มู่หนานจือ - บทที่ 461 รู้สึกเสียใจ
หลี่หลินคิดว่าตนเองเสนอหลี่ฉางชิงว่าจะส่งหลี่ตงจื้อไปซีอานด้วยตนเอง และรับหลี่เสว่กลับมาจะทำให้หลี่ฉางชิงตกลงอย่างดีใจ ใครจะรู้ว่าหลังจากหลี่ฉางชิงรู้จุดประสงค์ที่เ เขามากลับลังเลเล็กน้อยชั่วครู่ และเอ่ยว่า “เช่นนั้น…เรื่องมอบสินสอดให้ตระกูลเกา จะเลื่อนไปปลายเดือนสามหรือไม่? แบบนี้ก็มีเวลาเตรียมการเพียงพอหน่อยเช่นกัน…ข้างนอกมีคำครหามาก กขนาดนั้น หากเมี่ยวหรงไม่ใช่สะใภ้ของตระกูลหลี่ยังพูดง่าย ในเมื่อเป็นสะใภ้ของตระกูลหลี่ อย่างไรก็ต้องทำให้นางมีหน้ามีตาหน่อย เรื่องมอบสินสอด…จะเมินเฉยไม่ได้!”
เดิมทีทั้งสองตระกูลหารือกันว่าจะมอบสินสอดช่วงเดือนสอง
หลี่หลินได้ยินแล้วรู้สึกซาบซึ้งมาก และรู้สึกว่าท่านอาคิดรอบคอบ จึงรีบคารวะหลี่ฉางชิงอย่างนอบน้อม และเอ่ยว่า “หลานเชื่อฟังท่านอาทุกอย่างขอรับ!”
หลี่ฉางชิงยิ้มพลางพยักหน้า และเอ่ยอย่างลังเลว่า “อาหลิน เจ้าก็รู้เช่นกัน หลี่เชียนแต่งงานกับท่านหญิง สินเดิมของตระกูลเจียงมากจนทำให้นักบวชมองอีกสองสามครั้งก็ต้องเกิด ความโลภจริงๆ ข้าสงสารน้องชายของเจ้า กลัวเขาแต่งงานกับท่านหญิงแล้วถูกคนดูถูกว่า เขย่งเท้าทำตัวสูง จึงแทบจะย้ายทรัพย์สินในตระกูลหลี่ทั้งหมดจนเกลี้ยง ถึงพอจะถูไถการแต่งงานนี ไปได้ ความจริงแล้วพวกสินสอดที่ให้ท่านหญิงเป็นเพียงรายการสินสอดเท่านั้น ตอนนี้ยังขาดเงินอีกห้าหมื่นตำลึงที่ต้องคิดหาทางเติมเข้าไปให้ครบ นี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำไมหลังจากพว วกเรากลับมาซานซี ข้าจึงไม่กล้าคุยเรื่องแต่งงานให้เจ้า และไม่กล้าคุยเรื่องแต่งงานให้อาจี้” เอ่ยถึงตรงนี้ หลี่ฉางชิงก็ทึ้งผมอย่างว้าวุ่นใจมาก และเอ่ยว่า “เรื่องนี้นอกจากหลี ไท่กับหลิ่วหลีแล้ว แม้แต่ท่านฝูอวี้ก็รู้แค่ว่าในมือข้ามีเงินไม่เท่าไร เจ้าอย่าแพร่งพรายออกไปเชียว หากให้ท่านหญิงรู้เข้า ก็ไม่มีใครกล้ารับประกันว่านางจะไม่ดูถูกน้องชาย ของเจ้า สติปัญญาและกำลังของข้าก็สิ้นเปลืองไปอย่างเปล่าประโยชน์แล้ว”
หลี่หลินตกใจ
ทว่าพอเขาคิดดูดีๆ ก็รู้สึกว่าสิ่งที่หลี่ฉางชิงเอ่ยเป็นความจริง
ตอนที่หลี่เชียนแต่งงาน จ่ายเงินเหมือนสายน้ำไหล เปลี่ยนความถ่อมตนและความเรียบง่ายแต่ก่อนของตระกูลหลี่ ตอนนั้นเขาก็กังวลเล็กน้อย กลัวว่าหลี่ฉางชิงจะย้ายทรัพย์สินในตระกูลจ จนเกลี้ยงเพื่อความมีหน้ามีตาชั่วขณะ
คิดไม่ถึงว่าความกังวลจะกลายเป็นความจริงแล้ว!
เขาจะพูดอะไรได้ล่ะ?
หลี่ฉางชิงเป็นพ่อแท้ๆ ของหลี่เชียน หลี่ฉางชิงใช้เงินเพื่อหลี่เชียนเป็นสิ่งที่สมควร หลานที่ยอมใช้ชีวิตที่ตระกูลหลี่อย่างเขามีสิทธิวิจารณ์มั่วซั่วที่ไหนกัน?
ทว่าเขากำลังจะแต่งงานแล้ว ท่านอาคิดจะไม่ให้เงินเขาแม้แต่สลึงเดียวและให้เขาแยกจวนอยู่อย่างนั้นหรือ?
ถึงแม้เงินพวกนั้นจะเป็นสิ่งที่ท่านอาหาได้!
แต่เขาไม่กล้าถาม
ถึงอย่างไรหลี่ฉางชิงก็เลี้ยงเขาจนโต เขาไม่อาจไปแย่งของพวกนั้นกับท่านอาได้!
สีหน้าของหลี่หลินมืดมนเล็กน้อย รอยยิ้มก็เปลี่ยนเป็นฝืนใจเล็กน้อยเช่นกัน และเอ่ยว่า “ท่านอา วางใจเถอะ ข้าจะไม่บอกใครทั้งนั้น…”
“ข้ารู้!” ไม่รอให้เขาเอ่ยจบ หลี่ฉางชิงก็ตบบ่าเขาอย่างปลื้มใจแล้ว
มือใหญ่ที่เหมือนพัดที่ทำจากใบต้นปาล์มนั้นอบอุ่น ทว่าก็กว้างใหญ่และมีพลังเช่นกัน
“ข้าบอกเรื่องพวกนี้กับเจ้า เพราะรู้สึกว่าอาทำผิดต่อเจ้าเล็กน้อย” หลี่ฉางชิงถอนหายใจ ใบหน้าที่น่าเกรงขามและเคร่งขรึมเจือความรู้สึกผิดอย่างชัดเจน เสียงก็เบาลงเล็กน้อยเช่นกัน “เจ้าแต่งงาน นอกจากบ้านที่แบ่งพื้นที่ออกเป็นสามส่วนและมีทางเข้าออกสองทางที่ข้าให้คนซื้อที่ถนนตะวันตกก่อนหน้านี้กับคฤหาสน์สามร้อยหมู่ที่เฝินหยางแล้ว ข้ายังให้หลี่ไท่คิ ดหาทางซื้อที่ดินห้าร้อยกว่าหมู่แถวไท่หยวน หน้าร้านสิบร้าน และบ้านเล็กๆ หนึ่งหลังให้เจ้า และให้เงินเจ้าอีกสองหมื่นตำลึง…ของอย่างอื่นล้วนพูดง่าย เพียงแต่เงินสองหมื่นต ตำลึงนี้ ภายนอกข้าให้เจ้าแค่หนึ่งหมื่น อีกหนึ่งหมื่นเจ้าเก็บไว้เอง แม้แต่อาเชียน เจ้าก็อย่าบอกเช่นกัน นี่ข้าแอบให้เจ้า อีกไม่กี่ปี…อาจี้ก็ต้องแต่งงานแล้ว อย่างไรข้าก็ ไม่สามารถลำเอียงได้ ทว่าก็ไม่อาจทำให้พวกเจ้าแตกต่างกันมากเกินไปได้เช่นกัน หลังอาจี้ยังมีอาจวี เจ้าก็รู้นิสัยของอาเจ้า หากข้าให้อาจี้หนึ่งหมื่นตำลึง ให้อาจวีแค่ห้าพัน ตำลึง นางไม่พูดอะไรต่อหน้าข้า ลับหลังยังไม่รู้ว่าจะก่อความวุ่นวายอย่างไร? ตอนนี้ข้าอายุมากแล้ว ทนความแปลกประหลาดแทบทุกวันของนางไม่ไหวแล้ว ยิ่งกว่านั้นอีกไม่กี่ปีข้าก็ต้อง เป็นตาแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ไม่ไว้หน้าอาเจ้าต่อหน้าหลานชายไม่ได้กระมัง?”
“เงินหนึ่งหมื่นตำลึงนั้น เจ้าห้ามบอกใครเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่?”
หลี่ฉางชิงถามหลี่หลินด้วยสายตาเคร่งขรึม
ก็หมายความว่า หลี่จี้แต่งงาน หลี่ฉางชิงจะซื้อกิจการให้หลี่จี้ตามเงินที่จ่ายตอนเขาแต่งงาน!
ทว่าท่านอากลับแอบให้เงินเขาเพิ่มหนึ่งหมื่นตำลึง!
หลี่หลินเอ่ยแม้แต่คำพูดที่ตื่นเต้นไม่ออก
หลี่ฉางชิงเป็นผู้นำตระกูล เขาอยากซื้อทรัพย์สินให้ลูกชายคนไหนเท่าไรก็ซื้อเท่านั้น ต่อให้เป็นลูกชายที่แต่งงานกับท่านหญิงอย่างหลี่เชียนก็ไม่กล้าไปสงสัยการตัดสินใจของหลี่ ฉางชิงเช่นกัน
ดังนั้นหลี่ฉางชิงไม่จำเป็นต้องโกหก
ท่านอาอยากให้เขาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายจริงๆ!
จู่ๆ หลี่หลินก็เสียใจเล็กน้อยที่ก่อนหน้านี้ไม่เชื่อฟังหลี่ฉางชิงและยืนกรานที่จะแต่งงานกับเกาเมี่ยวหรง
เขาสามารถใช้อีกวิธีที่นุ่มนวลกว่าได้อย่างสิ้นเชิง แต่กลับรีบบุกเข้าไปในห้องหนังสือของหลี่ฉางชิงเพราะกลัวเกาเมี่ยวหรงถูกหลี่ฉางชิงแต่งงานไปอยู่ที่ไกล
สายตาที่หลี่ฉางชิงมองเขาในตอนนั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง…
“ท่านอา!” หลี่หลินเรียกหลี่ฉางชิงอย่างขอบตาชื้น เดี๋ยวอ้าปากเดี๋ยวหุบปากจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่ากลับถูกหลี่ฉางชิงตบอีกสองครั้ง และเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าต้องจำสิ่งที่เจ้ าพูดให้ได้ ห้ามบอกใครทั้งนั้น!”
“ข้าจำได้แล้วขอรับ!” หลี่หลินพยักหน้าติดกันหลายครั้ง
หลี่ฉางชิงถอนหายใจยาวเหยียด และเอ่ยว่า “เวลานี้เจ้าแต่งงานแล้ว ข้าก็ถือว่ามีคำอธิบายให้พ่อเจ้าแล้วเช่นกัน ต่อไปเจ้าต้องใช้ชีวิตกับเมี่ยวหรงดีๆ ภรรยาคนนี้เป็นคนที่เจ้าเต็มใจ จ มีเรื่องอะไร เจ้าต้องนึกถึงความรู้สึกตอนที่เจ้าตัดสินใจแต่งงานกับนาง ต้องให้อภัยกันถึงจะถูก ก็เหมือนอาของเจ้า หลายปีมานี้…แม้ข้าจะพูดติดอ่างเช่นกัน แต่ถึงอย่างไรก็ผ่านมาแล ล้ว สองคนอยู่ด้วยกัน มีช่วงเวลาที่ไม่เกิดความขัดแย้งที่ไหน...” หลี่ฉางชิงบ่นและกำชับวิถีของสามีภรรยากับเขานานมาก ถึงจะปล่อยหลี่หลินกลับเรือนที่เขาอยู่
หลี่หลินถูกสายลมต้นฤดูใบไม้ผลิที่ปะทะหน้าและไม่หนาวไปถึงกระดูกอีกแล้วพัดตลอดทาง จนกระทั่งเปิดห้องหนังสือ และนั่งลงหน้าโต๊ะเขียนหนังสือตัวใหญ่หน้าหน้าต่าง จิตใจถึงจะค่อยๆ สง งบลง
เงินสองหมื่นตำลึง…ไม่น้อยจริงๆ ทว่าเทียบกับหลี่เชียนแล้ว กลับไม่ถึงแม้แต่เศษเสี้ยว
แล้วก็บ้านตรงถนนตะวันตก อย่างมากที่สุดก็แค่สองพันตำลึง เทียบกับหลี่เชียนได้ที่ไหน ตามที่คนที่กลับมาบอก เขาอยู่ซีอานแค่บ้านที่เถียนสุ่ยจิ่งก็จ่ายเงินสองหมื่นตำลึงแล ล้ว แถมยังเป็นของที่คนอื่นกึ่งขายกึ่งมอบให้อีก...
เขาอดไม่ได้ที่จะทำเสียงไม่พอใจอย่างเย็นชา
และเริ่มปวดศีรษะเรื่องหลี่เสว่
ถึงในอนาคตเขาจะย้ายออกไป หากไม่ไปมาหาสู่กับจวนสกุลหลี่บ่อยๆ นานๆ ไป คนอื่นก็จะคิดว่าเขาเป็นเพียงลูกหลานธรรมดาของหลี่ฉางชิง นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่อยากเห็นที่สุด ทว่าไปมาหาสู กับตระกูลหลี่บ่อยๆ ก็จำเป็นต้องติดต่อกับหลี่เสว่ที่จะควบคุมอาหารการกินภายในจวนสกุลหลี่ในอนาคต
หลี่เสว่เป็นพี่สาวของเขา นางไม่มีทางที่จะไม่ไว้หน้าเขา เพียงแต่ครั้งนี้ไปซีอาน เขาจะโน้มน้าวหลี่เสว่อย่างไรดี?
หลี่หลินกำลังกลุ้ม
——————————————————
ป้าเหอถือจดหมายของเจียงเซี่ยนก่อนปีใหม่และกำลังกลุ้มเช่นกัน
นางมองซ้ายมองขวาจดหมายฉบับนี้ก็มีแต่พูดจาอย่างรวบรัดมาก ไม่ว่าอย่างไรก็ดูไม่ออกว่าในจดหมายมีคำพูดที่บอกเป็นนัยอะไร
เช่นนั้นท่านหญิงหมายความอย่างไรกันแน่?
ยอมรับเกาเมี่ยวหรงหรือไม่ยอมรับ?
น้องสาวของสามีนางเป็นคนโง่ แต่นางไม่ใช่!
ตำแหน่งที่สำคัญขนาดนั้นอย่างพี่สะใภ้ของท่านหญิง ท่านหญิงจะหาใครสักคนมานั่งมั่วซั่วได้อย่างไร?
เช่นนั้นนางหมายความอย่างไรกันแน่?