มู่หนานจือ - บทที่ 457 เตือน
เจียงเซี่ยนอ่านจดหมายจบ ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
หลี่หลินกลับก้าวออกมาในเวลานี้
เขาคงชอบเกาเมี่ยวหรงจริงๆ กระมัง?
แต่เขารู้ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่หรือไม่กันแน่?
หากตระกูลมีภรรยาที่มีคุณธรรมจะมีหายนะน้อย!
นี่เป็นเหตุผลที่เป็นที่ยอมรับในตระกูลที่มั่งคั่งและมีอำนาจ ดังนั้นตระกูลขุนนางที่ทั้งทำไร่ไถนาและเรียนหนังสือที่ก่อตั้งตระกูลมาอย่างยาวนานจริงๆ จะไม่คุยเรื่องแต่งงานด้วยสินเดิม ทว่าจะแต่งงานตามความประพฤติของลูกๆ
นี่เขาไม่อยากให้ทายาทรุ่นหลังเหนือกว่าคนทั่วไปแล้วใช่หรือไม่?
เจียงเซี่ยนขมวดคิ้วและวางจดหมายไว้ข้างๆ
หากหลี่เชียนยังไม่ไปรับราชการที่เมืองกาน นางจะส่งจดหมายให้หลี่เชียนทันทีอย่างแน่นอน แต่หลี่เชียนยังไปได้ไม่ไกล...นางจึงตัดสินใจจัดการเรื่องนี้เอง
นางเขียนจดหมายหาหลี่ฉางชิงฉบับหนึ่งก่อน อธิบายมุมมองของตนเองอย่างละเอียด แล้วก็เขียนจดหมายหาหลี่เสว่อีกฉบับ เล่าสถานการณ์ของหลี่เชียนให้นางฟัง และแนะนำให้นางไปขอร้องหลี่ฉางชิง ขอเพียงหลี่ฉางชิงไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ หลี่หลินก็ไม่มีทางสมปรารถนา
จดหมายฉบับนี้ส่งออกไปไม่ถึงสองวัน นางก็ได้รับจดหมายจากหลี่ตงจื้อ
หลี่ตงจื้อแสดงความขอบคุณต่อหลี่เชียนกับเจียงเซี่ยนก่อน บอกว่านางอยู่บ้านแต่กลับไม่มีกำลังห้ามปราบมารดา บางครั้งก็อดไม่ได้ที่จะโศกเศร้าเสียใจ หลี่เชียนให้นางไปใช้ชีวิตกับเขาที่ซีอาน นางรู้สึกว่าแบบนี้ดีมาก มารดาของนางจะได้จดจ่ออยู่กับการดูแลบิดาของนาง และบอกเจียงเซี่ยนว่า ตระกูลเกาไปสู่ขอตระกูลลู่แล้ว ทว่าตระกูลลู่ปฏิเสธอย่างชัดเจนมาก เกาเมี่ยวหวาพาลโกรธ บอกว่าคุณหนูใหญ่ลู่ไม่ระมัดระวัง หากไม่ใช่เพราะทั้งสองคนเคยอยู่ในห้องเดียวกัน เขาก็ไม่มีทางที่จะแต่งงานกับคุณหนู ‘ไร้สามสิ่ง’ ที่อยากได้ฐานะครอบครัวไม่มีฐานะครอบครัว อยากได้หน้าตาไม่มีหน้าตา อยากได้สินเดิมไม่มีสินเดิมอย่างคุณหนูใหญ่ตระกูลลู่เด็ดขาด หลังจากนั้นพวกคุณหนูสามตระกูลซือก็แพร่คำพูดนี้ไปจนวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย ทำให้คุณหนูใหญ่ตระกูลลู่ได้ฉายาว่า ‘คุณหนูไร้สามสิ่ง’ ฮูหยินลู่โกรธจนล้มป่วย ใต้เท้าลู่ตะโกนว่ายังดีที่ไม่ได้แต่งงานกับตระกูลเกา ไม่อย่างนั้นมีญาติที่เกี่ยวดองกันแบบนี้ ต่อไปพวกพี่น้องสกุลลู่ก็หาคู่ครองยากแล้ว
ถึงจะเป็นแบบนี้ หลี่หลินกลับยังคงจะแต่งงานกับเกาเมี่ยวหรงเช่นเดิม
แถมยังบอกว่า เขาเล่นกับเกาเมี่ยวหรงมาตั้งแต่เด็ก รู้นิสัยของเกาเมี่ยวหรงดีที่สุด เวลานี้คำครหาเหล่านี้ เป็นเพียงสิ่งที่สร้างขึ้นมาเพราะคุณหนูใหญ่ตระกูลลู่วางตัวไม่เรียบร้อยเอง และเจตนาร้ายใส่ร้ายเกาเมี่ยวหรง ขอให้หลี่ฉางชิงยอมรับการแต่งงานของเขากับเกาเมี่ยวหรง
สุดท้ายหลี่ตงจื้อบอกเจียงเซี่ยนว่า ใกล้จะสิ้นปีแล้ว นางฉลองปีใหม่ที่บ้านแล้วจะออกเดินทางไปซีอาน
ปกติฉลองปีใหม่เสร็จหมายถึงหลังเทศกาลโคมไฟ
เจียงเซี่ยนอ่านแล้วก็อดที่จะร้อนใจขึ้นมาไม่ได้
เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าซีอานอยู่ไกลจากไท่หยวนมาก
ส่งจดหมายกันไปมา กว่าข่าวจะมาถึงนาง ก็สายเกินไปตั้งนานแล้ว และกลายเป็นที่แน่นอนแล้ว
นางกำลังครุ่นคิดว่าจะส่งคนไปไท่หยวนอีกหรือไม่ ต้องผลักเกาเมี่ยวหรงไปให้คนอื่นให้ได้ หากจะทำร้าย ก็ไปทำร้ายคนอื่นเช่นกัน
ดังนั้นนางจึงส่งจดหมายไปหาหลี่เสว่ฉบับหนึ่ง ให้หลี่เสว่ต้องรับผิดชอบอาหารการกินภายในตระกูลหลี่ ไม่อย่างนั้นฮูหยินเหอกับหลี่หลินก็สามารถทำให้ในตระกูลนี้ตื่นตระหนกและวุ่นวายสุดๆ จนไม่ได้รับความสงบสุขได้ ไม่เพียงแต่ทำลายฐานะของตระกูล ทว่ายังจะก่อเรื่องจนเกิดเรื่องตลกให้คนเจ้าเล่ห์วิพากษ์วิจารณ์ด้วย หลังจากนั้นนางก็ให้คนส่งไปให้หลี่เชียนอีกฉบับ เล่าสถานการณ์ให้เขาฟัง และให้เขาเขียนจดหมายหาหลี่ฉางชิง คำพูดเด็ดขาดหน่อยจะดีที่สุด อย่าให้หลี่หลินเข้ามาก้าวก่ายในนี้
แต่ก็ยังช้าไป
คืนก่อนวันส่งท้ายปีเก่า เจียงเซี่ยนได้รับข่าวด่วนที่สุดจากอวิ๋นหลิน ฮูหยินลู่ไม่ชอบเกาเมี่ยวหวาจริงๆ จึงตัดสินใจเสี่ยงอันตรายทำตามที่เจียงเซี่ยนบอก ทว่าสุดท้ายหลี่ฉางชิงกลับไม่สามารถต้านแรงกดดันสองด้านจากเกาฝูอวี้และหลี่หลินได้ จึงยอมรับการแต่งงานของหลี่หลินกับเกาเมี่ยวหรงแล้ว
ทั้งสองตระกูลจะหมั้นก่อนปีใหม่ มอบสินสอดหลังปีใหม่ และแต่งงานวันที่หนึ่งเดือนสาม
เพียงแต่หลังจากหลี่หลินแต่งงาน แม้จะยังคงเข้าเวรที่กองบัญชาการเหมือนเดิม ทว่าหลี่ฉางชิงตัดสินใจให้หลี่หลินแยกจวนอยู่ในนามของสายลูกชายคนโตของตระกูลหลี่แล้ว และกำลังช่วยหลี่หลินสืบหาบ้านที่เหมาะสมทุกที่ แถมยังเตรียมทรัพย์สินส่วนตัวให้หลี่หลินจำนวนหนึ่ง ถือว่าสนับสนุนให้เขาก่อตั้งตระกูลใหม่
ฮูหยินเหอได้ยินก็ดีใจมาก ในที่สุดก็ยกภูเขาออกจากอกแล้ว จึงเห็นด้วยกับการแต่งงานนี้มาก
หลี่เสว่ใกล้จะร้อนใจจนเป็นบ้าแล้ว นางไปหาหลี่ฉางชิงหลายครั้ง
แต่หลี่ฉางชิงก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน
ถึงอย่างไรหลี่หลินก็เป็นเพียงหลานชายของเขาไม่ใช่ลูกชาย เวลานี้หลานชายจะแต่งงาน อาอย่างเขาไม่เพียงแต่ไม่ช่วยหลานชายจัดการกิจการของตระกูลใหม่ ยังจะคัดค้านทุกด้าน หากแพร่งพรายออกไป ชื่อเสียงก็จบแล้ว!
เขารู้ดีว่าเกาเมี่ยวหรงไม่เหมาะสม ทว่าก็ตกลงอย่างรู้สึกว่าโชคดีเล็กน้อยเช่นกัน และหวังว่าเกาเมี่ยวหรงจะใช้ชีวิตสุขสบายหลังจากแต่งงานกับหลี่หลิน
หลี่เสว่เกือบจะตบหน้าหลี่หลินเพราะเรื่องนี้
หลี่หลินจากไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยมาเยี่ยมหลี่เสว่อีกเลย
เดิมทีหลี่เสว่คิดว่าถึงอย่างไรนางก็เป็นแม่ม่าย ไม่เป็นมงคล จึงไม่อยากปรากฏตัวต่อหน้าธารกำนัลและควบคุมอาหารการกินภายในบ้านของอา แต่การไม่ได้ตบหน้าหลี่หลินกลับเหมือนทำให้นางเข้าใจทันที จึงไม่เพียงแต่ตกลงควบคุมอาหารการกินภายในจวนสกุลหลี่ ทว่ายังช่วยหลี่หลินหาบ้านอย่างเร็วมาก เหมือนอยากจะให้หลี่หลินย้ายออกไปเดี๋ยวนี้
ทำไมถึงมีคนที่โง่ขนาดนี้!
ชาติก่อนหลี่หลินช่วยหลี่เชียนดูแลยุทธปัจจัยตลอด น่าจะเป็นคนที่มีความสามารถและเฉลียวฉลาดคนหนึ่งนี่นา!
เจียงเซี่ยนคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ ยังคงเป็นคำพูดของฉิงเค่อที่เตือนนาง “…ท่านหญิง ข้าคิดว่า…ท่านอย่ายุ่งเรื่องนี้เลย ถึงอย่างไรนายท่านก็เป็นคนควบคุมในตระกูลนี้ หากเขาไม่เห็นด้วย ต่อให้คุณชายหลี่หลินร้องไห้และตะโกน เขาก็ไม่มีทางที่จะเห็นด้วยอยู่ดี ข้าว่า…ไม่แน่นายท่านอาจจะเห็นว่าคุณชายหลี่หลินก่อความวุ่นวายมากเกินไปแล้ว จึงไม่อยากยุ่งเรื่องนี้แล้วก็ได้!
นางได้ยินแล้วก็อดไม่ได้ที่จะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ในทันใด
หลี่ฉางชิงตั้งหลี่เชียนเป็นผู้นำตระกูลตั้งนานแล้ว กระทั่งไม่เสียดายที่จะต้องเลี้ยงหลี่จี้ให้ไร้ประโยชน์ และกดขี่หลี่จวีด้วยเรื่องนี้ ทว่าหลี่หลินที่อายุใกล้เคียงกับหลี่เชียนและครอบครองตำแหน่งลูกชายคนโตกับหลานชายคนโตของสายลูกชายคนโตของตระกูลหลี่ หลี่ฉางชิงกลับรักเขามากเหมือนลูกชายแท้ๆ มาโดยตลอด แต่คนถึงอย่างไรก็เห็นแก่ตัว ใครจะกล้ารับประกันว่าที่หลี่หลินแต่งงานกับเกาเมี่ยวหรง ไม่ใช่ผลจากการให้ท้ายของหลี่ฉางชิงล่ะ?
และหลี่เชียนเป็นพี่น้องของหลี่หลิน คัดค้านการแต่งงานนี้อย่างถึงที่สุด แถมยังส่งคนสนิทของตนเองกลับไปจัดการเรื่องนี้ ในอนาคตต่อให้ครอบครัวของหลี่หลินไม่สงบ ก็มาโทษหลี่เชียนไม่ได้เช่นกัน!
เหมือนชาติก่อน แม้หลี่หลินจะชื่อเสียงขจรขจายอยู่ข้างนอกจนเป็นที่รู้จักของทุกคน แต่หลี่ฉางชิงลาออกไปนานแล้ว จึงไม่มีข่าวแล้ว
ตอนนั้นนางไม่เข้าใจหลี่ฉางชิง
เวลานี้ดูเหมือน ไม่แน่ตอนนั้นหลี่ฉางชิงอาจจะรักษาการณ์ตระกูลหลี่ด้วยตนเองแล้ว เรื่องข้างนอกมอบให้หลี่เชียน เรื่องในตระกูลมอบให้หลี่ฉางชิง สองคนพ่อลูก คนหนึ่งคุมภายใน อีกคนคุมภายนอก ถึงทำให้ตระกูลหลี่มีชื่อเสียงโด่งดัง ดังนั้นหลี่หลินถึงได้มีชื่อเสียงแบบนั้น
เจียงเซี่ยนยิ้มเล็กน้อย และเอ่ยกับฉิงเค่อว่า “เจ้าพูดถูก ข้าไม่ควรยุ่งเรื่องนี้อีก ขอเพียงหลี่เสว่ช่วยดูฮูหยินเหอให้ข้าได้ หลี่จี้กลายเป็นผู้ช่วยที่มีความสามารถของใต้เท้าได้ และตงจื้อได้แต่งงานกับตระกูลที่ดีอย่างปลอดภัย ตระกูลนี้ก็กำหนดสถานการณ์ทั้งหมดไว้แล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวล…ไม่ว่าตระกูลไหนก็มีญาติที่ยากจนกันทั้งนั้น นับประสาอะไรกับข้า! ข้ายอมกลุ้มใจพวกเรื่องจุกจิกในครอบครัวตั้งแต่นี้ไปดีกว่ากลุ้มใจเรื่องอื่น”
ใต้หล้าไม่มีเรื่องที่สมบูรณ์แบบ
หากความกลุ้มใจเหล่านี้สามารถแลกความรักของนางกับหลี่เชียน และความปลอดภัยกับความราบรื่นของลูกหลานมาได้ นางยอมกลุ้มใจเรื่องนี้ไปตลอดชีวิต
เจียงเซี่ยนเม้มปากยิ้ม และสั่งฉิงเค่อว่า “เดี๋ยวข้าจะไปนั่งที่เรือนของนายหญิงคังสักครู่ เจ้าไปบอกหน่อย”
หลี่ตงจื้อจะมาแล้ว นางคิดว่า แทนที่จะให้นางอบรมสั่งสอนหลี่ตงจื้อ สู้มอบหลี่ตงจื้อให้นายหญิงคังต่อดีกว่า ถึงเวลานั้นจะได้อยู่เป็นเพื่อนคุณหนูทั้งสองของตระกูลคัง ให้นางรู้ว่าอะไรคือบุตรสาวจากตระกูลสูงศักดิ์ที่แท้จริง
————————————–