มู่หนานจือ - บทที่ 390 ไม่พบ
“ท่านแม่ อย่าไป!” คุณหนูจวงนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ แล้วก็รีบห้ามมารดา “ท่านพ่อ….ท่านพ่อกำลังยุ่ง!”
ถึงอย่างไรก็เป็นสามีภรรยามาหลายปี ฮูหยินจวงจึงเข้าใจในชั่วพริบตา
นางโกรธจนสีหน้าแดงก่ำ
หากไม่ใช่เพราะน้องชายของนาง เขาจะสามารถปีนถึงตำแหน่งในวันนี้ได้หรือไม่?
เวลานี้น้องชายของนางตกที่นั่งลำบาก ไม่ ยังไม่ตกที่นั่งลำบาก เพียงแค่สูญเสียอำนาจ เขาก็เปิดเผยท่าทีออกมา นางรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นคนเย็นชา แต่คิดไม่ถึงว่าจะเย็นชาขนาดนี้ คนเพิ่งจะไป ชายังไม่เย็น ก็เห็นนางขัดหูขัดตาแล้ว
ฮูหยินจวงหัวเราะเยาะเล็กน้อย นางอยากไปจัดการสามี ทว่าก็รู้ดีว่า…เวลานี้สถานการณ์ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน นางนอนอยู่บนเตียงหลายวัน สามีที่เมื่อก่อนจะต้องไปถามไถ่กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย นางยังเพียงแค่รู้สึกว่าโชคดีเท่านั้น…ทางท่านหญิงเจียหนานนั้นจะต้องไปขอโทษอย่างแน่นอน แต่ก่อนหน้านี้นางไปตีถึงตระกูลหลี่แล้ว ตอนหลังก็ไปขอโทษ ต่อให้นางหน้าด้านแค่ไหน ก็ทำไม่ได้อยู่ดี เดิมทีนางหวังว่าสามีจะเห็นแก่ที่นางนอนลงแล้ว อาสาไปขอโทษตระกูลหลี่ แล้วก็ข้ามเรื่องนี้ไป ทว่าใครจะรู้ว่าสามีกลับไม่ขยับเลย และรอให้นางลงมือ…
น้ำตาของนางอดไม่ได้ที่จะร่วงลงมา
ให้นางไปขอโทษและยิ้มเข้าสู้เด็กสาวที่ยังอายุไม่ครบสิบห้าปีเต็ม…
ฮูหยินจวงเช็ดน้ำตา และเอ่ยกับลูกสาวว่า “ไม่เป็นไร ข้าแค่จะไปปรึกษากับพ่อเจ้าว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ ข้าจะไม่ทะเลาะกับเขา เจ้าวางใจเถอะ”
คุณหนูจวงมองมารดาอย่างกังวล แต่ก็ทำได้เพียงมองแผ่นหลังที่ไปไกลของมารดาอย่างไร้ความสามารถเช่นกัน
ตอนที่ฮูหยินจวงไปถึงเรือนของใต้เท้าจวง ฮูหยินจวงก็ใจเย็นลงแล้ว
นางเอ่ยกับใต้เท้าจวงอย่างตรงไปตรงมาว่า “วันนี้เป็นวันที่คุณหนูสามตระกูลหยวนออกเรือน ข้าจะไปขอโทษท่านหญิงเดี๋ยวนี้”
ใต้เท้าจวงก็เอ่ยอย่างชัดเจนเช่นกันว่า “เช่นนี้ดีมาก” แถมยังสั่งให้พ่อบ้านจัดสรรเงินอีกห้าร้อยตำลึง “เจ้าซื้อของอะไรส่งไปให้ท่านหญิงสักหน่อย ถือว่าเป็นคำขอโทษจากพวกเรา”
ฮูหยินจวงโกรธจนเกือบจะหัวเราะออกมา แล้วหยิบตั๋วเงินและหันตัวจากไป
ทว่าตอนที่นางไปถึงตระกูลหยวนนั้น งานเลี้ยงใกล้จะเลิกแล้ว สตรีชนชั้นสูงที่มีฐานะอย่างฮูหยินติงกับฮูหยินหลี่กลับไปแล้ว
ฮูหยินจวงลังเลอยู่ชั่วครู่ ก็ยังเข้าประตูฉุยฮวาของเรือนด้านในของตระกูลหยวน
แน่นอนว่านายหญิงใหญ่หยวนต้อนรับอย่างอบอุ่น พอฮูหยินจวงถามถึงเจียงเซี่ยน นางก็เอ่ยอย่างเสียดายว่า “เห็นว่าท่านหญิงไม่สบาย วันนี้จึงไม่ได้มา”
แต่นางนัดกับฮูหยินหลู่และฮูหยินลู่แล้วว่าอีกสองวันจะไปเยี่ยมเจียงเซี่ยนด้วยกัน
นี่ก็ไม่จำเป็นต้องบอกฮูหยินจวงแล้ว
ฮูหยินจวงแอบรู้สึกดีใจ
ขอโทษเป็นการส่วนตัวกับขอโทษต่อหน้าคนที่มีหน้ามีตาในเมืองไท่หยวนนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
วันรุ่งขึ้นนางส่งแม่นมส่วนตัวไปยื่นเทียบเชิญ อยากพบเจียงเซี่ยน
แต่ถูกเจียงเซี่ยนปฏิเสธ
หลังจากนั้นนางส่งเทียบเชิญให้เจียงเซี่ยนสามวันติด
เจียงเซี่ยนทนไม่ไหว จึงสั่งลงไปว่า หากแม่นมของตระกูลจวงมา ก็หามออกไปได้เลย ไม่ต้องสนใจ
ฮูหยินจวงโกรธมาก ลูกชายของผู้ช่วยคนหนึ่งของผู้ว่าราชการมณฑลแต่งงาน นางจึงลากฮูหยินเฉียนมาบ่น “มีแบบนี้ที่ไหนกัน! ข้าไปขอโทษ ส่งเทียบเชิญสามวันติด นางกลับไม่ยอมพบข้า”
ฮูหยินเฉียนไม่อยากเข้าไปพัวพันในนั้นอย่างสิ้นเชิง จึงยิ้ม และพอเห็นว่าฮูหยินหวังมาแล้ว ก็รีบบอกว่า “ขออภัย” และเข้าไปทักทายฮูหยินหวัง แล้วไปที่เพิงที่นั่งด้วยกัน
ฮูหยินจวงขมวดคิ้วเล็กน้อย และเหลือบตาขึ้นเห็นฮูหยินซือ
นางคิดแล้วก็เดินไปหาฮูหยินซือ
ไม่รู้ว่าฮูหยินซือตั้งใจหรือเปล่า จู่ๆ นางก็หันไปคุยกับนายหญิงสกุลตังตระกูลคหบดีในชนบทตระกูลหนึ่งของเมืองไท่หยวน แถมยังคุย พลางเข้าไปในห้องชาที่อยู่ข้างๆ กับนายหญิงสกุลตัง
ฮูหยินจวงมองไปรอบๆ ไม่มีใครเข้ามาคุยกับนางสักคน
นางถึงรู้สึกได้ว่าสถานการณ์ไม่ดี
เป็นพวกคนถ่อยจริงๆ!
ฮูหยินจวงด่าในใจ
หรือว่านางต้องไปถึงบ้านด้วยตนเองอย่างนั้นหรือ?
ฮูหยินจวงคิดแล้ว ก็ไม่ค่อยอยากติดต่อกับเจียงเซี่ยนแล้ว
ใครจะรู้ว่าพอกลับถึงบ้านกลับรู้ว่าวันนี้ใต้เท้าจวงไม่ได้ไปศาลาว่าการ เห็นว่าหลายวันนี้ผู้ว่าราชการมณฑลกำลังรีบเก็บภาษีของฤดูใบไม้ร่วง ทว่าใต้เท้าจวงกลับมามือเปล่าตลอดเดือนกว่า ใต้เท้าติงไม่มีทางเลือก จึงให้ใต้เท้าจวงพักผ่อนที่บ้านสักระยะ ส่วนเรื่องเก็บภาษีนั้น ใต้เท้าติงจะเป็นคนควบคุมและเร่งรัดเอง
ฮูหยินจวงเอ่ยว่า “เช่นนั้นเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเจียหนานหรือไม่?”
หน้าของใต้เท้าจวงมืดจนสามารถฝนตกได้ เขามองฮูหยินจวงอย่างเย้ยหยันและยิ้มเยาะพลางเอ่ยว่า “เจ้าว่าเกี่ยวข้องหรือไม่? เมื่อก่อนข้าก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยสู้กับตระกูลหลี่ แต่เจ้าดูติงหลิวสนใจหรือไม่? เวลานี้…คนที่ซ้ำเติมมีมาก คนที่ให้ความช่วยเหลือไม่มี เรื่องนี้หากไม่รีบจัดการ ต่อไปยังมีช่วงเวลาที่ทรมาน” แล้วก็ตำหนินางอีก “เจ้าทำได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่าผู้หญิงในเมืองนี้ล้วนสนิทกับเจ้าหรือ? ทำไมเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ทำได้ไม่ดี? เจ้ายักยอกเงินที่ข้าให้เจ้าใช้สำหรับซื้อของขวัญไปใช้อีกหรือเปล่า ดังนั้นท่านหญิงจึงไม่ถูกใจของขวัญที่พวกเราส่งไป!”
ฮูหยินจวงโกรธสุดขีดแล้ว จึงเอ่ยว่า “นางไม่ยอมพบข้าด้วยซ้ำ! ข้าจะไปยักยอกเงินของเจ้าได้อย่างไร?”
ใต้เท้าจวงเห็นแล้วก็รู้สึกโกรธ จึงเอ่ยเสียงดังกว่าฮูหยินจวง “ข้าให้เวลาเจ้าสามวัน หากสามวันนี้เจ้ายังไม่ได้พบท่านหญิง ข้าจะส่งเจ้ากับลูกสาวไปอวิ๋นหนาน น้องชายเจ้าตำหนิข้าไม่ใช่หรือ? ข้าจะส่งตัวการของเรื่องร้ายไปให้เขา เขาคิดจะทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้นแล้วกัน เวลานี้ข้าก็เป็นเพียงขุนนางระดับสาม เกรงว่าจะไม่มีความสามารถในการปกป้องความปลอดภัยของพวกเจ้า!”
ฮูหยินจวงได้ยินแล้วก็เวียนศีรษะเป็นพักๆ ทันที ทว่ากลับไม่กล้าล้มลง นางกลัวว่าหลังจากตนเองล้มลง ลูกสาวไม่มีที่พึ่งพิงแล้วจะถูกคนรังแก
นางจำเป็นต้องกัดฟันไปจวนสกุลหลี่
——————————————————-
เจียงเซี่ยน ‘ดี’ ขึ้นมากแล้ว ฮูหยินหลู่ ฮูหยินลู่ และนายหญิงใหญ่หยวนมาเยี่ยม
พอไปถึงห้องหลักของเจียงเซี่ยนถึงพบว่าฮูหยินติงกับฮูหยินหลี่ก็อยู่ด้วย
ทุกคนยิ้มพลางพูดคุยกันพักหนึ่ง และนั่งลงใหม่
ฮูหยินลู่เห็นเจียงเซี่ยนสีหน้าแดงเปล่งปลั่ง และนั่งอยู่บนเตียงอุ่นหลังใหญ่ใกล้หน้าต่างด้วยสีหน้าดีมากพลางกินผลไม้ด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ก็อดที่จะเอ่ยด้วยรอยยิ้มไม่ได้ว่า “ดูเหมือนท่านหญิงจะดีขึ้นมากแล้ว ได้ยินว่าท่านหญิงพาหมอมาซานซีด้วยคนหนึ่ง แสดงว่าฝีมือในการรักษาของหมอท่านนี้เลิศล้ำมาก ไม่ทราบว่าหมอท่านนี้เชี่ยวชาญด้านไหนบ้าง? ถึงเวลานั้นพวกเราไม่สบายเล็กน้อย จะได้มาขอให้รักษาและสอบถามอาการ”
หมอดีหายาก!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาช่วยชีวิต
แต่เจียงเซี่ยนกลับไม่ขี้เหนียวที่จะแบ่งปันกับคนอื่น
“เขาเชี่ยวชาญกุมารเวชกับนรีเวช” นางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “หวังว่าทุกคนจะไม่ได้ใช้ แต่หากได้ใช้ ก็มารักษาได้เลย”
ทุกคนชื่นชมมาก คำพูดธรรมดาเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ทว่ากลับทำให้ทุกคนยิ้มไปพักหนึ่ง
นายหญิงใหญ่หยวนยิ้มพลางเอ่ยว่า “ท่านหญิงจิตใจเมตตาจริงๆ คนดีจะต้องได้ดีอย่างแน่นอน” แล้วก็เอ่ยถึงเรื่องที่วันที่เก้าเดือนเก้าหลายวัดของภูเขาอู่ไถต่างเตรียมเข้าทรง และถามเจียงเซี่ยนว่าอยากไปหรือไม่ “ทุกครั้งที่ถึงช่วงนี้พวกพระของวัดถ่าย่วนก็จะบริจาคยา ยาเม็ดแก้พิษหนิวหวงของพวกเขาใช้ดีสุดๆ หากท่านไม่ไป ก็ส่งคนในบ้านไปขอยาเม็ดแก้พิษหนิวหวงกลับมาจากที่นั่นสักสองสามเม็ดก็ได้”
จู่ๆ เจียงเซี่ยนก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
หลี่เชียนต้องไปเสฉวน…แต่หากกว่าจะบริจาคยาก็วันที่เก้าเดือนเก้า หลี่เชียนคงจะรอไม่ไหว
ทว่าวัดถ่าย่วน...ชื่อนี้คุ้นมากทีเดียว?
นางคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถึงจะนึกได้ว่าวัดถ่าย่วนก็คือวัดของพระหงอีที่หลี่เชียนเชิญมารักษานางในตอนนั้น
เจียงเซี่ยนตัดสินใจส่งคนไปขอยาเม็ดแก้พิษหนิวหวงจำนวนหนึ่งให้หลี่เชียนพกติดตัวทันที
————————————-