มู่หนานจือ - บทที่ 367 เรื่องมงคล
หลี่ฉางชิงเป็นคนตัดสินใจเรื่องของตระกูลหลี่ จะรับหลานสาวคนนี้กลับมาอยู่บ้านถาวรหรือไม่ หลี่ฉางชิงพูดแล้วถึงจะเชื่อถือได้
ป้าเหอเข้าใจ จึงยิ่งเห็นใจหลี่เสว่
ตอนที่แม่ชีคงหมิงจากวัดจี้อันมาเยี่ยมฮูหยินเหอ ป้าเหอก็ขอยันต์ให้หลี่เสว่ แถมยังแอบถามคงหมิงว่าหลี่เสว่จะได้กลับมาหรือไม่
คงหมิงยิ้มพลางเอ่ยว่า “ท่านหญิงเป็นคนที่มีโชคมาก มีท่านหญิงอยู่ ความชั่วร้ายมากมายจะไม่กล้ำกราย นางก็ย่อมไม่น่าเป็นห่วงแล้วเช่นกัน”
ป้าเหออดไม่ได้ที่จะโล่งอกแทนหลี่เสว่
คงหมิงก็ถามถึงเจียงเซี่ยน “ทำไมไม่เห็นท่านหญิง? ไปพบนางแล้วอย่างนั้นหรือ?”
ป้าเหอได้ยินแล้วรอยยิ้มก็ไหลออกมาทางสีหน้าอย่างอดไม่ได้ และเอ่ยว่า “ท่านแม่ทัพมาแล้ว พาท่านหญิงไปตกปลาที่หลังเขาแล้ว!”
คงหมิงกลอกตา และเอ่ยว่า “แค่ท่านแม่ทัพไปกับท่านหญิงหรือ? คุณหนูใหญ่กับคุณหนูเหอไม่ได้ตามไปด้วยหรือ?”
“พวกนางสองคนจะไปทำอะไร?” ป้าเหอเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านแม่ทัพกับท่านหญิงไปตั้งแต่เช้าแล้ว ตอนที่พวกเรารู้ ทั้งสองคนก็วางที่นั่งพับได้ที่ลำธารเล็กหลังเขาแล้ว แถมยังบอกว่าจะเลี้ยงปลาพวกเรา แต่ใกล้จะถึงเที่ยงแล้ว ปลายังไม่มีวี่แวว”
คงหมิง ฮูหยินเหอ และเกาเมี่ยวหรงต่างก็หัวเราะออกมา
—————————————————-
เจียงเซี่ยนถูกหลี่เชียนกอดและนั่งอยู่บนตัก เท้าที่ถอดถุงเท้าขาวมาก เขี่ยน้ำในลำธารที่ใสจนเห็นก้นเล่นไม่หยุด มองปลาตัวเล็กตกใจจนทำอะไรไม่ถูกและว่ายพล่านไปทั่ว แล้วก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้
หลี่เชียนก็หอมหูของนาง แล้วหัวเราะเบาๆ พลางว่านางว่า “ซน” แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าจะเช็ดเท้าให้นาง
เจียงเซี่ยนไม่ยอม
“น้ำเย็นเกินไปแล้ว ระวังจะไม่สบาย” หลี่เชียนจำคำพูดของหมอหลวงเถียนได้เสมอ เขาบอกว่าเจียงเซี่ยนร่างกายเย็น ของอย่างอาหารที่เย็นก็ห้ามกินเช่นกัน ต้องใช้ยาฤทธิ์อุ่นบำรุงร่างกายตลอดเวลา “เดี๋ยวข้าไปเก็บดอกไม้ที่ภูเขาตรงนั้นเป็นเพื่อนเจ้า”
อุณหภูมิของภูเขามังกรเมฆต่ำกว่าเมืองที่อยู่ไม่ไกล น้ำในลำธารระหว่างภูเขาก็ยิ่งเย็นแล้ว
เจียงเซี่ยนมองตะกร้าไม้ไผ่ที่ผูกอยู่ในน้ำในลำธาร ข้างในเหมือนมีปลาเจ็ดแปดตัว มีสองตัวที่หลี่เชียนโอบนางไว้ในอ้อมแขนและจับมือสอนนางตก นางคิดไม่ถึงว่าคนที่สามารถนั่งนิ่งได้ขนาดนั้นอย่างนาง กลับอย่างไรก็สงบสติอารมณ์ตกปลาไม่ได้ และรู้สึกว่าการตกปลาไม่สนุกแม้แต่นิดเดียว แถมปลายังคาวและเหม็น โชคดีที่หลี่เชียนเก่งมาก ไม่อย่างนั้นพวกฮูหยินเหอมีปลากินที่ไหนกัน?
ทันใดนั้นนางก็ไม่อยากส่งปลาพวกนี้ไปที่ห้องครัวแล้ว
นางปล่อยให้หลี่เชียนอุ้มนางวางลงบนหินสีเทาก้อนใหญ่ที่อยู่ข้างๆ ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเท้าให้นาง ช่วยนางสวมถุงเท้า และปรึกษาเรื่องปลากับเขา “ไม่อย่างนั้นเลี้ยงพวกมันไว้ที่ศาลาริมน้ำเถอะ? พวกเราให้คนไปซื้อปลากลับมาหลายๆ ตัว และบอกว่าเป็นปลาที่พวกเราตกแล้วกัน?”
หลี่เชียนไม่เข้าใจความคิดของเจียงเซี่ยน จึงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “พวกนี้เป็นเพียงปลาป่าธรรมดา ที่ศาลาริมน้ำเลี้ยงได้แต่ปลาคาร์ฟ ให้พวกเจ้าหยอกเล่นในเวลาปกติที่ไม่มีอะไรทำ ปลาพวกนี้โยนเข้าไปก็หาไม่เจอแม้แต่เงา เจ้าเลี้ยงไปก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำ”
เจียงเซี่ยนพึมพำว่า “ข้าไม่อยากกินพวกมันแล้ว!”
เป็นเพราะนี่เป็นปลาที่พวกเขาตกครั้งแรกหรือ?
หลี่เชียนสีหน้าอ่อนโยนลงเล็กน้อย เขาตอบเบาๆ ว่า “ได้” และกัดนิ้วเท้าที่สวมถุงเท้าเรียบร้อยแล้วของนาง
เจียงเซี่ยนหน้าร้อนผะผ่าว นางมองสาวใช้ที่ก้มหน้าอยู่ไกลๆ แล้วเหลือบมองหลี่เชียน พลางตวาดเบาๆ ว่า “เจ้าจะทำอะไร?”
หลี่เชียนเพียงแค่ยิ้ม จับเท้าของนางเบาๆ ช่วยนางสวมรองเท้า ตะโกนเรียกปิงเหอมาเสียงดัง สั่งให้เขาไปซื้อปลามาจากข้างนอกหลายๆ ตัว แล้วสั่งให้ชีกูหาเวลาไปปล่อยปลาพวกนี้ที่สระบัวข้างศาลาริมน้ำอย่างเงียบๆ
ชีกูยิ้มพลางขานว่า “เจ้าค่ะ” แล้วเทปลาในตะกร้าไม้ไผ่ลงในถัง และถือถังจากไป
หลี่เชียนก็ตบบ่าของเจียงเซี่ยน และเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเราก็ไปเถอะ!”
เจียงเซี่ยนเอ่ยอย่างลังเลว่า “พวกเราไม่รอปิงเหอแล้วหรือ?”
“ไม่รอแล้ว!” หลี่เชียนไม่ยอมให้แก้ต่างหรืออธิบาย และจูงมือของนางไปที่เรือนของฮูหยินเหอทันที
ก่อนหน้านี้ตอนที่ฮูหยินเหอส่งคนมาถามพวกเขา พวกเขานัดกันว่าจะไปรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันที่เรือนของฮูหยินเหอ
พอไปถึงเรือนของฮูหยินเหอ คงหมิงกับเกาเมี่ยวหรงต่างไม่อยู่ เห็นว่าทั้งสองคนไปดื่มชาด้วยกันที่เรือนของเกาเมี่ยวหรง
ฮูหยินเหอเจอพวกเขาก็ถามว่าตกปลาได้กี่ตัว?
“เจ็ดแปดตัวกระมัง!” หลี่เชียนยิ้มพลางเอ่ยว่า “ส่งไปห้องครัวแล้ว เดี๋ยวทุกคนลองชิมดูว่าปลานี้แตกต่างจากปกติอย่างไร?”
เจียงเซี่ยนเม้มปากยิ้ม
เจ้าหมอนี่…โกหกโดยไม่ติดอ่างเลย
หลี่หลินไปในเมืองยังไม่กลับมา คนอื่นรับประทานอาหารกลางวันโดยมีฉากกั้นแยกผู้ชายกับผู้หญิงคนละโต๊ะ
ป้าเหอยังชมด้วยว่าปลานี้สด
กว่าเจียงเซี่ยนจะเลี่ยงไม่ให้ก้างปลาติดได้ก็ไม่ง่ายเลย
จนกินข้าวเสร็จแล้ว ทุกคนกำลังเดินไปดื่มชาในโถงบุปผา ก็มีเด็กรับใช้วิ่งเข้ามาบอกว่าจินเซียวขอพบ
ตามมาถึงนี่เลย?
เจียงเซี่ยนประหลาดใจ
หลี่เชียนมองเจียงเซี่ยนครั้งหนึ่ง และเอ่ยว่า “ข้าไปดูหน่อย!”
เจียงเซี่ยนพยักหน้า
หลี่เชียนบอกลาฮูหยินเหอ และไปที่เรือนด้านนอก
เกาเมี่ยวหรงกับคงหมิงมาแล้ว
ก่อนหน้านี้เพราะคงหมิงกินอาหารมังสวิรัติ บวกกับหลี่เชียนอยู่ด้วย ฮูหยินเหอจึงให้คนจัดอาหารมังสวิรัติโต๊ะหนึ่ง และขอให้เกาเมี่ยวหรงรับรองแขก ทั้งสองคนจึงรับประทานอาหารกลางวันที่เรือนของเกาเมี่ยวหรง
คงหมิงเข้ามาคารวะเจียงเซี่ยนทันที
เจียงเซี่ยนไม่ชอบพวกพระกับนักบวชในลัทธิเต๋ามาโดยตลอด จึงพยักหน้าอย่างเฉยชา
ทว่าคงหมิงกลับกระตือรือร้นมาก นางชวนเจียงเซี่ยนไปกินอาหารเจที่วัดจี้อัน “…ห่านเจในวัดของพวกเราทำได้ดีที่สุดแล้ว ท่านหญิงไปลองชิมดูก็รู้แล้ว”
เจียงเซี่ยนเห็นนางแต่งตัวเป็นนักบวช แต่กลับมีความเฉลียวฉลาดของผู้หญิงเจ้าเล่ห์ ก็ยิ่งไม่ชอบ จึงยิ้มและเอ่ยว่า “อากาศร้อนเกินไป ถึงเวลานั้นค่อยว่ากันเถอะ!”
คงหมิงก็เอ่ยต่อทันที ชมว่าเจียงเซี่ยนหน้าตาสะสวยงดงาม ท่าทางสุขุมเยือกเย็น พลางเอ่ยว่าพระโพธิสัตว์กวนอิมปางประทานบุตรที่วัดจี้อันเซ่นไหว้ศักดิ์สิทธิ์อย่างไร…แค่เห็นก็รู้ว่าคงหมิงอยากทำอะไร?
เจียงเซี่ยนขี้เกียจที่จะคุยกับนาง จึงหาวครั้งหนึ่ง
ทว่าคงหมิงไม่รู้ตัว และยังพูดอยู่ตรงนั้น ฉิงเค่อจึงเข้าไปเอ่ยว่า “ฮูหยิน ท่านหญิงเหนื่อยแล้ว ข้ากลับไปเป็นเพื่อนท่านหญิงของพวกเราก่อนแล้วกัน!”
ฮูหยินเหอรีบเอ่ยว่า “เช่นนั้นก็รีบกลับไปเถอะ!”
ฉิงเค่อยิ้มพลางเข้าไปประคองเจียงเซี่ยน
เจียงเซี่ยนใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดและหาวอีกครั้ง เห็นแก่ฮูหยินเหอกับป้าเหอจึงคุยกับคงหมิงอย่างเกรงใจเล็กน้อยก็ลุกขึ้นออกจากห้องหลัก
เจอปิงเหอที่มาหาพวกนางอยู่ตรงหน้า
เขาเอ่ยด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นว่า “ท่านหญิง ท่านแม่ทัพเชิญท่านไปขอรับ บอกว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลจินจะแต่งงานกับซื่อจื่ออันลู่โหวที่เมืองหลวงแล้ว ใต้เท้าจินมาขอบคุณแม่สื่อ บอกว่าไม่ว่าอย่างไรก็ต้องคารวะชาท่านสักถ้วยขอรับ!”
คิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะสำเร็จจริงๆ!
เจียงเซี่ยนคิดว่าด้วยนิสัยของเติ้งเฉิงลู่ ต่อไปจะต้องเป็นสามีที่ดีอย่างแน่นอน คุณหนูจินย่วนได้แต่งงานกับเขาก็ไม่เลวเช่นกัน
นางย้อนกลับไปห้องหนังสือที่เรือนด้านนอกกลางทาง
ก้าวขึ้นบันไดของห้องหนังสือก็ได้ยินเสียงของจินเซียวแล้ว “…ท่านพ่อดีใจแทบแย่ พรุ่งนี้จะมาขอบคุณท่านหญิงกับท่านลุงหลี่อย่างเป็นทางการ ข้ารู้สึกดีใจ แล้วก็มีเรื่องจะถามเจ้าพอดี จึงมาเสียเลย”
เจียงเซี่ยนยืนอยู่นอกประตูและไอหนักๆ ครั้งหนึ่ง
หลี่เชียนฟังออกว่าเป็นเสียงนาง จึงรีบมาเปิดประตู
ไม่เจอกันเกือบสองเดือน เจียงเซี่ยนรู้สึกว่าจินเซียวเหมือนจะหล่อขึ้นเล็กน้อย นางยิ้มพลางถามจินเซียวว่า “การแต่งงานนี้เจ้าได้ถามน้องสาวเจ้าว่าเห็นด้วยหรือไม่?”
จินเซียวเคยเห็นเจียงเซี่ยนเลือกสามีและแต่งงาน แล้วก็เปลี่ยนความคิดบางอย่างที่ยึดติดมาตลอดในทันใด คิดว่าเมื่อมีอำนาจและฐานะจริงๆ แล้ว กฎบางกฎจะไม่ทำตามก็ได้ เขาก็ไม่ได้ควบคุมจินย่วนมากขนาดนั้นเช่นกัน กระทั่งคิดว่า หากการแต่งงานกับตระกูลเติ้งไม่สำเร็จ ก็ให้น้องสาวอยู่ที่เมืองหลวงชั่วคราวสักระยะดีกว่า เลือกสามีที่ถูกใจแล้วค่อยกลับมา
————————————–