มู่หนานจือ - บทที่ 463 เข้าใจ
ป้าเหอพลิกไปพลิกมาหลายวันก็นอนไม่ค่อยหลับ
พอผ่านเทศกาลโคมไฟไป บ้านที่ถนนตะวันตกของหลี่หลินก็จัดการเรียบร้อยแล้ว หลี่ไท่เริ่มสั่งให้พวกเด็กรับใช้กับสาวใช้ช่วยหลี่หลินย้ายบ้าน จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีแม่นมที่อยู่ต ตระกูลหลี่มาหลายปีวิพากษ์วิจารณ์การแต่งงานนี้ “นายท่านซื้อบ้านหลังใหญ่ขนาดนั้นให้คุณชายหลี่หลิน และย้ายเข้าไปแต่งงาน คงจะวางเครื่องเรือนได้ไม่น้อยกระมัง? ตระกูลเกาไม่ต้อง งมอบสินเดิมให้จำนวนมากอย่างนั้นหรือ? ไม่อย่างนั้นบ้านหลังนั้นก็ว่างเปล่า คนที่กินเหล้าเห็นแล้วก็ไม่เหมาะสมหรือเปล่า? หรือนายท่านคิดจะให้คุณชายหลี่หลินแต่งงานที่จวนสกุลห ลี่?”
“น่าจะแต่งงานที่บ้านหลังใหม่กระมัง? ตอนนี้คุณหนูเกายังอาศัยอยู่ในบ้าน”
จู่ๆ ป้าเหอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงไปหาฮูหยินเหอ
ฮูหยินเหอกำลังโกรธจนปวดใจ พอเห็นป้าเหอก็อดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา “อย่างไรก็ให้เมี่ยวหรงแต่งเข้ามาแบบนี้ไม่ได้ ข้าปรึกษากับท่านพี่ว่า ถึงเวลานั้นอยากให้เมี่ยวหรงยืมบ้าน ของใต้เท้าซือแต่งงาน ใต้เท้าซืออ้างนู่นอ้างนี่และไม่ยอม ก่อนหน้านี้เมี่ยวหรงกับคุณหนูสามของพวกเขายังสนิทสนมจนเหมือนเป็นคนเดียวกัน แต่คนในครอบครัวนี้กลับโกรธขึ้นมาและไม่ย ยอมรับอะไรทั้งนั้น!”
สายตาของป้าเหอทอประกายเล็กน้อย และเอ่ยว่า “เช่นนั้นนายท่านว่าอย่างไร?”
ฮูหยินเหอได้ยินแล้ว ดวงตาต่างก็สดใสขึ้น และเอ่ยว่า “ท่านพี่บอกว่าเรื่องนี้ข้าทำถูกแล้ว ไม่ว่าอย่างไร…เมี่ยวหรงก็เติบโตในบ้านของพวกเรามาตั้งแต่เด็ก นางกับหลี่หลิน ถือได้ว่าเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ไม่เพียงแต่เรื่องแต่ก่อน ในเมื่อแต่งเข้าตระกูลของพวกเรา ก็เป็นสะใภ้ของพวกเรา พวกเราปฏิบัติกับท่านหญิงอย่างไร ก็ควรปฏิบัติกับนางอย่างนั้น เ เจ้าไม่รู้ ช่วงนี้ในบ้านยุ่งอยู่กับการหมั้นให้หลี่หลินกับเมี่ยวหรง ข้าเป็นคนตัดสินใจทุกอย่าง ท่านพี่เชื่อฟังข้าทุกเรื่อง แถมยังชมว่าข้าทำงานได้ดี เดี๋ยวข้ายังต้องปรึกษา ากับแม่สื่อว่าจะเชิญฮูหยินของใครมาเป็นเฉวียนฝูเหรินให้พวกเขาถึงจะดี…” นางพูดไป หน้าตาก็ฉายแววภูมิใจ
ป้าเหอก็กะพริบตาพลางถามฮูหยินเหอ “เช่นนั้นคุณชายหลี่หลินจะย้ายออกไปแต่งงานหรือแต่งงานที่บ้าน?”
ฮูหยินเหอได้ยินแล้ว รอยยิ้มก็เปลี่ยนเป็นไม่ค่อยสบายใจขึ้นมาทันที
นางยกถ้วยชาขึ้นมาดื่มน้ำอึกหนึ่ง ถึงจะเอ่ยว่า “ว่ากันตามหลักการแล้ว คุณชายหลี่หลินยังไม่แต่งงานก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ ควรแต่งงานที่บ้าน ผ่านไปอีกปีสองปีถึงจะย้ายออก ไป แต่ท่านพี่คิดว่า…ลุงของอาจวีจากไปเร็ว เวลานี้คุณชายหลี่หลินก็ติดตามทำงานอยู่ข้างกายท่านพี่ หากไม่ใช่เพราะการแต่งงานนี้กำหนดเร็วเกินไป ท่านพี่ก็ขอความคุ้มครองกล ลับมาให้คุณชายหลี่หลินตั้งนานแล้ว ก็คงไม่ถึงขนาดยังไม่มีตำแหน่งขุนนางตอนแต่งงานเช่นกัน เลยคิดว่าคุณชายหลี่หลินแต่งงานในบ้านหลังใหม่ ก็แก้ไขให้สายของลุงของอาจวีได้พ พอดี การแต่งงานนี้อยู่ในบ้านหลังใหม่ดีกว่า”
ท่านหญิงเจียหนานไปเมืองหลวงเที่ยวหนึ่ง ก็หาตำแหน่งขุนนางฝ่ายบู๊ระดับสองที่ควบคุมงานสถานที่หนึ่งกลับมาให้หลี่เชียน
หากท่านหญิงเจียหนานมีใจ หาตำแหน่งขุนนางฝ่ายบู๊ระดับหกระดับเจ็ดให้หลี่หลินก่อนที่หลี่หลินจะแต่งงานก็แทบจะเป็นเรื่องที่หยิบมาได้เลย
จะเห็นได้ว่าหลี่ฉางชิงไม่ได้ไปขอร้องท่านหญิงเจียหนาน
ป้าเหอเลิกคิ้ว และยิ้มพลางคุยพวกเรื่องจุกจิกกับฮูหยินเหอ แล้วก็กลับบ้านที่ตนเองอาศัยอยู่ และสั่งให้พวกเด็กรับใช้ไปเรียกลุงเหอกลับมาเดี๋ยวนี้
ลุงเหอนั้นเพราะสองสามวันนี้ตระกูลจินจะมามอบสินสอดแล้ว ตั้งแต่ผ่านปีใหม่ไปก็อยู่ในบ้านตลอด หากไม่ช่วยซื้อที่ดินให้หลี่หลิน ก็อยู่บ้านปรึกษากับป้าเหอว่ายังมีของดีอะไร รให้เหอถงเหนียงพกไปเป็นสินเดิมได้อีกหรือไม่ พอป้าเหอเรียก เขาก็วิ่งกลับมา และหอบหายใจพลางเอ่ยว่า “ตระกูลจินมีคนส่งข่าวมาแล้วหรือ?”
ป้าเหออดไม่ได้ที่จะจ้องเขา และเอ่ยว่า “เจ้าสุขุมหน่อยได้หรือไม่ เจ้าเป็นญาติที่เกี่ยวดองกับใต้เท้าจินแม่ทัพไท่หยวนเชียวนะ! เจออะไรก็หุนหันพลันแล่นแบบนี้ เจ้ายังคิดจะให้ล ลูกสาวยืนหยัดที่ตระกูลจินหรือไม่?”
ลุงเหอยิ้มแหยๆ และเอ่ยว่า “ข้าจะปรับปรุง ข้าจะปรับปรุง!”
ป้าเหอสีหน้าคลายความโกรธลงมาก และไล่สาวใช้กับแม่บ้านที่รับใช้ข้างกายออกไปหมด แล้วสองสามีภรรยาก็แอบคุยกันในห้องย่อย
“เจ้าไปคุยกับลูกเขยหน่อย” ป้าเหอสั่งสามี “บอกว่าตระกูลจินเอาวันมาหลายวัน แต่ทั้งหมดอยู่ระหว่างเดือนสาม เกรงว่าจะไล่เลี่ยกับวันที่คุณชายหลี่หลินมอบสินสอด ถามลูกเขยว่าต้อง บอกตระกูลจินสักหน่อยหรือไม่”
ลุงเหอตกใจมาก และเอ่ยว่า “ตระกูลจินกำหนดวันเมื่อไร? ทำไมข้าไม่รู้?”
ป้าเหอรู้มาโดยตลอดว่าสามีของตนเองซื่อสัตย์และดื้อรั้น จึงไม่อธิบายกับเขาเช่นกัน และเอ่ยเพียงว่า “ส่งคนมาบอกข้าเมื่อเช้า ข้ายังไม่ได้ปรึกษากับเจ้า จึงบอกว่าต้องรอเจ้าตัดสิน นใจ และให้คนกลับไปแล้ว”
พอลุงเหอได้ยินว่า เรื่องนี้ก็ได้แล้ว จึงรีบเอ่ยว่า “ข้าจะไปคุยกับลูกเขยเดี๋ยวนี้!”
ป้าเหอพยักหน้าอย่างพอใจ หลังจากส่งลุงเหอจากไป ก็นอนคิดบนเตียง
ไม่นาน ลุงเหอก็ย้อนกลับมา และเอ่ยอย่างดีใจว่า “ลูกเขยบอกว่า ดวงของแต่ละคนไม่เหมือนกัน หากตระกูลจินคิดว่าช่วงเดือนสามเป็นวันดี เช่นนั้นก็กำหนดภายในเดือนสามแล้วกัน”
ป้าเหอได้ยินแล้วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจมากจนสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเอ่ยว่า “ข้าจะไปบอกคนของตระกูลจินเดี๋ยวนี้…หลี่หลินจะหมั้นแล้ว หากทั้งสองตระกูลกำหนดวันเป็นว วันเดียวกันก็ยุ่งยากแล้ว ทางพวกเรากำหนดได้จะดีที่สุด”
ลุงเหอได้ยินแล้วก็รู้สึกว่าทำไมคำพูดของป้าเหอถึงไม่ค่อยสบอารมณ์ แต่จะให้เขาพูดออกมาว่าไม่สบอารมณ์ตรงไหนกันแน่นั้น เขาก็พูดไม่ออกอีก จนป้าเหอสั่งให้สาวใช้ไปเชิญแม่สื่อ เขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ยิ่งกว่านั้นเขาไม่ฉลาดเท่าภรรยามาตลอด ในเมื่อภรรยาคิดว่าดี เช่นนั้นก็ต้องดีอย่างแน่นอน
ไม่นานเขาก็ลืมเรื่องนี้ไปจนหมดสิ้น
ฮูหยินจินได้รับคำพูดของป้าเหอจากแม่สื่อก็ประหลาดใจมาก ทว่าพอนางคิดอีกทีก็เข้าใจความคิดของป้าเหอ แต่หลี่ฉางชิงคิดอย่างไรกันแน่ ฮูหยินจินยังไม่ค่อยเชื่อป้าเหอ จึงรีบใ ให้คนไปสืบหน่อยว่าหลี่หลินจะย้ายออกไปจากตระกูลหลี่หลังแต่งงานหรือแต่งงานในบ้านที่ซื้อใหม่ หลังจากได้ข่าวว่าหลี่หลินจะแต่งงานในบ้านหลังใหม่ นางก็ไปพบจินไห่เทาทันที
จินไห่เทายิ้มเยาะ และเอ่ยว่า “หากข้ามีหลานชายแบบนี้ ก็ต้องให้เขาแต่งงานข้างนอกเช่นกัน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็เห็นแก่ท่านหญิงสักครั้ง ตระกูลหลี่มอบสินสอดวันที่ยี่สิบ บเอ็ดเดือนสามใช่หรือไม่? เช่นนั้นพวกเราก็มอบสินสอดวันที่ยี่สิบเดือนสาม”
ฮูหยินจินเข้าใจ และจากไปด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม นางเขียนวันที่กำหนดลงบนกระดาษสีแดง และขอให้แม่สื่อส่งไปตระกูลหลี่
หลี่ฉางชิงเรียกหลี่หลินมาปรึกษา “เจ้าว่าจะย้ายวันไปช่วงเดือนสี่หรือไม่”
ตระกูลเหอกับตระกูลจินเริ่มหารือวันมอบสินสอดมาตั้งแต่ปีที่แล้ว อย่างไรก็ให้ตระกูลเหอกับตระกูลจินเปลี่ยนวันเพราะเขาตัดสินใจแต่งงานกับเกาเมี่ยวหรงอย่างกะทันหันไม่ได้กระมัง ง? ยิ่งกว่านั้นตระกูลจินมีชื่อเสียงโด่งดัง หากไม่ใช่เพราะเจียงเซี่ยน ตระกูลจินไม่มีทางที่จะตอบรับการแต่งงานนี้ หากทำให้ตระกูลจินไม่พอใจเพราะเรื่องพวกนี้ เขาเชื่อว่า ป้าเหอ จะฉีกเขา!
“อย่าเปลี่ยนวันเลย” หลี่หลินเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ต้องดูวันใหม่อีก ยุ่งยากเกินไปแล้ว”
หลี่ฉางชิงคิดแล้วก็เอ่ยว่า “ก็ได้! ถึงอย่างไรก็เป็นการมอบสินสอด ไว้ถึงตอนแต่งงานอย่างเป็นทางการ พวกเราสองตระกูลค่อยปรึกษากัน สับหลีกวันนี้สักหน่อย ให้พวกขุนนางของเมืองไท่ หยวนได้กินเหล้าอย่างเต็มที่สองมื้อ”
หลี่หลินยิ้มพลางขานรับ และบอกลาหลี่ฉางชิง “เก็บของเรียบร้อยหมดแล้ว อีกสองวันข้าจะไปส่งตงจื้อที่ซีอาน”
หลี่ฉางชิงพยักหน้า