มู่หนานจือ - บทที่ 405 ภูเขาเสี่ยวทัง
บ้านน้ำพุร้อนที่ภูเขาเสี่ยวทังสมกับเป็นงานชิ้นแรกที่หลิวตงเยว่ทำ ไม่เพียงแต่ทำเลดี ทว่าสถานที่ที่อยู่ทางเหนือและขาดแคลนน้ำกับต้นไม้ไปทั่วแบบนี้กลับต้นไม้แน่นขนัดจนบดบังแสงอาทิตย์ ดอกไม้ ใ ใบหญ้า ต้นไม้ กิ่งไม้ และใบไม้เจริญงอกงามดีจนแน่นขนัด ทิวทัศน์งดงามและน่าหลงใหล น้ำใต้สะพานเล็กกำลังไหลริน เหมือนลานบ้านเจียงหนาน ทำให้คนเห็นร่มไม้ที่หนาทึบเต็มตาแล้วต่างก็รู้สึกสบายใจขึ้น นมาทันที
เจียงเซี่ยนที่ก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้เป็นครั้งแรกก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเล็กน้อย และชมหลิวตงเยว่ว่า “งานนี้ทำได้ไม่เลว! เดี๋ยวออกไปรับรางวัลกับฉิงเค่อ”
หลิวตงเยว่ตื่นเต้นมาก และรีบค้อมตัวคารวะ แล้วถอยหลังสองสามก้าว ติดตามอยู่ข้างหลังเจียงเซี่ยน
เจียงเซี่ยนยืนอยู่บนขั้นบันไดของโถงบุปผา เห็นดอกชบากับดอกชาภูเขาที่แย่งกันเบ่งบานในลานบ้านแล้ว ก็รู้สึกมีความสุข จึงถามหลิวตงเยว่ว่า “ส่งแม่ลูกสกุลคังไปแล้วหรือ?”
นางไม่อยากให้แม่ลูกสกุลคังรู้ว่าตนเองพักที่ไหน
หลิวตงเยว่ยิ้ม “ส่งไปแล้วขอรับ คุณชายรองพาองครักษ์สองสามคนส่งเข้าเมืองด้วยตนเอง”
สำหรับผู้มีอำนาจในเมืองหลวง หลี่จี้เป็นคนแปลกหน้า ให้เขาคุ้มกันแม่ลูกสกุลคังเข้าเมือง เป็นการจัดการที่เหมาะสมมาก
เจียงเซี่ยนยิ้มพลางพยักหน้า และไปที่ห้องหลักโดยมีหลิวตงเยว่ไปเป็นเพื่อน
ชีกูพาคนหลายคนมาทำความสะอาดห้องหลักแล้ว ฉิงเค่อกำลังสั่งให้พวกสาวใช้ที่โยกย้ายมาจากจวนเจิ้นกั๋วกงชั่วคราวจัดห้อง ส่วนหวังจ้านกำลังจัดรอบและเส้นทางในการลาดตระเวนขององครักษ์ที่มาจากตระกูลเ เจียง
เจียงเซี่ยนเอ่ยว่า “ที่อื่นไม่ต้องทำความสะอาด พวกเราอยู่สองสามวันก็ไป”
“ต่อให้อยู่สองสามวันก็สะเพร่าไม่ได้เช่นกัน!” จู่ๆ เสียงของเจียงลวี่ก็ดังขึ้นหน้าประตู “ข้าว่าเจ้าแต่งไปตระกูลหลี่ เรื่องอื่นทำไม่เป็น แต่เรื่องทำอะไรอย่างขอไปทีนี้กลับทำเป็นแล้ว…นับวันย ยิ่งขี้เกียจแล้ว”
เจียงเซี่ยนหัวเราะ และวิ่งไปหาอย่างดีใจ
เจียงลวี่ที่สวมเสื้อคลุมยาวผ้าไหมหัง ทว่าในมือถือแส้ม้าสีดำทอง ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้านางแล้ว
“ท่านพี่ มาตั้งแต่เมื่อไร? ทำไมไม่ส่งคนมาบอกล่วงหน้าสักหน่อย?” เจียงเซี่ยนรีบเชิญเขาเข้าไปดื่มชาในห้อง
เจียงลวี่เอ่ยว่า “ยังดีที่ข้าบุกเข้ามาเลย หากข้าให้คนแจ้งเจ้าล่วงหน้า เจ้าจะหนีไปอยู่ที่หวั่นผิงหรือเปล่า? หรือก็อยู่ชางผิงไม่กลับมาแล้ว? ผ่านประตูบ้านแต่ไม่เข้า! เจ้าเป็นต้าอวี่หรือ? จวน เจิ้นกั๋วกงดีๆ ไม่อยู่ จวนองค์หญิงไม่อยู่ มาอยู่ที่นี่ อากาศชื้นทุกที่ ผ้าห่มที่คลุมคงจะชื้นหมดกระมัง? เจ้าจะอยู่ได้หรือ”
“นี่ก็เพราะข้าไม่อยากให้คนอื่นรู้ไม่ใช่หรือ?” เจียงเซี่ยนรู้ว่าเจียงลวี่กำลังเป็นห่วงนาง จึงไม่ใส่ใจ และรับจานผลไม้ที่สาวใช้ยกเข้ามาด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มไปวางลงบนโต๊ะชาใกล้มือเจียงล ลวี่ แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มอย่างเอาใจเล็กน้อยว่า “นี่เป็นสาลี่ฤดูใบไม้ร่วงที่เมื่อครู่หลิวตงเยว่ให้คนไปซื้อที่ร้าน ฉ่ำมาก แล้วก็หวานมาก ท่านลองชิมดู!”
เจียงลวี่ชอบกินสาลี่มาก และชอบกินสาลี่ฤดูใบไม้ร่วงที่ปักกิ่งปลูก
เมื่อก่อนทุกปีพอถึงฤดูเก็บเกี่ยวสาลี่ฤดูใบไม้ร่วง เจียงเซี่ยนก็จะให้รางวัลเขาเป็นสาลี่มากมาย
แม่นมเมิ่งเตือนนางว่าลางไม่ดี ควรจะให้แอปเปิ้ลมากกว่าถึงจะถูก
ทว่าเจียงลวี่ไม่ชอบกินแอปเปิ้ล และเจียงเซี่ยนก็ไม่ใส่ใจเรื่องนี้เช่นกัน
ใครจะรู้ว่าโชคชะตาของนางกลับทำเรื่องนี้ แยกกับญาติและเพื่อนสนิทของตนเองตั้งแต่เนิ่นๆ…
นางคิดฟุ้งซ่าน และให้เจียงลวี่จัดคนแยกกันส่งจดหมายไปให้เฉาเซวียนกับไป๋ซู่ให้นาง เชิญทั้งสองคนมาคุยเรื่องเก่าที่นี่
เจียงวลวี่ไม่อยากให้เจียงเซี่ยนติดต่อกับเฉาเซวียนมากนัก จึงขมวดคิ้วเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น และเอ่ยว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าฝ่าบาทแต่งตั้งเฉาเซวียนเป็นเสมียนของกรมพิธีการแล้ว รับผิดชอบงานของกรมว วังโดยเฉพาะ”
เจียงเซี่ยนไม่รู้
ทว่านางก็ไม่แปลกใจแม้แต่น้อย
เฉาเซวียนสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ลำบากเฉกเช่นในชาติก่อนได้ และค่อยๆ กลายเป็นขุนนางคนสำคัญที่ช่วยฮ่องเต้บริหารราชการแผ่นดินที่ควบคุมราชสำนัก ความสามารถของเขาไม่ต้องสงสัย เช่นนั้นชาติ นี้เขาเริ่มต้นทำจากงานแต่งงานของจ้าวอี้ เข้ากรมพิธีการ เป็นเพียงขุนนางระดับห้าทว่ากลับรับผิดชอบงานของกรมวัง นี่ก็ปกติมากเช่นกัน
“สุดท้ายเฉาเซวียนไม่ค่อยดีกับตระกูลของพวกเราหรือ?” นางถาม
เจียงลวี่ขมวดคิ้วอีกครั้ง และเอ่ยว่า “บอกไม่ได้ว่าดี แต่ก็บอกไม่ได้ว่าแย่เช่นกัน ระหว่างเขากับอ๋องเจี่ยนคลุมเครือมาก ทว่าข้ารู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนที่ยอมอยู่ใต้อาณัติคนอื่นเช่นนั้น ไม่ช้าก็ เร็ว เขาต้องก่อเรื่องขึ้นแน่ เจ้าอยู่ห่างเขาหน่อยจะดีที่สุด หากมีอะไรให้เขาช่วย สามารถสั่งไป๋ซู่ได้ สิ่งที่คนอื่นพูดไป๋ซู่อาจจะไม่ฟัง แต่สิ่งที่เจ้าพูดนางต้องฟังอย่างแน่นอน ดังนั้นเจ้าสนิทสนมแ แค่กับไป๋ซู่ก็พอแล้ว เรื่องอื่น…ไม่จำเป็นต้องสนใจ”
ก่อนหน้านี้เจียงเซี่ยนเป็นห่วงเจียงลวี่มาตลอด ใช้ชีวิตปลอดภัยและราบรื่นมากเกินไป เย่อหยิ่งทะนงตนและเกิดเรื่องง่าย เวลานี้เห็นเขาค่อนข้างมีความคิด นางก็อดไม่ได้ที่จะวางใจ และเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า า “คำพูดของท่านพี่ข้าจำไว้แล้ว เพียงแต่ครั้งนี้กลับมาข้าอยากเจอเพื่อนเก่า ตอนนั้นข้าแต่งงานกับหลี่เชียน เขาก็ช่วยพวกเรามากมายเช่นกัน ยิ่งกว่านั้นเขาเป็นหลานของเฉาไทเฮา เรื่องบางเรื่องพวกเ เราพูดก็สู้เขาไปพูดไม่ได้”
เจียงลวี่ขมวดคิ้วขึ้นมา และเอ่ยว่า “เจ้าอยากพบเฉาไทเฮาหรือ?”
“อืม!” เจียงเซี่ยนไม่ปิดบังเจียงลวี่ “ครั้งนี้ข้ามาเพราะอยากไปพบเฉาไทเฮา”
“มีอะไรที่ท่านพ่อออกหน้าให้ไม่ได้หรือ?” เจียงลวี่เบ้ปาก และเอ่ยว่า “เหตุใดจะต้องไปขอร้องนาง! นางกับตระกูลของพวกเราไปด้วยกันไม่ได้”
เจียงเซี่ยนมีแผนการของตนเอง จึงขานรับอย่างคลุมเครือ และถามถึงพวกสามีภรรยาเจิ้นกั๋วกงและไทฮองไทเฮา
“ไทฮองไทเฮาเหมือนอย่างที่เจ้าบอกก่อนหน้านี้ ยังไม่รู้” เจียงลวี่เอ่ย “ท่านแม่นั้นรู้แล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะพักที่ภูเขาเสี่ยวทัง จึงให้คนทำอาหารโต๊ะหนึ่ง รอเจ้ากลับไปอยู่! หลายวันนี้ท่าน พ่อก็เลิกงานเร็วเช่นกัน คงจะกำลังรอเจ้ากลับมา”
เจียงเซี่ยนรู้สึกผิดมาก
ชาติก่อนนางทำให้คนเหล่านี้เป็นห่วงนาง ชาตินี้ก็ยังทำให้คนเหล่านี้เป็นห่วงนางเหมือนเดิม
ทว่าเจียงลวี่กลับปลอบใจนาง “ไม่เป็นไร! เจ้าสบายดีพวกเราก็สบายใจแล้ว” แล้วถามถึงชีวิตหลังจากนางแต่งไปตระกูลหลี่
แน่นอนว่าเจียงเซี่ยนย่อมเลือกเรื่องดีมาบอกเขา
ตระกูลเจียงไม่ได้ทิ้งเจียงเซี่ยนไว้ที่ไท่หยวนโดยไม่สนใจ ทางนั้นมักจะมีข่าวมาว่าเจียงเซี่ยนไปพบใคร ทำอะไรบ้าง เพียงแต่เจียงลวี่เจอน้องสาวแล้ว ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะอยากฟังรายละเอียดมากขึ้นหน่ อย
ทั้งสองคนคุยกันครู่ใหญ่ หวังจ้านมาแล้ว ทุกคนนั่งคุยกันอีกเล็กน้อย
ฉิงเค่อเข้ามาบอกว่าอาหารทำเสร็จแล้ว จะตั้งโต๊ะที่ไหน
เวลานี้ยามโหย่วพอดี อยู่ในช่วงเวลาที่อาหารเที่ยงสายไปแล้วอาหารเย็นก็ยังเร็วไป คนที่รีบเดินทางอย่างเจียงเซี่ยนรู้สึกหิวแล้วเช่นกัน
เจียงลวี่ฉวยโอกาสบอกลา “ต้องกลับไปบอกท่านพ่อกับท่านแม่สักหน่อย แล้วก็ต้องทำงานให้เจ้า แยกกันส่งจดหมายให้เฉาเซวียนกับชิงฮุ่ย วันนี้เจ้าก็พักผ่อนให้เต็มที่เถิด พรุ่งนี้ข้าค่อยมาเยี่ยมเจ้า”
เวลานี้ไม่เข้าเมืองอีก ก็ต้องค้างนอกเมืองคืนหนึ่งแล้ว
เจียงเซี่ยนนึกถึงที่หวังจ้านดูแลนาง และคิดว่าในเมื่อจะตัด ก็ตัดให้เกลี้ยงหน่อย ดีกับทั้งสองฝ่าย ดังนั้นจึงไม่ได้รั้งไว้เช่นกัน และให้หลิวตงเยว่ส่งทั้งสองคนออกไปข้างนอก นางรับประทานอาหาร แล้ว ก็หวีผมและล้างหน้า พอนอนก็หลับถึงเช้าวันรุ่งขึ้นเลย
ทว่าฉิงเค่อกลับมารายงานนางว่า “ท่านหญิง ท่านหญิงชิงฮุ่ยมาตั้งแต่เช้าแล้ว กำลังรอท่านอยู่ในโถงบุปผาเจ้าค่ะ!”
“ทำไมนางถึงมาเช้าขนาดนี้?” เจียงเซี่ยนตกใจมาก
หรือว่าหลังจากไป๋ซู่ได้รับจดหมายของนาง ก็ตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างอย่างนั้นหรือ?
เจียงเซี่ยนลุกขึ้นทันที แล้วเร่งให้ฉิงเค่อช่วยนางหวีผมกับเปลี่ยนอาภรณ์