มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง - บทที่ 113 ขจัดรอยแผลเป็น
มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่113 ขจัดรอยแผลเป็น
“มู่เซิ่ง ระวัง!”
ก่อนเสียงปืนจะดัง ที่ข้างหูเขา มีเสียงร้องด้วยความตกใจของเจียงหว่านดังเข้ามาอย่างฉับพลัน
เธอมาทำไมนั่น?
มู่เซิ่งตกใจสะดุ้ง หันกลับไปดูทันที
เจียงหว่านกลับย้อนมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ในจังหวะที่หั่วจี กำลังจะลั่นไก ได้คว้ากระชากแขนของเขาไว้ ลูกกระสุนเบี่ยงออกไป ยิงใส่เข้าไปกับต้นไม้
“อีนางแพศยา หาที่ตายหรือไง!”
กลับเห็นเป็นผู้หญิงไม่กลัวตายเข้ามาขัดขวาง หั่วจีโกรธจัด ออกแรงสะบัดมือของเจียงหว่านหลุดออก หันปืนยิงใส่เธอ
ลูกกระสุนยิงแถกผ่านช่วงน่อง เลือดสาดกระเซ็น!
“เจียงหว่าน!”
มู่เซิ่งตาถลึงโตแทบฉีก
กระสุนนัดนี้เจ็บแปลบเข้าไปสุดขั้วหัวใจ ยิ่งไปกว่าที่ตัวเขาเองโดนยิง
“ไอ้แม่งนี่ มันลนหาที่ตายแล้ว!”
ในขณะนั้นเอง หั่วจีหันปากกระบอกปืนขวางมาทันที คิดตั้งใจจ่อไปที่มู่เซิ่ง จัดการยิงเขาให้ตายก่อน
แต่แค่เพียงชั่วจังหวะหยุดแวบเดียวนั้นเอง ก็ได้กลายเป็นโอกาสลงมือให้กับมู่เซิ่ง!
ส้วบ!
แขนของเขาเสือกขึ้นไปข้างหน้า เลือดสดสาดกระจาย
กระบี่กระหายเลือด!
ไม้ตายที่มู่เซิ่งเก็บไว้จนถึงขณะนี้!
หั่วจียกปืนขึ้นตามที่ใจสั่ง แต่เสียดายในครั้งนี้ เขาหมดโอกาสแล้ว ในตอนจะเหนี่ยวไก กระแสเงาเลือดปาดผ่านคอของเขาไป หลังจากนั้น เขารู้สึกทั้งตัวอ่อนลงและหมดแรง ทรุดฮวบลงกับพื้น ความมืดที่มองไม่เห็นที่สิ้นสุด โถมใส่เข้าในสายตา
จวบจนกระทั่งหมดลมหายใจ นิ้วของเขาก็ยังคงคาอยู่ที่ไกปืน ไม่ได้เหนี่ยว
ทุกอย่างจัดการเสร็จสรรพ มู่เซิ่งอ่อนระทวยนั่งอยู่กับพื้น ปากหอบหายใจอย่างรุนแรง กระบี่กระหายเลือดได้ถูกเก็บเข้าในแขนแล้ว ความเร็วที่เร็วเอามาก ๆ เจียงหว่านได้แต่เพียงรู้สึกถึงกระแสเงาเลือดที่วาดผ่านไป ยังไม่ทันเห็นชัดว่าเป็นอะไรเลย
“มู่เซิ่ง นายไม่เป็นอะไรนะ?”
เจียงหว่านมองไปที่แขนของมู่เซิ่ง ใจให้สุดเจ็บปวด “ต้องไปโรงพยาบาลไหม?ฉันจะแบกนายไปเดี๋ยวนี้เลย!”
พูดจบ เธอไม่รู้ไปเอากำลังแรงมาจากไหน ขนาดอุ้มมู่เซิ่งขึ้นมาได้ ทำท่าจะมุ่งไปโรงพยาบาล
“ไม่เป็นอะไร”
มู่เซิ่งส่ายหน้า อดไม่ได้ทำแยกเขี้ยวยิงฟันใส่เข้าให้
กระสุนปืนนัดนี้ยิงไปถูกเอาจุดที่เขาซ่อนกระบี่กระหายเลือดอยู่พอดี ถึงแม้ลูกกระสุนปืนจะถูกกระบี่กระหายเลือดเด้งกระดอนกลับออกไป แต่ตอนที่ชักกระบี่กระหายเลือดออกมาในฉับพลันนั้น กระทบถูกบาดแผล มันก็ต้องเจ็บอยู่
ก็ยังโชคดีที่ได้มีกระบี่เล่มนี้ ไม่งั้นคืนนี้ ไม่ตายก็ต้องเจ็บกันหนัก!
“แล้วเธอมายังไงนี่?”
คว้าฉีกเอาผ้าออกมาพันแผลที่แขนไว้เรียบร้อย มู่เซิ่งเหลือบไปดูที่ขาเจียงหว่าน ชะงักตกใจ ที่บริเวณน่องเจียงหว่าน มีรอยกระสุนปืนเฉียดบาดเป็นแผลยาวประมาณสิบเซ็นต์ เลือดสด ๆ ไหลไม่หยุด ทำเอาเขาปวดใจเป็นนัก
“ไม่เป็นไร แค่แผลบาดเท่านั้น”
เจียงหว่านพูดอย่างไม่ใส่ใจ สายตามองจ้องเขม็งที่มู่เซิ่ง ในใจร้อนเร่าเหมือนไฟสุม
เธอเกิดสังหรณ์ใจว่าเหตุการณ์ไม่เข้าท่า ฉะนั้นตอนที่หั่วจียิงปืนออกไปนัดแรกนั้น เจียงหว่านพอดีหวนกลับมาทันเห็นภาพที่มู่เซิ่งขวางทางปืนไว้ สองตาทอประกาย เป็นความรู้สึกถึงความน่าภาคภูมิที่ไม่น่าเชื่อ
มู่เซิ่ง…..เขาถึงขนาดยอมขวางทางปืนเพื่อปกป้องคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย!
สาวรุ่นเป็นส่วนใหญ่มักมีวาดฝันกับผู้ชายในอนาคตของตัวเอง ต้องมีความเป็นพระเอก และพฤติกรรมของมู่เซิ่งนี้ แม้จะหุนหันพลันแล่นไปหน่อย แต่มันเป็นเรื่องที่ใช่เลยในใจของเจียงหว่าน ขอบเขตขวางกั้นทางใจของเธอถูกทลายหมดสิ้น
เพื่อป้องกันการที่มู่จงหยุนจะมีการว่าจ้างพวกทหารรับจ้างอื่นมาอีก อาจเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดได้ มู่เซิ่งไม่ยอมเสียเวลาอยู่ที่นี่ เรียกรถรับจ้างสาธารณะคันหนึ่ง รีบเดินทางกลับบ้านพร้อมกับเจียงหว่าน
จากนั้น เขาต่อโทรศัพท์ออกไป ให้ท่านหลงเข้ามาเคลียร์พื้นที่
หลังจากกลับถึงบ้าน มู่เซิ่งอาบน้ำชำระตัวแล้ว ใช้แอลกอฮอล์ล้างทำความสะอาดแผลอย่างง่าย ๆ ลูกกระสุนแม้จะได้ถูกแงะออกมาแล้ว แต่บาดแผลค่อนข้างลึก แทบว่าจะมองเห็นกระดูก ในระหว่างทำความสะอาดแผลก็ต้องเจ็บปวดกันออกอาการแยกเขี้ยวยิงฟัน
“มู่เซิ่ง นาย….”
ในขณะที่มู่เซิ่งกำลังนั่งพันแผลอยู่บนเตียงนั้น เจียงหว่านมองดูร่างเปลือยท่อนบนของเขา ตื่นตาเป็นงง
เพราะบนแผ่นหลังของมู่เซิ่ง เต็มไปด้วยรอยบาดแผลใหญ่เล็กนับสิบ!รอยมีดฟันหอกแทงนับไม่ถ้วน เจียงหว่านมองไปมองไป น้ำตาไหลพรากออกมาด้วยทันที
หลายปีมานี้ นายต้องลำบากมามากทีเดียวนะ
หลังจากนั้น เหมือนเธอคิดอะไรขึ้นมาได้ แววตาสลดลงอย่างเห็นได้
“เป็นอะไรหรือ?”
มู่เซิ่งหันหน้ากลับมา สังเกตเห็นอาการเหม่อลอยของเธอ แล้วมองไปที่บาดแผลที่ขาของเธอ เข้าใจอะไรขึ้นมาได้ “เธอกลัวว่าแผลที่ขาของเธอจะเป็นรอยแผลเป็นเหมือนของผมหรือ?”
“อือม์” เจียงหว่านผงกหัวเบา ๆ
ขาทั้งคู่ของเธอสวยเนียนเหมือนก้านบัว ถ้าเกิดมีรอยแผลเป็น คงจะดูน่าเกลียดนะ?ที่สำคัญคือ เธอกลัวว่ามู่เซิ่งจะรังเกียจรอยแผลเป็นที่น่องของเธอ
“เดี๋ยวก่อน ผมมีวิธี” มู่เซิ่งเดินออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วหยิบเอากล่องเข็มเงินกับครีมยาที่ถังเสี่ยวเยว่ให้เขามาเมื่อก่อนหน้านี้กลับเข้ามา “สบายใจได้ เรื่องขจัดรอยแผลเป็นนั้นฉันถนัดที่สุด แค่ฉันลงมือ ยาถึงโรคภัยหายแน่นอน”
“จริง ๆ หรือ?นายจะขจัดแผลเป็นได้ยังไง?” เจียงหว่านถาม
“ฝังเข็มคลายเส้น ครีมยาขจัดรอยแผลเป็น” ขณะที่มู่เซิ่งพูดไป ก็ได้หยิบเอาเข็มเงินไว้กับมือแล้ว มือขวาบรรจงแตะเอาครีมยามานิดหนึ่ง
“แต่ว่า บาดแผลตรงน่องของฉันลึกมาก ก็ไม่เป็นไรหรือ?” เจียงหว่านถามอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“เธอลองดูก็รู้เองแหละ น่องของเมียฉันเอง ตัวฉันเองยังลูบคลำได้ไม่กี่ครั้งเลย จะปล่อยให้มีแผลเป็นได้ยังไง!” มู่เซิ่งพูดเสียงหัวเราะ
เจียงหว่านหน้าแดง พูดเสียงเป็นยุงกระซิบ พ้อไปว่า “กะล่อนปากหวาน”
เธอนั่งอยู่บนเตียง ใช้มือถลกชุดนอนที่ใส่ ดึงเอาผ้าขึ้นมา ท่ามกลางสายตาของมู่เซิ่ง โชว์ให้เห็นน่องที่ขาวอวบ
“เธอปล่อยตัวสบาย ๆ นะ ฉันใช้เวลาไม่มากหรอก” มู่เซิ่งพูด สองตาที่กวาดมองไปที่น่องของเจียงหว่าน เหมือนถูกกาวแปะติด ถอนกลับไม่ขึ้น
ว่ากันว่าน่องผู้หญิงก็คือใบหน้าที่สองของผู้หญิง น่องของเจียงหว่านมีเส้นสายเป็นรูปทรง อ่อนนุ่มนวลเนียนเป็นสีสัน ส่วนเท้าที่น่ารักยังโรยรินกลิ่นหอมบาง ๆ ส่วนน่องบนก็ดูอวบ กลมกลึง จัดว่าสุดยอดของขาสวย!
“อือม์ แล้วจะเริ่มต้นกันได้หรือยัง?”
สังเกตเห็นแววตาที่ร้อนรุ่มของมู่เซิ่ง ใบหน้าของเจียงหว่านก็ยิ่งแดงขึ้น
“อ๋อ ฉันกำลังมองหาตำแหน่งจุดชีพจรอ่ะ” มู่เซิ่งพูดแก้เขิน
เจียงหว่านก็ได้แต่หน้าแดง ปล่อยให้มู่เซิ่งมองไป ในใจเธอถึงกับคิดอยู่ว่า คุณหมอนี่ทำไมเป็นแต่ดู ไม่รู้จักลงมือเลยหรือ?
เก็บสายตากลับมา มู่เซิ่งรวบรวมความสนใจทั้งหมด ตั้งแต่เข็มเงินที่ถืออยู่จิ้มลงไปในฉับพลันนั้น ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทั้งเร็วทั้งแม่น ไม่มีรีรอโอ้เอ้
สัมผัสกับควมผ่อนคลายสบายที่ส่วนน่อง กับความรู้สึกชา ๆ เจียงหว่านนึกอัศจรรย์อยู่ในใจ เธอไม่เคยเห็นหมอที่ไหนใช้เข็มได้น่าดูอย่างมู่เซิ่งเลย
“โอว——–”
หลังจากถอนเข็มแล้ว มู่เซิ่งก็ได้ทาครีมยาท่น่องเจียงหว่าน นิ้วที่สัมผัสไป ถึงกับทำให้เจียงหว่านอดไม่ได้ครางออกมาเบา ๆ
เป็นครั้งแรกที่เธอถูกคลำน่อง ถึงกับเกิดปฏิกิริยา!
หลังจากมีปฏิกิริยา เจียงหว่านเอามือกุมหัว ให้รู้สึกละอายแก่ใจในตัวเองอย่างที่สุด
ในฐานะหมอ มู่เซิ่งใจจดใจจ่อ ความสนใจทั้งหมดอยู่ที่บริเวณรอยแผล ไม่ได้รู้เห็นถึงความในใจของเธอ จนกระทั่งทาครีมยาทั่วบริเวณรอยแผลเรียบร้อย จึงจัดการเก็บเข็มเงิน ตบ ๆ น่องเจียงหว่าน พูดว่า “เสร็จแล้ว”
เจียงหว่านสะท้านขึ้นมาทั้งตัว ผลุบมุดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม
“ฉัน ฉันนอนละ”
“ดีจ้ะ จำไว้นะช่วงนี้อย่าให้ถูกน้ำ แต่ก็แค่วันสองวันนะ ไม่นานนะ” มู่เซิ่งจัดการเก็บครีมยาและเข็มเงิน พูดกำชับอย่างจริงจัง
“อือม์” เจียงหว่านมือกุมหัวพูด
เช้าวันรุ่งขึ้น
เขาไม่ทันจะตื่น ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังมา