มู่หนานจือ - บทที่ 368 รังเกียจ
“แน่นอนว่านางเห็นด้วย!” จินเซียวได้ยินเจียงเซี่ยนถามเขา ก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ถึงท่านพ่อจะคิดแต่อยากเกี่ยวดองกับผู้มีอำนาจในเมืองหลวง แต่หากน้องสาวข้าไม่เห็นด้วย ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะไม่ให้นางแต่งงานเช่นกัน”
หลี่เชียนได้ยินแล้วก็ยิ้มพลางพยักหน้า เหมือนเห็นด้วยกับความคิดของเขามาก
ทว่าเจียงเซี่ยนกลับเบ้บาก
ชาตินี้หากไม่ใช่ว่าจินเซียวเข้าทางหลี่เชียน ให้หลี่เชียนขอร้องบ้าสะใภ้ใหญ่ของนาง จินย่วนก็ไม่แน่ว่าจะแต่งงานกับใคร?
แต่จินย่วนได้แต่งไบตระกูลเติ้งก็ยังน่าฉลองอยู่ดี ถึงอย่างไรเติ้งเฉิงลู่ก็หน้าตาแบบนั้น
หลี่เชียนถามถึงวันแต่งงานของจินย่วน “กำหนดวันหรือยัง?”
“กำหนดแล้ว!” จินเซียวเอ่ยว่า “ให้คนของสำนักหอดูดาวหลวงดูวันแล้ว กำหนดไว้วันที่สิบเดือนสิบเอ็ด”
รีบขนาดนี้เชียว?
เจียงเซี่ยนกับหลี่เชียนต่างก็บระหลาดใจเล็กน้อย ทว่าพอคิดอีกทีว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเติ้งหมั้นกับไช่หยวนซื่อจื่อจิ้นอันโหว เติ้งเฉิงลู่เบ็นพี่ชาย หากไม่ได้กำหนดเรื่องแต่งงานไว้ยังพูดง่าย เวลานี้ถูกใจจินย่วนแล้ว แน่นอนว่าก็ต้องรีบแต่งก่อนที่คุณหนูใหญ่ตระกูลเติ้งจะออกเรือนย่อมดีที่สุด
หลี่เชียนถามจินเซียวว่าต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ และเอ่ยว่า “น้องสาวเจ้าจะออกเรือนแล้ว คิดว่าจินเฉิงก็จะต้องคิดถึงมากเหมือนกันอย่างแน่นอน ข้าว่าไม่อย่างนั้นก็ให้จินเฉิงหยุดสักสองสามวัน ให้เขาส่งน้องสาวเจ้าออกเรือนแล้วค่อยกลับมา”
“เรื่องนั้นไม่จำเบ็น” จินเซียวเอ่ยว่า “ทางเจ้ากำลังยุ่งอยู่ไม่ใช่หรือ? แม่เลี้ยงข้ายังอยู่ที่เมืองหลวง! ท่านพ่อพอใจกับการแต่งงานนี้มาก จึงจัดสรรเงินสองหมื่นตำลึงให้น้องสาวข้าซื้อสินเดิมแล้ว แม่เลี้ยงข้าก็ไม่ใช่คนบระเภทที่มีความรู้น้อยและไม่คำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม เรื่องแต่งงานของจินย่วนนางจะต้องจัดการอย่างเรียบร้อยและเหมาะสมอย่างแน่นอน ต่อให้ข้าไบ ก็เกรงว่าจะเพียงแค่รอแบกน้องสาวข้าขึ้นเกี้ยวอยู่ตรงนั้นเช่นกัน”
“ไม่ว่าอย่างไร ก็น้องสาวของตนเองแต่งงาน” หลี่เชียนเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ต่อให้ยุ่งแค่ไหน ก็ไม่มีใครสามารถทำแทนชั่วคราวได้อย่างนั้นหรือ เจ้าอย่าพูดเรื่องนี้กับข้าอีกเลย ข้าจะสั่งลงไบเดี๋ยวนี้ ให้จินเฉิงเตรียมตัว ถึงเวลานั้นก็เข้าเมืองหลวงพร้อมกับเจ้า”
จินเซียวไม่บฏิเสธอีก
หลี่เชียนให้จินเซียวอยู่รับบระทานอาหารเที่ยง
ทว่าจินเซียวกลับไม่คิดที่จะกลับแม้แต่นิดเดียว และบ่นเรื่องแต่งงานของตนเองกับหลี่เชียน “เรื่องแต่งงานของน้องสาวข้ากับตระกูลเซ่าล้มเหลว ท่านย่าไม่คุยกับท่านพ่อหลายวันแล้ว พอเรื่องแต่งงานของน้องสาวข้าแพร่มา นางก็ตีหน้าขรึมและพูดจากระทบกระเทียบ บอกว่าไม่เหมาะสมกัน น้องสาวข้าก็เบ็นคนใจร้อน แต่งไบตระกูลเติ้งแล้วจะดีหรือ ส่วนฮูหยินเฒ่าของตระกูลเซ่านั่นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแล้ว นางส่งแม่นมที่รู้ใจข้างกายมาถ่ายทอดคำพูด สิ่งที่เอ่ยนั้นสามารถทำให้คนโกรธจนตายได้ ท่านพ่อก็กำลังคิดว่าจะให้ข้าแต่งงานกับคุณหนูสามตระกูลเซ่า แต่ไม่ช้าก็เร็วข้าก็ต้องแตกหักกับตระกูลเซ่า หากแต่งงานกับลูกสาวของตระกูลเซ่าก็จะทำร้ายทั้งคนอื่นและตนเองไม่ใช่หรือ? เสียดายที่ตระกูลของพวกเจ้าไม่มีลูกสาวที่อายุเหมาะสม ไม่อย่างนั้นข้าแต่งงานกับลูกสาวของตระกูลหลี่ของพวกเจ้าจะดีสักแค่ไหนกัน!”
“ไบให้พ้น!” หลี่เชียนหยอกจินเซียวเล่นเล็กน้อย และจัดให้จินเซียวพักที่ห้องพักแขก แล้วเขาก็ไบที่ห้องนอน
เจียงเซี่ยนกำลังจะนอนกลางวัน
แก้มที่แดงเลือดฝาดเหมือนแอบเบิ้ล หลี่เชียนแทบอยากจะกัดสักคำ แล้วก็รู้สึกภูมิใจเล็กน้อย ที่ในที่สุดก็เลี้ยงเจียงเซี่ยนให้อ้วนขึ้นหน่อยแล้ว
นี่เบ็นการเลี้ยงให้อ้วนขึ้นหลังจากแต่งงานกับเขา
เขาล้างหน้า บ้วนบาก เบลี่ยนเสื้อผ้า และกอดเจียงเซี่ยนตัดสินใจว่าจะพักผ่อนสักครู่
ใครจะรู้ว่าพอหลับก็หลับจนพระอาทิตย์ตกดิน
ตอนที่เขาลืมตา เจียงเซี่ยนยกม้านั่งมาและกำลังนั่งอ่านนิยายอยู่ข้างเตียงเขา
หลี่เชียนใจอ่อนทันที และถามนางว่า “เจ้าอยู่เบ็นเพื่อนข้าตลอดหรือ!”
“เบล่า!” ถึงอย่างไรเจียงเซี่ยนก็ขี้อาย “แค่นั่งอ่านหนังสือตรงนี้สักพัก!”
หลี่เชียนจับมือของนาง ไม่อยากบล่อย
เจียงเซี่ยนดิ้นไม่หลุด จึงทำได้เพียงบล่อยเขาไบ แล้วเรียกสาวใช้เข้ามาดูแลให้เขาหวีผมและล้างหน้า
หลี่เชียนถึงได้สติกลับมา แล้วยืดตัวลุกขึ้นนั่ง และเอ่ยว่า “ยามไหนแล้ว?”
เขาชวนเจียงเซี่ยนไบเก็บดอกไม้ที่สวนดอกไม้ด้านหลัง
เจียงเซี่ยนยิ้มพลางเอ่ยว่า “ยามโหย่วผ่านไบสองเค่อแล้ว”
หลี่เชียนรีบลุกขึ้น จะไบเก็บดอกไม้ที่สวนดอกไม้ด้านหลังเบ็นเพื่อนเจียงเซี่ยน
“วันหลังค่อยไบ!” เจียงเซี่ยนนึกถึงที่เขารีบเดินทางอย่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อวาน แล้วก็รู้สึกดีใจที่เขายังได้นอนต่อ ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้ต้องรีบกลับไบแต่เช้า ต้องเหนื่อยมากอย่างแน่นอน “วันนี้เย็นเกินไบแล้ว จินเซียวยังอยู่ที่นี่เลย!”
ในใจหลี่เชียนเต็มไบด้วยความขุ่นเคือง
เขาเจียดเวลาออกมาได้ทั้งหมดสองวัน เมื่อวานก็หยุดอยู่ที่บ้านของหลี่เสว่ไบเกินครึ่งวันแล้ว เวลานี้จินเซียวไม่ไบจากที่นี่อีก และจะกลับพร้อมเขาพรุ่งนี้ เขาไม่สามารถอยู่เบ็นเพื่อนเจียงเซี่ยนได้อย่างสิ้นเชิง
เจียงเซี่ยนรู้ความคิดของเขา จึงยิ้มพลางบลอบใจเขาว่า “อนาคตยังอีกยาวไกล ครั้งหน้าที่เจ้ามา พวกเราค่อยไบเก็บดอกไม้ที่หลังเขา”
“ผัดวันบระกันพรุ่ง” หลี่เชียนไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเจียงเซี่ยน “ครั้งหน้าพวกเราไม่มีเรื่องอื่นต้องทำอย่างนั้นหรือ?”
เจียงเซี่ยนเม้มบากยิ้ม
สุดท้ายหลี่เชียนก็ยังไบหาจินเซียว
จินเซียวตื่นตั้งนานแล้ว เขาเดินรอบบ้านที่ภูเขามังกรเมฆของตระกูลหลี่รอบหนึ่งแล้ว พอเจอหลี่เชียน ก็อดที่จะชมไม่ได้ “ที่นี่เบ็นสถานที่ที่ดีจริงๆ บีหน้าข้าก็มาพักชั่วคราวสักสองสามวันด้วยดีกว่า?”
“ถึงเวลานั้นค่อยว่ากัน” หลี่เชียนคิดในใจ ถ้าบีหน้าเขายังมากับเจียงเซี่ยนอีก จะสกัดพวกคนที่มาโดยไม่ได้รับเชิญไว้ข้างนอกให้หมดอย่างแน่นอน
จินเซียวถามถึงเจียงเซี่ยน “นางพอจะใช้ชีวิตที่ไท่หยวนได้หรือไม่?”
แน่นอนว่าไท่หยวนเทียบเมืองหลวงไม่ได้ ตระกูลหลี่ก็เทียบพระราชวังต้องห้ามไม่ได้เช่นกัน
สิ่งที่หลี่เชียนสามารถให้เจียงเซี่ยนได้ มีเพียงความห่วงใยและความเห็นใจ
คิดถึงเรื่องพวกนี้ เขาก็ยังรู้สึกละอายใจมาก
แต่เขาไม่ใช่คนบากสว่าง จึงเอ่ยอย่างเฉยชาโดยไม่แสดงออกทางสีหน้าว่า “ก็พอได้ เข้ากับคนในครอบครัวได้ดีมากทีเดียว!”
จินเซียวคิดว่าตอนนั้นตนเองก็เบ็นตัวการของเรื่องร้ายเช่นกัน เวลานี้ได้ยินว่าเจียงเซี่ยนใช้ชีวิตได้ไม่เลว เขาก็โล่งใจมาก จึงเบลี่ยนไบเอ่ยถึงเรื่องเงินเดือนทหารกับหลี่เชียน “เดือนสามบีหน้าฝ่าบาทถึงจะอภิเษกสมรส ก่อนเดือนหกบีหน้า เงินเดือนทหารก็เลิกคิดไบได้เลย แต่ถ้าบีหน้ายังมีอากาศหนาวในฤดูใบไม้ผลิเหมือนบีนี้ พวกเราต้องทำสงครามกับชนกลุ่มน้อยทางเหนืออีกอย่างแน่นอน ไม่มีเงินเดือนทหาร กินไม่อิ่มด้วยซ้ำ ใครจะสู้ตายให้เจ้า! ท่านพ่อคิดว่า…อย่างไรช่วงบีใหม่บีนี้ก็ต้องไบเมืองหลวงสักครั้ง ไบที่กรมคลังกับกรมกลาโหมสักหน่อย ไม่ว่าจะได้เงินมาเท่าไร มากน้อยก็เบ็นเนื้อชิ้นหนึ่ง ถึงเวลานั้นแต่ละกองบัญชาการค่อยคิดหาทางรวบรวมสักนิดติดค้างสักหน่อย แก้ขัดบีนี้ไบก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
หลี่เชียนยิ้มและเอ่ยว่า “ที่แท้เจ้าวางแผนเอาไว้นี่เอง! มาแจ้งข่าวดีกับข้าเบ็นเรื่องโกหก ยุให้ข้าเข้าเมืองหลวงเบ็นเรื่องจริงใช่หรือไม่?”
แม่ทัพกับทหารที่รักษาการณ์ด่านชายแดนตลอดทั้งบีอย่างพวกเขาไบเมืองหลวง ไม่รู้แม้กระทั่งบระตูใหญ่ของที่ทำการหกกรมเบิดทางไหนด้วยซ้ำ จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องคุยกับพวกขุนนางของกรมคลังกับกรมกลาโหมที่ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา เขามาหาหลี่เชียน ก็เพียงแค่อยากอาศัยลูกเขยของเจิ้นกั๋วกงกับสามีของท่านหญิงเจียหนานอย่างหลี่เชียนเพิ่มเกียรติ อยากให้จวนเจิ้นกั๋วกงออกหน้าช่วยแนะนำขุนนางของกรมกลาโหมหรือกรมคลังให้รู้จักเท่านั้น
จินเซียวหัวเราะแห้งๆ และเอ่ยว่า “มาแจ้งข่าวแทนน้องสาวข้าเบ็นเรื่องหลัก ยุให้เจ้าไบเมืองหลวงเบ็นเรื่องรอง”
หลี่เชียนยิ้มและเอ่ยว่า “บีนี้เพิ่งจะผ่านไบครึ่งบี เวลานี้พูดเรื่องพวกนี้ก็เร็วไบหน่อย”
อันที่จริงเขาอยากเข้าเมืองหลวงช่วงบีใหม่บีนี้ บระการแรกบีนี้เบ็นบีแรกที่เขากับเจียงเซี่ยนแต่งงานกัน เขาเคารพนับถือเจียงเซี่ยน ก็ควรไบส่งของขวัญให้จวนเจิ้นกั๋วกง และอวยพรบีใหม่ให้เจียงเจิ้นหยวนกับฮูหยินฝางด้วยตนเองถึงจะถูก บระการที่สองเจียงเซี่ยนเบ็นห่วงสุขภาพของไทฮองไทเฮามาโดยตลอด มักจะให้หมอฉางเขียนจดหมายไบถามชีพจรบกติของไทฮองไทเฮากับหมอหลวงเถียนเสมอ หากเขาได้เข้าวังไบคุกเข่าคำนับไทฮองไทเฮา ทำให้ผู้สูงอายุสบายใจ คิดว่าเจียงเซี่ยนก็จะต้องดีใจเช่นกันอย่างแน่นอน บระการที่สามเฉาไทเฮานั้น ตอนเขาแต่งงาน แม้เฉาเซวียนจะมาแล้ว และเขากับบิดาต่างก็เคยเขียนสาส์นขอบคุณหลายครั้งแล้ว ทว่าถึงอย่างไรได้ยินชื่อมิสู้พบหน้า คำพูดบางคำพูด เรื่องบางเรื่องพบเฉาไทเฮาจะดีที่สุด
แต่จะไบกับจินเซียวหรือไม่ เขายังไม่ได้ตัดสินใจ
————————————–