มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง - บทที่ 134 ดำเนินการแถลงข่าว

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 134 ดำเนินการแถลงข่าว

วันถัดมา งานแถลงข่าวจัดขึ้นตามกำหนดการณ์

สถานเสริมความงามระดับต่างๆที่เหมือนกับสปาหรงเหมยกับสปาเชียนเหยียน ในทุกปีจัดงานสมนาแลกเปลี่ยนกันหนึ่งครั้ง ซึ่งเรียกอีกอย่างว่างานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ นอกจากจะปรับปรุงอิทธิพลของผลิตภัณฑ์ในเมืองแล้ว ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับอุตสาหกรรมความงามชั้นนำและครอบครัว

สปาหรงเหมยกับสปาเชียนเหยียนเป็นสถาบันเสริมความงามยักษ์ใหญ่ ดูไปแล้วเหมือนจะเป็นมิตรปรองดองกัน แต่ความเป็นจริงแล้วแต่แท้จริงแล้วพวกเขามักจะแข่งขันกันอย่างลับๆ ใครๆก็อยากเป็นร้านเสริมสวยชั้นนำทาง ดังคำกล่าวที่ว่าเสือสองตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้ เมื่อสองยักษ์ใหญ่เข้าห้ำหั่นกัน ต้องมีคนจำนวนไม่น้อยคอยดูอย่างแน่นอน

ครั้งนี้ สถาบันเสริมความงามทั้งสองเลือกที่จะไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคลับความงามทั้งสองแห่งเลือกที่จะเปิดตัวในเวลาเดียวกันและที่เดียวกัน และสิ่งที่พวกเขาเปิดตัวคือผลิตภัณฑ์ลบรอยแผลเป็น

มีข่าวลือมากมายว่า ผู้บริหารระดับสูงของสปาหรงเหมยมีการเปลี่ยนแปลง นำความลับของบริษัทเข้าร่วมกับสปาเชียนเหยียน ดังนั้นครั้งนี้ สปาเชียนเหยียนจึงจงใจแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมกับสปาหรงเหมย ต่อหน้าของผู้มีศรีทุกท่าน เพื่อตอกหน้าในครั้งนี้

แต่สปาหรงเหมยกับนิ่งเฉย ยังคงจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อไป และยังเปิดเผยต่อภายนอกว่า เพื่อเป็นการแสดงว่าผลิตภัณฑ์ลบรอยแผลเป็นของพวกเขา มีผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ดังนั้น งานแถลงข่าวในครั้งนี้ มีตระกูลผู้ลากมากดีนับไม่ถ้วนต่างพากันมาที่นี่

นอกจากจะมาเพื่อดูความครื้นเครงแล้ว ยังมีเศรษฐินีไม่น้อยมาเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ลบรอยเป็น

มู่เซิ่งตื่นเช้ามา ก็เห็นเจียงหว่านออกไปทำงานอย่างสดชื่นมีชีวิตชีวาแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น ยังเตรียมอาหารเช้าไว้เต็มโต๊ะด้วย แต่กลับไม่รู้ว่าจ้าวหลินไปไหน คาดว่าน่าจะไปหาจางเหวินเจี๋ย มู่เซิ่งไม่อยากคิดอะไรมาก ถึงอย่างไรหากจางเหวินเจี๋ยกล้ามาหาเรื่องเขาอีก เขาจะทำให้จางเหวินเจี๋ยเสียใจ ว่าทำไมเขาจะต้องเกิดมาในโลกนี้อย่างแน่นอน

“ไปโรงแรมไป่ถัง”

มู่เซิ่งพูดกับคนขับรถแท็กซี่

โรงแรมไป่ถัง เป็นทรัพย์สินของตระกูลอู๋ จงใจใช้เป็นสถานที่จัดงานแถลงข่าว เพื่อเป็นการสนับสนุนสปาเชียนเหยียน

ถึงแม้ว่า สปาเชียนเหยียนจะเป็นธุรกิจที่อู๋เยว่เปิดเล่นๆ แต่เขาก็ได้บริหารบริษัทที่มูลค่าหกถึงเจ็ดพันล้านเชียวนะ ถึงแม้จะเยอะมาก แต่ตระกูลอู๋ยังคงให้การสนับสนุนเขาตามความเหมาะสม

“น้องชาย นายไปนั่งแกร่ว ที่โรงแรมไป่ถังหรอ？”คนขับรถแท็กซี่กล่าว เช้าวันนี้ เขาพาผู้ชายจำนวนไม่น้อยไปนั่งแกร่วที่โรงแรมไป่ถังหลายคน

“นั่งแกร่ง？หมายความว่าไงครับ？”มู่เซิ่งถาม

“นั่นเป็นงานแถลงข่าวของสปาหรงเหมยกับสปาเชียนเหยียน ในงานแถลงข่าวทุกปี พวกเขาจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมา มีจำนวนจำกัดหนึ่งร้อยชิ้น ดังนั้นในทุกปี จะมีนักเก็งกำไรนับไม่ถ้วนเข้าคิวที่ประตูเพื่อแย่งชิงผลิตภัณฑ์”คนขับแท็กซี่พูดปนตลก

ผลิตภัณฑ์ความงามเป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่สุภาพสตรี อีกทั้งผลิตภัณฑ์ของสปาหรงเหมย ถึงจะขายแพงแค่ไหนก็มีคนซื้อ หากราคาเปิดตัวผลิตภัณฑ์คือสองหมื่น ในตลาดของนักเก็งกำไรจะไปถึงหนึ่งแสน แต่ก็มีผู้หญิงเยอะมากที่พากันแย่งซื้อ กำไรน่าทึ่งมาก ถึงว่าทำไมมีนักเก็งกำไรมากมายรออยู่ที่งานทั้งวัน

“พี่ครับ ผมไม่ได้มาแย่งสินค้าหรอกครับ”มู่เซิ่งตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าคนขับจะเห็นว่าเขาเป็นนักเก็งกำไร จึงอดที่จะเผยรอยยิ้มกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“ไม่ใช่นักเก็งกำไร？แล้วนายไปที่นั่นทำไม？”

“ผมได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานแถลงข่าวครับ”มู่เซิ่งกล่าว

“นายจะเข้าร่วมงานแถลงข่าว？”คนขับหันกลับไปมองมู่เซิ่ง แล้วอดขำไม่ได้“น้องชาย พูดตามตรงนะ ฉันไม่ได้ดูถูกนายนะ งานแถลงข่าวหรงเหมย คนที่เข้าร่วมได้ต้องมีฐานะมากๆนะ คนที่สวมเสื้อผ้าธรรมดาๆอย่างนาย นั่งแท็กซี่ไปงาน ฉันพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเนี่ยแหละ”

“นี่ลูกพี่ ผมไม่ได้ล้อเล่นจริงๆนะ คุณขับเร็วหน่อยได้ไหมครับ ผมจะต้องขึ้นเวทีนะ”มู่เซิ่งพูดอย่างขำๆ

คนขับรถชูนิ้วโป้งให้กับมู่เซิ่ง แล้วพูดว่า“ฉันยอมใจแล้ว นายเป็นคนแรกที่ฉันเห็นว่าขี้โม้เก่งขนาดนี้ ใครไม่รู้บ้างว่า มีแค่คนที่รับผิดชอบสปาหรงเหมยกับสปาเชียนเหยียนเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ขึ้นไปบนเวที？”

“นายคงไม่ใช่ หนึ่งในชื่อของเจ้าของสปามีชื่อนายหรอกนะ？”

มู่เซิ่งหัวเราะ แล้วไม่ได้พูดอะไรต่อไป

คนขับเป็นคนเถียงเก่ง ขืนเสวนาด้วยต่อไป เขาคงไม่มีทางเชื่อตนเองหรอก

“ตรงนี้แล้วกันครับ จอดที่นี่แหละครับ”

มู่เซิ่งชี้ไปที่ หน้าทางเดินแห่งหนึ่ง

คนขับตกตะลึง คิดไม่ถึงว่ามู่เซิ่งจะให้เขาจอดที่ตรงนี้ เขารู้สึกกระวนกระวายอย่างเลี่ยงไม่ได้ นี่มันเป็นช่องพิเศษของบรรดาผู้มีอิทธิพลนะ ทำไมเขาถึงกล้าเรียกให้จอด

“ที่นี่แหละ จอดเถอะครับ”

มู่เซิ่งเน้นย้ำอีกครั้ง คนขับถึงกล้าจอดอยู่ที่นี่

หลังจากที่เขาจอดแล้ว ก็รีบออกรถทันที กลัวรปภ.จะเข้ามาทุบรถของเขา

แต่ว่า คนขับยังไม่ทันขับไปไหล เขาอยากดูสักหน่อย มู่เซิ่งที่ขี้โม้จะตัวแทบถลอกคนนี้ จะถูกรปภ.ไล่ออกมายังไง

แต่สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจก็คือ รปภ.กลับไม่ก้าวขึ้นมาไล่เข้าออกไป แต่เป็นถังเสี่ยวเยว่ออกมารับเขาด้วยตัวเอง แล้วต้อนรับมู่เซิ่งเข้าไปด้านใน

“เชี้ย นี่มันตัวจริงเสียงจริงนี่หว่า”คนขับทำสีหน้าลนลานตกใจ เขาเคยเห็นถังเสี่ยวเยว่ในทีวีบ่อยๆ ไม่มีทางจำคนผิดแน่นอน สุดท้ายคนใหญ่คนโตแบบนี้กลับทำความเคารพมู่เซิ่ง เขาคงไม่ใช่เจ้าของสปาหรงเหมยหรอกนะ？

“คนใหญ่คนโต ถ่อมตัวจริงๆ”

คนขับรถนั่งสะท้อนใจ อยู่ที่นั่งคนขับ

ตอนนี้ มู่เซิ่งกับถังเสี่ยวเยว่เดินเข้าไปในโรงแรมพร้อมกัน ภายใต้การนำทางของถังเสี่ยวเยว่ ทั้งสองเดินผ่านทางเข้าพิเศษ ตรงเข้ามาที่ชั้นสูงสุดของงานแถลงข่าว

“บอสคะ คุณไม่ได้วางแผนจะเข้าร่วมงานประชุมที่ห้องโถงนิทรรศการใช่ไหมคะ？”ถังเสี่ยวเยว่ถามในลิฟต์“ผลิตภัณฑ์ในปีนี้ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน จะต้องทำให้ทั่วทั้งประเทศตกตะลึง ในเวลาแบบนี้ คุณควรลุกออกมาถึงจะถูก”

“ไม่ต้องหรอก ผมไม่ชอบเป็นที่สนใจ รอตอนที่แนะนำผลิตภัณฑ์ ผมค่อยขึ้นเวทีแล้วกัน”มู่เซิ่งส่ายหัวไปมา

เรื่องแบบนี้ เขากลัวจะถูกรบกวน

“งั้นก็ได้ค่ะ บอสคะ ฉันขอตัวไปเตรียมตัวก่อนนะคะ ขอเสียมารยาทไม่อยู่เป็นเพื่อนนะคะ”ถังเสี่ยวเยว่ยิ่งอยู่ยิ่งเดาใจมู่เซิ่งไม่ออก อายุยังน้อย แต่กลับมีคฤหาสน์หลายสิบปีในมือ ตานี่ผ่านอะไรมาบ้างเนี่ย ถึงได้กลายเป็นแบบนี้

สำหรับมู่เซิ่งแล้ว รอบๆตัวในเวลานี้ ล้วนเป็นคนไม่คุ้นหน้า เพราะคนที่มางานส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้หญิง อีกทั้งตระกูลระดับสองพวกนั้น เพราะเรื่องการจี้ปล้นในเมื่อก่อน ทำให้ถูกขังอยู่ที่บ้าน มีไม่กี่คนที่ออกมา

มีสื่อมากมายที่เดินไปเดินมา แต่ส่วนใหญ่วิ่งว่อนอยู่ในงาน ครั้งนี้สปาหรงเหมยบอกว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการจัดอันดับในปีนี้ และพวกเขาไม่ควรพลาด

บริกรในงานเลี้ยงเป็นผู้หญิงทั้งหมด และดูอ่อนหวาน ในชุดกระโปรงยาวคลุมสะโพกทำให้เห็นส่วนโค้งที่เย้ายวนใจ จุดประสงค์ของการมาที่นี่นั้นง่ายมาก ขอแค่พวกเขาหาคนรวยได้คนหนึ่ง ถึงจะต้องเป็นเมียน้อย ทั้งชีวิตของพวกเธอก็ถือได้ว่าอยู่อย่างสบายแล้ว

และเพื่อเป็นการบรรลุเป้าหมายของเสิ่นหยิงเซี่ย เธอคิดว่าเธอสูงส่งกว่าบริกรสาวพวกนี้มาก ตลอดทางเธอเชิดหน้าชูคอไม่แม้แต่จะเหลือบมองบริกรพวกนี้ด้วยซ้ำ เธอควงแขนของจางฮุย อย่างกะหนุงกะหนิง

จางฮุยเดินมาตลอดทาง ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยออร่า เขารู้สึกขอบคุณมู่เซิ่ง ถ้าไม่มีมู่เซิ่ง เขาคงไม่กล้าทุบหม้อข้าวจมเรือตัวเอง ขโมยสูตรลับของสปาหรงเหมยไป ไม่มีทางมีเงินทองและตำแหน่งอย่างทุกวันนี้ได้

หลังจากที่เสิ่นหยิงเซี่ยเห็นมู่เซิ่ง ทันใดนั้นเธอก็กัดฟันกรอด เป็นไปตามคาด หมอนี่มาที่นี่จริงด้วย！

เธอกำลังจะอ้าปากเยาะเย้ยถากถาง จู่ๆก็มีคนคนหนึ่งก้าวออกมาจากกลุ่มฝูงชน ขวางอยู่ตรงหน้าของเธอ