากชีกูจากไป บรรยากาศปีใหม่ในบ้านก็ยิ่งเข้มข้นแล้ว
ฮูหยินซย่าฉวยโอกาสนี้จัดงานชมดอกไม้ และจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้เจียงเซี่ยนอย่างเป็นทางการ
เจียงเซี่ยนสวมเสื้อคลุมยาวลายขนหางหงส์สีเขียวเข้ม เกล้ามวยทรงตกหลังม้า และติดดอกไม้ใหญ่ที่ประดับด้วยขนนกกระเต็นสีฟ้าลายแปดสัญลักษณ์มงคลที่ไทเฮาตกรางวัลให้นางไปศาลาว่ากา ารผู้ว่าราชการมณฑลส่านซี
ฮูหยินซย่าอายุสี่สิบกว่าปี ทว่าดูแลอย่างดีมาก จนดูเหมือนอายุเพียงแค่สามสิบกว่าปี สูงปานกลาง แต่รูปร่างกลับผอมเพรียว หน้าเหลี่ยม ดวงตาเรียวยาว เฉลียวฉลาดและเปิดเผย ดูไม่เหมื อนคนที่เข้ากับคนง่าย
นางกับซย่าเจ๋อมีลูกชายสามคนลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายคนโตกับลูกชายคนรองต่างแต่งงานแล้ว อยู่ที่จิ่วเจียงบ้านเกิด ส่วนลูกชายคนเล็กกับลูกสาวคนโตติดตามพวกเขามาที่ที่รับราชการ ลู กสาวคนโตปีนี้อายุสิบสี่ปี เท่ากับเจียงเซี่ยน ลูกชายคนเล็กอายุน้อยกว่าเจียงเซี่ยนสามปี ว่ากันว่าลูกชายคนเล็กอายุสามขวบก็เริ่มเรียนหนังสือแล้ว อายุแปดขวบก็ย้ายไปอยู่ที่เร รือนด้านนอกคนเดียว นอกจากปรนนิบัติทั้งเช้าและเย็นแล้ว ปกติไม่เข้าเรือนด้านในง่ายๆ ส่วนคุณหนูใหญ่ซย่าลูกสาวคนโต ตอนอายุสิบสองปีก็ช่วยฮูหยินซย่าจัดการงานในบ้าน เวลานี้จึงมอบ บพวกงานเลี้ยงในบ้านให้คุณหนูใหญ่ซย่าหมดแล้ว พวกฮูหยินชมการจัดการงานบ้านของฮูหยินซย่าไม่ขาดปาก เจียงเซี่ยนเห็นคุณหนูใหญ่ตระกูลซย่าทำงานคล่องแคล่วมาก และพูดจาค่อนข้างมีความ มคิดเป็นของตนเอง ก็รู้ว่าที่พวกฮูหยินเอ่ยเป็นเรื่องจริง จึงอยากรู้เรื่องตระกูลซย่าขึ้นมา
ชาติก่อน นางยังไม่ได้เจอซย่าเจ๋อก็ให้เขาย้ายตำแหน่งให้หลี่เชียนแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่ได้จัดหาที่อยู่ในซย่าเจ๋ออีก ซย่าเจ๋อก็ไม่ขอตำแหน่งขุนนางต่อเช่นกัน เหมือนจะกลับไ ไปเป็นคนอิสระที่บ้านเกิดอย่างเจียงซี
เพียงแต่ไม่รู้ว่าชาตินี้ซย่าเจ๋อจะร่วมมือกับหลี่เชียนได้ดีหรือไม่
หากไม่ได้ ก็ยังต้องเปลี่ยนผู้ว่าราชการมณฑลที่ดูแลแค่มณฑลส่านซี
หรือ…ให้คนสนิทมาเป็นผู้ว่าราชการมณฑลที่ดูแลมณฑลส่านซีและมณฑลอื่น
ทว่าพอตำแหน่งผู้ว่าราชการมณฑลที่ดูแลมากกว่าหนึ่งมณฑลเปิด ต่อไปก็จะโผล่ออกมากองใหญ่เหมือนหน่อไม้ฤดูใบไม้ผลิหลังฝนตก อยากกำจัดก็ยุ่งยากเล็กน้อย และหลี่เชียนก็เป็นแม่ทัพ อย่าว่าแต่ตำแหน่งผู้ว่าราชการมณฑลที่ดูแลมากกว่าหนึ่งมณฑลเลย แม้แต่ตำแหน่งผู้ว่าราชการมณฑลที่ดูแลแค่หนึ่งมณฑลก็ยากที่จะขึ้นไปนั่งได้เช่นกัน ต้องคิดหาทางถึงจะถูก
เจียงเซี่ยนเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง ฮูหยินซย่าก็แนะนำคุณหนูใหญ่ตระกูลซย่ากับนางอย่างจริงจังแล้ว
คุณหนูใหญ่ตระกูลซย่าคารวะนางอย่างนอบน้อม ทว่าถึงอย่างไรก็อายุยังน้อย สีหน้าจึงยังคงฉายแววอึดอัดอย่างเบาบางโดยไม่รู้ตัว
เรื่องนี้ก็ไม่ตำหนิคุณหนูใหญ่ตระกูลซย่าเช่นกัน หากใครอยู่บ้านถูกคนประคบประหงมจนชินแล้ว จู่ๆ ก็นับถือผู้หญิงที่อายุพอๆ กับตนเองเป็นผู้อาวุโส หากเป็นนาง นางก็ทนไม่ได้เช่ นกัน
เจียงเซี่ยนมอบหยกแขวนที่ทำจากหยกมันแพะลายนกสาลิกาปากดำปีนต้นเหมยให้เป็นรางวัลแก่นาง
หลังจากนั้นฮูหยินซย่าก็แนะนำพวกฮูหยินที่มีบรรดาศักดิ์อยู่กับตัวของศาลาว่าการผู้ว่าราชการมณฑลกับนาง
ไม่ผิดไปจากที่คาดไว้ทั้งหมดเป็นภรรยาของพวกขุนนางฝ่ายบุ๋น ยิ่งเฉลียวฉลาดและมีความสามารถ ก่อนที่จะรู้นิสัยของเจียงเซี่ยน ยิ่งวางตัวถ่อมตนและลุ่มลึก แม้แต่รอยยิ้มบนหน้าก็พอป ประมาณ สุภาพและสำรวม อายุต่างก็เกินสามสิบห้าสามสิบหกปี อาวุโสมากกว่าเจียงเซี่ยนขั้นหนึ่ง ไม่มีคนและเรื่องที่น่าสนใจเป็นพิเศษ เจียงเซี่ยนจึงเพียงแค่คุยเล่นเรื่อยเปื่อย ถึงบรรย ยากาศจะไม่เลว ทว่าทุกคนล้วนเหมือนกำลังแสดงละครอยู่ จึงไม่สนุกเท่าตอนที่อยู่ไท่หยวน
อย่างฮูหยินหลู่นั้นเก่งเรื่องการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างคน นางตามหลี่เชียนมาซีอานแล้ว ฮูหยินหลู่ไม่เพียงแต่มอบของขวัญเทศกาลตรุษจีนให้นาง ในของขวัญเทศกาลตรุษจีนยังมีไก่ฟ ฟ้าสีทองตัวหนึ่ง บอกว่าได้ยินคนบอกว่านางชอบไก่ฟ้าสีทอง จึงสั่งให้ผู้ดูแลที่ดินที่บ้านเกิดช่วยซื้อให้เป็นพิเศษ ส่วนเอ้อร์กัวโถวที่นำกลับมาจากเมืองหลวงหลายไหนั้น นำมาให้ หลี่เชียน แลดูใส่ใจมาก
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าซีอานมีคนที่น่าสนใจเหมือนฮูหยินหลู่หรือไม่
อย่างน้อยทุกคนอยู่ด้วยกันก็สามารถคุยได้ว่าเครื่องสำอางอันไหนดี สนุกกว่านั่งฟังพวกฮูหยินวิพากษ์วิจารณ์ว่าลูกชายของใครอ่านหนังสือได้ ลูกสาวของใครเพียบพร้อมไปด้วยคุณธรรมอัน ดีงามตรงนี้
เจียงเซี่ยนเบื่อ คุณหนูใหญ่ตระกูลซย่าก็ปรับสภาพจิตใจเรียบร้อยแล้ว และกำลังสั่งให้สาวใช้ชงชาและใส่ผลไม้กับของหวานเพิ่มให้เจียงเซี่ยนอย่างนอบน้อม
นางได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของท่านหญิงเจียหนานมานานแล้ว
ทั้งสองคนอายุใกล้เคียงกัน
ตอนเด็กๆ ติดตามบิดามารดาเข้าเมืองหลวงไปเยี่ยมเยียนท่านลุงที่เป็นขุนนางอยู่ที่เมืองหลวง ก็ได้ยินคนในบ้านของท่านลุงเอ่ยว่าท่านหญิงเจียหนานได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เป็นอ อย่างมากอย่างไร ตอนนั้นนางได้ยินแล้วอิจฉามาก
พอนางโตแล้ว ติดตามบิดามารดามารับราชการที่ซีอาน กลับได้ยินว่าท่านหญิงเจียหนานใช้อำนาจบาตรใหญ่อย่างไร คุยกันไม่ถูกคอกับฮูหยินของใต้เท้าจวงผู้ช่วยผู้ว่าราชการมณฑลซานซี ไม่เพีย ยงแต่กดใต้เท้าจวงไว้ที่ตำแหน่งผู้ช่วยผู้ว่าราชการมณฑลซานซีจนย้ายไม่ได้ ยังตัดเส้นทางในการเป็นขุนนางของใต้เท้าเวินพี่น้องในครอบครัวของฮูหยินจวงด้วย
นางได้ยินแล้วรู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
เวลานี้เจอกับใบหน้าที่อ่อนวัยของเจียงเซี่ยน อย่าว่าแต่คุณหนูใหญ่ตระกูลซย่าเลย แม้แต่ฮูหยินซย่า ก็พึมพำอยู่ในใจนานมากถึงจะกดความอึดอัดในใจลงไป และเคารพนับถือเจียงเซี่ยนเ เหมือนเป็นคนรุ่นเดียวกัน
ดีที่เจียงเซี่ยนไม่ได้หยิ่งยโสโอหังเหมือนในภาพจำของพวกนาง แม้จะพูดไม่ได้ว่าสนิทสนมแค่ไหน ทว่าก็ตอบอย่างขอไปทีเล็กน้อยเสมอ นี่ก็ทำให้ฮูหยินซย่าถอนหายใจยาวเหยียดแล้ว
จนกระทั่งฮูหยินของหวังเฉิงผู้บัญชาการกองบัญชาการส่านซีมา
สาวใช้ที่เข้าเวรหน้าประตูวิ่งเหยาะๆ เข้ามารายงาน ฮูหยินซย่าไปต้อนรับด้วยตนเอง ฮูหยินสองคนที่สามีรับราชการที่กองบัญชาการส่านซีรีบตามฮูหยินซย่าออกไปข้างนอกด้วย ส่วนฮูหยินของ หลินอวี้เจ้าเมืองซีอานไม่ปิดบังว่านางดูถูกฮูหยินหวังแม้แต่นิดเดียว นางหัวเราะอย่างเย็นชา และเอ่ยกับฮูหยินของตู้เหลียงผู้ตรวจการส่านซีที่อยู่ข้างกายว่า “เดี๋ยวเจ้าอย่าลืมไ ไปกับข้า ไม่อย่างนั้นครั้งหน้าก็เลิกคิดที่จะให้ข้าไปเป็นแขกที่บ้านของพวกเจ้าได้เลย!”
น้ำเสียงสนิทสนมมาก แค่ฟังก็รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลไม่ธรรมดา
ไป่เจี๋ยที่ยืนรับใช้อยู่ข้างกายเจียงเซี่ยนรีบกระซิบข้างหูเจียงเซี่ยนว่า “ว่ากันว่าพี่สะใภ้ของครอบครัวฮูหยินตู้เป็นพี่สาวของใต้เท้าหลินเจ้าค่ะ”
เจียงเซี่ยนไม่เอ่ยสิ่งใด
เสียงพูดคุยและหัวเราะอย่างสดใสดังมาจากข้างนอก
ฮูหยินซย่าเดินเข้ามาเป็นเพื่อนผู้หญิงที่รูปร่างสูงใหญ่
ส่วนฮูหยินสองคนที่สามีรับราชการที่กองบัญชาการก็ล้อมผู้หญิงคนนั้นอย่างระมัดระวังมาก
เจียงเซี่ยนจึงรู้ว่าเป็นฮูหยินหวัง!
นางอดไม่ได้ที่จะตั้งใจมอง
ฮูหยินหวังดูเหมือนอายุมากกว่าฮูหยินซย่าเจ็ดแปดปี หน้าตาได้สัดส่วน ผิวคล้ำเล็กน้อย เพียงแต่รูปร่างเหมือนผู้ชาย ไม่เพียงแต่สูงใหญ่ ทว่ายังแข็งแรงมาก ฮูหยินซย่ายืนอยู่ข้างกายนา าง เหมือนเด็กสาวคนหนึ่ง
มิน่าเล่าถึงไล่ตีหวังเฉิงได้
เจียงเซี่ยนยังคงรู้สึกว่าภรรยาของแม่ทัพน่าสนใจ
เหมือนภรรยาของผู้บัญชาการหวังกองบัญชาการซานซี แล้วก็เหมือนภรรยาของคหบดีในชนบทที่อ่อนโยน
ต่างก็มีนิสัยชัดเจน
ภรรยาของพวกขุนนางฝ่ายบุ๋นเหมือนพิมพ์ออกมาจากแม่พิมพ์อันเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับยิ่งเล็กก็ยิ่งไม่มีตัวตน ถึงระดับสองหรือระดับสามแล้ว จึงจะมีความเปลี่ยนแปลง
จะเห็นได้ว่าคนพวกนี้เสแสร้งเก่งแค่ไหน
เจียงเซี่ยนเบ้ปากในใจ แต่ก็รอจนฮูหยินซย่าแนะนำฮูหยินหวังกับนาง ถึงจะลุกขึ้นยืน เหมือนที่ปฏิบัติกับฮูหยินอาวุโสคนอื่น
ฮูหยินหวังน่าจะเคยแอบสืบเรื่องนางมาแล้ว ทว่าตอนที่เจอนางก็ยังอดไม่ได้ที่จะทำหน้าประหลาดใจ และชะงักไปถึงจะเอ่ยว่า “ท่านหญิงรูปร่างบอบบางจริงๆ ซีอานหนาวมาก ไม่ทราบว่าท่าน นหญิงพออยู่ได้หรือไม่?”
เจียงเซี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “พอไหว ในบ้านมีเตาไฟใต้ห้อง จึงไม่แตกต่างจากเมืองหลวงมากนัก”
“เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี!” ฮูหยินหวังเจอเจียหนานที่อายุสามารถเป็นลูกสาวของนางได้ ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดีจริงๆ
เจียงเซี่ยนเม้มปากยิ้ม และเชิญฮูหยินหวังนั่งลงข้างหลังตนเอง แล้วเอ่ยถึงเรื่องจุกจิกในชีวิตประจำวันกับฮูหยินหวังเอง “ได้ยินว่าคุณหนูรองของครอบครัวสามีติดตามพวกท่านมาที่ที่รั บราชการ ทำไมวันนี้ไม่พาออกมาร่วมสนุกด้วย?”
ฮูหยินหวังมีลูกสาวแค่สองคน ลูกสาวคนโตแต่งงานแล้ว ส่วนลูกสาวคนเล็กปีนี้อายุสิบแปดปีแล้ว
นางไม่เห็นด้วยที่หวังเฉิงจะรับอนุภรรยา ทั้งสองคนจึงทะเลาะกันด้วยเรื่องนี้ไม่หยุด