มู่หนานจือ - บทที่ 362 เปิดโปง
เจียงเซี่ยนอ้างว่าอากาศร้อนเกินไป และปฏิเสธฮูหยินเหออย่างอ้อมค้อม
ฮูหยินเหอรู้ว่านางร่างกายอ่อนแอ มาหลบร้อนที่ภูเขามังกรเมฆยังพาหมอมาด้วย ก็ย่อมไม่บังคับนางอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไปอารามภิกษุณีที่ชื่อ ‘จี้อัน’ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่กับป้าเหอและเกาเมี่ยวหรง
ส่วนเจียงเซี่ยนก็อ่านหนังสือนิยายของนางอยู่ในห้องต่อไป
หลี่ตงจื้อมาหานางให้ไปเยี่ยมเหอถงเหนียงด้วยกัน “ท่านหมอบอกว่าพี่หญิงหายป่วยแล้ว แต่พี่หญิงยังคงกลุ้มใจและไม่มีชีวิตชีวา ท่านป้าก็ไม่อยู่อีก ข้าอยากชวนพี่สะใภ้ไปปลอบใจนางหน่อย”
เจียงเซี่ยนประหลาดใจ และเอ่ยด้วยรอยยิ้มอย่างลำบากใจเล็กน้อยว่า “ข้าปลอบใจคนไม่ค่อยเป็น!”
จะชาติก่อนหรือชาตินี้ ก็มีแต่คนอื่นปลอบใจและแนะนำนาง นางทำเรื่องแบบนี้น้อยมาก จึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองจะทำหน้าที่ได้หรือไม่
“อย่างไรก็ดีกว่าข้า” หลี่ตงจื้อพูดไปก็ทำหน้ามุ่ย และเอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “พวกนางต่างรังเกียจที่ข้าอายุน้อย มีอะไรก็ไม่ยอมบอกข้า…”
เจียงเซี่ยนหัวเราะ และรู้สึกว่าหลี่ตงจื้อน่ารักมาก จึงลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้า และแต่งตัวใหม่ แล้วไปหาเหอถงเหนียงกับหลี่ตงจื้อ
สาวใช้กับแม่นมที่รับใช้ข้างกายเหอถงเหนียงต่างยืนอยู่ตรงทางเดินด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล แม่นมของเหอถงเหนียงกำลังตบบานประตูและเกลี้ยกล่อมเหอถงเหนียง “…ข้าให้คนตุ๋นรังนก ไม่ว่าอย่างไรท่านก็กินสักหน่อยเถอะ ไม่อย่างนั้นนายหญิงกลับมาแล้วจะเป็นห่วงแค่ไหนกัน!”
ในห้องไม่มีเสียงแม้แต่นิดเดียว
แม่นมของนางใกล้จะร้องไห้ออกมาแล้ว
เจียงเซี่ยนไอเบาๆ
คนที่อยู่ในเรือนหันมามองตามเสียง แล้วเรียก “ท่านหญิง” “คุณหนูใหญ่” และพากันย่อตัวคารวะเจียงเซี่ยนกับหลี่ตงจื้อ
เจียงเซี่ยนส่งสัญญาณให้พวกนางลุกขึ้น และยิ้มพลางถามว่า “เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
ความกังวลฉายวาบผ่านไปบนหน้าของสาวใช้ที่รับใช้ข้างกายเหอถงเหนียง นางเอ่ยเสียงเบาว่า “คุณหนูใหญ่อารมณ์ไม่ดี สองวันนี้ต่างก็กินได้ไม่ดี…”
แม่นมของนางไปตบประตูของเหอถงเหนียงทันที และเอ่ยว่า “คุณหนูใหญ่ ท่านหญิงกับคุณหนูหลี่มาเยี่ยมท่านแล้ว! ท่านรีบเปิดประตูเถอะเจ้าค่ะ”
เจียงเซี่ยนอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
ประตูเปิดแล้ว
เหอถงเหนียงปรากฏตัวอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าซีดเซียว
“ท่านหญิง! ตงจื้อ!” นางเรียกทั้งสองคนอย่างเซื่องซึม และยิ้มออกมาอย่างฝืนใจมาก พลางเอ่ยว่า “ข้าไม่รู้ว่าพวกท่านมาแล้ว…รีบเข้ามาดื่มชาในห้องเถอะ!”
หากไม่ใช่เพราะพวกนางสองคนมา เหอถงเหนียงก็ยังจะขังตนเองอยู่ในห้องต่อไปใช่หรือไม่?
เจียงเซี่ยนคิดพลางเข้าไปในห้องกับหลี่ตงจื้อ
ในห้องเก็บกวาดอย่างสะอาดเรียบร้อยมาก แต่เพราะบานประตูปิดสนิท จึงแลดูร้อนอบอ้าวมาก บวกกับในห้องไม่รู้ว่าจุดกำยานอะไร ทำให้คนเข้าไปแล้วกลิ่นคลุ้งมาก
แม่นมของเหอถงเหนียงรีบเปิดประตูทุกด้าน
ทว่าเหอถงเหนียงกลับประท้วงอย่างอ่อนแรงว่า “อย่าเปิดทั้งหมด แสงแดดนี้เจิดจ้า ส่องจนข้าเวียนศีรษะ”
เวียนศีรษะหรือไม่อยากเจอคน?
เจียงเซี่ยนดื่มชาอึกหนึ่ง เห็นหลี่ตงจื้อมองเหอถงเหนียงอย่างกังวลและหวาดกลัว ก็อดที่จะถอนหายใจในใจไม่ได้ จนกระทั่งผลไม้กับของว่างมาแล้ว จึงไล่คนรับใช้ในห้องออกไปหมด และเอ่ยกับเหอถงเหนียงด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ที่นี่ก็ไม่มีคนนอก เจ้ามีเรื่องอะไร สามารถบอกพวกเราได้ตรงๆ ต่อให้พวกเราช่วยอะไรเจ้าไม่ได้ เจ้าบ่นกับพวกเราสักนิด ก็จะสบายใจหน่อยเช่นกัน”
เหอถงเหนียงได้ยินแล้ว น้ำตาก็ร่วงลงมา
เจียงเซี่ยนยื่นผ้าเช็ดหน้าไป และผลักชาที่อยู่ใกล้มือนาง โดยไม่ถามอะไรอีก
“ขอบคุณ!” เหอถงเหนียงเอ่ยด้วยเสียงดังปนทุ้มต่ำ และเม้มปาก สุดท้ายก็ยังพูดสิ่งที่เก็บไว้ในใจออกมา “ข้าก็รู้ว่าข้าทำไม่ถูก แต่ข้าก็ควบคุมตนเองไม่ได้…ต่อไปข้าจะไม่เป็นแบบนี้อีกแล้ว…ข้าจับตามองเขาอยู่ตลอดเวลา…ถึงพบว่าที่แท้เขาจับตามองพี่เกาอยู่ตลอดเวลา…แต่พี่เกากลับไม่มองเขาบ่อยนัก…เพียงแค่ยิ้มให้เขาเป็นบางครั้ง เขาก็ดีใจมาก...”
เขา?! คือใคร?
ในความคิดของเจียงเซี่ยนปรากฎภาพของหลี่หลินขึ้นมาทันที
นางกำลังครุ่นคิดว่าจะลองถามเหอถงเหนียงอย่างตรงไปตรงมาสักหน่อยดีหรือไม่ ใครจะรู้ว่าหลี่ตงจื้อเอ่ยอย่างเฉียบแหลมแล้วว่า “ท่าน…ท่านหมายถึงพี่หลี่หลินหรือ?”
หน้าของเหอถงเหนียงแดงก่ำทันที และเอ่ยอย่างทั้งอายและร้อนรนว่า “ข้าเคยบอกแล้ว ต่อไปข้าจะไม่เป็นแบบนี้อีกแล้ว…”
หลี่ตงจื้อเม้มปาก และไม่พูดอะไรอีก
ทว่าเจียงเซี่ยนกลับรู้สึกว่าอารมณ์ของหลี่ตงจื้อผิดไปเล็กน้อย
แต่นางไม่ได้ถามหลี่ตงจื้อต่อหน้าเหอถงเหนียง ทว่าปลอบใจเหอถงเหนียงเล็กน้อยก่อน จนกระทั่งแม่นมของเหอถงเหนียงยกรังนกเข้ามา ก็เกลี้ยกล่อมให้นางกินสักหน่อย และคุยเป็นเพื่อนเหอถงเหนียงครู่หนึ่ง พอเห็นว่าเหอถงเหนียงหน้าตาฉายแววเหนื่อยล้า ทั้งสองคนก็บอกลา และถามหลี่ตงจื้อระหว่างทางที่กลับไปเรือนของนาง “คนหนึ่งเป็นพี่ชายของเจ้า อีกคนเป็นพี่สาวของเจ้า หากทั้งสองตระกูลได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน และแต่งงานกันอีกครั้ง ก็ดีกว่าไม่ใช่หรือ? แต่ข้าดูท่าทางของเจ้า ทำไมถึงไม่ค่อยยินดีล่ะ!”
หลี่ตงจื้อเม้มปาก และเดินจนถึงหน้าประตูเรือนของเจียงเซี่ยน นางถึงจะหยุดฝีเท้า และมองพวกไป่เจี๋ยที่ติดตามพวกนางอยู่ห่างๆ พอเห็นว่าพวกไป่เจี๋ยหยุดฝีเท้าเหมือนกัน นางถึงจะก้มหน้าลงอย่างหดหู่ และเอ่ยเบาๆ ว่า “พวกเขาต่างคิดว่าข้าไม่รู้ ความจริงแล้วข้ารู้ทุกอย่าง…ตอนที่กลับมาจากฝูเจี้ยน ทุกคนต่างยุ่งอยู่กับการเก็บของ ข้าถูกแม่นมจัดให้นอนกลางวันในห้องย่อยในเรือนของท่านแม่ พี่หลี่หลินตามพี่เกามา บอกว่าจะแต่งงานกับพี่เกา…พี่เกาตกใจแทบแย่ และบอก…บอกว่านางชอบคนอื่น หากพี่หลี่หลินไปขอให้ผู้ใหญ่สู่ขอ นางจะโขกศีรษะตายในห้อง…พี่หลี่หลินเหมือนถูกฟ้าผ่า ซักไซ้พี่เกาว่าคนที่ชอบคือใคร แต่อย่างไรพี่เกาก็ไม่ยอมบอก ตอนหลังถูกพี่หลี่หลินบีบคั้นแล้ว ทั้งอายและโกรธ เลยพุ่งไปโขกเสา…พี่หลี่หลินจึงจำเป็นต้องกลับไป…ทว่าในใจของพี่หลี่หลินยังคงคิดถึงพี่เกาอยู่ตลอดเวลา บางครั้งพี่เกามาบอกให้ข้าอ่านและเขียนหนังสือที่เรือนของข้า พี่หลี่หลินก็จะหาข้ออ้างมาเยี่ยมพี่เกา ถึงแม้พี่เกาจะปฏิบัติกับพี่หลี่หลิน พี่รอง และพี่สามเหมือนกัน แต่ข้ามองออกว่า บางครั้งพี่เกาก็ยอมให้พี่หลี่หลินมากเช่นกัน…อาถงเป็นพี่สาวของข้า ข้าอยากให้นางแต่งงานกับตระกูลที่ดี ไม่อยากให้นางเข้าไปพัวพันในนั้น เพราะนางสู้พี่เกาไม่ได้อย่างแน่นอน…”
เจียงเซี่ยนประหลาดใจมาก จนอดที่จะลูบศีรษะของหลี่ตงจื้อไม่ได้
ตงจื้อเป็นเด็กสาวที่เฉลียวฉลาดและไหวพริบดีจริงๆ เสียดายที่ไม่รู้ว่าชาติก่อนสุดท้ายนางแต่งงานกับใคร และทำให้ตระกูลไหนสบายที่แต่งงานกับสะใภ้ที่ดี
“ข้ารู้แล้ว” นางเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “หากเป็นข้า ข้าก็ไม่อยากให้พี่น้องที่สนิทกันของตนเองแต่งไปตระกูลแบบนั้นเหมือนกัน”
ก็เหมือนไป๋ซู่ นางก็รู้สึกว่าตระกูลไช่ซับซ้อนเกินไปแล้ว
หลี่ตงจื้อได้ยินก็โล่งอก ใบหน้าเล็กที่ตึงเครียดจึงมีรอยยิ้มแล้ว เสียงที่พูดเจือความดีใจมากขึ้นเล็กน้อย “พี่สะใภ้ ข้าก็รู้ว่าท่านไม่มีทางที่จะหัวเราะเยาะพวกเขา…พวกเขาต่างก็เป็นคนดี ไม่ได้ตั้งใจจะแอบคบหากัน…”
เจียงเซี่ยนยิ้มและเอ่ยว่า “ต่อให้แอบคบหากันก็ไม่มีอะไรผิดเช่นกัน ขอเพียงไม่ทำอะไรมั่วซั่วตามใจชอบ และทำร้ายคนอื่นก็พอ”
หลี่ตงจื้อไม่เข้าใจ
เจียงเซี่ยนเอ่ยว่า “เจ้าว่า…หากเรื่องนี้ถูกเปิดโปง คนรับใช้ข้างกายพี่ชายของเจ้าและคนรับใช้ข้างกายอาถง จะมีจุดจบอย่างไร”
หลี่ตงจื้อสีหน้าเปลี่ยนไปมาก และเงียบไปนานมาก
เจียงเซี่ยนทนไม่ค่อยได้ จึงโอบไหล่นาง และเอ่ยว่า “ในเมื่อกล้าแอบให้และรับของกัน ก็ต้องมีความสามารถในการยอมรับผลร้ายแบบนี้ กล้ายอมรับผลร้ายแบบนี้ ถึงจะเป็นสิ่งที่ลูกผู้ชายทำ ดังนั้น…เจ้าต้องถือว่าผิดเป็นครู ต่อไปเวลาทำอะไร ต้องคิดให้ดีก่อน ก็คือวางแผนให้รอบคอบแล้วค่อยลงมือทำ เข้าใจไหม?”
“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ!” หลี่ตงจื้อเอ่ย และเงยหน้ามองเจียงเซี่ยน พลางถามเจียงเซี่ยนด้วยเสียงดังกังวานน่าฟังและสายตาใสแจ๋ว “เหมือนพี่ใหญ่หรือเปล่า เขาอยากแต่งงานกับท่าน ก็จะแต่งงานกับท่านให้ได้ ใครพูดก็ไม่ฟัง และไม่ถูกใจใครทั้งนั้น?”
———————————–