มู่หนานจือ - บทที่ 391 ขอโทษ
เจียงเซี่ยนที่คิดจะไปขอยาจากวัดถ่าย่วนคิดว่า ปกตินางยังต้องไปมาหาสู่กับคนกลุ่มนี้ ไม่อย่างนั้นนางนั่งอยู่ในบ้านและไม่รู้ข่าวอะไรเลย นานๆ ไป นางก็จะกลายเป็นผู้หญิงเรือนด้านในที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ
นางถามนายหญิงใหญ่หยวน “วันที่เก้าเดือนเก้าใครคิดจะไปภูเขาอู่ไถบ้าง? ไปภูเขาอู่ไถต้องเดินทางสี่ห้าวันใช่หรือไม่? ไกลขนาดนั้น พวกท่านก็คิดจะไปเหมือนกันหรือ?”
“คนอื่นไปไม่ไปข้าไม่รู้ พวกพี่สะใภ้กับน้องสะใภ้ของข้าจะไปกับข้า” นายหญิงใหญ่หยวนเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ทางไกลจะเป็นไร พวกเราจะได้ดูมีความจริงใจ ท่านหญิงคงจะไม่เคยไปร่วมกลุ่มผู้แสวงบุญอย่างแน่นอนใช่หรือไม่? ทุกครั้งที่พวกเราไปร่วมกลุ่มผู้แสวงบุญ จะเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ระหว่างทางทุกที่จะเจอผู้หญิงที่อาศัยค้างคืนชั่วคราว โรงเตี๊ยมก็มีคนพักเต็ม คึกคักกว่าปีใหม่เสียอีก”
เจียงเซี่ยนเอ่ยอย่างแปลกใจว่า “เช่นนั้นจะไม่ก่อเรื่องง่ายมากหรือ?”
ผู้หญิงธรรมดาน่าจะสนใจว่ามีอะไรอร่อยและสนุกบ้างไม่ใช่หรือ?
ทำไมท่านหญิงเจียหนานกลับถามถึงสิ่งที่มีแต่พวกผู้ชายที่จะถาม?
ฮูหยินหลี่กับฮูหยินติงอดไม่ได้ที่จะแลกเปลี่ยนสายตากัน
ทว่านายหญิงใหญ่หยวนกลับทำหน้าลำบากใจเล็กน้อย และเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “บางครั้งก็จะเกิดเรื่องขึ้นบ้างเช่นกัน แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วย อย่างพวกเราออกไปข้างนอก...ก็จะพายามกับแม่นมที่ติดตามรถไปด้วย จึงไม่เป็นไรอย่างแน่นอน ผู้หญิงบางคนพกเสบียงมาและเดินทางเอง บางครั้งก็จะเจอพวกอันธพาล ทว่าทุกคนต่างไปจุดธูป หากเจอคนแบบนี้จริงๆ ทุกคนก็จะไม่ดูอยู่แบบนั้น และจะพากันเข้าไปช่วย”
สุดท้ายก็ยังวุ่นวายมากอยู่ดี!
เจียงเซี่ยนพยักหน้า
ไป่เจี๋ยเดินเข้ามากระซิบข้างหูนางว่า “ฮูหยินจวงมาแล้ว กำลังรออยู่ข้างนอกเจ้าค่ะ บอกแล้วว่าท่านไม่อยากพบนาง แต่นางกลับจะมาพบท่านให้ได้ แถมยังบอกว่าในเมื่อฮูหยินติงกับฮูหยินหลี่ก็อยู่ด้วย ก็สู้เป็นพยานให้นางดีกว่า ว่านางมาขอโทษท่านอย่างจริงใจ ให้ท่านไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพบนางสักครั้ง ไล่ก็ไล่ไม่ไป…”
หากทำให้เป็นเรื่องใหญ่ และพัวพันถึงเจียงเซี่ยน อย่างไรก็เป็นเรื่องไม่ดี
เจียงเซี่ยนคิดแล้วก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อฮูหยินจวงอยากมา ก็เชิญนางเข้ามาเถอะ”
ไป่เจี๋ยขานรับและจากไป
ทว่าพวกฮูหยินติงกลับไม่ค่อยสบายใจนัก จึงถามว่า “ฮูหยินจวงจะมาหรือ? คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะบังเอิญขนาดนี้ พวกเรามาเยี่ยมท่านหญิง ฮูหยินจวงก็มาเยี่ยมท่านหญิงเหมือนกัน”
พวกนางคิดว่าฮูหยินจวงมาเยี่ยมนางอย่างนั้นหรือ?
เจียงเซี่ยนยิ้มเล็กน้อย
ในเมื่อฮูหยินจวงอยากใช้ความคิดเห็นของสาธารณชนมากดนาง เช่นนั้นนางก็ไม่ถือสาที่จะชี้แนะฮูหยินจวงอีกเช่นกัน
เจียงเซี่ยนเอ่ยว่า “ฮูหยินจวงบอกว่าจะมาขอโทษข้า คิดว่าจะต้องเป็นเพราะเรื่องที่คุณหนูสกุลจวงนินทาข้าต่อหน้าทุกคนครั้งก่อนแน่ๆ นางก็ใส่ใจเกินไปแล้วเช่นกัน ครั้งก่อนที่นางบุกมาถึงบ้าน ข้าก็ไล่นางออกไปและชนะแล้ว ทำไมยังจะใส่ใจเรื่องนี้อีก แต่ในเมื่อนางมาแล้ว และจะพบข้าให้ได้ ข้าก็ไม่อาจทิ้งนางไว้บนถนนได้เช่นกัน ไม่อย่างนั้นหากถูกคนเห็นเข้ายังไม่รู้ว่าจะลือออกไปว่าอย่างไร! เดี๋ยวทุกคนเจอฮูหยินจวง ก็อย่าประหลาดใจแล้วกัน”
“ไม่ประหลาดใจ ไม่ประหลาดใจ!” ฮูหยินติงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ฮูหยินจวงก็ใส่ใจเกินไปหน่อยจริงๆ เช่นกัน เรื่องมันนานแค่ไหนแล้ว ยังจำใส่ใจอยู่อีก”
ทุกคนต่างพูดโกหกอย่างไร้ความเกรงกลัว
ฮูหยินลู่ไม่ค่อยชินนัก จึงขยับตัวอย่างไม่สบายใจ
ทว่านายหญิงใหญ่หยวนกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกสะเทือนใจ
มิน่าเล่าคนอื่นถึงบอกว่าตระกูลขุนนางรับมือยาก ผู้หญิงที่ดูสุภาพและงดงามเช่นนี้อย่างฮูหยินติงเวลาพูดโกหกก็สุขุมเยือกเย็นและพูดจาฉะฉาน ผู้หญิงที่มาจากตระกูลพ่อค้าอย่างพวกนางห่างไกลมากจริงๆ
ไป่เจี๋ยพาฮูหยินจวงเดินเข้ามา
ทุกคนทักทายนางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่ยอมเอ่ยถึงจุดประสงค์ที่นางมาอย่างเด็ดขาด
แต่เจียงเซี่ยนกลับเย็นชากับนางมาก นอกจากที่คุยกับนางในตอนแรกแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่สนใจนางอีกเลย
ฮูหยินจวงรู้ว่าพวกฮูหยินติงกับฮูหยินหลี่อยู่ที่นี่ก็เลือกมาขอโทษถึงที่ จึงวางศักดิ์ศรีของตนเองลงแล้ว
นางเอ่ยเสียงเบาว่า “ท่านหญิง เรื่องในวันนั้นล้วนเป็นความผิดของข้า! ขอให้ท่านหญิงโปรดใจกว้าง อภัยให้ข้าสักครั้ง”
เจียงเซี่ยนได้ยินแล้วก็เอ่ยอย่างแปลกใจว่า “ฮูหยินจวงพูดถึงเรื่องไหนกัน? ทำไมข้าจำไม่ได้แล้ว?”
ฮูหยินจวงอึ้งไป
หรือว่าเจียงเซี่ยนคิดจะไม่ถือสานางอย่างนั้นหรือ?
นางรู้สึกดีใจ และกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่าเจียงเซี่ยนกลับเอ่ยแทรกนางว่า “คุณหนูจวงนินทาข้าอย่างไม่มีหลักฐานก่อน หลังจากนั้นฮูหยินจวงก็มาตีถึงตระกูลหลี่ของข้าอีก ไม่ทราบว่าเรื่องที่ฮูหยินจวงเอ่ยนั้น…คือเรื่องไหนกันแน่?”
ฮูหยินจวงได้ยินแล้วก็จำเป็นต้องกัดฟันเอ่ยว่า “ทั้งสองเรื่องล้วนเป็นความผิดของพวกเรา ขอให้ท่านหญิงโปรดอภัยให้ด้วย…”
นางยังพูดไม่จบ เจียงเซี่ยนก็ทำเสียงไม่พอใจขัดจังหวะนางแล้ว และเอ่ยว่า “ฮูหยินจวงพูดจาไม่มีเหตุผลเลย ในเมื่อทั้งสองเรื่องล้วนเป็นความผิดของพวกเจ้า ทำไมมีแค่เจ้าคนเดียวที่มาขอโทษ? คุณหนูใหญ่ตระกูลจวงล่ะ? นางนินทาข้าลับหลังไม่มีความผิดอย่างนั้นหรือ? นี่ฮูหยินจวงเห็นว่าข้าอายุน้อย และคิดจะหลอกข้าใช่หรือไม่? ไม่มีความจริงใจแม้แต่นิดเดียว! ข้าว่าฮูหยินจวงไม่มาดีกว่า ข้าจะได้ไม่อึดอัดใจมาก เวลาข้าคิดว่ามีคนเห็นข้าเป็นเหมือนคนโง่”
หน้าของฮูหยินจวงเดี๋ยวแดงเดี๋ยวเขียว
เจียงเซี่ยนขี้เกียจที่จะสนใจนาง จึงยกชาส่งแขก
ฮูหยินจวงทำอะไรไม่ได้ จึงจำต้องออกจากประตูใหญ่ของตระกูลหลี่อย่างเศร้าสร้อย
แต่จะให้ลูกสาวไปขอโทษเจียงเซี่ยนกับนาง พอเห็นสายตาของเจียงเซี่ยน นางก็ไม่อยากทำ และรู้สึกว่าตนเองไม่มีความสามารถในการปกป้องลูกสาว จึงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก
ทว่าหากนางไม่ให้ลูกสาวตามมาด้วย เรื่องนี้ก็ไม่มีทางจบแบบนี้
นางคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายก็ยังโน้มน้าวให้ลูกสาวไปขอโทษเจียงเซี่ยนที่ตระกูลหลี่กับนาง
แน่นอนว่าคุณหนูจวงไม่ยอม
ฮูหยินจวงเกลี้ยกล่อมนาง “ข้ารู้ว่าเจ้าโกรธจนทนไม่ไหว ข้าก็โกรธจนทนไม่ไหวเหมือนกัน แต่นี่เป็นเรื่องที่ไม่มีทางเลือกไม่ใช่หรือ?”
คุณหนูจวงน้อยใจจนตาแดงหมดแล้ว และเอ่ยว่า “เช่นนั้นฉวยโอกาสไปวันไหนที่คนน้อยได้หรือไม่?”
“เด็กโง่!” ฮูหยินจวงเอ่ย “ต้องฉวยโอกาสนี้ไป เจ้าลองคิดดู ต่อหน้าคนมากขนาดนั้น อย่างไรนางก็ต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์หน่อยใช่หรือไม่? ต่อให้นางไม่พอใจพวกเราแค่ไหน ก็ไม่อาจพูดจาเหยียดหยามได้เช่นกันกระมัง? ดังนั้นไปตอนนี้ดีที่สุด”
“แต่อย่างไรข้าก็รู้สึกเสียหน้านิดหน่อย!” คุณหนูจวงเอ่ย
ฮูหยินจวงถอนหายใจพลางเอ่ยว่า “ถึงพวกเราจะขอโทษนางเป็นการส่วนตัว คนพวกนั้นจะไม่รู้อย่างนั้นหรือ?”
คุณหนูจวงร้องไห้ออกมา
สุดท้ายก็ยังไปตระกูลหลี่กับมารดา
พวกเจียงเซี่ยนต่างคิดไม่ถึงว่านางยังจะมาเยี่ยมเยียนถึงบ้านอีก
“เช่นนั้นก็เชิญพวกนางเข้ามาเถอะ!” ครั้งนี้เจียงเซี่ยนไม่ได้กลั่นแกล้งนาง และให้คนพาฮูหยินจวงกับลูกสาวมาทันที
ฮูหยินจวงกล่าวคำขอโทษอีกรอบ แล้วดันคุณหนูจวงที่ก้มหน้าหลบอยู่ข้างหลังนางตลอดไปข้างหน้า และส่งสัญญาณให้นางรีบขอโทษเจียงเซี่ยน
ทว่าเจียงเซี่ยนกลับยิ้มและเอ่ยว่า “คุณหนูจวงขัดแย้งกับน้องสาวสามีของข้า ข้าว่า…คุณหนูจวงขอโทษน้องสาวสามีของข้าด้วยตนเองดีกว่า!”
นี่ให้อภัยพวกนางแล้วหรือ?
ฮูหยินจวงโล่งอก และรีบตกลง
เจียงเซี่ยนจึงส่งคนไปเชิญหลี่ตงจื้อกับเหอถงเหนียงมา
หลี่ตงจื้อกับเหอถงเหนียงกำลังนั่งล้อมวงกันวาดตัวอย่างลายปักอยู่บนเตียงอุ่นหลังใหญ่ใกล้หน้าต่าง พอได้ยินว่าฮูหยินจวงพาคุณหนูจวงมาขอโทษทั้งสองคน ทั้งสองคนก็ประหลาดใจจนต่างอ้าปากค้าง
————————————-