มู่หนานจือ - บทที่ 468 น่าเป็นห่วง
ฉิงเค่อรีบยกชาร้อนมาให้เจียงเซี่ยน และเตือนเสียงเบาว่า “อ๋องเจี่ยนสอนลูกชายไม่เข้มงวด เกี่ยวอะไรกับท่านด้วย? ท่านก็อย่าโกรธพวกเขาเพราะพวกเรื่องหยุมหยิมเลยเจ้าค่ะ!”
“ข้าขี้เกียจที่จะยุ่งพวกเรื่องวุ่นวายของพวกเขา!” เจียงเซี่ยนเอ่ยอย่างไร้ชีวิตชีวาว่า “แต่ข้าไม่อยากเสียหน้า!”
ฉิงเค่อจำเป็นต้องถอนหายใจ
ตอนที่เดินออกไปอีกครั้ง เจียงเซี่ยนก็กลับมาสงบนิ่งและเยือกเย็นเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว นางดูงิ้วกับฮูหยินซย่า พลางคุยกันว่าประโยคไหนเสี่ยวเฟิ่งเซียนร้องได้ดี ไม่นานก็ถึงเวลาอาหารมื้อดึกแล้ว งิ้วก็แสดงจบแล้วเช่นกัน
ฮูหยินซย่าก็ให้คนเรียกเสี่ยวเฟิ่งเซียนมา และยิ้มพลางถามเขาเล็กน้อย จนรู้ว่าเขาไม่เพียงแต่เป็นลูกศิษย์ที่ตู้ฮุ่ยจวินถ่ายทอดวิชาความรู้ให้ด้วยตนเอง ทว่ายังเป็นลูกชายบุญธรรมของตู้ฮุ่ยจวินด้วย จึงชมว่าตู้ฮุ่ยจวินสอนคนเป็น
ตู้ฮุ่ยจวินคุกเข่าอยู่ตรงนั้นอย่างนอบน้อม และถ่อมตนเล็กน้อย
ฮูหยินซย่าให้คนตกรางวัล
พวกฮูหยินหวังเห็นแล้วต่างก็พากันตกรางวัลเช่นกัน
ฮูหยินซย่าเห็นทุกคนสนุกมาก จึงปรึกษากันว่าจะพักที่บ้านชุ่ยเวยอีกสองสามวันหรือไม่ พรุ่งนี้ให้ตู้ฮุ่ยจวินขึ้นเวทีแสดงงิ้วด้วยตนเองสักสองสามองก์
ตู้ฮุ่ยจวินอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เจียงเซี่ยน
เจียงเซี่ยนพยักหน้าเล็กน้อย
ตู้ฮุ่ยจวินถึงตอบรับทันที
เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนสังเกตเห็นการกระทำลับๆล่อๆ ของตู้ฮุ่ยจวินกับเจียงเซี่ยน จึงเอ่ยหยอกล้อว่า “คิดไม่ถึงว่าท่านตู้จะได้รับความโปรดปรานจากท่านหญิงขนาดนี้!”
ตู้ฮุ่ยจวินรีบเอ่ยว่า “ตอนที่ข้าอยู่เมืองหลวงก็ได้รับการสนับสนุนจากท่านหญิง คิดไม่ถึงว่าจะเจอท่านหญิงที่นี่อีก เป็นวาสนาของข้าจริงๆ”
ก็มีคนเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ได้เข้าตาท่านหญิง เป็นวาสนาของเจ้าจริงๆ พรุ่งนี้เจ้าต้องจำไว้ว่าแสดงให้ดี จะทำให้ท่านหญิงเสียหน้าไม่ได้!”
ตู้ฮุ่ยจวินขานรับอย่างนอบน้อม
เจียงเซี่ยนก็เลือกเรื่อง ‘เลือกลูกรอก’
ตู้ฮุ่ยจวินตอบรับ และถอยออกไป
คืนนี้ทุกคนก็พักที่บ้านชุ่ยเวย
หลี่เสว่ แม่ลูกสกุลคัง และนายหญิงเจิ้งตามเจียงเซี่ยนมา จึงย่อมพักในเรือนเดียวกับเจียงเซี่ยน
ดึกมากแล้ว ทุกคนล้างหน้าบ้วนปากและเตรียมตัวขึ้นเตียงนอนแล้ว ใครจะรู้ว่าฮูหยินหลินกลับพาลูกสาวสองคนของนางมานั่งคุยที่เรือน
ช่วงนี้เจียงเซี่ยนอยู่บ้านทุกวันไม่กินก็นอน เวลาว่างก็อ่านนิยายของไป่เสี่ยวเซิง บางทีอ่านสนุกแล้ว ยังอ่านทั้งคืน อยากทำอะไรก็ทำ ในบ้านไม่มีใครกล้าคุมนาง จึงกลายเป็นใช้ชีวิตตามใจตนเองมากทันที ดึกดื่นไม่นอน ก็ลากฉิงเค่อกับไป่เจี๋ยมาคุย ดังนั้นจึงไม่ได้รู้สึกว่าการที่ฮูหยินหลินมาหาดึกขนาดนี้ไม่ดีตรงไหน นางเปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งตัวเล็กน้อยก็ไปที่ห้องโถง
กลับกลายเป็นฮูหยินหลินที่ไม่ค่อยสบายใจ และอธิบายว่า “ลูกสองคนโวยวายอยากมาเล่นกับท่านหญิง พวกเราจึงมาหา”
เจียงเซี่ยนมองลูกสองคนของฮูหยินหลิน คนหนึ่งสัปหงกพิงอยู่ข้างกายแม่นม อีกคนหาวอยู่ในอ้อมกอดของแม่นม เห็นได้ชัดว่าฮูหยินหลินใช้ลูกเป็นข้ออ้าง ก็ไม่เปิดโปงเช่นกัน แล้วให้ไป่เจี๋ยพาเด็กสองคนไปที่ห้องย่อย และชงชารับรองฮูหยินหลิน
ฮูหยินหลินเห็นนางเข้าใจเช่นนี้ คำพูดที่เก็บไว้ในใจก็เทออกมาหมดอย่างควบคุมตนเองไม่ได้เช่นกัน “เดิมทีไม่ควรมารบกวนท่านหญิง แต่นอกจากวิธีนี้แล้วข้าก็ไม่มีวิธีอื่นเช่นกัน ข้าพักเรือนเดียวกับฮูหยินซย่า ฮูหยินซย่ากำลังโมโหอยู่ในเรือน ข้ากลัวพวกลูกไม่รู้ความ และหลุดปาก จึงจำเป็นต้องพาลูกสองคนออกมา ฮูหยินหวังเป็นคนตรงไปตรงมา ข้าไม่อาจไปได้ ในเรือนอื่นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแล้ว ต่างก็เป็นสมาชิกในครอบครัวที่เป็นผู้หญิงของผู้ใต้บังคับบัญชา ข้ากลัวฮูหยินซย่าเสียหน้า จึงจำเป็นต้องมาที่เรือนของท่านหญิง…นายหญิงคังพาลูกสาวคนโตมาด้วย ข้าจึงอ้างว่าพวกลูกอยากมาเล่นกับคุณหนูใหญ่ตระกูลคัง”
แต่ก็หนีออกมาข้างนอกแบบนี้ไม่ได้เหมือนกันนี่นา!
เจียงเซี่ยนเอ่ยว่า “ไม่อย่างนั้นวันนี้ท่านกับลูกก็นอนที่เรือนของข้าแล้วกัน!”
ฮูหยินหลินซาบซึ้งมาก จึงขอบคุณติดกันหลายครั้ง ตอนที่ไป่เจี๋ยสั่งให้สาวใช้จัดสถานที่พักแรมให้พวกนางก็เอ่ยถึงเรื่องของฮูหยินซย่า “บางครั้งข้าก็รู้สึกไม่เข้าใจเช่นกัน คนฉลาดอย่างฮูหยินซย่า ทำไมถึงไม่เข้าใจ พี่ชายของใต้เท้าซย่ามีลูกแค่คนเดียว ก็ไม่ใช่ว่าเอาเงินออกมาไม่ได้ เพียงแต่ฮูหยินซย่าไม่ชอบหลานชายคนนี้ นางมักจะพูดว่าหลานชายคนนี้แอบอ้างชื่อใต้เท้าซย่า ทำให้ใต้เท้าซย่าเสียชื่อเสียง ทว่าใต้เท้าซย่าไม่สนใจด้วยซ้ำ ต่อให้ฮูหยินซย่ารู้สึกไม่สบายใจแค่ไหนจะมีประโยชน์อะไร?”
เจียงเซี่ยนถึงรู้ว่าที่แท้ฮูหยินซย่าโกรธหลานชายของใต้เท้าซย่า
คุณชายซย่าผู้นั้นพาเพื่อนร่วมสำนักมาแอบอ้างชื่อขอทรัพย์สินที่บ้านชุ่ยเวย ก็สามารถจินตนาการได้ว่าเป็นคนอย่างไรแล้ว
นางคุยกับฮูหยินหลิน “คุณชายซย่าทำอะไรอีกหรือ?”
ฮูหยินหลินถอนหายใจ แล้วโน้มตัวมากระซิบกับเจียงเซี่ยน “เห็นว่าไม่ใช่เพื่อนร่วมสำนัก แต่เป็นลูกผู้ดีมีเงินที่กินดื่มเที่ยวเล่นทั้งวันและไม่ทำงานที่เมื่อก่อนเล่นด้วยกันที่ซีอาน แถมยังพาผู้หญิงในเรือนไปด้วย ถูกสองคนนั้นของใต้เท้าโจวเจอพอดี…ฮูหยินซย่ารู้สึกว่าเขาทำให้ใต้เท้าซย่าเสียหน้าหมดแล้ว จึงให้คนไปถ่ายทอดคำพูด ให้เขากลับไปซีอานคืนนี้ คุณชายซย่าไม่เชื่อฟังอย่างสิ้นเชิง แถมยังเรียกน้องชายของอนุภรรยาของใต้เท้าโจวมาดื่มเหล้าด้วยกัน ยังดีที่คนๆ นั้นรู้ตื้นลึกหนาบาง จึงหลีกเลี่ยง…”
ไปไหนก็มีแต่เรื่องน่าเป็นห่วงจริงๆ
เจียงเซี่ยนถามว่า “มิน่าเล่าก่อนหน้านี้ข้าเห็นฮูหยินซย่าได้ยินชื่อของคุณชายซย่าก็ร้อนใจมาก ที่แท้เป็นเพราะคุณชายซย่าไม่ค่อยเชื่อฟังนี่เอง!”
“ใครว่าไม่ใช่ล่ะ!” ฮูหยินหลินก็หยิบยกเรื่องของตระกูลซย่าขึ้นมาเอ่ยไม่หยุด
เจียงเซี่ยนฟังพลางเอ่ยว่า “อืม” เล็กน้อยตลอด กว่าฮูหยินหลินจะไปพักผ่อน ก็ดึกดื่นเที่ยงคืนแล้ว
วันรุ่งขึ้น ฮูหยินซย่าเห็นสายตาของนางก็ลำบากใจเล็กน้อย ยังดีที่เจียงเซี่ยนพบเจอเรื่องว้าวุ้นใจมากมาย จึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ สีหน้าปกติตั้งแต่ต้นจนจบ จึงทำให้ฮูหยินซย่าค่อยๆ วางเรื่องนี้ลงเช่นกัน
เหล่าสมาชิกในครอบครัวที่เป็นผู้หญิงของตระกูลขุนนางเที่ยวที่บ้านชุ่ยเวยสามสี่วันถึงจะตัดสินใจกลับเมืองซีอาน
เพราะคำพูดของเจียงเซี่ยน หลายวันนี้ตู้ฮุ่ยจวินจึงใช้ความสามารถทั้งหมดเอาใจพวกฮูหยินซย่าอย่างเงียบๆ แลดูเหมาะสม และเพราะเคยเข้าวังไปอวยพรวันเกิดให้ไทเฮา จึงทำให้พวกฮูหยินซย่ามองต่างไปจากปกติ ยังไม่ได้ออกจากบ้านชุ่ยเวย กำหนดการแสดงงิ้วก็ยาวไปถึงเทศกาลบ๊ะจ่างแล้ว ขอเพียงเขารับมืออย่างระมัดระวัง ก็ถือว่ายืนหยัดที่ซีอานได้แล้วเช่นกัน และถึงอย่างไรซื่อจื่ออ๋องเจี่ยนก็ยังเป็นเพียงซื่อจื่อ มีเจียงเซี่ยนคุมที่นี่อยู่ ต่อให้ซื่อจื่ออ๋องเจี่ยนใจกล้าแค่ไหนก็ไม่กล้ายื่นมือมาถึงหน้าเจียงเซี่ยนอยู่ดี กล่าวได้ว่า การเจอเจียงเซี่ยนในครั้งนี้ แก้ไขปัญหาใหญ่ของเขาแล้ว ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว เขาก็รู้สึกเบิกบานใจด้วยเหตุนี้เช่นกัน จึงดูหล่อเหลาสง่างามมากขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งได้รับความนิยม แน่นอนว่านี่ล้วนเป็นเรื่องที่ต้องคุยกันทีหลัง
เจียงเซี่ยนกลับถึงบ้านก็ถามว่ามีข่าวของหลี่เชียนหรือไม่ หลิวตงเยว่ส่ายหน้าอย่างขี้ขลาด และรีบเอ่ยว่า “อวิ๋นหลินกลับมาแล้วขอรับ!”
นางจึงพบอวิ๋นหลิน
“เดิมทีควรกลับมาก่อนปีใหม่ เพราะเรื่องของคุณชายหลี่หลินจึงทำให้การเดินทางล่าช้า” เขาอธิบายกับเจียงเซี่ยนอย่างนอบน้อม “ต่อมาก็ได้รับจดหมายจากใต้เท้า ให้ข้าไปดูดาบที่หลอมกับตระกูลจิน คุณชายรองตระกูลจินคุมงานที่นั่น แต่ทำเสียค่อนข้างมาก ข้ากลัวพวกเขาแอบจัดการของพวกนี้ จึงเขียนจดหมายหาใต้เท้า หลอมพวกของที่ทำเสียใหม่ ทำเป็นก้อนเหล็กขายให้พวกร้านเหล็กทำอุปกรณ์การเกษตรก็ไม่เลวเช่นกัน”
แต่จะให้คนของตระกูลจินจัดการตามใจชอบไม่ได้แล้ว
ใครจะรู้ว่าดาบที่ทำเสียพวกนั้นจงใจทำหรือเปล่า!
————————————-