มู่หนานจือ - บทที่ 375 กังวล
นายหญิงใหญ่กับนายหญิงรองของตระกูลหยวนเห็นท่าทีที่ฉิงเค่อมีต่อฮูหยินจวงกับตา แล้วก็แลกเปลี่ยนสายตากัน และอดที่จะทำหน้างุนงงไม่ได้
ต่อให้ฉิงเค่อสูงศักดิ์แค่ไหน ก็เป็นเพียงสาวใช้คนหนึ่งเช่นกัน และตระกูลหยวนก็เพียงแค่เห็นแก่เจียงเซี่ยนเท่านั้น
แต่นางกลับเรียกชื่อเวินเผิงโดยตรงต่อหน้าฮูหยินจวง
หากไม่ได้รับอิทธิพลจากเจียงเซี่ยน นางจะกล้ากำเริบเสิบสานแบบนี้ได้อย่างไร
แสดงให้เห็นฐานะของเวินเผิงในใจเจียงเซี่ยน
นายหญิงรองตระกูลหยวนคิดถึงความขัดแย้งระหว่างตระกูลจวงกับตระกูลหลี่ในช่วงนี้ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยกับนายหญิงใหญ่ตระกูลหยวนเสียงเบาว่า “พี่สะใภ้ ท่านว่าต้องบอกเรื่องนี้กับท่านลุงใหญ่สักหน่อยหรือไม่ ข้ามักจะรู้สึกว่าเรื่องนี้มีบางอย่างผิดปกติ ถึงตระกูลหลี่จะไม่กลัวตระกูลจวง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องล่วงเกินตระกูลจวงแบบนี้เช่นกัน”
นายหญิงใหญ่ตระกูลหยวนเป็นภรรยาเอกของลูกชายคนโตของตระกูลหยวน และมีความรู้มากกว่านายหญิงรอง ก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติของฉิงเค่อเช่นกัน เวลานี้พอได้ยินนายหญิงรองเอ่ยแบบนี้ ก็ยิ่งคิดถูกแล้ว “ข้าจะไปพบนายท่านใหญ่เดี๋ยวนี้ ทางท่านหญิง…จะได้หาวิธีเร็วหน่อย”
ตระกูลหยวนยังไม่ได้ติดต่อกับเจียงเซี่ยนอย่างเป็นทางการ ตามความคิดของนายท่านใหญ่ตระกูลหยวน ไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายประจบ ทว่าก็เสียมารยาทไม่ได้เช่นกัน ฉวยโอกาสตอนที่คุณหนูสามตระกูลหยวนออกเรือนส่งเทียบเชิญให้ตระกูลหลี่ หากเจียงเซี่ยนมอบของขวัญแต่งงานให้คุณหนูสาม พวกนางก็ฉวยโอกาสส่งเทียบเชิญเชิญเจียงเซี่ยนมากินเหล้ามงคลอีก แน่นอนว่าหากเจียงเซี่ยนมาก็ต้องต้อนรับอย่างดี หากไม่มาก็ไม่บังคับเช่นกัน รอต่อไปมีโอกาสค่อยผูกมิตร
หากสถานการณ์เปลี่ยนไป พวกเขาก็ไม่อาจเย็นชากับเจียงเซี่ยนมากเกินไปได้
แต่สุดท้ายเรื่องราวจะมีอะไรเปลี่ยนไปหรือไม่ ยังต้องให้นายท่านใหญ่หยวนที่ดูแลตระกูลหยวนเป็นผู้ตัดสินใจ
นายหญิงใหญ่หยวนจึงไม่มีเวลาสนใจแขกที่เต็มบ้านแล้วเช่นกัน และไปที่ห้องหนังสือของนายท่านใหญ่ตระกูลหยวน
——————————————————-
ตอนที่ฮูหยินติงได้ข่าว ก็เป็นวันรุ่งขึ้นแล้ว
นางคิดแล้วคิดอีก ก็คิดไม่ออกจริงๆ ว่าทำไมเจียงเซี่ยนต้องทำกับฮูหยินจวงแบบนี้
จะบอกว่าเจียงเซี่ยนไม่กลัวเพราะมีที่พึ่ง ตระกูลเจียงกับไทฮองไทเฮาอยู่ไกลถึงเมืองหลวง อย่างไรก็รีบมาสนับสนุนเจียงเซี่ยนเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่ได้ และถึงจะสนับสนุน บุ๋นกับบู๊ ต่อให้เจียงเซี่ยนอยากจัดการใต้เท้าจวงก็ทำได้ยากเช่นกัน หากบอกว่าเจียงเซี่ยนไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำ ทว่าดูจากที่นางติดต่อกับเจียงเซี่ยนและสิ่งที่เจียงเซี่ยนทำที่ไท่หยวนในช่วงนี้ นางไม่ใช่คนแบบนั้นอย่างสิ้นเชิง
เจียงเซี่ยนคิดอย่างไรกันแน่?
ฮูหยินติงแอบรู้สึกไม่สบายใจ ตอนเย็นเจอใต้เท้าติงที่เลิกงานกลับมาล่วงหน้า จึงอดไม่ได้ที่จะบอกเรื่องนี้กับใต้เท้าติง
ตอนนั้นใต้เท้าติงก็อึ้งไปเล็กน้อย ระหว่างที่คิดสีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมากแล้ว และรีบสั่งฮูหยินติงว่า “เร็ว…รีบฝนหมึกให้ข้า ข้ามีเรื่องต้องถามพี่เขย”
พี่เขยที่เขาเอ่ย คือเหยาเซียนจือรองเสนาบดีกรมอาญา
ฮูหยินติงตกใจมาก และพับแขนเสื้อขึ้นฝนหมึกให้สามี พลางเอ่ยว่า “ท่านเป็นอะไรไป? เรื่องของตระกูลจวงกับตระกูลหลี่มีอะไรผิดปกติอย่างนั้นหรือ?”
“ไม่เพียงแต่ผิดปกติ!” ใต้เท้าติงเอ่ย และเดินไปหน้าโต๊ะเขียนหนังสือ “ทว่าเรื่องราวประจวบเหมาะเกินไปแล้ว! ความบาดหมางของตระกูลหลี่กับตระกูลจวงยังไม่มีเรื่องราวความขัดแย้ง เวินเผิงก็ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการมณฑลอวิ๋นหนานแล้ว แถมสาวใช้ข้างกายท่านหญิงยังกล้าเรียกชื่อเขาโดยตรง และเจ้าก็บอกว่าท่านหญิงไม่ใช่คนอ่อนต่อโลก ข้าสงสัยว่า…เวินเผิงจะต้องกลับเมืองหลวงไม่ได้สักระยะอย่างแน่นอน ถึงอย่างไรเขาก็เป็นบัณฑิตฝึกหัดของสำนักฮั่นหลิน หลังจากได้บรรจุตำแหน่งก็ไปกรมอาญา และหลังจากนั้นไม่เคยเกิดข้อผิดพลาดเลย การประเมินติดต่อกันสามครั้งก็ถูกตัดสินว่ายอดเยี่ยมหมด ไปดำรงตำแหน่งที่อวิ๋นหนานก็เป็นการเลื่อนขั้นจากระดับสี่ไประดับสามเช่นกัน ประวัติส่วนตัวแบบนี้ แม้แต่ข้าก็ไม่กล้าพูดว่าเขาจะอยู่ที่อวิ๋นหนานตลอดไป ทว่าท่านหญิงเจียหนานกลับไม่เกรงกลัวแม้แต่นิดเดียว…หากไม่ใช่ว่านางรู้อะไรบางอย่าง ก็คือเรื่องนี้เกี่ยวกับนาง”
“ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาตลอดว่าท่านหญิงเจียหนานได้รับความโปรดปรานมาก แม้แต่ฝ่าบาท…นางก็กล้าสั่งเช่นกัน ดังนั้นตอนที่นางออกเรือน ข้าถึงได้เดาว่าลูกชายคนโตของตระกูลหลี่ล่อลวงนาง ไม่ใช่ในวังทนนางไม่ได้แล้ว จึงไล่นางไปไกลๆ ให้หลี่เชียน ต้องรู้ว่า ตอนนั้นที่ท่านหญิงเจียหนานเลือกสามี จินเซียวก็เคยไปเมืองหลวงเช่นกัน หากอยากไล่ท่านหญิงเจียหนานไปไกลๆ จริง จินเซียวเป็นตัวเลือกที่ดีมากกว่าหลี่เชียน”
“ถ้าท่านหญิงเจียหนานเพียงแค่ได้ยินข่าวอะไรบางอย่างยังพูดง่าย กลัวแต่ว่าแท้จริงแล้วนางจะเป็นคนสั่งเรื่องนี้”
“ก่อนหน้านี้ตอนที่ตระกูลหลี่กับตระกูลจวงทะเลาะกัน ข้าไม่เคยเข้าไปก้าวก่าย”
“ตระกูลจวงเพียงแค่หักหน้านาง นางก็สามารถตัดอนาคตของเวินเผิงได้อย่างไม่สนใจแม้แต่นิดเดียว นี่ไม่ใช่เรื่องที่ผู้หญิงธรรมดาสามารถทำได้”
“ต้องสืบให้แน่ชัดให้ได้”
“ว่าตั้งใจลอบวางแผนทำร้ายหรือไม่”
“ไม่อย่างนั้นถึงเวลานั้นพวกเราตายอย่างไรก็อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ”
ฮูหยินติงได้ยินแล้วก็หวาดกลัวจนตัวสั่น มือที่ฝนหมึกก็อดไม่ได้ที่จะช้าลงไปด้วย
นางทบทวนความทรงจำอย่างละเอียด และคิดว่าตนเองเหมือนจะไม่เคยล่วงเกินเจียงเซี่ยนตรงไหน.…
————————————
เจียงเซี่ยนที่อยู่ไกลยังภูเขามังกรเมฆกำลังตกปลากับหลี่ตงจื้อและเหอถงเหนียง
นางเบื่อเล็กน้อย
เด็กสาวสองคนนั้นคนหนึ่งเด็กเกินไปอีกคนก็ขี้อายเกินไป จึงไม่สนุกแม้แต่นิดเดียว
เมื่อก่อนตอนที่นางอยู่ในวังก็ไม่สนุกเหมือนกัน เพียงแต่พอนางว่าง ก็จะมีพวกนางในกับขันทีรายล้อมและหาหัวข้อสนทนาที่ทำให้นางมีความสุข
ตอนนี้เงียบเหงามาก!
หากหลิวตงเยว่อยู่ตรงนี้ก็ดี
เขาเก่งกว่าพวกฉิงเค่อมาก
เจียงเซี่ยนกำลังคิด จนแม้ว่ากระเพาะปลาจะกระเพื่อมอยู่บนผิวน้ำชัดเจนขนาดนั้น แสดงว่ามีปลาติดเบ็ดแล้ว นางก็ไม่มีอารมณ์ไปเก็บเบ็ดตกปลา
นางลุกขึ้นจะไปนอนอ่านหนังสือที่ศาลาข้างๆ
ทว่าพอเงยหน้ากลับเห็นปิงเหอเดินมาอย่างเร่งรีบ
นางรอปิงเหออยู่ที่ริมน้ำครู่หนึ่ง
ปิงเหอวิ่งเหยาะๆ มา และหอบพลางเอ่ยว่า “ท่านหญิง นายหญิงใหญ่กับนายหญิงรองของตระกูลหยวนมาขอรับ บอกว่าตั้งใจมาส่งเทียบเชิญให้ท่านโดยเฉพาะ”
เจียงเซี่ยนแปลกใจเล็กน้อย
เดิมทีคิดว่าจะไม่เจอ แต่พอนางเห็นหลี่ตงจื้อโยนเหยื่อตกปลาลงไปในทะเลสาบอย่างท้อแท้อีกครั้ง และคิดว่าหลี่ตงจื้อจะถามนางอีกว่าทำไมถึงตกปลาไม่ได้ นางจึงไปพบนายหญิงใหญ่กับนายหญิงรองของตระกูลหยวน
แม้จะมาเยี่ยมเจียงเซี่ยน ทว่าเจียงเซี่ยนจะพบแขกหรือไม่ก็ยังไม่แน่ ฮูหยินเหอจึงมาช่วยเจียงเซี่ยนต้อนรับแขกที่โถงบุปผาก่อน
พอเห็นเจียงเซี่ยนมา นายหญิงตระกูลมั่งคั่งทั้งสองที่อายุมากกว่ามารดาของนางเสียอีกก็ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าอ่อนน้อมถ่อมตนและเกรงใจมาก แล้วยิ้มพลางทักทายเจียงเซี่ยนพร้อมกัน
เจียงเซี่ยนประหลาดใจเล็กน้อย
ในใจนาง คนที่ไม่มีอะไรก็ประจบประแจง จะต้องมีเรื่องขอร้องนางและอยากได้ผลประโยชน์จากนางอย่างแน่นอน
ชาติก่อนนางเป็นท่านหญิง เป็นฮองเฮา และเป็นฮองไทเฮา แค่เห็นก็รู้ว่าคนอื่นประจบประแจงเพื่ออะไร
แต่ชาตินี้นางเป็นเพียงท่านหญิงที่แต่งงานมาอยู่ที่ไกล นางจึงคิดไม่ออกจริงๆ ว่าทั้งสองคนทำเพื่ออะไร?
นางทักทายนายหญิงหยวนทั้งสองอย่างอดทน และรอให้นายหญิงหยวนทั้งสองอธิบายจุดประสงค์ที่มา
ใครจะรู้ว่านายหญิงหยวนทั้งสองเพียงแค่มาส่งเทียบเชิญ
ส่งเทียบเชิญเสร็จแล้ว ก็ลุกขึ้นบอกลา
แถมยังทิ้งกล่องไม้ของแท้ไว้เป็นของขวัญด้วย
เจียงเซี่ยนให้คนเปิดดู ในกล่องหนึ่งบรรจุปิ่นปักผมทองคำบริสุทธิ์ประดับหินชิงจินกับทับทิมคู่หนึ่ง ส่วนที่บรรจุอยู่ในอีกกล่องเป็นสร้อยคอทองคำบริสุทธิ์ฝังอัญมณีนานาชนิดเส้นหนึ่ง
แค่เห็นก็รู้ว่ามูลค่าสูงมาก
ทีนี้แม้แต่ฮูหยินเหอก็งุนงงขึ้นมาเช่นกัน นางถามเจียงเซี่ยนอย่างงงงวยเล็กน้อยว่า “ตระกูลหยวนมาทำไมกันแน่?”
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” เจียงเซี่ยนแบมืออย่างจนใจ และเอ่ยอย่างสบายใจมากว่า “ไม่ต้องกังวลไปก่อน ถึงเวลานั้นปัญหาย่อมแก้ไขได้เสมอ พวกนางเป็นคนมาขอร้องพวกเรา พวกเรามีอะไรให้ร้อนใจกัน!”
————————————