มู่หนานจือ - บทที่ 398 อ้อมไป
หลิวตงเยว่ไม่ตอบคำถามของอวิ๋นหลิน แต่กลับมองอวิ๋นหลินอย่างลุ่มลึกมาก
ถึงเวลานี้แล้ว หากอวิ๋นหลินยังไม่รู้เจตนาของเจียงเซี่ยน เขาก็ต้องสงสัยสติปัญญาของอวิ๋นหลินจริงๆ แล้ว
เจียงเซี่ยนยอมค้างคืนที่ศาลหลักเมืองดีกว่าเข้าใกล้ต้าถง เห็นได้ชัดว่าอยากหลีกเลี่ยงฉีเซิ่ง ไม่ให้ใครรู้เรื่อง ที่นางกลับเมืองหลวงทั้งนั้น
อวิ๋นหลินเป็นห่วงมากกว่าปกติ ทำให้ตอนที่จัดการปัญหาหรือสื่อสารกันความคิดวุ่นวายมาก และที่ถามคำถามนี้กับหลิ วตงเยว่ ก็เป็นการกระทำที่จนใจด้วยความร้อนใจเช่นกัน หลังจากใจเย็นลงท่ามกลางความเงียบของหลิวตงเยว่ เขาก ก็ย่อมเข้าใจจุดประสงค์ของเจียงเซี่ยนเช่นกัน ทว่าเขาก็ยังไม่เหมือนกับหลิวตงเยว่อยู่ดี หลิวตงเยว่เป็นคนข้ างกายเจียงเซี่ยน เขาจะถือความต้องการของเจียงเซี่ยนเป็นความต้องการ มีแต่สิ่งที่เจียงเซี่ยนมีความสุขและสนใจ ห หลิวตงเยว่ถึงจะสนใจและทำความเข้าใจ สิ่งอื่นล้วนไม่อยู่ในขอบเขตความคิดของเขา ดังนั้นเขาจึงสามารถมองจุดประสงค์ ของเจียงเซี่ยนออกได้อย่างเร็วมาก ตอนที่เจียงเซี่ยนไม่แสดงจุดประสงค์ของนางว่าสามารถให้คนอื่นรู้ได้ ต่อให้ เป็นกับอวิ๋นหลิน ต่อหน้าพี่น้องที่สนิทกันที่เคยเคียงบ่าเคียงไหล่ออกไปข้างนอกกับเขา เขาก็ยังคงเงียบ ทว่าอว วิ๋นหลินกลับจะข้ามเจียงเซี่ยนไปคิดทบทวนสถานการณ์โดยรวมทั้งหมด
ตระกูลเจียงกับตระกูลฉีเป็นตระกูลที่สนิทสนมกันมากจนเหมือนเป็นคนในครอบครัว ทำไมเจียงเซี่ยนยังต้องหลีกเลี่ยง ตระกูลฉี?
เจียงเซี่ยนชื่อเสียงขจรขจายอยู่ข้างนอกจนเป็นที่รู้จักของทุกคนอย่างเห็นได้ชัด แต่คนที่เคยเห็นหน้าตาของนางก กลับน้อยมาก ทำไมเจียงเซี่ยนยังต้องอ้อมเมืองไป?
หรือการควบคุมที่ตระกูลฉีมีต่อต้าถง ถึงขั้นที่ทำให้เจียงเซี่ยนก็จำเป็นต้องเลือกค้างคืนที่ศาลหลักเมืองแล้ว?
หากวันหนึ่ง ตระกูลหลี่มีความขัดแย้งกับตระกูลฉี พวกเขาควรจะทำอย่างไร?
อวิ๋นหลินคิดถึงหลี่เชียน
ท่านหญิงบอกว่าจะเข้าเมืองหลวงเพื่อหางานสักงานให้ท่านแม่ทัพ งานนี้ยากมาก และอาจจะคุกคามผลประโยชน์ของตระกู ลฉีหรือเปล่า?
ดังนั้นหลี่ฉางชิงถึงได้ส่งคนมาปกป้องท่านหญิงอย่างลับๆ?
อวิ๋นหลินนึกถึงตั๋วเงินที่หนามากปึกนั้นที่เซี่ยหยวนซีให้เขาดู
เขารู้สึกว่าการกระทำก่อนหน้านี้ของตนเองไม่เหมาะสมกับตำแหน่งเกินไปแล้วจริงๆ
“พวกเรากลับไปเถอะ!” อวิ๋นหลินตบบ่าของหลิวตงเยว่ และฝืนยิ้มพลางเอ่ยว่า “เจ้ายังคงเป็นคนที่เข้าใจที่สุด ม มิน่าท่านหญิงถึงชอบเจ้าขนาดนั้น เจ้าอยู่กับพวกเรา ท่านหญิงก็ยังคิดถึงเจ้าอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายยังให้เจ้าอยู่เป ป็นเพื่อนคุณชายรอง…” เอ่ยถึงตรงนี้ จู่ๆ อวิ๋นหลินก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
ตั้งแต่เขารู้ว่ามีท่านหญิงเจียหนานผู้นี้ ทุกเรื่องที่ท่านหญิงเจียหนานทำในมุมมองของคนที่ติดตามอยู่ข้างก กายหลี่เชียนอย่างพวกเขาตอนแรกต่างก็ไม่เข้าใจ ทว่าพอหันกลับไปดูอีกที กลับมีความหมายลึกซึ้งและดีต่อท่านแม่ ทัพทุกเรื่อง…
เวลานี้ท่านหญิงเจียหนานสนับสนุนคุณชายรอง ก็มีความหมายอะไรลึกซึ้งเหมือนกันหรือเปล่า?
เช่นนั้นพวกเขาควรช่วยคุณชายรองด้วยสักหน่อยหรือไม่?
เขาเหม่อลอยเล็กน้อย
แต่หลิวตงเยว่กลับอึ้งไป
เขารู้ว่าตนเองได้กลับมารับใช้ข้างกายเจียงเซี่ยน ต้องเป็นเพราะเจียงเซี่ยนรู้สึกว่าเขาไม่เลวอย่างแน่นอน ทว ว่าเขาคิดไม่ถึงว่า ในสายตาของเจียงเซี่ยน เขาจะสำคัญขนาดนี้
ตลอดชีวิตของคนอย่างพวกเขา ก็ขอแค่คนที่รู้จักตนเองสักคนไม่ใช่หรือ?
ขอบตาของหลิวตงเยว่ชื้นเล็กน้อย
ทั้งสองคนกลับศาลหลักเมืองอย่างต่างคนต่างมีความคิดของตนเอง
หลังจากนั้นอวิ๋นหลินไม่ถามอะไรอีก และทำงานตามคำสั่งของเจียงเซี่ยน
แต่หลังจากนั้นหลิวตงเยว่กลับกลายเป็นใส่ใจมากขึ้น มองเจียงเซี่ยนแวบเดียว ก็แทบจะรู้ว่าเจียงเซี่ยนต้องการอะไ ไร
ทว่าสภาพแวดล้อมลำบากมากตลอดทาง เจียงเซี่ยนกลับไม่รู้สึกมากนัก
จิตใจของนางจดจ่ออยู่กับจินตนาการหลังจากกลับเมืองหลวงหมด
ทำอย่างไรถึงจะได้พบไทฮองไทเฮาอย่างเงียบๆ?
นางต้องเข้าเมืองหรือไม่?
ผู้บัญชาการสองคนที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในตอนนี้ของส่านซีต่างมีความเป็นมาอย่างไร?
ตอนนั้นนางเป็นไทเฮา อยากแตะต้องใครก็แตะต้องคนนั้นได้โดยไม่ต้องเกรงใจ เวลานี้นางเป็นเพียงท่านหญิง และเป็น ภรรยาของหลี่เชียน เพื่อหลี่เชียน ก็ไม่สามารถล่วงเกินทุกคนจนตายได้แล้วเช่นกัน จะทำให้หลี่เชียนลำบากใน ภายภาคหน้า!
คิดถึงตรงนี้ นางก็ถอนหายใจอย่างแผ่วเบา
ไม่รู้ว่าหลี่เชียนไปถึงไหนแล้ว?
หากเขารู้ว่าตอนนี้นางอยู่ที่ชางผิงซึ่งไม่ไกลจากเมืองหลวง ไม่รู้ว่าจะทำท่าอย่างไร?
เจียงเซี่ยนแอบรู้สึกได้ว่าหลี่เชียนไม่อยากให้นางกลับเมืองหลวง เหมือนเมืองหลวงมีของดีอะไรที่ทำให้นางกลับ ไปแล้วจะไม่กลับมา
มุมปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย นางเม้มปากยิ้มอย่างเงียบๆ แล้วพันผ้าห่มและกลิ้งบนเตียง
ไว้เขากลับมา และรู้ว่านางหาตำแหน่งผู้บัญชาการของส่านซีมาให้เขา จะต้องดีใจมากอย่างแน่นอน
นางจินตนาการว่าหลี่เชียนจะทำหน้าอย่างไร ก็รู้สึกมีความสุข จนยิ่งนอนไม่หลับแล้ว
เสียงเอะอะโวยวายดังมาจากข้างนอก
เจียงเซี่ยนอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
เพื่อไม่ให้เป็นที่สนใจ และสอดคล้องกับฐานะของตระกูลขุนนางเล็กๆ ที่เข้าเมืองหลวงไปพบสามีที่อาศัยอยู่ในเมืองห หลวงและดำรงตำแหน่งขุนนางเมืองหลวงระดับเจ็ดในตอนนี้ของพวกเขา พวกเขาเดินทางมาตลอดทาง ก็พักแต่พวกโรงเตี๊ยมเล็ก ๆ ที่ไม่สะดุดตา
นี่ทำให้เจียงเซี่ยนที่ไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อนอึดอัดมาก
หากไม่ได้เอาผ้าห่มกับฝูกมาจากบ้าน และมีกลิ่นหอมของไป่เหอที่นางคุ้นเคย นางจะต้องนอนไม่หลับทั้งคืนอย่างแน่น นอน แม้จะเป็นเช่นนี้ คนดีกับคนเลวที่ปะปนกันในโรงเตี๊ยมเล็กๆ ก็ยังทำให้นางอารมณ์ร้อนเป็นบางครั้ง
นางถามฉิงเค่อ “เกิดอะไรขึ้นอีก?”
“ก็ไม่มีอะไรเช่นกันเจ้าค่ะ” ฉิงเค่อรู้ความรู้สึกของเจียงเซี่ยน จึงปลอบนางด้วยเสียงอ่อนโยนอย่างแผ่วเบา “เพียงแ แค่ผู้หญิงคนหนึ่งอยู่โรงเตี๊ยมไม่ไหว เถ้าแก่เนี้ยของโรงเตี๊ยมจึงจะไล่พวกเขาออกไปเท่านั้นเอง”
เจียงเซี่ยนขมวดคิ้วตลอด และเอ่ยว่า “กลางดึกเช่นนี้ยังไล่คนออกไป ข้าว่าเถ้าแก่ของโรงเตี๊ยมนี้ก็ไม่ใช่คนดีอ อะไรเช่นกัน!”
“ใครว่าไม่ใช่ล่ะเจ้าคะ!” ฉิงเค่อเอ่ยด้วยรอยยิ้มตามคำพูดของเจียงเซี่ยน “ดังนั้นคนที่ดูความคึกคักจึงเยอะมาก ถึงได้เสียงดังไปหน่อย”
เจียงเซี่ยนพยักหน้า และนอนลงอีกครั้ง แล้วคุยกับฉิงเค่ออย่างสบายๆ ว่า “คนที่ถูกไล่ออกไปเป็นใคร? ทำไมถึงไม่ม มีค่าเดินทางแล้ว?”
ฉิงเค่อลังเลอยู่ชั่วครู่ ถึงเอ่ยว่า “เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง พาลูกมาด้วยห้าหกคน คนโตสิบสองขวบ คนเล็กยังอุ้มอ อยู่ในอ้อมอก บอกว่าเข้าเมืองหลวงมาหาสามีที่เป็นขุนนางเมืองหลวง มาถึงที่นี่ เด็กคนหนึ่งในนั้นป่วย ค่าเดินทาง งจึงไม่พอแล้ว นางขอให้เถ้าแก่ผ่อนผันสองสามวัน และให้คนนำจดหมายไปให้สามีของนางแล้ว แต่ไม่มีจดหมายตอบกลับจาก เมืองหลวงสักที ผู้หญิงคนนั้นค้างค่าห้องกับโรงเตี๊ยมมาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว เถ้าแก่ของโรงเตี๊ยมสงสัยว่าผู้หญิง งคนนั้นสวมรอยเป็นญาติของขุนนาง จึงไล่ผู้หญิงคนนั้นออกไปนับครั้งไม่ถ้วน แถมยังเก็บเครื่องประดับที่มีค่าสอง ชิ้นบนตัวของผู้หญิงคนนั้นเอาไว้หักค่าโรงเตี๊ยม และแจ้งทางการแล้ว ได้ยินว่าคนของทางการกำลังมาแล้วเจ้าค่ะ”
“ไม่ถูก!” พอเจียงเซี่ยนได้ยินก็ลุกขึ้นนั่งด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เรื่องนี้ไม่ถูกต้อง”
ฉิงเค่ออึ้งไป
เจียงเซี่ยนเอ่ยว่า “มีศาลาว่าการที่ไหนดีขนาดนี้? เลิกงานแล้ว ได้รับการแจ้งความจากเจ้าทุกข์ กลับมีเจ้าหน้าที่ ของศาลาว่าการมาจับคน? เจ้ารีบไปดูหน่อย ไม่ ให้หลิวตงเยว่กับอวิ๋นหลินไปดู หากสามารถช่วยได้ก็ช่วย อย่างไ ไรก็ปล่อยให้ผู้หญิงที่มีลูกนั้นเสียเปรียบไม่ได้!”
ฉิงเค่อตกใจ ทว่าก็ได้สติกลับมาอย่างเร็วมาก นางขานรับอย่างนอบน้อม และวิ่งเหยาะๆ ไปหาหลิวตงเยว่ แล้วกลับมา รับใช้ที่ห้องใหม่
แต่เจียงเซี่ยนกลับร้อนใจเล็กน้อย จึงเร่งให้ฉิงเค่อไปดู หากมีเรื่องอะไรให้บอกนางอย่างเร็วที่สุด
ฉิงเค่อจำเป็นต้องย้อนกลับไปที่หน้าประตูใหญ่ของโรงเตี๊ยมอีกครั้ง
ทว่าฝูงชนหน้าประตูใหญ่ของโรงเตี๊ยมแยกย้ายไปแล้ว ผู้หญิงคนนั้นกับลูกหายไปอย่างไร้ร่องรอย แม้แต่หลิวตงเยว่ กับอวิ๋นหลินที่รีบมาก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นเช่นกัน
ฉิงเค่อตกใจจนเหงื่อตกทั้งตัวทันที และวิ่งไปที่ห้องพักแขกที่หลิวตงเยว่กับอวิ๋นหลินอาศัยอยู่
ห้องพักแขกมืดไม่มีแสงไฟ ฉิงเค่อพิงอยู่ข้างประตูและเรียกเสียงเบามากติดกันอยู่ครู่ใหญ่ก็ไม่เห็นหลิวตงเยว่ห หรืออวิ๋นหลินมาเปิดประตู
ฉิงเค่อใจเต้นตึกตัก เหงื่อเปียกเสื้อด้านหน้าจนชุ่มแล้ว
Comments for chapter "บทที่ 398 อ้อมไป"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
Aprilkhun
มาช้า แต่มานะ นานมาก