มู่หนานจือ - บทที่ 458 มาถึงอย่างกะทันหัน
ตระกูลหลี่ถล่มลงมายังมีหลี่ฉางชิงยันไว้ เจียงเซี่ยนก็ไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้านอีกแล้วเช่นกัน
นางเขียนจดหมายไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ให้หลี่เชียนฟัง
เพียงแต่จดหมายของนางยังไม่ได้ส่งออกไป จดหมายของหลี่เชียนกลับมาถึงก่อน
เขาเข้าพักที่เมืองกานแล้ว ทุกอย่างราบรื่น เพียงแต่ไม่สามารถกลับมาฉลองปีใหม่กับนางที่ซีอานได้แล้ว ทว่าช่วงเดือนสองเขาจะกลับซีอาน ถึงเวลานั้นทั้งสองคนไปเที่ยวในฤดูใบไม้ผลิ ด้วยกัน…แล้วก็เอ่ยเรื่องเกี่ยวกับปีใหม่ในจดหมายอีกมากมาย
เจียงเซี่ยนอ่านแล้วก็วางไว้ข้างๆ
ปกติคนที่อยู่ข้างนอกจะแจ้งแต่เรื่องที่น่าดีใจไม่แจ้งเรื่องที่น่ากังวล ไว้หมอฉางกลับมาแล้ว นางถามหมอฉางก็รู้ว่าหลี่เชียนอยู่เมืองกานใช้ชีวิตสุขสบายหรือไม่กันแน่แล้ว
เจียงเซี่ยนให้คนส่งจดหมายออกไป และเรียกหลิวตงเยว่เข้ามาถามเรื่องที่เขาส่งของขวัญเทศกาลตรุษจีน
นี่เป็นครั้งแรกที่ไปมาหาสู่กับผู้บังคับบัญชาและเพื่อนขุนนางหลังจากหลี่เชียนมาถึงซีอาน นางจึงให้ความสำคัญมาก
หลิวตงเยว่รายงานรายการของขวัญเทศกาลตรุษจีนที่เก็บเอาไว้ให้เจียงเซี่ยนฟัง “ใต้เท้าซย่าเตรียมเงินไว้ห้าร้อยตำลึง ในนั้นมีถั่วทองสามสิบตำลึง ข้าวสารหิมะเดือนหกของเจียงหนาน ห้าต้าน เนื้อหมูสองชิ้น เนื้อแพะสองชิ้น ไก่เป็นๆ ยี่สิบตัว เป็ดเป็นๆ ยี่สิบตัว…ใต้เท้าหวังเตรียมเงินไว้สี่ร้อยตำลึง…ใต้เท้าหวังสองร้อยตำลึง…”
บอกทุกสิ่งทุกอย่างอย่างชัดเจน
หลังจากนั้นก็เอ่ยถึงของขวัญเทศกาลตรุษจีนที่พวกผู้ใต้บังคับบัญชาของหลี่เชียนจากกองบัญชาการกำลังสำรองส่านซีมอบให้พวกเขา “รองหลี่มอบของประมาณสามร้อยตำลึง ในนั้นมีข้าวจิงซานเ เฉียวของหูเป่ยกับหูหนานสองต้าน เนื้อหมูสองชิ้น เนื้อแพะสองชิ้น…ผู้ช่วยเฉินมอบของประมาณสามร้อยตำลึง… ” ในนั้นไช่ซวงที่เพิ่งรับตำแหน่งก็มอบของขวัญเทศกาลตรุษจีนประมาณสา ามร้อยตำลึงเช่นกัน
ของมากมาย ทั้งหมดได้รับของขวัญประมาณสองสามพันตำลึง
เจียงเซี่ยนพึมพำว่า “พวกของที่ผู้ใต้บังคับบัญชาของใต้เท้ามอบให้ เจ้าก็คืนกลับไปตามสมควรแล้วกัน!”
หลิวตงเยว่ขานว่า “ขอรับ” อย่างนอบน้อม
อิ้นไฉ่เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว และเอ่ยเสียงร้อนใจว่า “ท่านหญิง ชีกูกลับมาแล้ว คนที่มาด้วยกัน ยังมีคุณหนูใหญ่…”
คุณหนูใหญ่!
ใครกัน?
เจียงเซี่ยนกะพริบตาปริบๆ และเอ่ยหยั่งเชิงว่า “หลี่เสว่หรือ?”
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ!” อิ้นไฉ่รีบเอ่ย “เห็นว่ารีบเดินทางมาอย่างสุดกำลังทั้งวันทั้งคืน…”
“รีบเชิญ!” เจียงเซี่ยนเอ่ย แต่ในใจกลับงุนงงมาก เดาไม่ถูกอย่างสิ้นเชิงว่าหลี่เสว่มาทำไม? แถมยังมาในช่วงนี้?
หรือว่าทางไท่หยวนเกิดอะไรขึ้นอีกอย่างนั้นหรือ?
สองฝั่งอยู่ห่างไกลกัน ข่าวสารไม่ว่องไว ก็เกิดเรื่องแบบนี้ได้ง่าย
นางครุ่นคิด พลางแต่งตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกไปรับ
หลี่เสว่กับชีกูต่างหน้าตาซีดเซียวมาก ดูออกว่ารีบเดินทางอย่างเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทาง
เจียงเซี่ยนรีบเข้าไปจับมือของหลี่เสว่อย่างกระตือรือร้น แล้วยิ้มหวานพลางเอ่ยว่า “พี่หญิงจะมาทำไมไม่บอกล่วงหน้าสักหน่อย? ข้าจะได้บอกใต้เท้า ให้เขาหาเวลารีบกลับมา…”
หลี่เสว่ได้ยินก็อึ้งไป และเอ่ยว่า “อาเชียนไม่อยู่ซีอานหรือ?”
ดูเหมือนจะเป็นอีกคนที่ไม่รู้ว่ากองบัญชาการกำลังสำรองส่านซีอยู่ไหนเหมือนนาง!
เจียงเซี่ยนคิดแล้วก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “กองบัญชาการกำลังสำรองส่านซีอยู่เมืองกาน ใต้เท้าไปที่ที่รับราชการแล้ว บอกว่าช่วงเดือนสองถึงจะว่างกลับมา…”
หลี่เสว่ตกตะลึงเล็กน้อย และไม่พูดอะไรนานมาก
เจียงเซี่ยนคิดว่าหลี่เสว่น่าจะมาเพราะหลี่หลิน ไม่ว่าอย่างไร หลี่หลินก็เป็นพี่น้องของนาง!
“ข้างนอกหนาว พวกเราเข้าไปคุยกันในห้องเถอะ!” นางยิ้มพลางจูงหลี่เสว่เข้าไปในห้อง และส่งสายตาให้ชีกู ส่งสัญญาณให้นางว่ามีเรื่องอะไรเดี๋ยวค่อยว่ากัน แล้วสั่งให้ฉิงเค่อไปเก็ บกวาดห้องข้างตะวันออกที่อยู่ข้างๆ ให้หลี่เสว่พัก และให้ห้องครัวจัดอาหารส่งมาที่ห้องหลักโต๊ะหนึ่ง
ไม่นานลานบนก็เริ่มทำงาน
ทว่าหลี่เสว่กลับตามเจียงเซี่ยนเข้าห้องอย่างงุนงง จนกระทั่งนั่งลงบนเตียงอุ่นหลังใหญ่ใกล้หน้าต่างเคียงข้างเจียงเซี่ยน นางถึงจะได้สติกลับมา และรีบเอ่ยว่า “ข้ายังคิดว่าอา เชียนอยู่ซีอาน...ล่วงเกินแล้วจริงๆ…”
“พี่หญิงพูดอะไรกัน!” เจียงเซี่ยนใช้คำพูดเกรงใจที่เรียนรู้หลังจากมาถึงไท่หยวน และเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “คนในครอบครัวเดียวกันพูดจาเกรงใจกันทำไม ของขวัญเทศกาลตรุษจีนของทางเมืองห หลวงจะส่งช้าหน่อย เดิมทีข้าคิดจะให้ชีกูฉลองเทศกาลตรุษจีนแล้วค่อยกลับมา จะได้ช่วยไปคารวะและทักทายฮูหยินหลายตระกูลให้ข้าด้วย คิดไม่ถึงว่านางจะรีบกลับมา แถมยังเจอพี่หญิงด้วย ย…”
หลี่เสว่ดื่มน้ำอึกหนึ่ง พลางทำจิตใจให้สดชื่นและคุยกับเจียงเซี่ยน “ข้าก็คิดไม่ถึงเช่นกัน พวกเราเจอกันที่จุดแวะพักระหว่างทางของเว่ยหนาน...” นางพูดอยู่ก็ชะงักไป เหมือน อยากพูดแต่ก็หยุดไว้
ในเมื่อเจียงเซี่ยนตัดสินใจว่าจะไม่ยุ่งเรื่องทางไท่หยวนแล้ว จึงแกล้งทำเป็นไม่รู้ และยิ้มพลางเอ่ยว่า “ในเมื่อพี่หญิงมาแล้ว เช่นนั้นก็ฉลองปีใหม่เป็นเพื่อนข้าเถอะ! มีเรื่องอ อะไร หากพี่หญิงรู้สึกไม่สะดวก เขียนจดหมายบอกใต้เท้าก็เหมือนกัน เมืองกานอยู่ใกล้ที่นี่หน่อย จดหมายอย่างเร็วที่สุด ห้าหกวันก็ถึง”
กำลังคุยกันอยู่ ฉิงเค่อก็เข้ามาพอดี และบอกว่าเก็บกวาดห้องพักแขกเรียบร้อยแล้ว สัมภาระของหลี่เสว่ก็ย้ายไปที่ห้องพักแขกแล้วเช่นกัน
หลี่เสว่จึงลุกขึ้นยืน และเอ่ยด้วยรอยยิ้มเจ็บปวดรวดร้าวเล็กน้อยว่า “เช่นนั้นข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เดี๋ยวค่อยมาคุยกับท่านหญิง”
เจียงเซี่ยนยิ้มพลางส่งหลี่เสว่ออกไปข้างนอก
อิ้นไฉ่ไปห้องพักแขกเป็นเพื่อนหลี่เสว่ด้วยตนเอง
ฉิงเค่อถึงจะกระซิบข้างหูเจียงเซี่ยนว่า “คุณหนูใหญ่พาแม่นมที่ติดตามรับใช้ข้างกายมาแค่คนเดียวกับห่อผ้าไม่กี่ชิ้น ดูท่าทาง…จะรีบร้อนออกมาเจ้าค่ะ”
สามารถทำให้หลี่เสว่มาหาได้ ไม่ใช่เรื่องเล็ก
เจียงเซี่ยนคิดแล้วก็เอ่ยว่า “เจ้าไปบอกคุณชายหลี่จี้ บอกว่าพี่หญิงมาแล้ว เดี๋ยวข้าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้พี่หญิง ให้เขามาอยู่เป็นเพื่อนด้วย”
เรื่องบางเรื่อง หลี่เสว่จะไม่บอกนาง แต่อาจจะบอกหลี่จี้
หากนางรู้สึกว่าพวกเขาต่างช่วยนางไม่ได้ และอยากหาหลี่เชียน ให้หลี่จี้ออกหน้าก็ดีกว่าเช่นกัน
ฉิงเค่อออกไปจัดการแล้ว
หลี่เสว่ยังไม่ทันแต่งตัวเรียบร้อยและมา หลี่จี้ก็วิ่งหอบมาแล้ว
“พี่สะใภ้ พี่สะใภ้!” เขาตะโกน “เกิดอะไรขึ้น? พี่ใหญ่มาทำไม? มีใครนินทาพี่ใหญ่ จนพี่ใหญ่อยู่บ้านไม่ได้แล้วหรือเปล่า?”
ช่วงนี้เขาเตรียมเรื่องสำนักการศึกษาเอกชนที่เรือนชบากับคังเสียงอวิ๋นตลอด หลี่เชียนก็ไม่อยู่บ้านอีก กว่าเขาจะมาคารวะเจียงเซี่ยนที่เรือนด้านหลังได้ก็แทบจะทุกสองสามวัน
เจียงเซี่ยนได้ยินคำพูดของเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น
ในบ้านมีหลี่ฉางชิง หลี่หลิน และฮูหยินเหอ แต่หลี่จี้กลับตะโกนว่าหลี่เสว่ถูกคนรังแก หรือว่าในใจเขา…คนพวกนี้ไม่น่าเชื่อถืออย่างนั้นหรือ?
เพราะแบบนี้หรือเปล่า ชาติก่อนหลี่จี้ถึงได้ไม่มีคนรู้จัก และกลายเป็นคนที่กินแต่ข้าวโดยไม่ทำงานของตระกูลหลี่!
เจียงเซี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “พูดจาเหลวไหลอะไรอีกแล้ว? พี่หญิงจู่ๆ ก็มา ข้าก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ส่วนเกิดอะไรขึ้นนั้น ยังไม่ได้ถามเลย เจ้าก็บุ่มบ่ามตัดสินใจแล้ว ทึกทักเอาเ เองเกินไปหน่อยหรือเปล่า?”
หลี่จี้หน้าแดง
หลี่เสว่เดินมาพร้อมกับแม่นมที่ติดตามและอิ้นไฉ่
“พี่ใหญ่!” หลี่จี้กระโดดไปข้างกายนางทันที
หลี่เสว่ขอบตาแดงเล็กน้อย ทว่าบนหน้ากลับเจือรอยยิ้ม นางตบแขนหลี่จี้เบาๆ และเอ่ยว่า “ดูจากท่าทางของเจ้า หน้าแดงเปล่งปลั่ง ตัวก็สูงแล้วเช่นกัน แสดงว่าใช้ชีวิตสบายมาก...”
นางก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วเช่นกัน!
หลี่จี้หัวเราะ
เจียงเซี่ยนยิ้มพลางเรียกพวกเขา “รีบนั่งลงดื่มชา อาหารใกล้จะเสร็จแล้ว น้องรอง เจ้าดื่มเป็นเพื่อนพี่หญิงสักสองสามถ้วยเถอะ!”
“ขอรับ!” หลี่จี้เอ่ยอย่างคึกคัก
หลี่เสว่เห็นทุกคนต่างอารมณ์ดีเช่นนี้ ก็ไม่อยากทำให้หมดอารมณ์ จึงยิ้มและตอบรับ
อาหารมื้อหนึ่งกินเกือบหนึ่งชั่วยาม หลี่จี้ถามจุดประสงค์ที่หลี่เสว่มาหลายครั้ง หลี่เสว่ก็เบี่ยงประเด็นอย่างผ่านๆ ไม่บอกว่านางมาทำไมตั้งแต่ต้นจนจบ